รอดตายจากสึนามิ...เพราะผีผลัก ติ๊ก กลิ่นสี

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>รอดตายจากสึนามิ...เพราะผีผลัก ติ๊ก กลิ่นสี</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- ผ่านมาแล้วเกือบ ๒ ปีกับเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่ม ในครั้งนั้นมีคนดังหลายคนที่ผ่านเสี้ยววินาทีเฉียดตายซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้


คือ "นายชาญณรงค์ ขันทีท้าว" หรือที่รู้จักกันในนาม "ติ๊ก กลิ่นสี" โดยในวันนั้นเขาเดินทางไปถึงเกาะพีพีในช่วงค่ำแล้ว พร้อมกับ "ธงชัย คะใจ" หรือ "ต้อย ยุทธการบันเทิง" พร้อมน้องๆ ในบริษัทรวม ๔ คนไปพักบังกะโล ส่วนกิ๊ก (เกียรติ กิจเจริญ) พักในเรือพร้อมลูกน้องอีกส่วนหนึ่ง
ติ๊ก เล่าว่า ตลอดทั้งคืนไปเที่ยวดื่มเหล้ากลับมาพักผ่อนตอนตี ๔ ครึ่ง มาตื่นประมาณ ๙ โมงเช้า ตนกับน้องๆ ไปกินข้าวที่ริมหาด ช่วงนั้นน้ำในหาดหายไปหมด คนมามุงดูกันใหญ่ มีบางคนถ่ายวิดีโอเก็บไว้ ได้เห็นคลื่นยักษ์โถมเข้าใส่เกาะพีพี กระแทกเรือ สะพานปลาหัก แล้วน้ำก็ท่วมขึ้นเรื่อยๆ จนเลยตลิ่ง ลูกน้องคนหนึ่งบอกให้รีบวิ่งหนี จึงพากันวิ่งไปที่ตึกอพาร์ตเมนต์ซึ่งมีอยู่ตึกเดียว
เมื่อมาถึงตึกคลื่นโถมมาจากสองทาง ลูกใหญ่มาก สูงประมาณตึกสองชั้น และน้ำแรงมาก ทำอะไรไม่ถูกยืนตะลึงอยู่นั้น มีใครไม่รู้มาผลัก ตอนแรกนึกว่าต้อยผลัก อยู่ดีๆกำแพงที่กั้นก็พังทำให้ลอดตรงรูกำแพงนี้ไปได้ ก่อนที่คลื่นยักษ์จะซัดกำแพงนี้พัง ร่างลอยไปติดบริเวณด้านหลังซึ่งเหมือนเป็นลูกกรงปิดตายอยู่ พยายามใช้สติปีนช่องระเบียง ที่รอดตายมาได้ครั้งนี้เป็นเพราะมีสติ
"จนถึงวันนี้ผมก็ไม่รู้มีอะไรมาผลัก ผีหรืออะไรผลัก แต่ผมคิดก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนั้นมันคืออะไร ผมคิดว่าคนที่มาตายรวมกันมากๆ น่าจะมาจากเจ้ากรรมนายเวรที่ต้องการมาเอาชีวิตคนที่หมดอายุขัยไป แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะพาไปไหน ทำให้มีคนมาตายรวมกันเป็นจำนวนมาก ส่วนคนที่ไม่ตายก็ถือว่ายังไม่หมดอายุขัย" ติ๊ก กลิ่นสี กล่าว
พร้อมกันนี้เขาได้ยกหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาอธิบายให้ฟังว่า ในตัวมนุษย์เรามีตัวเจ้ากรรมนายเวร มีทั้งตัวดีตัวร้ายในตัวเอง บุญวาสนาของแต่ละคนไม่เท่ากัน เช่น คนหนึ่งมีตัวร้ายตัวดีอยู่ ๕ ตัวเท่ากัน แต่ถ้าวันใดเรามีตัวเลวอยู่ ๕ ตัว แต่มีตัวดีอยู่ ๒ ตัว ไอ้ตัวเลวมันก็คอยเป่าหูมึงโกงสิ แต่ตัวดีสองตัวพยายามห้ามอย่าไปทำเลย คนที่ทำเลวได้เพราะโดนไอ้เลว ๕ ตัวพูดกรอกหูทุกวันมันก็เกิดพลังให้ทำเลว
