พุทธศาสนา...บนเส้นทางสายแพรไหม

พุทธศาสนา...บนเส้นทางสายแพรไหม ​

"เส้นทางสายแพรไหม" ทอดผ่าน ๘ มณฑลของจีน ตั้งแต่มณฑลใต้สุด ถึงมณฑลตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็น ดินแดนประวัติศาสตร์ มีอารยธรรมนับพันปี อันน่ามหัศจรรย์อันยิ่ง
การเดินทางครั้งนี้ บริษัท ส่งแสงท่องเที่ยว จำกัด เป็นตัวแทนไทย จัดการท่องเที่ยว กับขบวนรถไฟพิเศษของจีนปีละครั้ง โดยได้พาไปเริ่มต้นที่ วัดเส้าหลิน หรือ ที่รู้จักกันดี ในอีกชื่อว่า “เสี้ยวลิ้มยี่” มีอยู่ ๓ แห่งในประเทศจีน แต่ในนิยาย กำลังภายในเขียนถึงมีเพียง ๒ แห่ง วัดเส้าหลิน แห่งแรกตั้งอยู่บนสันเขาเสียวซิก หรือเส้าสื้อ แห่งภูเขาซงซาน (ชื่อภูเขาซงซานปรากฏอยู่ในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร)
วัดเส้าหลิน แห่งนี้ได้รับ การยกย่องว่าเป็นพุทธสถานอันดับหนึ่งของจีน เพราะเป็นต้นกำเนิดนิกายเซนแบบจีน และเป็นสำนักสอนวิทยายุทธ์สำนักใหญ่ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ภูเขาซงซานนี้ตั้งอยู่ในมณฑลฮ่อหนำ หรือเหอหนัน ผู้ให้กำเนิดวัดนี้คือ พระพุทธภัทรเถระ ซึ่งเป็นเจ้าชายในศากยวงศ์ บวชแล้วมาเผยแพร่ศาสนาที่เมืองจีน ทางกษัตริย์วุ่ยเซี่ยวเหวินตี้ มีพระราชศรัทธา จึงทรงสร้างวัดเส้าหลินถวายเป็น ที่พำนักเมื่อพ.ศ.๑๐๓๘
วัดนี้ตั้งอยู่ห่าง จากเมืองลั่วหยาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงสมัยนั้นไม่ไกลนัก และมีความสำคัญในฐานะอารามหลวงนับตั้งแต่นั้นมา
วิทยายุทธ์ที่วัดเส้าหลินแห่งนี้ เชื่อว่าเกิดตั้งแต่สมัยพระพุทธเถระรูปนี้ เพราะวัดตั้งอยู่ในป่า มีสัตว์ร้ายนานาชนิด นอกจากนี้ การที่ท่าน ต้อง นั่งสมาธินานๆ ต้องเมื่อยขบ จึงคิดท่าบริหารร่างกายขึ้นสอนพระ เป็นตำรา ท่ากายบริหารและพลัง ลมปราณที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน
วัดเส้าหลิน หรือ เสี้ยวลิ้มยี่ โด่งดังมากขึ้นเมื่อปรมาจารย์ตั๊กม้อ จากอินเดีย เดินทางมาเผยแพร่นิกายเซน เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใส ของคนจีนมาก บุคคล ที่มีชื่อเสียง ของจีนซึ่งเกี่ยวข้องกับวัดเส้าหลิน ได้แก่ “งักฮุย” วีรบุรุษกู้ชาติ ซึ่งได้รับ การถ่ายทอด วิทยายุทธ์แห่งนี้ ตามด้วย “หลวงจีนกั๊กเอี้ยง" หรือ เจี๋ยหยวน ผู้คิดกระบวนท่า ๑๘ ฝ่ามืออรหันต์และ “เตียซำฮง” เจ้าสำนักบู๊ตึ๊ง
วัดเส้าหลินแห่งที่ ๒ อยู่ที่ภูเขาผ่านซาน ห่างจาก กรุงปักกิ่ง ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่ไกลนัก วัดนี้สร้างสมัยราชวงศ์หยวน (พ.ศ.๑๗๘๙-๑๙๙๑) ไม่ปรากฏในนิยายกำลังภายใน
วัดเส้าหลินแห่งที่ ๓ เรียกว่าเส้าหลินใต้ คู่กับเส้าหลินสำนักใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางเหนือ สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง พ.ศ.๑๙๑๑-๒๑๘๗
วัดเส้าหลินใต้นี้ตั้งอยู่ภูเขาจิ่วเหลียงซาน ไม่ค่อยมีชื่อในเรื่องศาสนา แต่จะไปเด่นในเรื่องวิทยายุทธ์ และเป็นแหล่งชุมชน ของชาวฮั่นในการต่อต้านชาวแมนจู ศิษย์คนสำคัญของเสี้ยวลิ้มยี่ใต้ ซึ่งปรากฏในนิยายจีนได้แก่ “ปึงซีเง็ก” หรือ ฟางสื้ออี้ ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของจักรพรรดิเฉียนหลง
ฮ่องเต้เฉียนหลงถึงกับต้องมาแดนกังหนำ ฝั่งใต้ของแม่น้ำแยงซีด้วยพระองค์เอง เพื่อปราบวัดเส้าหลินด้วยกลยุทธ์จีนปราบจีน ให้ตีกันเอง ในที่สุดเส้าหลินใต้ก็ถูกทำลาย จนศิษย์เส้าหลินกระเจิดกระเจิง มีคนหนึ่งหนีไปเมืองแต้จิ๋ว และไปถ่ายทอดวิทยายุทธ์ที่นั่น

นอกจากนี้ รายการท่องเที่ยวยังได้พาไปชมถ้ำโม่เกา มงกุฏแห่งพุทธศิลป์ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองตุนหวน ไปทางทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ ๒๕ ก.ม. มีความเจริญอยู่ยาวนานกว่า ๑,๐๐๐ ปี คือนับแต่คริสต์ศตวรรษที่ ๔-๑๔ (สมัยราชวงศ์เว่ยเหนือจนถึงราชวงศ์หยวน) หมู่ถ้ำโม่เกาเป็นถ้ำที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ที่เจาะผนัง หินทรายบนหน้าผา ด้านทิศตะวันออกของภูเขาหมิงซานที่สูง ๕๐ เมตร ตลอดแนวยาวกว่า ๑๒ ก.ม. มีจำนวนถ้ำรวมกว่า ๔๙๒ ถ้ำ มีรูปปั้นในถ้ำถึง ๒,๔๑๕ องค์ และมีภาพจิตรกรรมอันวิจิตรพิสดารในยุคสมัยต่างๆ วาดบนฝาผนังและถ้ำยาวรวมกว่า ๔๕,๐๐๐ ตรม.
อย่างไรก็ตาม การเดินทางครั้งนี้ยังได้ไปเที่ยวชม สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี มหาสุสานที่รอวันท้าโลกตะลึง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ ๘ ของโลก และชมสระน้ำเสี้ยวจันทรา (เย่วหยาฉวน) ความอัศจรรย์ กลางผืนทราย เป็นสระนำรูปทรงคล้ายพระจันทร์เสี้ยว รวมทั้ง ไปเยือนกำแพงเมืองจีน สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ได้เกณฑ์แรงงานกว่า ๕๐๐,๐๐๐ คน เพื่อไปก่อสร้างกำแพงเมืองจีนที่ยาวหมื่นลี้
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=left><!-- << ย้อนหลัง --></TD></TR></TBODY></TABLE>





ที่มา : คม-ชัด-ลึก
<!-- CENTER ZONE -->