พิมพ์เขียวพันธุกรรม ก้าวสำคัญการปฏิวัติวัฏสงสาร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย iCal, 15 พฤศจิกายน 2007.

  1. iCal

    iCal สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +14
    สิ่งที่เรียกว่า "ภารกิจ ถอดรหัส พันธุกรรม" กำลังเป็น ความก้าวหน้า ทางเทคโน
    โลยี ที่ท้าทาย ความเป็นมนุษย์ ในทุกด้านๆ แม้กระทั่ง โลกภัยไข้เจ็บ ชื่อ " มะเร็ง"
    ซึ่งต่อไป อาจไร้ความหมาย หากไม่มี กรอบความคิด ทางจริยธรรม อันเหมาะสม
    รัตนาวดี ลำพาย จากโต๊ะข่าวต่างประเทศ "กรุงเทพธุรกิจ" มีรายงานเรื่องนี้


    <img src="http://physics.science.cmu.ac.th/ps/ps3/images/jm2.jpg"


    นายเวนเตอร์ นักวิทยา-ศาสตร์ กึ่งนักธุรกิจ เจ้าของบริษัท เซเลรา จีโน
    มิกส์ (ซ้าย) จับมือแสดงความสำเร็จ ร่วมกัน กับ ดร.ฟรานซิส คอลลินส์ ผู้อำนวยการ
    โครงการ ฮิวแมน จีโนม


    นับจากนี้ "วัฏสงสาร" แห่งชีวิตของมนุษย์ ที่เริ่มจากเกิด แก่ เจ็บ ตาย หรือ
    เกิดขึ้นมา แล้วยังไม่ทันแก่ แต่มาเจ็บตายไปเสียก่อน อันเป็นวงจรการเวียนว่าย
    ตายเกิด ที่มนุษย์ทุกผู้ทุกนามไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดีที่สุดได้เพียงแค่ชะลอ
    เวลา ไม่ให้เกิดขึ้นรวดเร็วเกินไปนัก อาจเดินมาถึงจุดพลิกผันครั้งสำคัญ

    เมื่อกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ทั้งภาครัฐและเอกชน ของสหรัฐ อังกฤษ และอีกหลาย
    ประเทศ ร่วมกันแถลงถึงผลงานชิ้นโบแดงแห่งศตวรรษ เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 26
    มิ.ย. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับความสำเร็จของสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "พิมพ์เขียวของพันธุ
    กรรมมนุษย์" หลังจากใช้เวลาแข่งขันกันศึกษา และค้นคว้ามานานเป็น 10 ปี รวม
    ทั้งเสียค่าใช้จ่ายไปกับการพัฒนา เป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์

    นับถือเป็นการปฏิวัติวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ยิ่งใหญ่ ไม่แพ้การส่งมนุษย์
    ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ เลยทีเดียว และ อาจส่งผลให้ วัฏสงสาร แห่งชีวิตมนุษย์
    แปรเปลี่ยนไปได้

    "บุค ออฟ ไลฟ์" หรือ "คัมภีร์ชีวิต"

    พิมพ์เขียวของพันธุกรรมมนุษย์ชิ้นนี้ ใช้ชื่อว่า "บุค ออฟ ไลฟ์" หรือ "คัมภีร์ชีวิต"
    เป็นการถอดรหัสยีน ซึ่งเป็นหน่วยทางพันธุกรรม เพื่อจัดลำดับอนุกรมทางเคมีของ
    ดีเอ็นเอ 3,120 ล้านคู่ที่มีอยู่ในยีนของมนุษย์ ทั้งนี้การถอดรหัสยีนดังกล่าว จะ
    ช่วยให้เราทราบว่า ดีเอ็นเอแต่ละหน่วยทำงานอย่างไร หน่วยใดที่ทำให้เราเจ็บ
    ป่วย หรือ หน่วยใดที่ช่วยต้านทานโรค ตลอดจนหน่วยใดที่ทำให้เราแก่ชรา

