รอยพระบาท

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 21 สิงหาคม 2007.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    [FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif][​IMG]
    1
    [/FONT]​
    เล่าสู่กันฟังเรื่อง ประวิติการค้นพบรอยพระบาท "เทพสถิต"

    ณ.อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิตย์ จ. ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2539 ได้นำผู้กลุ่มปฏิบัติธรรมศิษย์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ) ไปปฏิบัติธรรมภาคสนาม กำหนด 2วัน 1คืน โดยขออนุญาตกลางเต้นท์ในบริเวณศาลาจุดชมวิว ผาสุดแผ่นดิน ได้รับความอนุเคราะห์จากพนักงานป่าไม้ของอุทยาน วันที่16 มิถุนายน 2539 เวลาประมาณ 05.00น. ในขณะปฏิบัติธรรม ให้นึกสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าในอำเภอนี้ ทำไมถึงมีนามว่า “ เทพสถิตย์ ” การที่เทวดาผู้ทรงอิทธิฤทธิ์จนทำคนทั่วไปในภาคพื้นที่มีความยำกรง แสดงว่ามีสิ่งสำคัญมากกว่าต้นไม้ และก้อนหินประหลาดหลายก้อนแน่นอน

    จากการศึกษาสรุปได้ว่า เทวดาผู้มีฤทธิ์ต้องมาดูแลรักษามีอยู่ด้วยกัน 3 ประการ
    1) พื้นที่นั้นต้องมีพระบรมสารีริกธาตุฝังอยู่ (อาจเป็นเจดีย์เก่า)
    2) พื้นที่นั้นต้องมีพระพุทธรูปสำคัญฝังอยู่
    3) พื้นที่นั้นต้องมีรอยพระพุทธบาทประทับอยู่

    เพื่อให้หายสงสัยจึงต้องค้นหา จึงได้ปฏิบัติธรรมตามแนว “มโนมยิทธิ” (มีฤทธิ์ทางใจ) สังฆนิมิต หลวงพ่อพระราชพรหมยาน สงเคราะห์ นิมิตให้ทราบ และนำไปชี้จุดรอยพระพุทธบาท จนรู้ตำแหน่งลักษณะพื้นที่ใกล้เคียงของรอยพระบาท ซึ่งไม่ไกลนักจากศาลาจุดชมวิว และได้ออกสำรวจในเวลา 06.15น. ไปยังก้อนหินที่มีรอยพระบาทและ สังเกตร่องรอย และได้พบกับรอยพระพุทธบาทนั้น จึงเกิด ปิติยิ่งนัก ในนิมิตขณะปฏิบัติธรรมท่านให้นามว่า “พระบาทเทพสถิต” เป็นรอยพระบาทเบื้องขวา ส่วนพระบาทเบื้องซ้ายอยู่อีกยออดเขาอีกลูกหนึ่งตรงกันข้าม ซึ่งมองจาดจุดที่รอยพระบาทบนยอดเขาที่เห็นเป็นหน้าผาหินสีดินลูกรัง อยู่ในหุบเขาอาจอยู่ในเขตอำเภอลำสนธิ จ. ลพบุรี ซึ่งรอการสำรวจเพื่อยืนยันรอยพระบาทนี้ในกาลต่อไป รอยพระบาทเทพสถิต เป็นรอยพระบาทเบื้องขวา ที่พบนี้
    กว้าง เท่ากับ 18.0 ซ.ม. x 16.5ซ.ม.
    ยาว เท่ากับ 40.0ซ.ม.
    รอยลึกนิ้ว เท่ากับ 0.01 ซ.ม.
    รอยลึกพระบาทด้านใน เท่ากับ 0.001 ซ.ม.
    รอยลึกพระบาทด้านนอกโดยเฉลี่ย เท่ากับ 0.07 –1.2 ซ.ม.
    รอยลึกสันพระบาท เท่ากับ 1.0 ซ.ม.
    ข้าพเจ้าจึงมีความเชื่อมั่นสูงว่าเป็น รอยพระบาทอย่างแน่นอน อาจจะในสมัยที่มาเทศนา โปรดท่านท้าวศรีโคตรบูรณ์ ขากลับมาพักสถานที่ป่าหินงามนี้ ส่วนประวัติทางพุทธศาสนาจำเป็นต้องค้นกันต่อไป วันที่ 13 พฤษภาคม 2544 ข้าพเจ้ามีความเห็นว่าหากปกติต่อไปมีแต่เสียหาย กล่าวคือบุคคลใดมาเหยียบย่ำโดยไม่ตั้งใจ หรือมาดื่มสุรา หรือมาพรอดรักกัน ในบริเวณรอยพระบาทจะเกิดโทษปรามาสโดยไม่ตั้งใจ จึงตัดสินใจปิดทองรอยพระบาทเพื่อเป็นที่สังเกตมิให้ผู้ใดละเมิดอีก ในปัจจุบันท่านสามารถที่จะไปเคารพกันได้ ควรนำน้ำอบไปประพรม และล้างรอยพระบาท คงต้องห้ามการปิดทองคำเปลว เพราะทางป่าไม้ไม่เข้าใจในเรื่องของรอยร้าวพระพุทธบาท ได้ลบการปิดทองไปแล้ว คงเป็นที่น่าเสียดายแทน ท่านทั้งหลายเหล่านั้น เราจะไปค้นหารอยพระบาท ข้างซ้ายอีกครั้งที่ยอดเขาตรงข้าม รอยพระพุทธบาทนี้ เพื่อมายืนยันรอยพระบาทนี้ ซึ่งเป็นเขตอุทยาน ของป่าลำสนธิ จ. ลพบุรี
    คงต้องใช้ระยะเวลาในการเดินป่า ระยะทาง 20กิโลเมตร จากผาสุดแผ่นดิน
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" width="100%"><tbody><tr align="center"><td align="center">
    [FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif][​IMG]
    2
    [/FONT]​
    </td> </tr> <tr align="center"> <td align="center">[FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif][​IMG]
    3
    [/FONT]</td> </tr> <tr align="center"> <td>
    เล่าสู่กันฟังเรื่อง " รอยพระหัตถ์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน" ภายในถ้ำนารายณ์ ณ.วัดเขาวงษ์(ถ้ำนารายณ์) อ.ท่าลาน จ. สระบุรี
    ก่อนวันมาฆบูชา 1วัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2540 ในตอนค่ำผมได้เข้าร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็น และฟังธรรมจากหลวงตา ในขณะที่ฟังธรรมอยู่ อารมณ์จิตก็นึกถึงว่ารอยพระพระบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีมาก แต่รอยพระหัตถ์ของพระองค์ที่รู้ข่าวว่ามีที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน อยู่แห่งเดียวในขณะทรงอารมณ์มโนมยิทธิ ฟังธรรมจากหลวงตา อีกโสตหนึ่งได้กราบพุทธนิมิต และสังฆนิมิต ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ในมโนมยิทธิได้กราบเรียนถามข้อข้องใจ
    ถาม = คนเมืองบัว
    ตอบ = หลวงพ่อฤาษี
    *********************************************************
    ถาม = ข้าแต่หลวงพ่อที่เคารพ กระผมรู้สึกน้อยใจในโอกาสของตนเองนัก ที่สภาพคล่องทางการเงินมิมีมากพอที่จะไปกราบรอยพระหัตถ์ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จ.แม่ฮ่องสอน……แล้วสถานที่ใกล้ๆนี้จะมีบ้างไหมครับ
    ตอบ = ท่านยิ้มๆ …… มีสิ….ลูก
    ถาม = อยู่ ณ.ที่แห่งใดขอรับ….ไกลไหม
    ตอบ = ให้ลูกเดินไปที่หน้าพระประธานกลางถ้ำ หันหน้าเข้าหาพระพุทธรูปนั้น เดินไปทางขวามือ ให้ดูในระดับสายตา จะมีรอยลึกของกลางฝ่ามือที่เป็นที่สังเกต
    *******************************************************
    เมื่อหลวงพ่อในนิมิตกล่าวจบลง หลวงตาก็สรุปข้อธรรมเช่นกัน ก็เลยนึกอยู่ในใจว่า แยกจิตเป็น2ส่วน ได้รู้ธรรม 2 อย่าง พร้อมๆกันก็ดีเหมือนกัน
    เมื่อกิจแห่งการฟังธรรมจบสิ้นลง ผมจึงได้เดินไปดูตามนิมิตที่หลวงพ่อกล่าวไว้ เมื่อไปถึง ณ.รอยผนังถ้ำนั้น เห็นเป็นรอยลึกเหมือนมีผู้หนึ่งผู้ใดได้ดันฝ่ามือลงไปในเนื้อหิน ขนาด 1 เท่าครึ่งของคนปกติ ต่อจากนั้น นิมิตของหลวงพ่อฤาษีปรากฏอีกครั้ง
    ตอบ = ตรงนี้แหละคือรอยฝ่าพระหัตถ์ ขอให้ลูกจงนำมือข้างขวาประทับไว้บนรอยนั้น หัวแม่โป้ง และนิ้วทาบไปในรอยหักเหลี่ยมหินเป็นมุมประมาณ 170 องศา เมื่อทาบจนสนิทแล้วลองโยกนิ้วทั้ง 5นิ้ว ซ้ายและขวาดู จะสัมผัสร่องนิ้วเดิมขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รอยลึกโดยเฉลี่ย 1000 มิลลิเมตร ครบทั้ง 5นิ้ว
    ถาม = ไม่เป็นการปรามาสนะขอรับ
    ตอบ= เพื่อเป็นการทดสอบให้เกิดความมั่นใจแล้วจะได้หายน้อยใจเสียที่ว่าต้องเดินทางไกล ไปกราบรอยพระหัตถ์
    เมื่อข้าพเจ้าได้ขอขมาแล้ว จึงได้ใช้มือข้างขวาประทับไปยังรอยดังกล่าว ทุกอย่างเป็นจริงตามที่หลวงพ่อฤาษีกล่าวไว้……จึงเป็นปิติธรรมยิ่งนัก
    ในตอนนั้นจึงนำเรื่องดังกล่าวกราบเรียนหลวงตา และนิมนต์ไปดูแล้วปิดทองเป็นปฐม
    หลวงพ่อปรากฏอีกครั้ง
    ตอบ = ควรเชิญท่านหลวงตามา เพราะในสมัยนั้น เขาเป็นผู้ขอรอยพระหัตถ์ไว้เอง แล้วชักชวนเหล่าบริวารฉลองรอยพระหัตถ์ 7วัน 7คืน แล้วสลักบอกการบูชานั้นไว้ เมื่อครบเวลา 5ปี ไปแล้วนับจากวันนี้ กิจที่มารวมกิจกรรมที่วัดนี้ของเธอจะหมดไปให้ออกไปเสีย งานที่เธอต้องทำมีอีกมากนัก
    ในขณะนี้ได้ทราบมาว่ารอยพระหัตถ์ที่ปิดทองไว้บางส่วนนั้นได้ถูกลบเลือนไป เมื่อคราวบูรณะถ้ำครั้งใหญ่เมื่อ2ปีที่แล้ว ท่านที่จะไปกราบคงต้องสังเกตเอาหน่อยก็แล้วกันครับ
    เมื่อถึงวาระคงจะได้เป็นของสาธารณะอีกครั้ง ดังโบราณการที่เจ้าเมืองเก่าได้ขอไว้ให้แก่บริวารของพระองค์ท่าน

