เรื่องเด่น ยอดคำสอน หลวงปู่ชา สุภทฺโท

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jinny95, 10 สิงหาคม 2011.

  1. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ยอดคำสอน

    หลวงปู่ชา สุภทฺโท


    วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

    [​IMG]

    ยอดคำสอน เป็นคำสอน เป็นคติ เป็นปรัชญาสั้นๆ ที่คมลึกซึ้ง ใครได้ฟังแล้วจะเกิดความรู้สึกซาบซึ้ง และบางครั้งอาจจะถึงกับอุทาน ออกมาว่า ท่านคิดและกลั่นกรองคำเหล่านี้ออกมาจากจิตได้อย่างไร ถ้าจิตนั้นไม่บริสุทธิ์แจ่มใสเยี่ยงผู้บรรลุธรรม ขอท่านได้สังเกตคำสอน ต่อไปนี้


    ธรรมดาๆ

    ตามความเป็นจริงแล้ว โลกที่เราอยู่นี้ไม่มีอะไรทำไมใครเลย
    ไม่มีอะไรจะเป็นที่วิตกวิจารย์เลย
    ไม่มีอะไรที่น่าจะร้องไห้หรือหัวเราะ
    เพราะมันเป็นเรื่องอย่างนั้นธรรมดาๆ
    แต่เราพูดธรรมดาได้ แต่มองไม่เห็นธรรมดา
    แต่ถ้าเรารู้ธรรมะสม่ำเสมอ
    ไม่มีอะไรเป็นอะไรแล้ว
    มันเกิดมันดับของมันอยู่อย่างนั้น
    เราก็สงบ

    การปฏิบัติคืออำนาจ

    พระพุทธศาสนาไม่มีอำนาจอะไรเลย
    แม้ก้อนทองคำก็ไม่มีราคา ถ้าเราไม่มารวมกันว่ามันเป็นโลหะที่ดีมีราคา
    ทองคำมันก็ถูกทิ้งเหมือนก้อนตะกั่วเท่านั้นแหละ
    พระพุทธศาสนาตั้งไว้มีอยู่
    แต่ถ้าเราไม่ประพฤติปฏิบัติ จะไปมีอำนาจอะไรเล่า
    อย่างธรรมะเรื่องขันติมีอยู่
    แต่เราไม่อดทนกัน
    มันจะมีอำนาจอะไรไหม?

    ชนะตนเอง

    ถ้าเราเอาชนะตัวเอง
    มันก็จะชนะทั้งตัวเองชนะทั้งคนอื่น
    ชนะทั้งอารมณ์ ชนะทั้งรูป ทั้งเสียง ทั้งกลิ่น
    ทั้งรส ทั้งโผฎัฐพพะ
    เป็นอันว่าชนะทั้งหมด

    สุขทุกข์

    คนที่ไม่รู้จักสุข ไม่รู้จักทุกข์นั้น
    ก็จะเห็นว่า สุขกับทุกข์นั้นมันคนละระดับ
    มันคนละราคากัน
    ถ้าผู้รู้ทั้งหลายแล้ว
    ท่าน จะเห็นว่า
    สุขเวทนา กับทุกขเวทนา
    มันมีราคาเท่าๆ กัน

    เกิดตาย

    เมื่อเราเกิดมาแล้วโยม ก็คือเราตายแล้วนั่นเอง
    ความแก่กับความตายมันก็คืออันเดียวกันนั่นแหละ
    เหมือนกับต้นไม้ อันหนึ่งต้น อันหนึ่งปลาย
    เมื่อมีโคนมันก็มีปลาย
    เมื่อมีปลายมันก็มีโคน
    ไม่มีโคนปลายก็ไม่มี
    มีปลายก็ต้องมีโคน
    มีแต่ปลายโคนไม่มีก็ไม่ได้
    มันเป็นอย่างนั้น

    งูเห่า

    อารมณ์นี้ก็เหมือนกับงูเห่าที่มีพิษร้ายนั้น
    อารมณ์ที่พอใจก็มีพิษมาก
    อารมณ์ที่ไม่พอใจก็มีพิษมาก
    มันทำให้จิตใจของเราไม่เป็นเสรี
    ทำให้จิตใจไขว้เขวจากหลักธรรมของพระพุทธเจ้า