    เมื่อสามารถถอดรหัสยีน และจัดลำดับอนุกรมของดีเอ็นเอในยีนได้แล้ว นักวิทยา
    ศาสตร์จะสามารถแยกชนิด และหน้าที่ของโปรตีนที่ยีนเหล่านั้นผลิตขึ้นมา รวม
    ทั้งทราบถึงระบบการทำงานของโปรตีนในร่างกายมนุษย์ ที่จะเป็นประโยชน์
    สำหรับการค้นคว้าวิจัย เพื่อผลิตยารักษาโรคร้ายแรงต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
    มากขึ้น

    ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาพัฒนาตัวยา เพื่อป้องกันโรคร้ายแรงต่างๆ อย่าง
    มะเร็ง อัลไซเมอร์ หรือ เบาหวาน และเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้รับทราบข้อมูล เกี่ยว
    กับโรคที่พวกเขาสงสัยว่าจะเป็น เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือ จิตเภท
    ตลอดจนสร้างความกระจ่างในกลไกการเติบโตของมนุษย์ ตั้งแต่เกิดจนสิ้น
    อายุขัย รวมทั้งฝันไปไกลถึงว่า จะสามารถชะลอการชราภาพลงของมนุษย์ได้
    อย่างไร

    แต่กระบวน การค้นคว้า ศึกษาถึงขั้นนี้ ต้องใช้เวลาอีกหลายปี หรือ อาจเป็นหลาย
    ทศวรรษ ก่อนที่ฝันของพวกเขา จะเป็นจริงขึ้นมา

    พิมพ์เขียวที่มหัศจรรย์ที่สุดของมนุษย์

    ภารกิจถอด รหัสพันธุกรรม ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือ ระหว่างนักวิทยาศาสตร์
    จาก ภาครัฐและเอกชนของสหรัฐอังกฤษ และอีกหลายประเทศ ซึ่งเดิมแข่งขันกัน
    ค้นคว้า และสามารถตกลงกันร่วมมือกันได้ในที่สุด โดย "โครงการฮิวแมน จีโนม"
    (เอชจีพี) ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจาก หน่วยงานรัฐของประเทศต่างๆ ซึ่งมี
    ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น รวมทั้งจีน และ "เซเลรา จีโนมิกส์ คอร์โปเรชัน"
    บริษัทเอกชนของสหรัฐที่วิจัยด้านพันธุกรรม ซึ่งบริหารงานโดยนายเครก เวนเตอร์
    นักวิทยาศาสตร์กึ่งนักธุรกิจ

    ความสำเร็จครั้งสำคัญครั้งนี้ ร่วมแถลงผ่านทางดาวเทียม โดยประธานาธิบดี
    บิล คลินตัน และนายกรัฐมนตรี โทนี แบลร์ ของอังกฤษ พร้อมด้วยคณะนักวิทยา
    ศาสตร์ที่ร่วมโครงการผู้นำสหรัฐชื่นชมกับความสำเร็จของโครงการนี้ ถึงกับกล่าว
    ว่า "เป็นพิมพ์เขียวที่มหัศจรรย์ที่สุด เท่าที่มนุษยชาติเคยประดิษฐ์คิดค้นมา"

    ด้านเซอร์ พอล เนิร์ส ผู้อำนวยการของกองทุนวิจัยอิมพีเรียล กล่าวว่า การจัด
    ลำดับอนุกรมดีเอ็นเอในพันธุกรรมนี้ เป็นความสำเร็จอันน่าทึ่งของมนุษยชาติ และ
    ข้อมูลที่ได้จากพิมพ์เขียวทางพันธุกรรมดังกล่าว จะช่วยให้เข้าใจกระบวนการทำ
    งานของเชื้อโรค โดยเฉพาะมะเร็งได้มากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม ดร.ฟรานซิส คอลลินส์ จากสถาบันวิจัยพันธุกรรมแห่งชาติของ
    สหรัฐ กล่าวว่า การถอดรหัสพันธุกรรมครั้งนี้ เป็นเพียงความสำเร็จขั้นต้นเท่านั้น
    แต่ยังมีจุดโหว่ที่ยากต่อการแก้ไขอีกมาก เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถ
    ถอดรหัสยีนได้ 100% เนื่องจากโครงสร้างโครโมโซม 1-2% ซึ่งประกอบด้วยสาร
    เคมีที่เรียกว่า "เฮกโตโรโครมาติน" ยังไม่มีเทคโนโลยีใดสามารถถอดรหัสได้