    </td></tr></tbody></table>
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" width="100%"><tbody><tr align="center"><td>
    [​IMG]
    4
    เป็น รอยหัตถะ ท่าประสิทธินาคราช หินก้อนนี้มีอยู่2 รอย ม. 7 ต. ทุ่งมะพร้าว อ. ท้ายเมือง จ. พังงา
    </td> </tr> <tr align="center"> <td>[​IMG]
    5
    รอยยันต์ ยอดศีล ที่ท่านประสิทธินาคราชอธิษฐานไว้
    </td> </tr> </tbody> </table> เล่าสู่กันฟังเรื่อง หินเกร็ดทรายแก้ว "ประสิทธินาคราชโพธิสัตว์ "

    เมื่อครั้งที่ ข้าพเจ้าคนเมืองบัว ได้เดินทางมาช่วยแนะนำในการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน และกำหนดการมาพักที่บ้าน คุณป้อม (นางอัชฌา นาคพรรณ์) และได้ไปทำการแนะนำที่บ้าน คุณต่วน (นางเหลี่ยนต่วน แซ่อ๋อง) ในวันที่ 19 สิงหาคม 2544 เวลา10.45น. ข้าพเจ้าได้เดินทางมาถึงบ้านคุณป้อม พอจิตเป็นสุขในทิพยจักขุญาณ เห็นนิมิตหลวงพ่อพระราชพรหมยาน นั่งในอริยะบท สมาธิลอยลงมาจากด้านบน และได้ชี้นิ้วไปยังหลังบ้านคุณป้อม มุมบ้านตรงต้นกระท้อน ท่านได้กล่าวว่า “ไปที่ตรงนั้นซิลูก” ข้าพเจ้าก็ได้เดินไปตามตำแหน่งที่หลวงพ่อชี้ให้ไป
    ข้าพเจ้ามองไปรอบๆ ก็มิเห็นสิ่งใดผิดปกติ มีแต่ก้อนหินที่มีต้นมอสขึ้นอยู่เต็มไปหมด แต่ข้าพเจ้าได้สังเกตว่าหินก้อนนี้อยู่ที่ตรงนี้นานพอสมควร ข้าพเจ้าจึงกล่าวกับท่านว่า “ไม่เห็นมีอะไรเลยครับ’ ท่านตอบว่า “มีซิลูกก็ก้อนหินนั่นไงนำไปล้างให้ดี และให้เจ้าของบ้าน(คุณป้อม)เขาบูชา” จะเป็นศิริมงคลแก่ลูกหลานของฉันที่นี่ (พังงา-ภูเก็ต-กระบี่) ข้าพเจ้าจึงได้นำก้อนหินก้อนนั้นมาทำความสะอาด จึงเห็นร่องรอยซึ่งคาดว่าคงจะเป็น รอยฝ่ามือของผู้ทรงอภิญญา ขณะที่ข้าพเจ้าคิดอยู่นั้น หลวงพ่อได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้วกล่าวว่า
    “สงสัยก็ถามเขาเองเขาอยู่ที่นี่แล้ว” ในนิมิตนั้นข้าพเจ้าเห็นเทวดารูปงามกายสีเงินทั้งหมด ยืนอยู่จึงได้ถามท่านว่า
    ท่านเป็นใคร มาจากที่แห่งใด มีความเกี่ยวพันกับเรื่องนี้อย่างไร เทวดาองค์นั้นท่านได้ตอบว่า “ฉันเป็นโพธิสัตว์ เสวยชาติเป็นพญานาค ดูแลสมบัติจักรพรรดิ์ อยู่ในนาคพิภพดูแลมานาน 1000ปี ของโลกมนุษย์ แต่มันเป็นอายุของนาคพิภพเพียงแค่ 17 ปี ของเมืองนาค ฉันมีนามว่า “ประสิทธินาคราชโพธิสัตว์” ท่าพระอินทร์ มีพระราชโองการ ให้นำหินเกร็ดนาคทรายแก้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประตูห้องโถงสำหรับ นาคเทวาบารมีต้น สวดมนต์ และสมาธิ ฝึกอภิญญากัน ดังนั้น หินเกร็ดทรายนาคนี้ จึงเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณ ในพระราชโองการนั้นให้นำขึ้นมาจากนาคพิภพ
    ตำแหน่งใจกลางเหมืองแร่ดีบุก ขึ้นมาวางไว้บนชายฝั่งใกล้บ้านคุณป้อม
    เมื่อวันที่19 สิงหาคม 2544 เวลาเที่ยงคืน คนเมืองบัว ได้พบเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2544 ดังนั้น ท่านได้โปรดสงเคราะห์พวกเราก่อนหน้านี้แล้วเป็นเวลา 10ปี 4เดือน (ปัจจุบันอยู่กับท่านอาจารย์ ชัยวัตร เจ้าอาวาสวัดถ้ำพึ้ง อ.เมือง จ.พังงา)

    ลักษณะพิเศษของหินดกร็ดนาคทรายแก้ว
    1) มีรอยมือของฉัน (ด้านขวา) 2 รอย
    2) น้ำหนักพอเหมาะมือ ไม่หนังเกินไป และไม่เบาเกินไป
    3) มียันต์ “จตุรพักต์ยอดศีล”
    4) มีแร่เกร็ดนาค ซึ่งเกิดจากเก็ดนาคหลุดร่วงทับถมกันกับทรายแก้วแล้วอัดตัวกันเป็นก้อนอีกครั้งหนึ่ง
    5) มีอภินิหาร ในตัวเองด้วยพุทธคุณ และเสี่ยงทายได้
    วัตถุประสงค์ เพื่อให้ฉันมาช่วยด้านกำลังใจ และมหาลาภ แก่ลูกศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ที่จังหวัดภูเก็ต –พังงา- ตรัง เป็นต้น เพราะเป็นบุคคลเป็นกลุ่มที่ปฏิบัติธรรมด้วยศรัทธาหลวงพ่อ แต่ห่างไกลจากการดูแลของวัดท่าซุง ในบางขณะไม่สามารถที่จะปรึกษาใครได้ เพราะพระส่วนใหญ่จะแนะนำกรรมฐานด้านสุขวิปัสสโกเสียหมด เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติธรรม และทางโลก จึงอนุญาตให้ทำการเสี่ยงทายก้อนหิน “ เกร็ดนาคทรายแก้ว” นี้ไปพรางๆก่อน

    วิธีการอธิษฐาน
    1) ให้ยกก้อนหิน “หินเกร็ดนาคทรายแก้ว” ก่อนเพื่อทดสอบน้ำหนัก
    2) ตั้ง นะโม 3 จบ
    3) ให้ระลึกถึงฉัน “ท่านประสิทธินาคราชโพธิสัตว์”
    3.1) ข้าพเจ้าของพึ่งบารมีท่านเสี่ยงทายว่า กิจการที่ทำอยู่นั้น ถ้าทำสำเร็จขอยกก้อนหินนี้ขึ้นและเบา แล้ววางก้อนหินนั้นลง และอธิษฐานอีกครั้งเหมือนเดิม แต่ให้อธิษฐานว่า ถ้าสำเร็จขอให้หนักและยกไม่ขึ้น
    3.2) ถ้าครั้งที่1 ยกขึ้น ครั้งที่2 ยกไม่ขึ้น แสดงว่าผลสำเร็จ 50%
    3.3) ถ้าครั้งแรกยกไม่ขึ้นเลยแสดงว่าไม่สำเร็จ
    4) เมื่อใช้งานฉันแล้ว ต้องจ่ายค่าทำบุญ แต่โดยทั่วไปแล้วฉันจะสงเคราะห์ทุกๆคนที่นับถือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) แห่งวัดท่าซุง
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    ประวัติและที่มาแห่งการค้นพบรอยพระพุทธบาท
    4รอยพระพุทธบาท "เกาะแก้วพิศดาร "
    <table border="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td align="center">
    [​IMG]
    6
    </td> </tr> </tbody> </table>
    ภาพรอยพระพุทธบาทข้างขวา ณ.เกาะแก้วพิศดาร วัดเกาะแก้วพิศดาร จ.ภูเก็ตอบเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2545 ขนาด 1.5เท่าของปกติ
    เล่าสู่กันฟัง เรื่อง”พบรอยพระพุทธบาทใหม่ ณ.วัดเกาะแก้วพิศดาร” รอยที่2 แห่งการค้นพบ โดยคนเมืองบัว
    ถาม = คนเมืองบัว / ตอบ= สังฆนิมิต หลวงพ่อฤาษีฯ