    ของจริง

    ธรรมของจริงของแท้ที่ทำให้บุคคลเป็นอริยะได้
    มิใช่เพียงศึกษาตามตำรา
    และนึกคิดคาดคะเนเอาเท่านั้น
    แต่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้นจริงๆ
    ของจริงจึงจะเป็นของจริงขึ้นมาได้

    ได้เสีย

    ทุกอย่างที่เรามีอยู่เป็นอยู่นั้น
    มันเป็นสักแต่ว่า "อาศัย" เท่านั้นถ้ารู้ได้เช่นนี้ ท่านว่ารู้เท่าตามสังขาร
    ที่นี้แม้จะมีอะไรอยู่ก็เหมือนไม่มี
    ได้ก็เหมือนเสีย
    เสียก็เหมือนได้

    พิการ

    เด็กทั้ง 2 พิการ เดินทางได้จะเข้ารกเข้าป่าก็รู้
    แต่เราพิการใจ (ใจมีกิเลส)จะพาเข้ารกเข้าป่าหรือเปล่า
    คนพิการกายอย่างเด็กนี้ มิได้เป็นพิษเป็นภัยกับใคร
    แต่ถ้าคนพิการใจมากๆ
    ย่อมสร้างความวุ่นวายยุ่งยากแก่มนุษย์และสัตว์
    ให้ได้รับความเดือดร้อนมากทีเดียว

    คนดีอยู่ไหน

    คนดีอยู่ที่เรานี่แหละ
    ถ้าเราไม่ดีแล้ว
    เราจะอยู่ที่ไหนกับใคร
    มันก็ไม่ดีทั้งนั้น

    ชีวิต

    เมื่อเราทอดอาลัยในชีวิต
    วางวันเสีย ไม่เสียดาย
    ไม่กลัวตาย
    ก็ทำให้เราเกิดความสบาย และเบาใจจริงๆ

    นั่งที่ไหนดี

    จะนั่งหัวแถวหรือหางแถวก็ไม่แปลก
    เหมือนเพชรนิลจินดา
    จะวางไว้ที่ไหนก็มีราคาเท่าเดิม
    และจะได้เป็นการลดทิฐิมานะให้น้อยลงไปด้วย

    ไม่กลัวตาย

    กลัวอะไร?
    กลัวตายความตายมันอยู่ที่ไหน?
    อยู่ที่ตัวเราเอง
    จะหนีพ้นมันได้ไหม?
    ไม่พ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
    ในที่ มืด หรือในที่แจ้ง ก็ตายทั้งนั้น หนีไม่พ้นเลย
    จะกลัวหรือไม่กลัวก็ไม่มีทางพ้น
    เมื่อรู้อย่างนี้
    ความกลัวไม่รู้หายไปไหน
    เลยหยุดกลัว
    เหมือนกับที่เราออกจากที่มืดสู่ที่สว่างนั่นแหละ

    สอนคนอย่างไร

    ทำตนให้ตั้งอยู่ในคุณอันสมควรเสียก่อนแล้ว
    จึงสอนคนอื่นทีหลัง
    จึงจักไม่เป็นบัณฑิตสกปรก

    สอนคนด้วยการทำให้ดู

    ทำเหมือนพูด
    พูดเหมือนทำ

    มนุษย์ศาสตร์

    มนุษยศาสตร์ทั้งหลาย มีแต่ศาสตร์ที่ไม่มีคมทั้งนั้น
    ไม่สามารถจะตัดทุกข์ได้
    มีแต่ก่อให้เกิดทุกข์
    ศาสตร์เหล่านั้น ถ้าไม่มาขึ้นกับพุทธศาสตร์แล้ว
    มันจะไปไม่รอดทั้งนั้น

    หลับ - ไม่หลับ

    ถ้าหลับมันก็ไม่รู้
    ถ้ารู้มันก็ไม่หลับ

    มรรคผล

    มรรคผลยังไม่พ้นสมัย
    คนโง่เท่านั้นที่ปฏิเสธว่า
    ในพื้นดินไม่มีน้ำแล้วไม่ยอมขุดบ่อ

    ไม้คดคนงอ

    ต้นไม้เถาวัลย์ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร
    คนคดคนงอนั้น ร้ายนัก
    เป็นพิษเป็นภัยทั้งอยู่บ้านและอยู่วัด

