พุทธาภาพ แห่ง “ยันต์เกราะเพชร”

ความเชื่อเรื่องการปลุกเสกเลขยันต์ มีมาช้านานในสังคมไทย บอกเล่าเรื่องราวจากรุ่นสู่รุ่น ไม่เพียงแต่มนต์ขลังในอักขระยันต์เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยตำนานของการสืบทอดวิชาอาคมมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะ “ยันต์เกราะเพชร” ตำรับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เมืองกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา...สุดยอดเลขยันต์ชั้นสูง ที่ว่าด้วยบทอิติปิโส พุทธคุณบทต้น

จากตำรับหลวงพ่อปาน พิธีเป่ายันต์เกราะเพชรแห่งวัดทุ่งเศรษฐี จะเดินตามรอยตำรา บูรพาจารย์แห่งสายวิชา ผู้รับยันต์ต้องตั้งศีล สมาทานพระกรรมฐาน หลับตาภาวนาพุท-โธ ขณะที่หลวงพ่อเณร จะนั่งบริกรรมคาถาภายในห้องที่ไม่อนุญาตให้ฆราวาสเข้า ยึดโยงด้านสายสิญจน์เชื่อมต่อพลังศักดิ์สิทธิ์ไปยังผู้รับยันต์

คนจะเป่ายันต์ต้องทำจิต สมาธิ จิตให้สงบเวลาจะเป่าต้องเอาสติติดกับพุทโธ ต้องเอาพุทโธติดกับสติให้แนบอยู่กับหัวใจเรา นั่นคือการทำจิตให้สงบ เมื่อสงบ สงบจิตผู้เป่าสงบเครื่องมันก็จะจูนถึงกัน อำนาจคุณพระพุทธเจ้าก็จะแผ่ไป ทั่วไพศาลสามโลกธาตุ ไปถูกต้องผู้ใดก็จะคันยิบๆยับๆ บางคนก็หนักศีรษะ บางคนก็เข้าตา น้ำหูน้ำตาไหล หูอื้อ บางคนก็ตัวสั่น บางคนก็กรีดร้องออกมาด้วยอำนาจ แล้วก็ไปกระตุ้นกรรมเก่าที่เคยสร้าง เค้ากรรมหรือจิต จิตที่มีกรรมลึกๆ ที่ไม่อยากจะบอกใคร มันก็จะออกมา ให้พ้นวิบากไป

ยันต์เกราะเพชร เสมือนธาตุกายสิทธิ์ เมื่อถูกเสกเป่าผ่านใครย่อมเป็นมงคล ส่วนผู้ที่ถูกไสยศาสตร์ ไม่ว่าจะคุณผี คุณคน เชื่อกันว่าเมื่อเริ่มเป่ายันต์ ท้าวจตุมหาราชและบริวารจะช่วยขับอาถรรพ์ให้สลายตัวหมดไป

หลังจากหลวงพ่อเณรได้บริกรรมคาถาภายในห้องแล้ว หลังจากนั้นท่านก็จะเดินออกมาที่ศาลานะคะ เพื่อที่จะเสกเป่าทั้ง 8 ทิศอีกครั้งค่ะ ซึ่งเป็นอิติปิโสทั้ง 8 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของยันต์เกราะเพชรค่ะ

ตามตำราเล่าขานกันมาว่า หลวงพ่อปานได้ศึกษายันต์เกราะเพชร จากส่วนหนึ่งของธงมหาพิชัยสงคราม นำเอาพุทธคุณบทต้น พระคาถาอิติปิโส มาเขียนเป็นตัวขอม หรือเรียกกันว่า ห้องพระพุทธคุณ แต่เขียนลงมา 7 คำ ไม่เขียนเรียงตามบรรทัด แล้วก็ไปขึ้นเรียงใหม่ว่า “อิระชาคะตะระสา ติหังจโตโรถินัง” เรียกว่าอิติปิโส 8 ทิศ แล้วชักยันต์เรียกสูตรตามเส้นไป

หลวงพ่อเณร ญาณวินโย เจ้าอาวาสวัด จากหลวงพ่อฤาษีลิงขาว ซึ่งหลวงพ่อฤาษีลิงขาวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน ท่านเดินทางมาสอนหลวงพ่อที่วัดนี่ 3 พรรษา เฉพาะวิชานี้ ทีแรกก็ท้อจะไม่เอาแล้ว มันยาก เรื่องการเป่ายันต์เกราะเพชรต้องมีเคล็ดลับต่างๆ โดยเฉพาะผู้ที่จะเป่าต้องฝึก ฝึกทั้งเรื่องกสิณ ฝึกทั้งเรื่องสมาธิ เรื่องวิปัสสนา ให้เข้าตำรับตำราแล้ว จึงจะเป่าไป

เรียนครั้งแรกไม่ได้ให้เป่ายันต์ให้เป่าสะดึง เคยเห็นสะดึงที่ให้เย็บผ้าใช่มั้ย ก็เอายันต์เกราะเพชรใส่กระดาษสา ใส่สะดึง หลวงพ่อแกก็ให้หลวงพ่อเป่า เป่าให้สะดึงทะลุมันก็ยังไม่ได้ จนสามเดือนแล้วบอกไม่เอาแล้วหลวงพ่อ ไม่เอาไม่เรียนแล้ว ยากเหลือเกิน เฮ้ยวันนี้วันออกพรรษา ...........แต่ก่อนเราตั้งใจมากศีลมันก็ไม่มี สมาธิมันก็ไม่ดี อยากจะให้เป็นอยากจะให้ขลัง ไอ้คงวามอยากตรงนี้มันเป็นกิเลสหุ้มห่อหัวใจเรา พอมันหมดอยาก ไม่ว่าอะไรแล้ว นั่งหลับตาแล้วเป่าพรวดเข้าไป ก็ไม่น่าเชื่อเสียงดังเปรี้ยง สะดึงหลุดจากนั่นไปชนประตูโบสถ์ทะลุไปเลย ท่านก็เลยบอกเอาแรงกว่ากูอีกเหรอ หลวงพ่อก็เลยกราบท่านแล้วก็เลิก

การรักษายันต์เกราะเพชรให้อยู่กับตัว ผู้รับยันต์ต้องมีศีล 5 บริสุทธิ์ ไหว้พระสวดมนต์ อาธาธนาบารมีพระพุทธเจ้าลงมาเป็นเกราะเพชรคลุมกาย คุ้มครองรักษาให้มีความปลอดภัย หากรักษาไว้ได้อนุภาพจะมากมี บ้างก็เชื่อกันว่าจะไม่ตายโหง ปลอดภัยจากคุณไสยศาสตร์ทุกชนิด

ยันต์เกราะเพชร เป็นยันต์ที่ผมศึกษาน่ะ มันก็ไม่ค่อยมีพระวัดไหน ที่มีความสามารถมาทำแบบนี้ มันเหลือน้อยมากแล้ว มันเป็นสิ่งที่ดีน่ะ พอเราทำเสร็จแล้วเราต้องลดละเลิก อบายมุขต่างๆ

พิธีเป่ายันต์เกราะเพชร แห่งวัดทุ่งเศรษฐี หลวงพ่อเณร ผู้รับสืบทอดสายวิชา จะทำพิธีเพียง ปีละ 2 ครั้งเท่านั้น คือ ช่วงไหว้ครูประจำปี และช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เมื่อถึงวันกำหนดพิธี ที่นี่ จึงคราคร่ำไปด้วยแรงศรัทธา ต่อ “ อิติปิโสภควา ยันต์เกราะเพชร”

https://www.youtube.com/watch?v=1t2hjk5mYms