ติ๊ก กลิ่นสี พูดไว้อย่างน่าคิดว่า "เราสามารถเพิ่มไอ้ตัวดีได้ด้วยการนั่งสมาธิ เกิดภาวนาจิต ไอ้เลวมันก็จะมองว่าไปไหว้พระทำไม พอเรานั่งสมาธิทำบุญไอ้ดีก็จะเพิ่มขึ้นมาเอง ไอ้ตัวเลวก็ลดลงเหลือ ๔ ตัว ทุกอย่างมันก็คัดค้านกันอยู่ ตราบใดที่เราทำบุญมากๆ มีจิตที่เป็นกุศลมันก็มีสิ่งที่คอยบอกให้ทำบุญ สร้างวัด แต่ไอ้ตัวเลวมันก็จะคอยพูดว่าอย่าไปทำเลย ไปเที่ยวไปกินเหล้าเถอะสนุกนะ จึงเป็นที่มาของการนั่งสมาธิสวดมนต์เพื่อสร้างบารมีให้ตัวเอง โดยเฉพาะยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎกจะสวดทุกวัน"
นอกจากนี้แล้วเขายังเล่าถึงเหตุการณ์เฉียดตายอีกครั้งหนึ่งให้ฟังด้วยว่า จำได้ว่ากินไวน์เข้าไปอยากขับรถโชว์ด้วยความเร็ว ๑๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ความบ้าบิ่นของเรารถพุ่งชนกับรถพ่วงตรงบริเวณสะพานข้ามก่อนที่จะถึงออฟฟิศ หน้าทิ่มไปที่พวงมาลัย สภาพรถของเราเละไม่เป็นท่า รถเบนซ์ อี ๒๐๐ หน้ายาวมากพอชนแล้วหน้ายุบไปครึ่งหนึ่งเลย และเป็นเรื่องแปลกที่ตัวเองไม่เป็นอะไรเลย
สำหรับพระเครื่องที่แขวนติดตัว คือ พระสมเด็จวัดระฆัง ที่ได้มาจาก อ.โก้ เพาะช่าง แล้วถามท่านว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นพระจริง ท่านก็บอกว่าพระองค์นี้ได้มาจากการนิมิต ให้ไปวัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ จะมีเด็กเอาพระมาให้ แล้วอาจารย์โก้ก็ไปตามนิมิตก็ได้พระสมเด็จองค์นี้มาจริงๆ ส่วนพระสมเด็จวัดระฆังอีก ๑ องค์ที่ได้มาแบบไม่คาดคิด เมื่อมีหมอดูเนปจูน นำพระสมเด็จองค์นี้มาให้ ซึ่งเป็นพระสมเด็จที่เคยส่งประกวดมาแล้วได้ที่ ๑ พร้อมใบรับรองด้วย สาเหตุที่ให้อาจารย์บอกว่าเพราะว่าเรารักคุณจงเก็บเอาไว้
นอกจากนี้ มีคนแนะนำให้นั่งสมาธิ สวดมนต์ จึงได้ลองนั่งอยู่เป็นเวลา ๑ ปี ทุกอย่างในชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ระหว่างสวดมนต์ในห้องพระ ได้หยิบหนังสือ วิธีการสร้างบุญบารมีขึ้นมาอ่าน ทำให้เข้าใจว่า การนั่งสมาธิคือการทำจิตให้นิ่ง วิปัสสนาภาวนาคือ ให้รู้จักตัวตนของเราเอง เราเกิดมาทำไมถึงต้องมาเรียนตรงนี้ เราเกิดมาไม่มีอะไร กลับไปก็ไม่มีอะไร คนส่วนใหญ่กลัวตาย แต่ตายไม่รู้ว่าจะไปไหน ชีวิตของเรามาเป็นขั้นตอน เคยถาม อ.โก้ เคยมีเหตุการณ์แปลก มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นๆ หรือเปล่า ว่าทำไมถึงต้องมาศึกษาลายมือ ลายเซ็น ศึกษาเลข และทำไมถึงต้องให้ไหว้พระสวดมนต์
"วันหนึ่งไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเจอผู้หญิงไม่เคยรู้จักมาทักว่า ลองนั่งสมาธิจะดีกับตัวเรา เพราะตอนนี้มีคนตามอยู่ พอถามว่าใคร ผู้หญิงคนนี้ก็บอกว่าเขานั่งอยู่ข้างๆ แล้วจะให้ทำอะไร เขาก็บอกว่าคนที่ตามต้องการให้ช่วยส่งเขาไปเกิด แล้วจะส่งให้ไปเกิดต้องทำอย่างไร ต้องทำพิธีใหญ่ เช่น การสร้างวัด นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่ตั้งใจว่าจะต้องสร้างวัดขึ้นมาเพื่อส่งให้เขาได้ไปเกิด และเตรียมที่จะสร้างหนังเกี่ยวกับตัวเองที่ประสบกับเหตุการณ์เร้นลับทั้งหมด" ติ๊ก กลิ่นสี กล่าวทิ้งท้าย
เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง /ภาพ วันชัย ไกรศรขจิต