    หลง

    คนหลงโลกคือคนหลงอารมณ์
    คนหลงอารมณ์คือคนหลงโลก

    นักปฏิบัติ

    กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย คือนักปฏิบัติ
    กินมาก นอนมาก พูดมาก คือ คนโง่

    แสดงอาการ

    การหัวเราะเป็นอาการของคนบ้า
    การร้องไห้เป็นอาการของทารก
    ฉะนั้นท่านผู้ถึงสงบ
    จะไม่หัวเราะไม่ร้องไห้

    ความอาย

    เมืองนี้ยังไม่เคยมีพระบิณฑบาตเลย
    เพราะเขามีความอายกันเป็นส่วนมาก
    แต่ตรงกันข้ามกับเรา
    เราเห็นว่า
    คำที่ว่าอายนี้
    เราเห็นว่า อายต่อบาป
    อายต่อความผิดท่านั้น

    เมืองนอก

    เราได้เดินทางไปเมืองนอก
    และเมืองในนอก
    และเมืองในใน
    และเมืองนอกนอก
    รวมสี่เมืองด้วยกัน

    ที่รวมสมาธิ

    เมื่อนั่งหลับตาให้ยกความรู้สึกขึ้นเฉพาะลมหายใจ
    เอาลมหายใจเป็นประธาน
    น้อมความรู้สึกตามลมหายใจ
    เราจึงจะรู้ว่าสติมันรวมอยู่ตรงนี้
    ความรู้มันจะมารวมอยู่ตรงนี้

    เกาะสีชัง

    เรามาอาศัยอยู่ที่เกาะนี้ คือที่พึ่งทางใน
    ซึ่งเป็นที่อันน้ำคือกิเลสตัณหาท่วมไม่ถึง
    แม้เราจะอยู่บนเกาะสีชัง
    แต่ก็ยังค้นหาเกาะภายในอีกต่อไป
    ผู้ที่ท่านได้พบ และอาศัยเกาะอยู่ได้นั้น
    ท่านย่อมอยู่เป็นสุข
    ต่างจากคนที่ลอยคออยู่ในทะเล คือความทุกข์

    กินแบบไหน

    ฉันอาหารไม่พิจารณา
    จะเป็นเหมือนปลากินเหยื่อ
    ย่อมติดเบ็ด

    บริขาร

    บริขารทั้งปวงเป็นเพียงเครื่องประดับขันธ์ห้าเท่านั้น
    การไม่รู้จักประมาณในการบริโภคบริขาร
    มีความกังวลในการจัดหา
    ย่อมเป็นการยุ่งยาก
    ขาดการปฏิบัติธรรม
    ย่อมไม่ได้รับผลอันตนพึงปรารถนา

    อยู่กับใคร

    การคลุกคลีอยู่กับผู้มีปฏิปทาไม่เสมอกัน
    ทำให้เกิดความลำบาก
    ความรู้สึกจะมารวมอยู่ตรงนี้
    อารมณ์เราเป็นอย่างนี้
    เราจึงจะรู้จักที่รวมแห่งสมาธิ
    ปล่อยลม-ได้สมาธิ-ปัญญา
    เรากำหนดลมหายใจเข้าออกอย่างเดียว
    เราปล่อยลมให้เป็นธรรมชาติ
    อย่าไปบังคับลมให้มันยาว
    อย่าไปบังคับลมให้มันสั้น
    ปล่อยสภาพลมให้พอดี
    แล้วดูลมหายใจเข้าออก
    เมื่อปล่อยอารมณ์ได้
    เสียอะไรก็ไม่ได้ยิน
    ถ้าจิตเราวุ่นวายกับสิ่งต่างๆ
    ไม่ยอมรวมเข้ามา
    ก็ต้องสูดลมเข้าไปให้มากที่สุด
    จนกว่าจะไม่มีที่เก็บ
    แล้วก็ปล่อย ลมออกให้มากที่สุด
    จนกว่าลมจะหมดในท้องสัก 3 ครั้งถ้าเรามีสติอย่างนี้
    อย่างวันนี้ เข้าสมาธิสัก 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง
    จิตใจของเรา จะมีความเยือกเย็น ไปตั้งหลายวัน
    แล้วจิตจะสะอาด
    เห็นอะไรจะรับพิจารณาทั้งนั้น
    นี้เรียกว่าผลเกิดจากสมาธิ
    สมาธิมีหน้าที่ทำให้สงบ
    เมื่อจิตเราสงบแล้ว
    จะมีการสังวร สำรวมด้วยปัญญา
    เมื่อสำรวมเข้า ละเอียดเข้า
    มันจะเป็นกำลังช่วยศีลให้บริสุทธิ์ขึ้นมาก
    แล้วสมาธิก็จะเกิดขึ้นมาก
    เมื่อสมาธิเต็มที่ก็จะเกิดปัญญา