    แต่ช่องว่างในส่วนนี้ อยู่ในรูปของดีเอ็นเอที่ไม่มีหน้าที่ชัดเจน และคาดว่าไม่ได้
    ประกอบด้วยยีน ซึ่งทั้งโครงการฮิวแมน จีโนม และบริษัทเซเลรา จีโนมิกส์ ต่าง
    หวังว่า แม้จะไม่สามารถจัดลำดับอนุกรมดีเอ็นเอได้ถึง 100% เนื่องจากมนุษย์ทุก
    คนมีรูปแบบยีนเฉพาะตัว ไม่มีโครงสร้างทางพันธุกรรมสากล แต่พวกเขาจะ
    สามารถจัดลำดับอนุกรมดีเอ็นเอ ได้ถูกต้องครบถ้วนถึง 99.9%

    ก้าวสำคัญทางวิทยาศาสตร์

    อันที่จริง ยีนหรือหน่วยทางพันธุกรรมไม่ได้ถูกถอดรหัส แต่เป็นการใส่รหัสเข้าไปที
    ละตัวในฐานข้อมูล ขนาดมหึมาของคอมพิวเตอร์ ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวนับเป็น
    ก้าวสำคัญทางชีววิทยา นักวิทยาศาสตร์ ของทั้งสอง โครงการตั้งใจ ที่จะเผยแพร่
    ผลลัพธ์ ร่วมกันปลายปีนี้ และ จะจัดการประชุม เพื่อแบ่งปันข้อมูลกัน โดยมีเป้า
    หมาย อยู่ที่การแยกแยะ และ จัดลำดับ อนุกรมทางเคมี 3,120 ล้านคู่ ในดีเอ็นเอ
    ของมนุษย์

    นายเวนเตอร์ ประธาน บริษัทเซเลรา จีโนมิกส์ กล่าวว่า บริษัท จะเผยแพร่ ข้อมูล
    ทางพันธุกรรม ของมนุษย์ ให้กับนักวิชาการ และ นักวิทยาศาสตร์ ทั่วโลกปลายปี
    นี้ ผ่านทางเวบไซต์ celera.com แต่บริษัทจะได้กำไรจากการเผยแพร่ข้อมูลดัง
    กล่าว ผ่านการจำหน่ายเครื่องมือในการแปล และทำความเข้าใจข้อมูล

    ในเบื้องต้นคาดว่า ข้อมูลใหม่นี้จะปฏิวัติการพัฒนายา ด้านการอำนวยความ
    สะดวกให้กับบริษัทเวชภัณฑ์ ที่สามารถพุ่งเป้าผลิตภัณฑ์ไปที่สาเหตุแท้จริงของ
    โรคได้ ต่างจากปัจจุบันที่ยาส่วนใหญ่พัฒนาจาก วิธีทดลองหาความผิดพลาด
    รวมทั้งยังได้ประโยชน์ในเรื่องของการบำบัดด้วยยีน ด้วยการเปลี่ยนหรือเสริมยีน
    ด้อย หรือบกพร่องด้วยยีนปกติ

    นอกจากนี้ การวินิจฉัยทางการแพทย์ เป็นอีกสาขาที่น่าจะได้ประโยชน์ในอีก
    2-3 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้มีการพัฒนาชิพของยีน เพื่อวัดกิจกรรมของยีนหลาย
    พันตัว ชิพดังกล่าวจะใช้ตรวจสอบโรคมะเร็ง และวินิจฉัยว่ายีนของผู้นั้น มีแนว
    โน้มต่อการเกิดโรคต่างๆ หรือไม่