    ถาม- หากไปปฏิบัติธรรมนอกสถานที่ ที่เกาะแก้วพิศดาร จ.ภูเก็ต ในครั้งนี้ไม่ทราบว่า จะต้องใช้กรรมฐานกองใด ในการสงเคราะห์ท่านที่มาปฏิบัติธรรม ณ. พังงา ขอรับ
    ตอบ- เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก ก็คงเหมือนทุกครั้ง คือดูเจโตปริยญาณก่อน แล้วขอบารมีอง๕สมเด็จท่าน เรื่องที่สำคัญ พ่ออยากให้เธอไปดูรอยพระบาทใหม่ที่เกาะแก้วนั้น เป็นขนาด 1เท่าครึ่ง ของรอยเท้ามนุษยธรรมดา
    ถาม- จริงหรือครับหลวงพ่อ ก็ที่เขาเไปกราบกันทุกวันนี้ที่ริมทะเลนะ
    ตอบ- รอยใหม่นั้นท่านทรงอภิญญาใหญ่ ทำไว้ใหแก่ชาวนาค(คนไทยเชื้อสายหนึ่ง)
    ถาม –แล้วรอยใหม่ที่ท่านฝากไว้นี้แหละครับ
    ตอบ-เป็นรอยทรงอภิญญาใหญ่ เท่าพระบาทท่านปกติไง ปกติรอยนี้จะอยู่เนินเขาสูงสุด ของทางเดินที่จะผ่านไป แต่เนื่องจากพื้นดินถูกน้ำฝนกัดเซาะ ดินพังทะลายไป หินก้อนนั้นจึงเคลื่อนจากที่เดิมมาทั้งกลุ่มหิน
    ถาม- แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรครับ
    ตอบ- ให้ดูรอยธรรมจักร เหมือนกงจักรล้อเกวียน
    ถาม- กลุ่มหินที่ว่า มีมากไหมครับ
    ตอบ – 3 ก้อน และก่อนที่อยู่หน้าสุด ทางขวามือของทางเดินก้อนนั้นแหละมีรอยพระบาท ถ้ามีโอกาสให้ชาวคณะปฏิบัติธรรมศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ จังหวัดพังงา เขาปิดรอยพระบาท เป็นกลุ่มแรก
    ถาม- ถ้าอย่างนั้นหมายความว่า หลังจากที่พระพุทธองค์ปรินิพพานแล้วรอนนี้ ไม่เคยมีใครได้มากราบเลยซิขอรับ
    ตอบ- ถูกต้องแล้ว รอยพระพุทธบาทใหม่ ที่พ่อจะพาลูกได้พบ จะเป็นรอยที่ไม่มีใครหลังพุทธกาลแล้วได้มกราบไหว้ หรือขาดการดูแลรักษาอย่างน้อย 500ปีขึ้นไป
    ถาม- ขอกราบขอบพระคุณขอรับ
    หลังจากนั้นจึงได้ถอนสมาธิ
    เมื่อถึงวันที่ 20มีนาคม 2545 เวลานัดหมาย เราจึงได้พร้อมกันที่หาด ราไวย์ จ.ภูเก็ต เป็นเวลาบ่าย 2โมงเศษเลย ได้ออกเดินทางข้ามฝั่งไปบนเกาะ วัดนี้ดูสงัดร่มเย็น เราได้กราบท่านเจ้าอาวาส คือหลวงพ่อเสือ และได้ถามท่านว่ามีพระลูกวัดกี่องค์ ท่านบอกว่าอยู่ได้องค์หนึ่งชื่อ ท่านอานนท์ นอกนั้นอยู่ไม่ได้ เพราะทุกคนกลัวความโดดเดี่ยวที่เกาะ หลังจากนั้นเราได้เดินทางไปที่เจดีย์เกาะแก้ว ได้ปฏิบัติธรรม มโนมยิทธิ (ท่องเที่ยวเมืองนาค) จนถึง 01.30 น. จากนั้นแยกย้ายไปที่พักของตน
    วันที่21 มีนาคม 2545 หลังจากเสร็จกิจส่วนตัวแล้ว พวกเราจึงได้เดินทางจากศาลาที่พักไป นมัสการรอยพระบาทเก่า และค้นหารอยพระบาทใหม่ นิมิตหลวงพ่อ ในระหว่างทางขึ้นเนินเขานั้น หลวงพ่อนำไประยะห่าง 2เมตร พอใกล้จุดสูงสุดของลูกเนิน ท่านได้ลอยเฉียงออกจากทางเดิน อย่างรวดเร็วไปทางขวามือในกลุ่มต้นไม้ใหญ่ แล้วท่านก็หยุดลง ผมตามไปถึงพอดี แล้วท่านก็ชี้มือขวาท่านไปยังก้อนหินนั้น แล้วกล่าวว่า “ก้อนนี่แหละลูกอยู่ข้างบน ลูกต้องปีนเถาวัลย์ ขึ้นไปนะ (แล้วภาพนิมิตก็หายไป) เมื่อผมปีนขึ้นไปเท้ายังไม่ทันถึงพื้นให้มั่นคง ก็เห็นรอยพระบาทนั้นทันที โอ……..! เด่นชัดมาก ขนาดอยู่ห่างประมาณ 1.5 เมตร จึงเรียกคณะที่ไปด้วยให้ขึ้นมาดูและกราบนมัสการปิดทอง เป็นกลุ่มแรก หน้าที่ของคณะคนเมืองบัวมีเท่านี้
    ส่วนการที่จะสถาปนาให้เป็นทางการนั้นคงเป็นหน้าที่ของหลวงพ่อเสือ และคณะปฏิบัติธรรมชาว ภูเก็ต ที่จะต้องดูแลต่อไปครับ
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    ประวัติและที่มาแห่งการค้นพบรอยพระพุทธบาท
    5.รอยพระพุทธบาท "เขาหลวง "

    <table border="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td align="center">
    [​IMG]
    7
    </td> </tr> <tr> <td align="center">[​IMG]
    8
    </td> </tr> </tbody> </table>
    " พบรอยพระพุทธบาทใหม่ " ที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2545
    สืบเนื่องจาก Web " แหลมเข้ามาข้าจะตอบ " ซึ่งเป็นแนวคิด การให้ข้อมูลข่าวสารอย่างเสรี จนกลายมาเป็น Web " คนเมืองบัว " ซึ่งยังแน่นนโยบายเดิม ความต่อเนื่องนั้นลำดับมา จนถึงการจัดทำ " มโนมยิทธิ Rally ครั้งที่ 2 " ทำให้เกิดความปรงสังเวช ในแนวความคิดของ กลุ่มคนที่เคยรู้จักกันนั้น
    " คนเมืองบัว " มีความวิตกอยู่เหมือนกันว่า รูปแบบในการนำเสนอ จะกระทบถึงครูบาอาจารที่เรานับถือท่านหรือไม่ คนเมืองบัวจึงได้ตั้งจิต อธิษฐาน เป็นการเสี่ยงบุญบารมี ในการที่จะดำเนินแนวทาง สาธารณประโยชน์ที่คนอื่น ยังไม่คิดทำกัน โดยถือเอาการสำรวจเส้นทางเดินป่า ในอุทยานแห่งชาติรามคำแหง ที่จะมีกิจกรรม " มโนมยิทธิ Rally ครั้งที่ 2 " ในระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 45 ถึงวันที่ 1 ม.ค. 46 ที่จะมาถึงในสัปดาหน้านี้ เป็นเกณฑ์ตัดสินว่า "คนเมืองบัว" ชี้นำข้อธรรมถูกหรือผิด
    1. ถ้าผิดการสำรวจเส้นทางเดินดงค์ที่ ถือว่าเป็นกิจกรรมหลัก ขอให้ไม่พบสิ่งที่เป็นมงคล แก่การปฏิบัติธรรม ในครั้งนี้
    2. ถ้าถูกต้องและเป็นประโยชน์แก่ สาธารณะก็ขอให้พบสิ่งที่เป็นมงคลตามนิมิตนั้น
    """""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
    ถาม คือ " คนเมืองบัว "
    ตอบ คือ สังฆนิมิต หลวงพ่อ " พระราชพรหมญาน " วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    """""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
    ขณะปฏิบัติ มโนมยิทธิ ที่บ้าน
    ถาม-- ลูกมีความกังวลใจอยู่บางในหลายๆ เรื่องโดยเฉพาะการนำเสนอ แนวทางปฏิบัติแบบ " ท่านโยคาวจร " รุ่นใหม่ ที่เน้นครึ่งสะดวก ครึ่งลำบากครับ
    ตอบ เป็นธรรมดาของการนำเสนอ ในคราวนี้ จะสำเร็จ แต่ขาดทุนในทางการเงิน เหมือนทุกครั้งที่จัดมา
    ถาม ตรงนี้ผมเข้าใจครับ
    ตอบ ในคราวนี้ที่จะไปทำกิจกรรมพระพุทธศาสนา แบบ " ท่านโยคาวจร " สิ่งที่จะขอแนะนำให้พาผู้ปฏิบัติธรรม ไปกราบของดีในป่า ที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง ซึ่งเป็นสถานที่ถือว่าสงัด จากคนภายนอก ในสมัย โบราณ ยุคสุโขทัย รุงเรือง พระธุดงค์นิยมกันมาก และเป็นที่ๆพระพุทธองค์เคยเสด็จมาโปรด " ชาวลับแล "
    การเดินสำรวจเส้นทางนั้นมี สองเส้นทางที่จะเข้าไปให้ถึงได้แก่
    1. เส้นทางเดินตามลำห้วย แต่ห้ามข้ามลำน้ำแล้วเลี้ยวขาวขึ้นตลิ่ง เพราะจะเจองู ...ถาม " จงอางหรือปล่าวครับ ท่านยิ้มๆ
    2. เส้นทางที่สองเป็นเส้นทางเดิน ตามเส้นทางที่ป่าไม้เขาทำไว้ แต่เมื่อถึงลำธารแห่ง ให้ลอดประตูป่าเข้าไป ( เป็นต้นไทรใหญ่ มีรากระย้าและมีช่องว่างของรากดูคล้ายประตู ) แล้วถึงจะเจอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั้นจะไม่บอกในที่นี้ต้องให้ไปพบเอง
    ชัยภูมิที่จะพบให้สังเกตว่า จะเป็นลูกเนินต่ำๆเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ เป็นป่าโปรง จนไปสุดลำธาร ทางซ้ายมือ ส่วนขวามือจะมีลูกเนินลาดชั้นประมาณ 30 องศา จากจุดที่ยืนอยู่และมองเห็นนั้น ให้เดินไปประมาณ 200 เมตร จะพบกองหินอยู่ 6 ก่อน ให้ลูกดูหินสีเขียวก่อนบนสุด ของดีอยู่ที่นั้นเป็นที่เป็นมงคล ในการปฏิบัติธรรมของกลุ่มที่จะมาปฏิบัติ ธรรมครั้งนี้เพราะคน ที่มาปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ " เคยเป็นคนของพ่อมาแต่การก่อน " ชวยสงเคราะห์เขาด้วย
    ถาม ครับ แล้วทุนที่จะไปสำรวจละครับ
    ตอบ เดี๋ยวพ่อจะหามาให้เอง