    ปลดทุกข์

    ทุกข์มีเพราะยึด ทุกข์ยึดเพราะอยาก
    ทุกข์มากเพราะพลอย ทุกข์น้อยเพราะหยุด
    ทุกข์หลุดเพราะปล่อย

    นักอุปมาอุปมัย

    หลวงปู่ชา นับเป็นนักปฏิบัติธรรมที่ติดดินที่สุด ท่านสอนจากธรรมชาติที่ต่ำ ที่สุดเพื่อให้เกิดสิ่งที่สุดคือมรรคผล โดยมีคนเปรียบเทียบแง่มุมนี้ว่าคล้ายกับแนว คำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ แต่จุดเด่นอันหนึ่งของแนวคำสอนของหลวงปู่ชาก็คือ "การเปรียบเทียบ" ท่านหาเรื่องมาเปรียบเทียบเพื่ออธิบายคำสอนของท่านได้อย่างเหมาะเจาะและเข้าใจง่าย ดังข้อเปรียบเทียบต่อไปนี้

    มะม่วง

    ถ้าพูดให้สั้นเข้ามา
    ศีลก็ดี สมาธิก็ดี ปัญญาก็ดี มันก็เป็นอันเดียวกัน
    ศีลก็คือ สมาธิ สมาธิ ก็คือศีล
    สมาธิก็คือ ปัญญา ปัญญาก็คือสมาธิ
    ก็เหมือนมะม่วงใบเดียวกัน
    เมื่อมันเป็นดอกขึ้นมามันก็ดอกมะม่วง
    เมื่อเป็นลูกเล็กก็เรียกว่าผลมะม่วง
    เมื่อมันโตขึ้นมา ก็เรียกมะม่วงลูกโต
    มันโตขึ้นไปอีกก็เรียกมะม่วงห่าม
    เมื่อมันสุกก็คือมะม่วงสุก
    มันก็มะม่วงลูกเดียวกันนั่นแหละ
    มันเปลี่ยน ไป
    มันจะโตมันก็โตไปหาเล็ก
    เมื่อมันเล็กมันก็เล็กไปหาโต

    มีด

    สมถกับวิปัสสนา
    มันแยกกันไม่ได้หรอก
    มันจะแยกกันได้ก็แต่คำพูด
    เหมือนกับมีดเล่มหนึ่งนะ
    คมมันก็อยู่ข้างหนึ่ง
    สันมันก็อยู่ข้างหนึ่งนั่นแหละ
    มันแยกกันไม่ได้หรอก
    ถ้าเราจับด้ามมันขึ้นมาอันเดียวเท่านั้น
    มันก็ติดมาทั้งคมทั้งสันนั่นแหละ

    งู

    มนุษย์เราทั้งหลายไม่ต้องการทุกข์
    ต้องการแต่สุข
    ความจริงสุขนั้นก็คือทุกข์อย่างละเอียด
    เช่นเดียวกับทุกข์ก็คือ ทุกข์อย่างหยาบ
    พูดอย่างง่ายๆ
    สุขและทุกข์ก็เปรียบเสมือนงูตัวหนึ่ง
    ทางหัวมันเป็นทุกข์
    ทางหางมันเป็นสุข
    เพราะถ้าลูบทางหัวมันมีพิษ มันก็กัดเอา
    ไปจับหางมันก็เหมือนเป็นสุข
    แต่ถ้าจับไม่วาง มันก็หันกลับมากัดได้ เหมือนกัน
    เพราะทั้งหัวงูและหางงู
    มันก็อยู่ในงูตัวเดียวกัน
    เช่นเดียวกับสุขและทุกข์
    ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกัน

    หมายังรู้

    หมามันยังรู้จักอารมณ์ของมันเลย
    เวลาหิวมันก็คราง "หงิงๆ"ใครไม่รู้จักอารมณ์ของตัวเองก็ตายเสียดีกว่า