-->
ผ่านมาแล้วเกือบ ๒ ปีกับเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่ม ในครั้งนั้นมีคนดังหลายคนที่ผ่านเสี้ยววินาทีเฉียดตายซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้
คือ "นายชาญณรงค์ ขันทีท้าว" หรือที่รู้จักกันในนาม "ติ๊ก กลิ่นสี" โดยในวันนั้นเขาเดินทางไปถึงเกาะพีพีในช่วงค่ำแล้ว พร้อมกับ "ธงชัย คะใจ" หรือ "ต้อย ยุทธการบันเทิง" พร้อมน้องๆ ในบริษัทรวม ๔ คนไปพักบังกะโล ส่วนกิ๊ก (เกียรติ กิจเจริญ) พักในเรือพร้อมลูกน้องอีกส่วนหนึ่ง
ติ๊ก เล่าว่า ตลอดทั้งคืนไปเที่ยวดื่มเหล้ากลับมาพักผ่อนตอนตี ๔ ครึ่ง มาตื่นประมาณ ๙ โมงเช้า ตนกับน้องๆ ไปกินข้าวที่ริมหาด ช่วงนั้นน้ำในหาดหายไปหมด คนมามุงดูกันใหญ่ มีบางคนถ่ายวิดีโอเก็บไว้ ได้เห็นคลื่นยักษ์โถมเข้าใส่เกาะพีพี กระแทกเรือ สะพานปลาหัก แล้วน้ำก็ท่วมขึ้นเรื่อยๆ จนเลยตลิ่ง ลูกน้องคนหนึ่งบอกให้รีบวิ่งหนี จึงพากันวิ่งไปที่ตึกอพาร์ตเมนต์ซึ่งมีอยู่ตึกเดียว
เมื่อมาถึงตึกคลื่นโถมมาจากสองทาง ลูกใหญ่มาก สูงประมาณตึกสองชั้น และน้ำแรงมาก ทำอะไรไม่ถูกยืนตะลึงอยู่นั้น มีใครไม่รู้มาผลัก ตอนแรกนึกว่าต้อยผลัก อยู่ดีๆกำแพงที่กั้นก็พังทำให้ลอดตรงรูกำแพงนี้ไปได้ ก่อนที่คลื่นยักษ์จะซัดกำแพงนี้พัง ร่างลอยไปติดบริเวณด้านหลังซึ่งเหมือนเป็นลูกกรงปิดตายอยู่ พยายามใช้สติปีนช่องระเบียง ที่รอดตายมาได้ครั้งนี้เป็นเพราะมีสติ
"จนถึงวันนี้ผมก็ไม่รู้มีอะไรมาผลัก ผีหรืออะไรผลัก แต่ผมคิดก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนั้นมันคืออะไร ผมคิดว่าคนที่มาตายรวมกันมากๆ น่าจะมาจากเจ้ากรรมนายเวรที่ต้องการมาเอาชีวิตคนที่หมดอายุขัยไป แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะพาไปไหน ทำให้มีคนมาตายรวมกันเป็นจำนวนมาก ส่วนคนที่ไม่ตายก็ถือว่ายังไม่หมดอายุขัย" ติ๊ก กลิ่นสี กล่าว
พร้อมกันนี้เขาได้ยกหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาอธิบายให้ฟังว่า ในตัวมนุษย์เรามีตัวเจ้ากรรมนายเวร มีทั้งตัวดีตัวร้ายในตัวเอง บุญวาสนาของแต่ละคนไม่เท่ากัน เช่น คนหนึ่งมีตัวร้ายตัวดีอยู่ ๕ ตัวเท่ากัน แต่ถ้าวันใดเรามีตัวเลวอยู่ ๕ ตัว แต่มีตัวดีอยู่ ๒ ตัว ไอ้ตัวเลวมันก็คอยเป่าหูมึงโกงสิ แต่ตัวดีสองตัวพยายามห้ามอย่าไปทำเลย คนที่ทำเลวได้เพราะโดนไอ้เลว ๕ ตัวพูดกรอกหูทุกวันมันก็เกิดพลังให้ทำเลว
ติ๊ก กลิ่นสี พูดไว้อย่างน่าคิดว่า "เราสามารถเพิ่มไอ้ตัวดีได้ด้วยการนั่งสมาธิ เกิดภาวนาจิต ไอ้เลวมันก็จะมองว่าไปไหว้พระทำไม พอเรานั่งสมาธิทำบุญไอ้ดีก็จะเพิ่มขึ้นมาเอง ไอ้ตัวเลวก็ลดลงเหลือ ๔ ตัว ทุกอย่างมันก็คัดค้านกันอยู่ ตราบใดที่เราทำบุญมากๆ มีจิตที่เป็นกุศลมันก็มีสิ่งที่คอยบอกให้ทำบุญ สร้างวัด แต่ไอ้ตัวเลวมันก็จะคอยพูดว่าอย่าไปทำเลย ไปเที่ยวไปกินเหล้าเถอะสนุกนะ จึงเป็นที่มาของการนั่งสมาธิสวดมนต์เพื่อสร้างบารมีให้ตัวเอง โดยเฉพาะยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎกจะสวดทุกวัน"
