รหัสดวง รหัสกรรม รหัสจักรวาล...รู้ธรรมชาติ รู้จักรวาล รู้จิต เขาทำกันอย่างไร...?

ติดตามได้ที่
���ըѡ� 8 �ش�ӺѴ [Engine by iGetWeb.com]
รัศมีและจักร







นอกเหนือไปจากกายวิภาคทางกาย ซึ่งมีระบบการไหลเวียนของเลือด
การหายใจ และอื่น ๆ แล้ว ยังมีกายวิภาค “เร้น” หรือกายวิภาคจิต
ซึ่งโดยปกติแล้วมองไม่เห็นอยู่อีกด้วย

กายวิภาคเร้นนี้มี “รัศมี” ซึ่งอยู่รอบ ๆ ร่างกาย และมีศูนย์กลางพลังของจิต
หรือชีวิต เรียกว่า “จักร” รัศมี โดยทั่วไปอธิบายว่าเป็นแสงรุ้งรูปไข่ ซึ่งแทรกเข้าและวิ่ง
เวียนอยู่รอบ ๆ ร่างกาย รัศมีเคลื่อนไหวอยู่เป็นนิตย์ แปลข้อมูลจากสิ่งแวดล้อมแล้ว
เปลี่ยนเป็น ความคิด ความรู้สึก และความเป็นอยู่ของร่างกาย คำว่า รัศมี โดยคำแล้ว
แปลว่า ลมอ่อน ๆ และก็นความจริง ผู้ที่มีความสามารถมองเห็นรัศมีจะเห็นชั้น
พลังเป็นระยิบ ๆ อยู่ คล้ายๆกับการพัดของสายลม ภายในรัศมี มีจักรอยู่ 7 จักร



รัศมี
สนามพลัง หรือที่เรียกว่า รัศมี มีอยู่ 3 ชั้น
คือ ชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก รัศมีชั้นในห่อหุ้ม
ร่างกายอยู่ มีความหนาประมาณ 1 นิ้ว มีหน้าที่รับ
และส่งพลังชีวิต (ตามภาษาสันสกฤตเรียกว่า ปราณ
ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า กิ) เข้าสู่ร่างกาย ชั้นกลางมีความหนา
ออกไปอีกประมาณ 1 ฟุต หรือมากกว่านั้นเล็กน้อย


ลำดับที่ ๑ ร่างกาย, ลำดับที่ ๒ ชั้นใน, ลำดับที่ ๓ ชั้นกลาง, ลำดับที่ ๔ ชั้นนอก (รัศมีจิตหรือรัศมีกรรม)


อยู่รอบ ๆ ร่างกาย ทำหน้าที่เกี่ยวกับสภาพอารมณ์ และรูปแบบความคิดผ่านเข้าสู่ร่างกาย
เมื่อเราได้สัมผัสกับอารมณ์ หรือ “ความสั่นสะเทือน” ของคนอื่น ความคิดในทางไม่ดี
หรืออารมณ์ที่ยังไม่ลงตัว สามารถกรองได้ในรัศมีชั้นในนี้ เข้าสู้รัศมีชั้นในและสู่ร่างกาย
กลายเป็นการรับโรคเข้าตัว ชั้นนอกซึ่งเรียกว่า รัศมีจิต หรือ รัศมีกรรม อาจมีความหนา
เพียงไม่กี่ฟุต หรือหนากว้างไปเป็นร้อยๆ เมตร ขึ้นอยู่กับระดับจิตของแต่ละบุคคล







จักรหรือศูนย์พลัง
จักรทั้งเจ็ดเป็นศูนย์พลังซึ่งอยู่ในกายชั้นใน ผู้ที่มีความสามารถ
จะมองเห็นเป็นรูปกรวย รูปน้ำวน หรือรูปจานบินหมุนอยู่
ตามสภาพสุขภาพและสภาพจิตของแต่ละบุคคล แต่แม้กระทั้ง
ผู้ที่ไม่สามารถมองเห็นก็ยังสามารถสัมผัสแต่ละอย่าง ได้ด้วยมือของเราเอง
จักรอยู่ตลอดสันหลัง (ดังภาพ) จักรทำงานเป็นหลักในการรับพลังชีวิต
ระหว่างร่างกายจริงและร่างกายเร้นของรัศมี จักรแต่ละตัวเกี่ยวข้องกับต่อมต่าง ๆ
และบังคับบัญชาส่วนเฉพาะของร่างกาย และบริเวณที่ก่อให้เกิดภาวะจิตต่าง ๆ กัน
จักรทั้งหลายที่มีความสมดุล ทำให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีสูงสุด
ถ้าจักรตัวใดตัวหนึ่งเสียหายหรือเกิดความบกพร่องของกายเร้น ก็จะเกิดความผิดปกติ
ในการทำงานในบริเวณนั้น ๆ ของร่างกาย ศิลปะการรักษา เช่น การฝังเข็ม ชิอัตซุ
และการนวด เป็นการคงไว้ซึ่งสมดุลของพลัง เพื่อให้ได้มีชีวิตที่ประสานกลมกลืน
ได้กับชีพจรสากลของชีวิต