    เมื่อคนเมืองบัว เดินทางไปสำรวจในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2545 ได้พบทั้งการฝืนคำสัง คือ เลียวซ้ายได้ประจันหน้ากับงู ขนาดก่อนถ่านไฟฉายใหญ่ โชคดีที่เป็นงูทางมะพร้าว ได้พบชัยภูมิท่านหลวงพ่อท่านได้กล่าวไว้และ ได้พบรอยพระพุทธบาท บนหินเขียวก่อนบน ชาวลับแลบอกว่า " ขอให้นำทองคำเปลวมาปิด " รอยพระพุทธบาทด้วย ทุกคนที่มีส่วนร่วมจะได้อานิสงค์มาก
    ดังนั้น กิจกรรมเพิ่มในการไปธุดงค์แบบ โยคาวจร ในวันที่ 28 ธันวาคม พ. ศ. 2545 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 12.00 น. จะมีกิจกรรมในป่าดังนี้
    1. สรงน้ำทำความสะอาด รอยพระพุทธบาทที่พบใหม่
    2. รวมปิดทองรอยพระพุทธบาท
    3. ร่วมสวดพุทธคุณ ( 3 ห้อง ) จำนวน 30 จบ ( เท่าบารมี 30 ทัศ )
    4. ฝึกการจำภาพ กสีน 10 เบื้องต้นจากธรรมชาต
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" width="100%"><tbody><tr align="center"> <td align="center">
    [​IMG]
    9
    รอยพระพุทธบาทเบื้องซ้ายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า "พระพุทธกัสสป"
    </td> </tr> <tr align="center"> <td align="center">[​IMG]
    10
    รอยพระพุทธบาทเบื้องขวาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน "พระสมณโคดม"
    </td> </tr> <tr align="center"> <td align="center">[​IMG]
    11
    ภาพสเก็ตซ์รอยพระพุทธบาทองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า "พระพุทธกัสสป"
    </td> </tr> <tr align="center"> <td align="center">[​IMG]
    12
    ภาพสเก็ตซ์รอยพระพุทธบาทองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า "พระสมณโคดม"
    </td> </tr> <tr align="center"> <td align="center">[​IMG]
    13
    ก้อนหินที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท
    </td> </tr> <tr align="center"> <td>
    แจ้งการทำกุศลปิดทองรอยพระพุทธบาท
    รายรับรวมเป็นเงิน.............. = 32418 บาท
    รายจ่ายรวม 11/03/46..........= 6540 บาท
    เงินคงเหลือ 11/03/46 ........= 25978 บาท
    จำนวนเงินคงเหลือ 25978 บาทนี้ จะนำไปทำกุศลเกี่ยวกับรอยพระพุทธบาท เป็นลำดับต่อไปนี้ จนสิ้นงบ ได้แก่
    1.ทำป้ายแผ่นหินสลักชื่อชื่อ พระพุทธบาท ที่พระบาท 2 รอย วัดทุ่งมะพร้าว ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
    2.ซื้อแผ่นทองคำเปรว ปิดทองที่ พระพุทธบาทเกาะไม้ไผ่ ( พระพุทธกัสสปฯ ) ใช้ทองประมาณ 2500 แผ่น
    3.ทำป้ายแผ่นหินสลักชื่อ พระพุทธบาท..เกาะไม้ไผ่.
    4.ชื้อทองคำเปรวปิด ที่ รอยพระพุทธบาท ที่ตะกั่วป่า ประมาณ 700 แผ่น
    5.ชื้อทองคำเปรวปิด ที่ รอยพระพุทธบาทวัดเกาะแก้วพิสดาร ประมาณ 1000 แผ่น 4 รอย
    6.บูรณะให้มั่นคงยิ่งขึ้น รอยพระพุทธบาทเขาหลวง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง อ.คีรีมาศ จ. สุโขทัย
    คาดว่าจำนวนเงินคงจะพอดี และจะได้ดำเนินการเป็นไปตามลำดับ
    ส่วนรายชื่อที่ท่านได้ส่งชื่อมาเพื่อ เขียนลงแผ่นทอง นาค เงิน และบรรจุที่ใต้แผ่นหิน ที่ประทับรอย เป็นจำนวน คนทั้งสิ้น 340 คน เราจะบรรจุใต้แผ่นหินประทับรอย ทุกรอยพระบาท ที่ทำการบูรณะ
    ขอกุศลในการบูชารอยพระพุทธบาท ทุกแห่งจงส่งผลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สำเร็จ โดยเฉียบพลัน ดังนี้
    1.สาวกภูมิในชาตินี้ ขอเข้าพระนิพพานในชาตินี้
    2.ท่านพุทธภูมิให้เต็มบารมี โดยไว้
    รอยพระพุทธบาทนี้" คนเมืองบัว "ได้พบเป็นรอยที่ 4
    รอยที่ 1 พบรอยพระพุทธบาท ขวา " ที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามเทพสถิต " อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เมื่อประมาณเดือน มิถุนายน 2539
    ตำแหน่งที่พบ ผาสุดแผ่นดิน ให้นามไว้ว่า " พระพุทธบาทเทพสถิต "
    รอยที่ 2 พบรอยพระพุทธบาท ขวา ที่เกาะแก้วพิศดาร วัดเกาะแก้วพิศดาร จ.ภูเก็ด
    ตำแหน่งที่บพ กลุ่มก้อนหินสันเขา ระหว่างทางเดิน ขาวมือจะเห็นหินก่อนใหญ่ หน้าสุด มีเถาวัลย์ ห่อยอยู่ จะขึ้นไปดูต้องโหนขึ้นไป ควรให้นามว่า " พระพุทธบาทแกะแก้ว "
    รอยที่ 3 รอยพระพุทธบาท ขวา พบเมื่อ 14 ธันวาคม 2545
    ที่เขตอุทยานแห่งชาติ รามคำแหง อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย ควรได้นามว่า " พระพุทธบาทเขาหลวง "
    รอยที่ 4 รอยพระพุทธบาท ขวา ที่วัดทุ่งมะพร้าว ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ควรที่จะให้นามว่า "พระพุทธบาทสองรอย " เพราะมีรอยพระบาทใหญ่เป็นรอยของท่าน " พุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า " ซ้าย 1 รอย ซึ่งอยู่ในก้อนหินเดียวกัน
    ควรที่จะน้อมถวายเป็นพุทธบูชา อานิสงค์ถวายแด่พระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน
    </td></tr></tbody></table>
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" width="100%"><tbody><tr align="center"><td>
    [​IMG]
    14
    </td> </tr> <tr align="center"> <td>[​IMG]
    15
    </td> </tr> <tr align="center"> <td> </td> </tr> </tbody> </table> พบรอยพระพุทธบาทใหม่ที่ ภูย่าอู่ วัดอภิญญาเทสิตธรรม อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี...
    อีกครั้งของการค้นพบ....รอยพระพุทธบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน.... ณ ภูย่าอู่... ซึ่งถือว่าเป็นรอยพระพุทธบาทแห่งที่ 5 ตามสังฆนิมิต...ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน...ผ่านคนเมืองบัว... ...เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ท่านผู้ฝึกพระกรรมฐานมโนมยิทธิโดยทั่วไป....
    -----------------------------------------------------------------------------------
    วันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2546 ในท่ามกลางระหว่างทรงอารมณ์มโนมยิทธิ...
    เฉพาะพระพักตร์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน (พุทธนิมิต) และหลวงพ่อฤาษี (สังฆนิมิต)
    ถาม - คนเมืองบัว / ตอบ - สังฆนิมิต
    ..........
    ถาม หลวงพ่อครับ...งานสงเคราะห์แนะนำพระกรรมฐานในภาคอิสานให้แก่คณะผู้ศรัทธาหลวงพ่อนั้น ผมมีความหนักใจอยู่บ้าง ให้กลุ่มผู้เคยชินในอารมณ์พระกรรมฐานสุขวิปัสโกครับ
    ตอบ คนของพ่อมีอยู่ที่นี้จำนวนมากเช่นกัน (ภาคอิสาน) เวลาผ่านมาถึงวาระนี้แล้วกาลเวลาได้คัดเลือก เขาเหล่านั้น ให้เขาได้เข้าใจในตนเองว่า สุขวิปัสโกนั้น ไม่ถูกจริตกับเขาแล้ว จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีวิชา 3 และอภิญญาเล็กเข้าไปรับรองบุคคลที่มีภูมิธรรมกลุ่มนี้ ซึ่งอยู่ในระหว่างครึ่งๆ กลางๆ อยู่ให้เกิดความมั่นใจในบารมีธรรมเดิมและบารมีธรรมใหม่ของตน
    ถาม กระผมควรอยู่ในขอบเขตเช่นใดบ้างครับ?
    ตอบ 1. ควรเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้น คือให้ถึงวันที่ 16 เมษายน 2546 ให้ได้ ฝึกรอบแรกที่ 10.00 น. เลยทันที
    2. ควรเลื่อนเวลากลับให้ช้าไปอีก เพื่อที่จะทำความเข้าใจในอารมณ์พระกรรมฐานที่ดูเหมือน เป็นของใหม่แก่เขา (มโนมยิทธิ)
    3. ให้เน้นเพิ่มเติมในอารมณ์พระกรรมฐานอาณาปานสติตามแบบที่ศึกษาให้คู่มือพระกรรมฐาน ให้ได้เข้าได้รู้ถึงลำดับแห่งฌานและเสี้ยนหนามของฌาน
    4. มโนมยิทธิท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ฝึกได้แล้ว
    ถาม ครับ...
    ตอบ อย่าลืมช่วยพาเขา(กลุ่มคณะผู้ปฏิบัติธรรม จ. อุดรธานี) ไปที่ภูย่าอู่ล่ะ
    ถาม มีกิจอะไรครับ...?
    ตอบ ที่ภูย่าอู่นี้ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันได้เคยมาสงเคราะห์ชาวบ้านในสมัยนั้น และได้โปรดประทับ รอยพระบาทเบื้องขวาไว้ที่แผ่นหินตามนิมิตที่เธอได้เห็นนี้อยู่ใกล้ทางเดินขึ้นวัด...
    ขวามือเป็นผาสูงประมาณ 2 - 3 เมตร อยู่ข้างบนแผ่นหินนั้นจะลาดเอียงตามไหล่เขา รอยนั้นจะอยู่ขวางความลาดเอียง 30 องศา มีต้นไม้ใหญ่อยู่ข้างก้อนหิน...และล้อมรอบด้วย
    ต้นไม้ใหญ่หลายต้น ที่สังเกตคือเมื่อถึงตำแหน่งนั้นให้มองขึ้นท้องฟ้าจะไม่มีพุ่มไม้บังบางส่วน
    วันที่ 16 - 21 เมษายน 2546 สรุปอารมณ์จิต ไปสัมผัสพระนิพพานและฝึกท่องเที่ยว 4 ท่าน ไปสัมผัสดาวดึงส์ 1 ท่าน อารมณ์ซักซ้อมเข้าลำดับฌาน 15 ท่านขึ้นไป
    -----------------------------------------------------------------------------------
    พบรอยพระบาทใหม่ที่จังหวัดอุดรธานี... ณ วัดอภิญญาเทสิตธรรม (วัดภูย่าอู่)
    -----------------------------------------------------------------------------------
    นำโดย คุณศิริวรรณ คุณเกียรติศักดิ์ คุณเกียรติชัย คุณเยาวภา ...ฯลฯ และคนเมืองบัว
    ในวันที่ 19 เมษายน 2546 คณะได้ถึงภูย่าอู่
    เมื่อเดินขึ้นกึ่งกลางทางขึ้นเขา....สังฆนิมิตได้นำกระผมให้ไปพบรอยพระบาท ดั่งในนิมิต บนก้อนหินใหญ่ ซึ่งมีเศษใบไม้ปิดทับถมกันหนาประมาณ 2 นิ้ว เมื่อเราได้รวมกันทำความสะอาด
    เบื้องต้นแล้ว ได้พบรอยพระบาทขนาดใกล้เคียงกับรอยที่จังหวัดพังงา รอยพระธรรมจักรชัดเจน
    1. เป็นพระพุทธบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพุทธมะโคดม
    2. พบรอยเท้าเณรอรหันต์อีก 3 รอย
    จึงเป็นปิติธรรมยินดีแก่คณะผู้ศรัทธาหลวงพ่อพระราชพรหมยานจังหวัดอุดรธานีเป็นอย่างยิ่ง จึงขอให้ทุกท่านที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บคนเมืองบัว โปรดโมทนาในกุศลนี้
    -----------------------------------------------------------------------------------
    กำหนดการปิดทองคำเปลวทั้ง 4 รอย จะได้แจ้งแก่ท่านผู้มีจิตเป็นกุศลต่อไป เงินทุนปิดทองยังคงเหลืออยู่ จำนวนทองคำที่ใช้ประมาณ 2,000 แผ่น