    โคตรของสมาธิ

    มีอุบาสกคนหนึ่งถาม หลวงพ่อว่า "ถ้าทำสมาธินี้ เอาแต่ขณิกก็พอ ไม่จำเป็นต้องไปไกลกว่านั่นใช่ไหมครับ"หลวงพ่อชา ตอบว่า "ก็ไม่เป็นไรอย่างนั้น คือหมายความว่า มันต้องเดินไปถึงกรุงเทพฯ ก่อนว่ากรุงเทพมันเป็นอย่างนี้ อย่าไปถึงแค่โคราชซิ...คือไปให้ถึงกรุงเทพฯก่อน และเราก็ผ่านอุบลราชธานีด้วย ผ่านโคราชด้วย ผ่านกรุงเทพฯ ด้วย คือเรียกว่าสมาธินะ ขณิกสมาธิ อัปปณาสมาธิ มันจะถึงที่ไหนก็ให้มันถึงที่ มันจึงจะรู้จักโคตรของสมาธิว่ามันเป็นอย่างไร อัปปณาสมาธิที่มันมากกว่าอุปจารสมาธิ"

    หัวกลอย

    ให้กลับความรักที่มีอยู่ให้กลายเป็นความรักสากล
    ให้กลายเป็นความรักที่มีต่อสรรถสัตว์ทั้งหลาย
    รักเหมือนแม่รักลูก พ่อรักลูก แม้ผมอยู่กับพวกท่าน
    ผมก็รักท่านเหมือนเป็นลูกเป็นหลาน ให้ล้างความใคร่
    ออกจากความรักเหมือนหัวกลอย ต้องแล่เอาพิษออกจึงกินได้
    ความรักก็เช่นเดียวกัน ต้องพิจารณา มองให้เห็นทุกข์ของมัน
    ค่อยๆ ล้วงเอาเชื้อแห่งความมัวเมาออก เพื่อให้เหลือแต่ความ
    รักล้วนๆ เหมือนครูบาอาจารย์รักศิษย์

    จิตคือควาย

    เปรียบเสมือนกับการเลี้ยงควาย
    จิตของเราก็เหมือนควาย
    อารมณ์คือต้นข้าว
    ผู้รู้เหมือนเจ้าของ
    เวลาเราไปเลี้ยงควายทำอย่างไร
    ปล่อยมันไป
    แต่เราพยายามดูมันอยู่
    ถ้ามันพยายามเดินไปใกล้ต้นข้าว
    ก็ตวาดมัน
    ควายได้ยินก็จะถอยออกไป
    แต่เราอย่าเผลอะนะ
    ถ้ามันดื้อไม่ฟังเสียง
    ก็เอาไม้ฆ้องฟาดมันจริงๆ
    มันจะไปไหนเสีย

    วัวไม่กินหญ้าก็คือหมู

    ทุกวันนี้ อาตมาไม่ค่อยได้เทศน์มาก อยู่วัดอยู่วาก็เหมือนกัน
    ปีนี้เทศน์ให้แม่ชีฟังถึงสองสามครั้งหรือเปล่า ก็จำไม่ได้
    พระเจ้าพระสงฆ์ก็ให้อยู่เฉยๆ ให้ดูเอาปฏิบัติเอง
    ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
    เพราะเข้าใจว่า คนมีศรัทธา จึงเข้ามาในวัด จึงมาบวชเป็นปะขาว
    จึงมาบวชเป็นเณร จึงมาบวชเป็นพระ
    เข้าใจอย่างนั้น
    ถ้าเข้าใจอย่างนั้นก็เหมือนกันกับวัวเราน่ะแหละ
    วัวมันกินอะไร
    มันกินหญ้า
    จับมันมาปล่อยใส่สนามหญ้าแล้ว
    ถ้ามันไม่กินหญ้ามันก็เป็นหมูเท่านั้นแหละ

    นักปฏิภาณ

    บางครั้งหลวงพ่อชา ท่านมีจิตแจ่มใส เดาใจคนถามได้อย่างแม่นยำ จึงมักจะมีการใช้ปฏิภาณโต้ตอบปัญหาอย่างเฉียบแหลมอยู่เสมอ