จักระทั้ง 7 จุด (เพิ่มจักระจุดซ้อนเร้นอีก 1 จุด) คือจุดที่รับพลังจักรวาล นั่นเอง

จักระ 1 (ดอกบัว 4 กลีบ)
- มูล ต่อมหมวกไต
- ขา เท้า อวัยวะเพศทวารหนัก ก้นกบ ไต
- ความตั้งใจ ความเป็นต้นเหตุ ความอยู่รอด
- เป็นรากฐานของระบบจักระ หรือระบบพลังงาน เป็นพื้นฐานของพลังชีวิต
และเป็นกลไกที่ทำให้สืบทอดพันธุ์เป็นมนุษย์อยู่ในโลกทุกวันนี้
- ผู้ที่ปฏิบัติได้ถึงระดับสูงสุดจักระนี้จะเปิดเองโดยอัตโนมัติ

จักระ 2 (ดอกบัว 6 กลีบ)
- ฮาระ ต่อมเพศ
- อยู่บริเวณอุ้งเชิงกราน อวัยวะเพศระบบสืบพันธ์ ท้อง สะเอว กระดูกสันหลังช่วงเอว
เป็นศูนย์กลางเกี่ยวกับพลังทางเพศ
- ความมีชีวิต ความเชื่อมั่น การเคลื่อนไหว กามราคะ สายดิน
- ควบคุมระบบการสืบพันธุ์, การขับกากอาหารและของเสียออกจากร่างกาย
(ระบบการขับถ่าย)รวมทั้งการตั้งครรภ์และการคลอด
- ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับอัณฑะ, ท่อปัสสาวะ, อวัยวะสืบพันธุ์, มดลูก,
รังไข่, ช่องคลอด, ทวารหนัก, กามโรค

จักระ 3 (ดอกบัว 8 กลีบ)
- หน้าท้อง ต่อมในตับอ่อน
- อยู่ตรงแนวสะดือตัดกับกระดูกสันหลัง ช่วงเอว กระเพาะอาหาร
ถุงน้ำดี ตับ กะบังลม ระบบประสาทภายในนอกเหนือการบังคับ
- ความโอบอุ้ม พลังจากอารมณ์ดิบ ราคะ อำนาจส่วนตน
- ควบคุมระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายของเสีย
- ใช้รักษากระเพาะอาหาร, ลำไส้ใหญ่, ลำไส้เล็ก, ลำไส้อ่อน,
ลำไส้แก่, ไส้ติ่ง, ตับ, ม้าม, ดี, กระเพาะปัสสาวะ, ไต, โรคเบาหวาน, ถุงน้ำดี, ต่อมหมวกไต

จักระ 4 (ดอกบัว 10 หรือ 12 กลีบ)
- หัวใจ ต่อมไทมัส
- อยู่ตรงแนวหัวใจ ปอดด้านล่าง อก เต้านม กระดูกสันหลังช่วงอก
ระบบไหลเวียนของเลือด
- ความรัก ความเสน่อหา บริการ มนุษย์ชาติ รวมทั้งการพัฒนาจิตใจ
ด้วยความเมตตากรุณาและความเสียสละ
- ควบคุมระบบหมุนเวียนโลหิต, หัวใจและระดับไขมันในเส้นเลือด
- ใช้รักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจโต, หัวใจเล็ก, หัวใจรั่ว,
ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเส้นเลือด, หัวใจเต้นอ่อนและเหนื่อยเร็ว

จักระ 5 (ดอกบัว 16 กลีบ)
- หลอดคอ ต่อมธัยรอยด์
- อยู่ตรงบริเวณแขน มือ คอ ปาก เสียง ปอด กระดูกสันหลังช่วงคอ
ระบบการหายใน
- ความคิด การแสดงออก สร้างสรรค์ ความจูงใจ
- ควบคุมระบบทางเดินหายใจ และปอด ถุงลม
- ใช้รักษาโรคปอด, หลอดลม, ลำคอ, ไซนัส, ต่อมผิวหนัง,
หลอดลมอักเสบ, หอบหืด, ไอ, จมูก, ผื่นคัน, โรคผิวหนัง