    สามารถดูภาพได้ที่
    http://www.geocities.com/allpict2003
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#ffffff"><td align="center" valign="middle" width="96%"> ประวัติและที่มาแห่งการค้นพบรอยพระพุทธบาท
    8. พระพุทธบาทที่ วัดพระนั่งดิน [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td background="images/line_dot.gif">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT]</td> <td align="right" valign="top" width="3%">[​IMG]</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td> </td> <td valign="top"> <table border="0" width="100%"> <tbody> <tr align="center"> <td align="center">
    [​IMG]
    16
    </td> </tr> <tr align="center"> <td align="center">[FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif][​IMG]
    17
    [/FONT]</td> </tr> <tr align="center"> <td align="center">
    [​IMG]
    18
    </td> </tr> <tr align="center"> <td align="center">
    [​IMG]
    19
    </td> </tr> <tr align="center"> <td>
    ค้นพบรอยพระพุทธบาทใหม่ล่าสุด ณ.วัดพระนั่งดิน อ.เชียงคำ จ.พะเยา วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2546
    ในระหว่างนี้ได้มีกระแสแห่งธรรม ที่หลากหลาย เข้ามามากส่วนใหญ่เฉพาะเจาะจงที่ " คนเมืองบัว " เป็นส่วนใหญ่ รู้สึกว่าเป็นที่ยินดียิ่งนัก ที่ต่างคนต่างออกมา ตักเตือนกันโดยธรรม ถึงผมเองจะเป็นเป้าในการกล่าวอ้าง โดยตลอดมาก็ตามที่ แต่งานของพระศาสนาที่ " คนเมืองบัว " ตั้งใจที่จะกระทำนั้น " ไม่เคยคลาดเคลื่อนจากใจเลย "
    การที่ได้ไปร่วมกิกรรม " ธรรมสัณจร ครั้งที่ 2" ซึ่ง " คุณ ศรีวรุณ อิสโร " ได้จัดกิจกรรมขึ้นนั้น ผมเองได้รับเชิญไปร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งเกิดประโยชน์ ในทางพระศาสนามาก ก็ด้วยหลักวิชา " มโนมยิทธิ " นี้เอง ที่เป็นกำลังใจในการทำกิจที่ตั้งใจไว้อยู่ ว่าสามารถที่จะนำ มาแนะนำให้บุคคลผู้สนใจ มาเรียนรู้ ให้ใช้กรรมฐานกองนี้ ให้ได้ประโยชน์ทั้งทางโลกทางธรรม
    ในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2546 ในขณธปฏิบัติธรรม มโนมยิทธิ ขอดูในอนาคตังสยาญ...ในวันที่เดินทาง ( 24 พ.ค. 46 ) ว่ามีปัญหาอุสรรค์ใดที่จะเกิดขึ้นบ้าง
    สังฆนิมิต " หลวงพ่อ...ฯ " / ตอบ .....คนเมืองบัว / ถาม
    -----------------------------------------------------------------------------------
    ถาม / หลวงพ่อครับไปคราวนี้จะมีอุปสรรค์ไหมครับ
    ตอบ/ รถของเราไม่มี แต่รถที่ร่วมขบวนกิจกรรมนั้นจะมีปัญหา ( ที่สุดก็เป็นเช่นนั้นจริงๆคือต้องไปรถคันเดียว ) เพราะไม่ใช่กิจของเขาที่จะไป
    ถาม / แล้วอย่างอื่นมีไหม่ครับ...จะมีวิธีการอย่างไร ?
    ตอบ / ไปคราวนี้ถ้าถึงที่วัดคงจะบ่ายๆ ( จริงคือ บ่ายโมงเศษ )
    ตอบ / เมื่อทำกิจกรรมที่วางไว้แล้ว พอมีเวลาเหลืออยู่ ให้ค้นหาในบริเวร วัดพระนั่งดิน นั้นจะมีหินที่พระพุทธเจ้าทรงประทับรอยอยู่ เป็นรอยที่ไม่ลึก แต่ไม่สมบูรณ์เต็มพระบาท หินสีแดง พื้นที่ส่วนใหณ่ภายในวัด.. จะเป็นดินลูกรัง
    ถาม / ถ้าเป็นดินลูกรังล้วนคงต้อง คุดคุ้ยมาก...นะครับ
    ตอบ / เขาถึงเวลาแล้วจะหาง่าย " ก็ดูอย่างประสพการณ์ ที่...ลูก....ได้ไปพบมา..ซิ..ยากไหม ? ( 7 แห่ง )
    ถาม / ง่ายครับ...คงเป็นอย่างที่หลวงพ่อกล่าวครับ ในระหว่างนี้ผมก็รู้สึกหวันไหวเหมือนกันครับ หากได้พบรอยพระบาทที่หลวงพ่อกล่าวมา คงเป็นกำลังใจกับผมเองมากเลยครับ " เพราะว่างานที่ผมทำนั้น..พระยังเห็นว่า..เหมาะสมตามกำลังแล้ว " " จึงเมตตาสงเคราะห์ให้ได้พบในสิ่งที่เป็นเลิศแล้ว ( รอยพระพุทธบาทใหม่ ) ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากที่คนจะเห็นได้ พบได้และกล่าวให้คนมาสัการะ..ครับ
    ถาม / แล้วเรื่องลายสือไทย ที่ท่านเจ้าคุณ..อ่ำ..ได้กล่าวไว้ การไปในคราวนี้จะได้พบร่องรอย บ้างไหมครับ
    ตอบ / จะให้...ลูก..ได้เห็นจำนวน 1 ชิ้น แต่สถานที่จะไม่ขอบอก ให้ใช้ปัญญาเอง
    ถาม / ผมเอง คิดอยู่ในใจว่า ".....แหม....โดน "เข้าแล้ว ยิ่งกว่า คนมาตั้งกระทู้ทดสอบอีก...แฮะ...????
    จึงได้กราบขอบพระคุณ หลวงพ่อ..ด้วยความเคารพ
    """"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
    เมื่อถึงเวลานัดหมาย ในวันที่ 24 พ.ค. 46 จึงได้ออกเดินทางไปกับคณะ ของ คุณ ศรีวรุณ อิสโร โดยมีรถที่ไปร่วมกิจกรรมด้วย เป็นรถตู้ 2 คัน รวมเป็น 3 คับ ณ.จุดนัดพบ วัดพระแท่นดงรัง
    กิจกรรมอื่นๆ คงจะเป็นหน้าที่ของคุณ ศรีวรุณฯที่จะคุยในกระทู้ต่อไปครับ
    """"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
    ในที่นี้จะขอคุยกันเพื่อเสริมความมั่นใจในการปฏิบัติธรรมเท่านั้น ...ครับ เมื่อถึง..วัดพระนั่งดิน เป็นเวลา บ่ายโมง เศษ เราได้เข้าไปไห้วพระ ในวิหารอธิฐานจิต ตามเจตนาของแต่ละท่าน ในขณะนั้นได้รับความชุ่มฉ่ำ จะระอองฝนที่โปรยปรายลงมา ระยะหนึ่ง ผมเองได้ออกจากวิหาร เพื่อจะไปค้นหารอยพระบาทใหม่ ตามนิมิต..(.ตามที่กล่าวแล้วข่างต้น ) เดินเสาะหาจนทั่วบริเวร ข้างวัด / หลังวัด ในความรู้สึกว่าคงจะคว้าน้ำเหลวแน่คราวนี้ ได้กราบลาท่านเจ้าอาวาสเรียบร้อย กำลังจะเตรียมตัวขึ้นรถกันแล้ว...พลันก็ได้หลืบเห็นก้อนหินทรายแดง ก้อนหนึ่ง ใหญ่ขนาด ยาว= 0.90 เมตร / กว้าง = 0.70 เมตร วางอยู่ที่โคนต้นไม้หน้าวิหาร ล้อมโดยรอบด้วยม้านั่งหิน ซึ่งหมิ่นเห่ม แก่การเหียบย่ำ
    เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ จึงเห็นรอยบาทของเณรอรหันต์เด่นชัด รอยกดลึก ลงประมาณ 1 นิ้ว เมื่อพิเคราะห์ดูแล้วรอยนี้คนคงมาพบแล้ว และไม่ใช่รอยพระบาทด้วย
    ในขณะนั้นเกิด " สังฆนิมิต หลวงพ่อ "
    ถาม / หลวงพ่อครับ หินก่อนนี้สงสัยจะไม่ใช่ครับ ....เวลาก็มีน้อย..ผมคงไม่เจอแน่ครับ
    ตอบ / ให้สังเกตุดี...ซิ...ข้างบน..นะ..
    ผมเลยเข้าไปสังเกตุใหม่อีกครั้ง จึงพบรอยดังกล่าวนั้น ผมเลยเข้าไปสังเกตุใหม่อีกครั้ง จึงพบรอยดังกล่าวนั้น
    ลักษณะของรอยพระพุทธบาทที่พบ
    1.เป็นรอยกดมีความลึกประมาณ 2 มิลิเมตรโดยเฉลีย
    2.เป็นรอยที่ประทับที่ไม่เต็มรอย กล่าวคือ ส่วนส้นพระบาท เลยออกไปนอกก่อนหิน ( ในสังฆนิมิต ได้กล่าวไว้ว่า เป็นรอยพระพุทธบาทที่ไม่สมบูรณ์ )
    3.สัดส่วนของนิ้วพระบาทเหมาะสมดี
    4.ขนาดของรอยพระบาท มีขนาด 1 เท่าครึ่งของคนปัจจุบัน
    5.มีรอยธรรมจักร กดเบากลางฝ่าพระบาท พอสังเกตุได้
    6.อยู่บนก่อนหินบนสุด ( ส่วนรอยบาทของเณรอรหันต์ ซึ่งผู้ค้นพบก่อนหินนั้นก่อนแล้ว )