นอกจากนี้แล้วเขายังเล่าถึงเหตุการณ์เฉียดตายอีกครั้งหนึ่งให้ฟังด้วยว่า จำได้ว่ากินไวน์เข้าไปอยากขับรถโชว์ด้วยความเร็ว ๑๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ความบ้าบิ่นของเรารถพุ่งชนกับรถพ่วงตรงบริเวณสะพานข้ามก่อนที่จะถึงออฟฟิศ หน้าทิ่มไปที่พวงมาลัย สภาพรถของเราเละไม่เป็นท่า รถเบนซ์ อี ๒๐๐ หน้ายาวมากพอชนแล้วหน้ายุบไปครึ่งหนึ่งเลย และเป็นเรื่องแปลกที่ตัวเองไม่เป็นอะไรเลย
สำหรับพระเครื่องที่แขวนติดตัว คือ พระสมเด็จวัดระฆัง ที่ได้มาจาก อ.โก้ เพาะช่าง แล้วถามท่านว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นพระจริง ท่านก็บอกว่าพระองค์นี้ได้มาจากการนิมิต ให้ไปวัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ จะมีเด็กเอาพระมาให้ แล้วอาจารย์โก้ก็ไปตามนิมิตก็ได้พระสมเด็จองค์นี้มาจริงๆ ส่วนพระสมเด็จวัดระฆังอีก ๑ องค์ที่ได้มาแบบไม่คาดคิด เมื่อมีหมอดูเนปจูน นำพระสมเด็จองค์นี้มาให้ ซึ่งเป็นพระสมเด็จที่เคยส่งประกวดมาแล้วได้ที่ ๑ พร้อมใบรับรองด้วย สาเหตุที่ให้อาจารย์บอกว่าเพราะว่าเรารักคุณจงเก็บเอาไว้ นอกจากนี้ มีคนแนะนำให้นั่งสมาธิ สวดมนต์ จึงได้ลองนั่งอยู่เป็นเวลา ๑ ปี ทุกอย่างในชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ระหว่างสวดมนต์ในห้องพระ ได้หยิบหนังสือ วิธีการสร้างบุญบารมีขึ้นมาอ่าน ทำให้เข้าใจว่า การนั่งสมาธิคือการทำจิตให้นิ่ง วิปัสสนาภาวนาคือ ให้รู้จักตัวตนของเราเอง เราเกิดมาทำไมถึงต้องมาเรียนตรงนี้ เราเกิดมาไม่มีอะไร กลับไปก็ไม่มีอะไร คนส่วนใหญ่กลัวตาย แต่ตายไม่รู้ว่าจะไปไหน ชีวิตของเรามาเป็นขั้นตอน เคยถาม อ.โก้ เคยมีเหตุการณ์แปลก มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นๆ หรือเปล่า ว่าทำไมถึงต้องมาศึกษาลายมือ ลายเซ็น ศึกษาเลข และทำไมถึงต้องให้ไหว้พระสวดมนต์ "วันหนึ่งไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเจอผู้หญิงไม่เคยรู้จักมาทักว่า ลองนั่งสมาธิจะดีกับตัวเรา เพราะตอนนี้มีคนตามอยู่ พอถามว่าใคร ผู้หญิงคนนี้ก็บอกว่าเขานั่งอยู่ข้างๆ แล้วจะให้ทำอะไร เขาก็บอกว่าคนที่ตามต้องการให้ช่วยส่งเขาไปเกิด แล้วจะส่งให้ไปเกิดต้องทำอย่างไร ต้องทำพิธีใหญ่ เช่น การสร้างวัด นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่ตั้งใจว่าจะต้องสร้างวัดขึ้นมาเพื่อส่งให้เขาได้ไปเกิด และเตรียมที่จะสร้างหนังเกี่ยวกับตัวเองที่ประสบกับเหตุการณ์เร้นลับทั้งหมด" ติ๊ก กลิ่นสี กล่าวทิ้งท้าย
</TD></TR></TBODY></TABLE>ref.http://www.komchadluek.net/2006/12/31/j001_78726.php?news_id=78726

 

เท่าที่ทราบ พระเครื่ององค์ที่น้าติ๊กห้อย ในวันที่เกิด สึนามิ
คือ พระสมเด็จ หลวงพ่อทบ วัดชนแดน ปี 17 ครับ
ไม่แน่ใจในข้อมูลนะครับ ได้ยินมาอีกที