จักระ 6 (ดอกบัว 2 กลีบใหญ่ และกลีบย่อย 100 กลีบ)
- คิ้ว ต่อมใต้สมอง
- อยู่ตรงกลางหน้าผาก หู จมูก ตาซ้าย ฐานกะโหลก ก้านสมอง
ระบบประสาทใหญ่ เปรียบเสมือนนัยน์ตาของปัญญา ใช้เป็นตาที่ 3
(ญาณวิเศษ) สำหรับการติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ผู้สำเร็จ
ระดับ1, 2,3,4 และ 5 (ระดับพื้นฐาน) ยังไม่มีความสามารถใช้จักระนี้ในการรักษาโรค
- ความฉลาด ลางสังหรณ์ ผู้วิเศษ
- ควบคุมสติปัญญา, ความนึกคิด, ความเฉลียวฉลาด, และระบบประสาท
- ผู้ที่เรียนถึงระดับ 5 จะใช้จักระนี้ทำสมาธิได้ิเท่านั้น
(ถ้าหากใช้รักษาโรคด้วยจักระนี้ จักระที่เปิดไว้ทุกจักระจะปิดหรือหมดความสามารถ)

จักระ 7 (ดอกบัว 1,000 กลีบ)
- มงกุฎ ต่อมไพนีล
- อยู่ตรงกลางกระหม่อม กะโหลกศีรษะ สมองชั้นนอก ตาขวา
หรือจุดตัดของเส้นที่ลากจากปลายจมูก ผ่านกลางหน้าผาก
ตัดกับเส้นที่ลากจากหูซ้ายไปหูขวา เปรียบเสมือนมงกุฎดอกบัว
- ความรอบรู้ เหนือธรรมชาติ ฌาน อำนาจจิต
- ควบคุมระบบประสาททั้งหมดของร่างกาย เป็นศูนย์ควบคุมทุกจักระ
เป็นจุดรับพลังจักรวาลและทำการกระจายไปทั่วร่างกาย เป็นจุดที่
สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยที่จักระอื่นไม่สามารถรักษาได้โดยตรง
- ใช้รักษาเส้นประสาท, สมอง, ตา, หู, อวัยวะในช่องปาก,
โรคเจ็บป่วยซึ่งเกี่ยวกับระบบประสาททั่วไป ที่อยู่นอกเครือข่ายของ
จักระอื่น เช่น ระบบกล้ามเนื้อ, ไทรอยด์, ต่อมทอนซิล, กล่องเสียง

จักระซ้อนเร้น เป็นจักรที่ไม่ค่อยรู้จักกัน (เพราะเป็นเคล็ดลับราศีจักรวาล 8 จุด
ที่เป็นความลับครูบาอาจารย์ จะสืบทอดให้ก็เฉพาะผู้ที่ได้ฌานจิตขั้นจตุตฌานขึ้นไป)


จักระ 8 (ดอกบัว 8 กลีบ หรือ 12 กลีบ)
- ผิวหนัง ต่อมน้ำเหลือง
- อยู่ทั่วบริเวณผิวหนัง รับความรู้สึก ร้อนเย็นทุกอูณหภูมิที่กระทบสัมผัส
หรือการรับรู้ถึงธาตุละเอียดถึงหยาบที่เข้ามากระทบเป็นฐานสุดท้าย
- ความหลงไหล ความยินดี การเปลี่ยนแปลง ความลังเลสงสัย ความไม่แน่นอน
- ควบคุมระบบสัมผัสรับความรู้สึก ผิวหนัง ระบบประสาทส่วนปลาย
ระบบประสาทสัมผัส ระบบภูมิต้านทาน ต่อมน้ำเหลือง
- ใช้รักษาโรคเหน็บชา ภูมิแพ้ ภูมิต้านทานต่ำ อัมพฤก อัมพาต
ปลายประสาทอักเสบ หมดสติ โรคที่เกิดบริเวณผิวหนังทั้งหมด

ข้อมูลแก้ไข เรียบเรียงโดย "คนตาทิพย์"

 

แล้ววิธีฝึกการควบคุมของจักระนั้นๆจะต้องทำอย่างไรช่วยอธิบายต่อได้ไหมค่ะ

 

เคยเข้าไปนั่งฟัง อาจารย์แหม่มแกสอน ในเรื่องจักระทั้ง 7 หรือพลังของจักรวาล ผมจำได้ตอนหนึ่งคือ ให้เพ่งระหว่างกลางหว่างคิ้ว ไปเรื่อยๆ ขณะนั่งสมาธิ จำได้แค่นี้ แล้วจะลองค้นที่ไปฟังมาโพสครับhello10