    ดังนั้นนี่คือจุดเริ่มของการแข่งขันอีกระลอกหนึ่ง ระหว่างบริษัทเวชภัณฑ์และ
    บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพทั่วโลก ที่จะนำข้อมูลที่ได้จากการถอดรหัสพันธุกรรม
    มนุษย์ มาเป็นพื้นฐานในการประดิษฐ์คิดค้นตัวยา เพื่อรักษาและป้องกันโรคร้าย
    ที่ยังไม่สามารถเยียวยาให้หายขาดได้ในขณะนี้ การก้าวขึ้นเป็นบริษัทแรกที่ได้จด
    ทะเบียนสิทธิบัตร จึงเป็นงานที่ท้าทายอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 21

    ดร.โกรัน อันโด ประธานกรรมการบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา ของบริษัทฟาร์มา
    เซีย กล่าวว่า ตามความเห็นของเขา ความสำเร็จในการถอดรหัสพันธุกรรม ไม่ใช่
    จุดสิ้นสุด แต่หมายถึงจุดเริ่มของแนวทางที่จะพัฒนาตัวยา ที่มีประสิทธิภาพ
    มากกว่าเดิมออกมา

    ปัจจุบัน มีบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านข้อมูลชีวภาพ ทั้งทางวิเคราะห์และการจัดการ
    ข้อมูลทางพันธุกรรม พยายามแย่งชิงข้อมูลดิบทางพันธุกรรมนี้อยู่ และหวังที่จะ
    นำข้อมูลเหล่านี้มาเป็นประโยชน์ทางธุรกิจ โดยมีเป้าหมายที่จะค้นคว้า และ
    พัฒนายารักษาโรคใหม่ๆ ทั้งนี้บางบริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญ ที่ทำงานให้บริษัท
    เวชภัณฑ์ ขณะที่บางรายหาทางนำข้อมูลมาพัฒนาตัวยาด้วยตัวเอง

    ยุคใหม่แห่งการรักษามะเร็ง

    ก่อนหน้านี้คำว่า "มะเร็ง" เป็นคำที่สร้างความตระหนก และความวิตกอย่าง
    สะพรึงกลัว ให้กับชาวอเมริกัน 13 ล้านคน รวมทั้งคนทั่วโลก แต่นับจากนี้ คำดัง
    กล่าวอาจไม่มีความหมาย สร้างอิทธิพลให้เกิดอารมณ์เช่นนี้ให้เกิดขึ้นได้อีก

    บรรดานักวิจัยและคณะแพทย์ของสหรัฐ กล่าวว่า ข่าวความสำเร็จของการถอด
    รหัสพันธุกรรมมนุษย์ ช่วยให้การวิจัยเกี่ยวกับมะเร็ง ก้าวเข้าสู่การศึกษาระดับใหม่
    ทันที

    ดร.เฟรเดอริก ลี ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งและพันธุกรรม ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของ
    โลก จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงกับกล่าวว่า "จะเป็นการปฏิวัติทุกสิ่งทุกอย่าง"

    มะเร็ง สามารถพัฒนาขึ้นกับเนื้อเยื่อ หรือ อวัยวะของมนุษย์ได้ในทุกเวลา มัน
    เป็นการเติบโตของเซลล์ที่ควบคุมไม่ได้ และสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆ
    ของร่างกายมนุษย์ ซึ่งความสามารถในการพัฒนา เติบโต และกระจายออกไปนี้
    เป็นการบ้านที่ทำให้แพทย์และนักวิจัย พยายามค้นคว้าหาทางที่จะยับยั้งความ
    สามารถเหล่านี้ เฉพาะในสหรัฐเพียงประเทศเดียว มะเร็งเป็นต้นเหตุให้ชาว
    อเมริกัน 5.5 แสนคนต้องเสียชีวิตในปีนี้ หรือกว่า 1,500 รายต่อวัน และ มีผู้ป่วย
    ใหม่ที่พบว่า เป็นมะเร็งอีกประมาณ 1.2 ล้านคน