    เมื่อเสร็จภารกิจนั้นแล้ว....จึงเดินทางต่อไปที่ อ.จุน เพื่อศึกษาโบราณสถาน ได้ไปที่วัดที่เคยเป็นโบราณสถาน เก่าแก่ยังคงทิ้งร่องรอยอยู่บ้าง ซึ่งดูได้จากเศษหินเกาะสลัก ต่างไม่มากชิ้น รอบเจดีย์ ได้พบหินก่อนหนึ่งมีร่องรอย ขูดขีด ดูแล้วคล้าย " ลายสือไทย " จึงได้เชิญ คุณลุง ชุบ โตจับ ซึ่งเคยเห็นของจริงในกระเบื้องจาร มาช่วยยืนยัน เราได้ประมาณการในเบื้องต้นไว้ก่อน ว่าใช่จนกว่าจะได้ อ่านออกมาหรือสื่อความหมายได้ เพื่อเป็นการยืนยันว่า ลายสือไทย มีใช้มานานไม่ใช่ว่า มีแต่เมืองราชบุรีเท่านั้น....ภาพรอยพระพุทธบาท , พระบาท,และ ลายสือไทย..นั้นจะส่งมาให้ดูกันในวาระต่อไป ยังอยู่ในกล้อง...ครับ
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#ffffff"><td align="center" valign="middle" width="96%"> ประวัติและที่มาแห่งการค้นพบรอยพระพุทธบาท
    9. รอยพระพุทธบาท "ปรางทอง "[FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td background="images/line_dot.gif">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT]</td> <td align="right" valign="top" width="3%">[​IMG]</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td> </td> <td valign="top"> <table border="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td align="center" height="22">
    <table border="0" width="100%"> <tbody> <tr align="center"> <td>
    [​IMG]
    20
    </td> </tr> <tr align="center"> <td>[​IMG]
    21
    </td> </tr> <tr align="center"> <td>[​IMG]
    22</td> </tr> </tbody> </table></td> </tr> <tr> <td>มูลเหตุที่พบไม่มีอะไรยุ่งยาก ในวันที่ 14 มิ.ย. 46 ได้รับเชิญจากคุณพี่ หน่อย เจ้าของโครงการ หมู่บ้านไปเยี่ยมชมกิจการ ในขณะออกเดินทางจาก ที่พัก ภูเก็ตวิลล่า 3 สังฆนิมิต คือ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ได้ปรากฏ แก่ คนเมืองบัว
    ท่านได้กล่าวว่า /...ลูกเอ้ย....ที่ในหมู่บ้านปรางทอง มีรอยพระพุทธบาทขององค์สมเด็จองค์ปัจจุบัน ฝากให้ไปค้นหาดูด้วยและทำการ บูรณะรักษาด้วยการปิดทองคำเปรว ให้เต็มรอย เพราะหินได้เสื่อมสลายไปมากแล้ว แต่พุทธคุณยังมีอยู่ เมื่อไปถึงสถานที่แต่ด้วยยังไม่มีเวลามากพอ จึงได้สำรวจเบื้องต้นเท่านั้น
    วันที่ 15 มิถุนายน 46 เวลา 13.00 น. ได้ไปที่โครงการ " หมู่บ้านปรางทอง " อีกครั้งเพื่อ ได้พบตามนิมิต ที่หลวงพ่อพระราชพรหมยาน นิมิต ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า " รอยพระพุทธบาท ทุ่งมะพร้าว " เล็กน้อย
    ในวันที่ 17 มิถุนายน 46 เวลา 14.30 น.จึงท่านเจ้าของโครงได้ปิดทองที่ รอยพระบาท ในบริเวณ ธรรมจักร
    ในวันที่ 14 กรกฏาคม 46 จะทำการปิดทองคำเปรวให้เต็มรอยพระบาท ใช้ทองคำเปลว ประมาณ 2000 แผ่น
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#ffffff"><td align="center" valign="middle" width="96%"> ประวัติและที่มาแห่งการค้นพบรอยพระพุทธบาท
    10. พระพุทธบาทเขานาคเกิด[FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td background="images/line_dot.gif">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT]</td> <td align="right" valign="top" width="3%">[​IMG]</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td> </td> <td valign="top"> <table border="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td align="center" height="22">
    <table border="0" width="100%"> <tbody> <tr align="center"> <td>
    [​IMG]
    23
    </td> </tr> <tr align="center"> <td>[​IMG]
    24
    </td> </tr> <tr align="center"> <td>[​IMG]
    25 </td> </tr> <tr align="center"> <td>[​IMG]
    26 </td> </tr> <tr align="center"> <td>[​IMG]
    27 </td> </tr> <tr align="center"> <td>[​IMG]
    28 </td> </tr> <tr align="center"> <td>[​IMG]
    29 </td> </tr> <tr align="center"> <td>[​IMG]
    30</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#ffffff"><td align="center" valign="middle" width="96%">[FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1]ประวัติและที่มาแห่งการค้นพบรอยพระพุทธบาท
    [/SIZE][/FONT]
    [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1] 11.รอยพระพุทธบาท " กันทรปุระ ศรีมิ่งเมือง " 14 ธันวาคม 2546 [/SIZE][/FONT] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td background="images/line_dot.gif">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT]</td> <td align="right" valign="top" width="3%">[​IMG]</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td> </td> <td valign="top">
    [FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif] [/FONT]​
    <table border="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td>
    [​IMG]
    31
    </td> <td>
    [​IMG]
    32
    </td> </tr> <tr> <td colspan="2">พบรอยพระพุทธบาทใหม่ที่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม “ โดย อ. ไก่ “
    เมื่อ วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2546
    รอยพระพุทธบาท ที่ “ คนเมื่องบัว “ ได้ค้นพบให้ล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2546 เวลา 16.00 น. ที่วัดสุวรรณราม หรือ วัดพระพุทธมิ่งเมือง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม
    มูลเหตุแห่งการพบ ด้วยว่า เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2546 ภายหลังจากที่ได้ บวงสรวงตั้งศาลพระภูมิ ที่ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เสร็จสิ้น จึงเดินทางตามหมายกำหนดการ จะไปที่ จ.สกลนคร เมื่อออกเดินทางตามกำหนดการณ์ โดยกับรถยนต์โดยสารประจำทาง สาย จ.มหาสารคาม -- จ.กาฬสินธ์ แต่ในขณะเดินทางก่อนถึง อ.กันทรวิชัย พี่เกิดไม่สบายกระทันหัน ไข้ขึ้นมา
    จึงตัดสินใจเพื่อพักผ่อนรักษาตัว ที่ จ. มหาสารคาม จึงลงรถโดยสารประจำทาง ที่ อ.กันทรวิชัย ตรงข้ามไปรษณีย์กันทรวิชัย เมื่อลงรถมาตรงหน้า วัดสุวรรณาราม ( ถ้าจำไม่ผิด )
    จึงเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ นามว่า “ พระศรีมิ่งเมือง “ จึงเข้าไปกราบไหว้ เมื่อได้กราบพระได้อธิษฐาน บารมี ในการตั้งใจทำความดีเพื่อเป็นการเตือน ใจตน
    เมื่อจิตมีความเป็นทิพย์ที่พอเหมาะพอดีแล้วได้กราบท่าน สังฆนิมิตหลวงพ่อฤๅษี ฯ ( ตอบ )….และท่าน เทวดาอินทกะ ที่ท่านดูแล พระพุทธปฏิมากร มิ่งมงคล นั้น คนเมืองบัว ( ถาม )
    ถาม / หลวงพ่อครับพระองค์นี้มีความเกี่ยวเนื่อง กันผมหรือไม่ครับ
    ตอบ / มีลูก….ลูกได้ร่วมกับ กันยามิตร อีกสองท่านร่วมอธิษฐานไว้ ในทางกุศล
    ถาม / ในตอนนี้เขามาเกิดแล้วหรือยังครับ
    ตอบ / มาเกิดแล้ว….และเมื่อถึงเวลาเมื่อใดคงได้ร่วมกุศลแก่กัน
    ถาม / ครับ…….แล้วสถานที่แห่งนี้ มีความสำคัญอื่นมากก่วานี้ไหม่ครับ