    ใครรู้อัตตา

    คนที่นับถือพระเจ้า ไม่ยอมรับคำสอนเรื่อง "อนัตตา" ของพุทธศาสนา
    เหตุผลของเขาก็คือ "จะเอาอะไรมารู้อนัตตาเล่า ถ้าไม่ใช่อัตตา"
    วันหนึ่ง มีชาวคริสต์มาถามหลวงพ่อว่า "ใคร่รู้อนัตตา"
    หลวงพ่อถามกลับทันที "ใครรู้อัตตา"

    นกไม่รู้เรื่องปลา

    มีชาวต่างประเทศถามหลวงพ่อว่า ชีวิตพระเป็นอย่างไร?
    หลวงพ่อคิดว่าตอบอย่างไรก็ไม่เข้าใจแน่ เพราะเขายังไม่รู้จักพระ
    จึงตอบไปว่า
    ถึงปลาจะบอกว่าอยู่ในน้ำเป็นอย่างไร
    นกก็ไม่มีทางจะรู้ได้
    ตราบใดที่นกยังไม่เป็นปลา

    ของแปลก

    ในความเคร่งเครียดในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อก็ยังมีแง่มุมที่ขบขันให้เราได้เห็นบ้างเป็นการหักมุมที่ค่อนข้างจะตื่นเต้นมาก ดังที่ท่านบันทึกไว้ในการเดินทางไป ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2520 ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการเดินทางในวันที่ 6 ในขณะที่บินอยู่ เครื่องบินได้เกิดอุบัติเหตุยางระเบิด 1 เส้นบนอากาศ พนักงานการบินจึงได้ประกาศให้ผู้โดยสารเตรียมตัวรัดเข็มขัด มีฟันปลอมก็ต้องถอดออก แม้กระทั่งแว่นตาหรือรองเท้า เครื่องบริขารทุกอย่าง ต้องเตรียมพร้อมหมด ผู้โดยสารทุกคนเมื่อเก็บบริขารทุกอย่าง เสร็จแล้ว ต่างคนต่างก็เงียบ คงคิดว่าจะเป็นวาระสุดท้ายของพวกเราทุกคนเสียแล้ว ขณะนั้นเราก็ให้คิดว่าเป็นครั้งแรกที่เราได้เดินทางมาเมืองนอก เพื่อสร้างประโยชน์แก่พระศาสนา จะเป็นผู้มีบุญอย่างนี้เทียวหรือ เมื่อระลึกได้เช่นนี้แล้ว ก็ตั้งสัตย์อธิษฐานมอบชีวิตให้พระพุทธ พระธรรมพระสงฆ์ แล้วก็กำหนดจิตรวมลงในสถานที่ควรอันหนึ่ง แล้วก็ได้รับความสงบเยือกเย็น ดูคล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พักในที่ตรงนั้น จนกระทั่งเครื่องบินได้ลดระดับลงมาถึงแผ่นดินด้วยความปลอดภัย ฝ่ายคนโดยสารก็ปรบมือกันด้วยความดีใจ คงคิดว่าเราปลอดภัยแล้ว สิ่งที่แปลกก็คือ ขณะเมื่อเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ ต่างคนก็ร้องเรียกว่า หลวงพ่อช่วยปกป้องคุ้มครองพวกเราทุกคนด้วย แต่เมื่อพ้นอันตรายแล้ว เดินลงจากเครื่องบินเห็นประณมมือไหว้พระเพียงคนเดียวเท่านั้น นอกนั้นไหว้แอร์โฮสเตสทั้งหมดในที่นั้น นี้เป็นสิ่งที่แปลก


    คัดลอกจาก http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/lp_cha/lp-cha_33.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2011
  2. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    กราบนมัสการหลวงปู่ชาครับ

    อนุโมทนา จขกท ด้วยครัย

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  3. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    [​IMG]



    __________________
    อัพเดทกำหนดการกิจกรรมบุญล่าสุด คลิก[/COLOR][/SIZE][/B]
    ทริปกฐินสร้างพระอุโบสถวัดรั<wbr>ตนานุภาพ (กฐินปลดหนี้ ๕๔) ๑๔-๑๗ ต.ค. คลิก

    เรียนเชิญร่วม
    เป็นเจ้าภาพมหากุ<wbr>ศลงานเข้า-ออกนิโรธกรรมครูบาวิฑ<wbr>ูรย์ ชินวโร ๑๗-๒๕ ก.ย. คลิก

     
  4. ดอกสร้อย

    ดอกสร้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,842
    ค่าพลัง:
    +4,893
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ ในธรรมทานนี้ด้วยค่ะ
     