    "มะเร็งเป็นปัญหาทางพันธุกรรม ที่ซับซ้อนมากที่สุดเท่าที่เราเคยเผชิญมา เมื่อ
    สามารถเข้าใจศัตรูตัวนี้ เข้าใจรากฐานทางพันธุกรรมของเซลล์มะเร็ง จะเป็นขั้น
    ตอนแรกในการกำหนดยุทธศาสตร์ เพื่อพัฒนาการรักษาเยียวยาโรคร้ายนี้ได้"
    ดร.โรนัลด์ เดปินโฮ หนึ่งในคณะนักวิจัยของศูนย์พันธุกรรมมะเร็ง ที่สถาบันมะเร็ง
    ดานาฟาร์เบอร์ กล่าวถึงคุณูปการ จากความสำเร็จของการถอดรหัสพันธุกรรม
    พร้อมกับเสริมว่า "จึงไม่ต้องสงสัยเลยสักนิดเดียวว่า นี่คือช่วงเวลาที่มีความหมาย
    ของการศึกษาทั้งในด้านเชื้อโรคและสุขภาพอนามัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรค
    มะเร็ง"

    ความต้องการที่แตกต่าง

    อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางกลุ่มมองต่างมุม เกี่ยวกับความสำเร็จครั้งนี้ พวก
    เขามองว่า พิมพ์เขียวพันธุกรรมของมนุษย์ แม้จะเป็นความสำเร็จในการปฏิวัติวง
    การแพทย์ แต่สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ที่ประเทศไทยจัดรวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
    อาจไม่ได้รับประโยชน์มากเท่าใดนัก

    สาเหตุการล้มป่วยและชีวิต ของประชาชนจำนวนมากในประเทศกำลังพัฒนา
    ไม่ได้มาจากโรคหัวใจ พาร์คินสัน หรือ อัลไซเมอร์ จะมีก็เพียงแต่โรคมะเร็ง ที่ดู
    เหมือนพวกเราจะได้ประโยชน์มากที่สุด หากวงการแพทย์สามารถค้นคว้าตัวยา ที่
    สามารถรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ แต่โรคร้ายสำหรับประเทศกำลังพัฒนานั้น คือ
    โรคร้ายจากเชื้อโรคชนิดต่างๆ และไวรัสเอชไอวี ที่เป็นต้นเหตุของอาการภูมิคุ้มกัน
    บกพร่อง หรือ โรคเอดส์

    หากจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน เกี่ยวกับโครงการสาธารณสุข ที่ประเทศกำลัง
    พัฒนาต้องการแล้ว การถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ ไม่ใช่ความสำคัญลำดับต้นๆ
    แต่จะเป็นการศึกษาด้านสุขภาพอนามัย การจัดหาแหล่งน้ำที่สะอาดเพียงพอ การ
    เพิ่มผลผลิตด้านอาหาร เพื่อลดปัญหาความอดอยาก และการคิดค้นวัคซีนใหม่
    และยารักษาโรคต่างๆ

    แต่ใช่ว่าการถอดรหัสพันธุกรรมดังกล่าว จะไม่มีประโยชน์เลยกับประเทศกำลัง
    พัฒนา สำหรับระยะยาวแล้วนักวิเคราะห์มองว่า ยิ่งข้อมูลเกี่ยวกับการถอดรหัส
    พันธุกรรมมนุษย์ ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์มีความเข้าใจ ในสุขภาพของมนุษย์ และ
    เชื้อโรคต่างๆ มากขึ้นเท่าใด ยิ่งจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ทุกคนบนโลกเท่านั้น