    ตอบ / มีลูก….หลังจากที่ลูกไหว้พระแล้วให้ไปสำรวจตามก่อนหิน เก่าแก่ในบริเวรนี้…” จะพบของดี “
    จากนั้นจึงเดินสำรวจโดยรอบ เมื่อเดินไปที่หลังโบสถ์ แบบมหาอุด ใกล้ทางเดิน เห็นหิน สองก้อน ก้อนหนึ่งเป็นแทนเสมา ฝังรัดแน่นด้วยพื้นปูน ส่วนอีกก้อนหนึ่ง อยู่ที่สนามหญ้า หางกันประมาณ สองเมตร
    หินก่อนนั้นสันฐานสี่เหลี่ยมคางหมู …..เห็น “ ฉับพรรณรังสี “ ปรากฏตรงบนก่อนหิน ซึ่งมีเศษดินปิดบังอยู่
    ในขณะนั้นจึงมีความปิติยินดีมาก เพราะว่าจากประสพการณ์ ควรที่จะเป็นรอยพระพุทธบาทเป็นแน่ และเมื่อปัดดินออก จึงเห็นรอยพระพุทธบาทนั้น พุทธองค์กดรอยเบา จึงได้นอบน้อมกราบพุทธนิมิตท่านยืนยันว่า “ ใช่ “ จึงกราบขอบพระคุณหลวงพ่อ ที่อนุเคราะห์ สถานที่นี้ถือว่า สถานที่แห่งที่ ๑๐ ที่ได้พบรอยพระพุทธบาท พระพุทธหัตถ์
    ตอบ / เบื้องบนท่านร่นบารมีธรรมให้ ก่อนที่งานใหญ่ คือ กองทุนจะเข้ามาให้ทำคงเร็วๆนี้ ในวันพรุ่งนี้ ( วันจันทร์ที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ค. ๒๕๔๖ ) ให้นำทองคำเปรวมาปิดให้เต็มองค์ คงปิดได้เพียงลูกคนเดียว..นะ..
    ถาม / ทำไมครับ ก็หัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่ใช่หรือ….ฮะๆๆๆๆ ( ท่านหัวเราะสัพยอก )
    ตอบ / ผมก็เข้าใจอย่างนั้นแหละขอรับ
    ถาม / อย่าลืมอธิษฐานให้รอบครอบ..ละ….
    ตอบ / ครับหลวงพ่อ
    ถาม / จะเป็นของขวัญ ให้แก่บริวารของลูกในปีไหม่นี้ …..ลูกจำเมื่อ วันเสาร์ที่ ๑๔ ธันวาคม พ. ศ. ๒๕๔๕ ได้หรือไม่ที่ พ่อให้ไปสำรวจเส้นทางเดินดง ที่ อุทยาแห่งชาติรามคำแหง ได้หรือไม่
    ตอบ / ที่หลวงพ่อเมตตาให้พบรอยพระพุทธบาท ผมจำได้ครับ
    ถาม / จำได้ครับ
    ตอบ / ในคราวนั้น เมื่อจัด “ มโนแรนรี่ “ ในช่วง วันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๔๕ ลูกได้นำบริวารที่ได้ผ่านการคัดเลือกให้มาทำงานแล้ว ไปปิดทองรอยพระพุทธบาท “ เขาหลวง “ แต่ในการพบรอยพระพุทธบาทรอยนี้ เพื่อ
    ๑.ให้ทราบว่า งานกองทุน…ใกล้ถึงเวลาเต็มที่แล้ว
    ๒.ให้ทราบว่า .บริวารคนที่มาเกิดหลังสุดมีบารมีครบแล้ว เมื่อได้โมทนา
    ๓.ให้ทราบว่า ผ่านการทดสอบกำลังใจในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ว่ามีความมั่งคงใน ใน “ อธิษฐาน “ บารมี
    ผลแห่งกุศลต่างจะเปิดช่องทางให้แก่ลูก “ เมื่อลูกคิดต้องการสิ่งใด ในขอบเขตของธรรม ลูกจะได้สิ่งนั้น “ ด้วยอิธิบาท ๔ เป็นพื้นฐาน
    ถาม / ลูกขอกราบขอกราบขอบพระคุณในความเมตตา ของทุกๆพระองค์ตรับ
    ตอบ / เกือบลืมบอกไปว่า รอยพระพุทธบาทนี้ ท่านให้นามว่า “รอยพระพุทธบาท กันทรปุระ ศรีมิ่งเมือง “ เป็นรอยพระบาทข้างซ้ายของพุทธองค์ มีธรรมจักร มีความสึกกล่อน มากจนเล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อย
    พระพุทธบาทรอยนี้ ในวันพรุ่งนี้ ( ๑๕ ธันวาคม ๓๖ ) ลูกคงต้องปิดทองให้เต็มรอย เพียงคนเดียวเพราะเป็นกุศลของลูก….ควรทำขั้นตอนดังนี้
    ๑..เพราะเมื่อปิดทองเสร็จแล้ว จะมีคนมาโยกย้ายไปเก็บไว้ในที่อันสมควร
    ๒.ให้เขียนชื่อผู้ค้นพบ คือชื่อของลูกเองบนหินก้อนนั้นว่า “ อ.ไก่ “
    ๓.ให้ลงวันที่ ที่ได้ค้นพบ คือ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๔๖
    ถาม / ขอกราบขอบพระคุณครับ ที่หลวงพ่อเมตตา
    เมื่อได้ทำความสะอาดดีแล้วจึงได้ถ่ายรู้ไว้ จากนั้นจึงมาพักที่ โรงแรมในตัวเมือง….มหาสารคาม ดั่งพระท่านบอกไว้ข้างต้น แต่ต้องป่วยด้วยนะซิ….จึงต้องนอนซมไปกับไขเสียค่อนคืน…..จึงนึกถึงคำพระท่านว่า โลกเป็นไปตามกรรม…ดั่งนี้แล
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#ffffff"><td align="center" valign="middle" width="96%"> 12.รอยพระพุทธบาทข้างขวา ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน วันเสาร์ที่ ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เวลา ๑๒.๒๐ น.[FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td background="images/line_dot.gif">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT]</td> <td align="right" valign="top" width="3%">[​IMG]</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td> </td> <td valign="top"> <table border="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td align="center" height="22">
    [​IMG]
    33</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#ffffff"><td align="center" valign="middle" width="96%"> ประวัติและที่มาแห่งการค้นพบรอยพระพุทธบาท
    13.วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ที่ปั้มน้ำมัน ก่อนถึง อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ได้พบ รอยพระพุทธบาทข้างขวา องค์ปัจจุบัน [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td background="images/line_dot.gif">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT]</td> <td align="right" valign="top" width="3%">[​IMG]</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td> </td> <td valign="top"> <table border="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td align="center" height="22">
    [​IMG]
    33
    </td> </tr> <tr> <td align="center">
    [​IMG]
    34
    </td> </tr> <tr> <td align="center">14.วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ศาลพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ บ.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ได้พบรอยบาทเณรอรหันต์ข้างขวา สมัยพุทธการ ๑ รอย ที่ริมทางขาลงซ้ายมือ ข้างสะพาน ท่าเรือ</td> </tr> <tr> <td align="center">[​IMG]
    35
    </td> </tr> <tr> <td align="center">15. วันที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้พบรอยพระพุทธบาทข้างขวา ใหญ่ ๑ รอย</td> </tr> <tr> <td align="center">[​IMG]
    36
    </td> </tr> <tr> <td align="center">16. วันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้พบรอยพระพุทธหัตถ์ ๑ คู่</td> </tr> <tr> <td align="center">[​IMG]
    37
    </td> </tr> <tr> <td align="center">17. วันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้รอยพระพุทธบาท อีก ๓ รอย</td> </tr> <tr> <td align="center">[​IMG]
    38
    </td> </tr> <tr> <td align="center">18. วันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้พบรอยพระพุทธบาทขวา ๑ รอย ที่ใกล้ลานจอดรถ ลานดอกหญ้ากระดุมเงิน</td> </tr> <tr> <td align="center">[​IMG]
    39
    </td> </tr> <tr> <td align="center">19. วันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้พบรอยพระพุทธบาทขวา อีก ๑ รอย ที่ใกล้ ผาหมอน</td> </tr> <tr> <td align="center">[​IMG]
    40

