พ.ต.ต.โสฬส เอี่ยมสอาด ศรัทธา-บูชาหลวงปู่ทวด

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 7 ตุลาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    พ.ต.ต.โสฬส เอี่ยมสอาด ศรัทธา-บูชาหลวงปู่ทวด

    คอลัมน์ พระเครื่องคนดัง

    ศิริพงษ์ กลิ่นทวี



    [​IMG]

    สารวัตรป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธอำเภอเมืองชลบุรี "พ.ต.ต.โสฬส เอี่ยมสอาด" เป็นคน อ.พานทอง จ.ชลบุรี เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนพานทอง (ต้นสน) โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย

    จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่นที่ 46 เพื่อนร่วมรุ่นคนดัง คือ พ.ต.ท.วรวุฒิ คุณะเกษม นว.ผบช.ภ.2 พ.ต.ท.คมสรณ์ มาบำรุง สว.สืบสวนภาค 2

    หลังจากศึกษาจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานเมื่อปี 2536 ติดยศร้อยตำรวจตรี ก็ได้เลือกลงตำรวจตระเวนชายแดนเป็นผบ.หมวดตชด.ที่ 12 อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จนถึงปี 2542 ปี 2542 ก็ได้มาดำรงตำแหน่งรองสว.จร.เมืองชลบุรี จนปี 2547 ก็ได้ดำรงตำแหน่งสารวัตรป้องกันและปราบปรามสภ.อ.เมืองชลบุรี

    ด้วยมีหน้าที่หลักเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ บางครั้งต้องปฏิบัติหน้าที่แบบสุมเสี่ยงต่อชีวิต "พ.ต.ต.โสฬส" จึงอาราธนาพระเครื่องประจำกายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ห้อยติดตัวอยู่ 3 องค์ องค์ประธานก็คือหลวงพ่อเงินพิมพ์นิยม วัดบางคลาน จ.พิจิตร องค์ที่ 2 เหรียญหลวงพ่อพรหม รุ่น 1 วัดช่องแค จ.นครสวรรค์ และเหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี รุ่นฉลองสมณศักดิ์ ปี 2508 "พระเครื่องทั้ง 3 องค์ผมได้มาจากเพื่อน และญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือให้มาคล้องคอติดตัว เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ในการทำงานรับราชการตำรวจ ส่วนตัวนั้นมีความศรัทธาในองค์หลวงปู่ทวดมาก เพราะเคยมีประสบการณ์กับตัวเอง เมื่อสมัยที่ติดยศร้อยตำรวจตรี แล้วไปเป็นผบ.หมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 อรัญประเทศ ได้ไปลาดตระเวนร่วมกับตำรวจตชด. ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาอีกจำนวน 7 คนที่ชายแดนกัมพูชาด้านอำเภอตาพระยา"
    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ในตอนนั้นแขวนพระเครื่องหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นหลังตัวหนังสือติดตัวอยู่เพียงองค์เดียว ได้เกิดประทะกับโจรกัมพูชาติดอาวุธกลุ่มหนึ่งที่กำลังจะข้ามมาทางฝั่งไทย ซึ่งมีอาวุธร้ายแรงทั้งปืนอาก้าและจรวดอาร์พีจี ยิงเข้าใส่กลุ่มตำรวจตระเวนชายแดนที่กำลังลาดตระเวนอยู่ที่แนวตะเข็บชายแดน ซึ่งผู้ใต้บังคับบัญชานั้นโดนกระสุนปืนและจรวดอาร์พีจีตามร่างกายบาดเจ็บ บางคนแขนขาขาดและเสียชีวิต

    "กระสุนปืนของโจรกัมพูชานั้นปลิวว่อนไปทั่วบริเวณจุดปะทะกัน ผมซึ่งร่วมต่อสู้กับโจรกัมพูชากลุ่มดังกล่าวไม่ได้รับอันตรายจากคมกระสุนแต่อย่างไร มีแต่เฉียดฉิวผ่านไปเท่านั้น ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่จำได้ติดตามาตลอด คิดว่ารอดชีวิตได้เพราะหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ คุ้มครองไม่ให้ถูกกระสุนปืนจากฝ่ายตรงข้าม จึงได้มีความศรัทธาในองค์หลวงปู่ทวดมาตลอดหลังจากเจอประสบการณ์"

    หลังจากนั้นเหรียญหลวงปู่ทวดหลังหนังสือได้หายไป จึงได้ไปขอแบ่งเพื่อนตำรวจที่มีเหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างให้รุ่นฉลองสมณศักดิ์มาห้อยติดตัวแทน และยังเช่าหาบูชารูปหล่อหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ หลายขนาดมาไว้บูชาที่บ้าน และที่ห้องทำงาน ซึ่งก็จะบูชาพระหลวงปู่ทวดก่อนทำงานทุกครั้งบางครั้งถ้าว่างหรือลาหยุดงานหลายวันก็จะขับรถยนต์ส่วนตัวไปกับครอบครัว เพื่อไปกราบสถูปหลวงปู่ทวดที่วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ทุกปี

    การแขวนพระเครื่องนั้นเชื่อว่าถ้าเรากระทำความดี ยึดถือธรรมะตั้งมั่นในศีลธรรม คุณพระก็จะคุ้มครอง

    ทำงานด้วยความสบายใจ ผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความเมตาเอ็นดู

    ผู้ใต้บังคับบัญชารักเคารพนับถือ



    Ref.
    http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03bud07071049&day=2006/10/07
     

แชร์หน้านี้

Loading...