  5. palati

    palati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +432
    ขอโมทนาสาธุด้วยครับ

    ขอโมทนาสาธุด้วยครับ คำสอนอริยสงฆ์มีคุณอนันต์เสมอ
     
  6. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    สาธุ ในธรรมหลวงปู่ชา ท่านเปรียบเปรย อุปมาอุปไมย ได้ดี

    "เวทนา ดั่งพิษงู" ด้วยการกระทำ ที่ประกอบด้วย สมุทยสัจ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2011
  7. Santajitto

    Santajitto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +455
    กราบอนุโมทนา สาธุ ครับ
    ธรรมะ ก็คือเรื่องธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา ถ้าเรามี สติ พิจารณาสิ่งธรรมดา ธรรมดา ก็หลุดสามารถพ้นได้ ... สาธุ สาธุ สาธุ
     
  8. ohake999

    ohake999 ศีล สมาธิ ปัญญา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +256
    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆคับ อนุโมทนาด้วย
     
  9. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    "ธรรมดาำๆ" แค่คำๆนี้ของหลวงปู่ก็ครอบคลุมทุกสรรพสิ่ง มันก็เป็นเช่นนั้นเอง กราบอนุโมทนา สาธุ เจ้าค่ะ
     
  10. kengiiiii

    kengiiiii สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +1
    กราบนมัสการหลวงปู่ชา และขออนุโมทนาสาธุเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ คำสอนของหลวงปู่ชาท่านวิจิตรพิสดารมากครับ สาธุครับ
     
  11. kengiiiii

    kengiiiii สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +1
    ผมขอคัดลอกยอดคำสอนนี้ด้วยนะครับ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตนเอง และหวังว่าจะได้เป็นประโยชน์กับผู้อื่นด้วยนะครับ สาธุครับ
     
  12. กิ่งขวัญ

    กิ่งขวัญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +701
    อนุโมธนาบุญด้วยค่ะ
     
  13. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    กราบ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
    ในบุญกุศลทุกอย่างกับท่านด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
     
  14. phak

    phak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    473
    ค่าพลัง:
    +458
    Anumo..tana..satu..boon...Jou..ka.
     
  15. หมี พลเสน

    หมี พลเสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +358
    ผมโมทนาบุญด้วยครับ ขอให้ผลบุญนี้ช่วยส่งผลให้ผมเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันด้วยเถิด และถ้าหากว่าชาตินี้ผมไม่ถึงพระนิพพานเพียงไร เกิดใหม่ชาติใด ขอคำว่าไม่มีอย่าเกิดกับผมเลย สาธุ สาธุ สาธุ
     
  16. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
    สาธุๆ





    ลูกหลานขอกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพ ขอรับ __^/|^__


    ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำสิ่งดีๆ มาให้อ่านครับ ^_^
    ______________________________
    hello9
    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์
    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์มาทำงานกัน<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  17. view6628

    view6628 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +192
    ขอบคุณที่นำคำสอนของหลวงปู่ชามาแบ่งปันครับ มีแต่คำสอนดี ๆ ทั้งนั้นเลย
     
  18. หมี พลเสน

    หมี พลเสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +358
    ข้าพเจ้าโมทนาบุญด้วยครับ ขอให้ผลบุญนี้ช่วยส่งผลให้ข<wbr>้าพเจ้าเข้าถึงซึ่งพระนิพพา<wbr>นในชาติปัจจุบันด้วย เถิด และถ้าหากว่าชาตินี้ข้าพเจ้<wbr>าไม่ถึง พระนิพพานเพียงไร เกิดใหม่ชาติใด ขออย่าให้ข้าพเจ้าไปอบายภูม<wbr>ิ อย่าไปเป็นเปรต อย่าไปเป็นอสูรกาย อย่าตกนรก อย่างน้อยที่สุดขอให้เป็นมน<wbr>ุษย์ที่มีดวงตาเห็นธรรม ไม่มีความเดือดเนื้อร้อนกาย<wbr> ร้อนใจ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  19. ขอนไม้แห้ง

    ขอนไม้แห้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +1,618
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • path.jpg
      path.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60 KB
      เปิดดู:
      80
    • 87.JPG
      87.JPG
      ขนาดไฟล์:
      50 KB
      เปิดดู:
      2,413
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...