    [​IMG]
    41

    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#ffffff"><td align="center" valign="middle" width="96%">ตำนานจากนาคเทวา บอกกล่าวเขานาคเกิด
    พระพุทธบาทเขานาคเกิดและหาดราไวย
    [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT]
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td background="images/line_dot.gif">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=+1][/SIZE][/FONT]</td> <td align="right" valign="top" width="3%">[​IMG]</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td> </td> <td valign="top"> <table border="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td height="500"> <table border="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td align="center">

    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG]
    </td> </tr> </tbody> </table>
    แต่เดิมสมัยสุวรรณภูมิอันรุ่งเรือง ไทยมีอำนาจการปกครองทางใต้ถึงสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งตรงกับพุทธพรรษาที่ 44 พรรษา แห่งองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าองค์ปัจจุบัน
    ชาวเมืองนาค (จ.ภูเก็ต) ได้ทราบเหตุแห่งการอุบัติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเช่นกัน จึงได้ส่งตัวแทนไปอัญเชิญเสด็จพุทธองค์ ที่เมืองหลางสุวรรณภูมิ (ปัจจุบัน คือ จ.ราชบุรี) ในคราวที่เสด็จมาโปรดชาวเมืองนาค มาพร้อมพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ มายังเกาะแก้วพิศดาร (แต่ก่อนแผ่นดินใกล้ชิดกันอยู่)
    เมื่อพุทธองค์ทรงแนะนำข้อธรรมแก่ชาวบ้าน ซึ่งเป็นชาวประมง ชาวบ้านจึงขอพระพุทธองค์ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ เป็นเครื่องสักการะบูชาที่ริมน้ำ (ดั่งเดิม) นามว่า "รอยพระพุทธบาทเกาะแก้วพิศดาร" และที่สันเกาะบนก้อนหินใหญ่อีก 1 คู่ ขนาดเท่าครึ่งของคนปกติ
    เมื่อขึ้นมาโปรดที่ริมหาดแผ่นดินเกาะใหญ่ ชาวบ้านจึงทูลขอรอยพระหัตถ์ไว้ 1รอย จึงเรียกชาวบ้านสมัยนั้น ในนามว่ารอยพระหัตถ์ "เราไหว้" ซึ่งหมายเอาถึง หมู่คณะนอมน้อมนพไหว้ ทูลขอรอยฝ่าพระหัตถ์ของพุทธองค์
    ต่อมาริมหาดจึงมีนามว่า "เราไหว้" เมื่อกาลเวลาผ่านไป คนลืมรอยพระหัตถ์ไปแล้ว และประกอบกับสำเนียงพื้นเดิมเปลี่ยนไป คำว่า "เราไหว้" จึงสั้นลง คือ สระ "-เ" หายไปเหลือแต่ "รา" และ พยัญชนะ "ห" หายไปเหลือแต่ "ไว"
    เมื่อรวมความว่า "ราไวย์" หรือหาดราไวย์ ในปัจจุบันนี้เอง
    ต่อมาพุทธองค์ได้เสด็จตามคำเชิญของเทวดา ที่มีอทิสมานกายเป็นกายสิทธิ ซึ่งจัดอยู่ในหมู่เทพในชั้นจาตุมหาราช ซึ่งดูแลสมบัติจักรพรรด์ในอนาคต ได้แก่ แก้วแหวน ทอง อื่นๆ ซึ่งสมบัตินี้จะปรากฎขึ้นในสมัย พระศรีอริยะเมตตรัย มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
    นัยว่าท่านปู่พระอินทร์องค์ปัจจุบัน (ท่านมัคคมานพ) จะลงมาจุติเป็นมหาจักรพรรดิ์ ทองจำนวนนี้จะปรากฎขึ้นมาดั่งเม็ดหิน เม็ดทราย เพื่อรองรับบารมีของผู้ที่มาเกิดในสมัยนั้น
    ก็ชาวอทิสมานกายนาคเหล่านี้ ก็ได้มีความยินดีที่พระพุทธองค์เช่นกัน จึงได้ทูลอันเชิญพระพุทธองค์จากริมหาด "ราไวย์" มาสงเคราะห์บนยอดเขา ที่เหล่ากายสิทธิ์ทั้งหลายได้นัดประชุมฟังธรรมกัน โดยจัดเตรียมที่ประทับแบบธรรมชาติ คือ โขดหินใหญ่บนยอดเขานั้น
    พระพุทธองค์ได้ตรัสสั่งสอนเทวธรรม อันได้แก่ ศีล 5 กรรมบท 10 และหิริ-โอตตัปปะ เป็นต้น เพื่อให้ละความยึดมั่นถือมั่นละเอียดแบบกายสิทธินาค จนในที่สุดนาคเหล่านั้น ได้เข้าใจธรรมไปเกิดจุติในสรวงสวรรค์ ที่บารมีธรรมสูงขึ้น มีรัศมีกายสว่างไสว ดังดอกไม้ไฟที่พุ่งสู่ท้องฟ้า ชาวบ้านซึ่งอยู่ใกล้บริเวณนั้น ได้เห็นปรากฎการณ์แห่งจิตวิญญาณนั้น (ดั่งบ้องไฟพญานาคที่ จ.หนองคาย) จึงขนานนามยอดเขานั้นว่า "นาคเกิด"
    ในการนั้นเอง ที่เหล่านาคทั้งหลายที่ยังไม่เข้าสู่เทวธรรมชั้นสูง ก็ได้ทูลขอรอยพระบาท แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เพื่อสักการะบูชาแก่ชาวนาค ได้แก่ รอยประทับนั่งของพระพุทธองค์ รอยพระหัตถ์และรอยพระพุทธบาทไว้ให้
    ด้วยเหตุนี้รอยพระพุทธบาท จึงปรากฎแห่งรอยทั้ง 3 แห่งนี้ มาให้ผู้ที่มีความเคารพในพระรัตนตรัยได้กราบไหว้บูชา ยอดเขานาคเกิดนี้จึงเป็นสถานที่อันเป็นอุดมมงคล
    มูลเหตุแห่งการค้นพบรอยพระบาท โดยคยเมืองบัว ล้วนแล้วแต่ได้ค้นพบตามหลักวิชา "ฤทธิ์ทางใจ" ทั้งสิ้น
    กุศลใดบังเกิดมี ในพุทธานุสสติทั้งหลายบังเกิดมี ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบูชาแด่ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ด้วยเถิด...

    http://www.konmeungbua.com/foot-nakkud.php</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     

แชร์หน้านี้

Loading...