    ทว่าในระยะสั้น หากการถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ ส่งผลให้นักวิจัยละเลยการ
    ค้นคว้าด้านพันธุกรรม เพื่อทำลายเชื้อโรคร้ายต่างๆ ที่เป็นภัยคุกคามประเทศยาก
    จน แต่กลับสนใจที่จะใช้พิมพ์เขียวพันธุกรรมมนุษย์ เพื่อการผลิตยาราคาแพง
    เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น การค้นพบครั้งสำคัญนี้ จะแปรเปลี่ยนเป็น
    อันตรายสำหรับประชาชน ในประเทศที่ยากจนทั่วโลกทันที

    นักวิทยาศาสตร์ในสิงคโปร์เตือนว่า การนำพิมพ์เขียวทางพันธุกรรมมาศึกษาให้
    เกิดประโยชน์ ยังต้องใช้เวลาอีกยาวนาน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ยังไม่ชัดเจนว่า
    ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาในรูปแบบใด ซึ่ง ดร.จัม เตา ซูน อธิการบดีมหาวิทยาลัย
    หนานยางเทคโนโลยี กล่าวว่า มีการโหมให้ข่าวมีกระแสแรงเกินไป ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้อง
    กับเรื่องนี้ดี จะทราบว่า ความสำเร็จดังกล่าวเป็นเพียงก้าวแรก และประโยชน์ที่จะ
    สามารถนำมาใช้นั้น จะต้องอาศัยเวลาในอีก 10 ปีข้างหน้า

    ขณะที่ รศ.ตัน เอง เชง รองคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติของ
    สิงคโปร์ มีความเห็นสอดคล้องกันว่า ผู้ค้นพบมองโลกในแง่ดีเกินไป ซึ่งเร็วเกินไป
    ที่จะกล่าวว่า มีการค้นพบอะไรจากพิมพ์เขียวพันธุกรรมนี้

    กรอบจริยธรรมเพื่อการใช้ข้อมูล

    อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ นับเป็นย่างก้าวใหม่
    ที่สำคัญของวงการแพทย์ รวมทั้งเป็นดาบสองคมในเวลาเดียวกัน เพราะความ
    สำเร็จครั้งนี้ อาจนำมาซึ่งการค้นคว้าที่ขัดต่อหลักจริยธรรม ศีลธรรม และ
    กฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับกลุ่มคนที่เคร่งศาสนา ที่มองว่าความสำเร็จครั้ง
    นี้ จะนำมาซึ่งผลที่ขัดต่อหลักศาสนาอย่างยิ่ง

    ประธานาธิบดีคลินตัน ตระหนักเช่นกันถึงปัญหานี้ เขากล่าวว่า สหรัฐและ
    ประเทศอื่นๆ ควรกำหนดกรอบทางจริยธรรมและกฎหมาย สำหรับการนำข้อมูล
    พิมพ์เขียวพันธุกรรมมนุษย์ไปใช้ และเรียกร้องให้ทุกประเทศให้ความร่วมมือกัน
    เพื่อที่จะให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการค้นพบครั้งนี้ เป็นประโยชน์อย่างเหมาะสมกับทุก
    คน แม้แต่ละประเทศจะมีความเห็น และมาตรฐานที่แตกต่างกันไป

    ด้านนายกรัฐมนตรีแบลร์ มีความเห็นเช่นเดียวกับผู้นำสหรัฐ โดยให้
    เหตุผลว่า ความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ครั้งนี้ จะเปิดโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้กับ
    มนุษยชาติ แต่ก่อให้เกิดคำถามด้านศีลธรรม และกฎหมายตามมาด้วย
     
  2. เจ้าโง่

    เจ้าโง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +181
    ชอบข้อมูลแบบนี้จัง....

    ขอบคุณ ขอบคุณ
     
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    วัฏสงสาร ไม่อาจถูกปฏิวัติ ด้วยสังขาร

    ผู้ที่เชื่อด้วยความหลงอยู่ว่า กาย คือ เรา เท่านั้นที่จะถูกปฏิวัติความหลงนั้น

    สมมติให้สุดๆ ว่า สายพันธุกรรม รวมถึง วิทยาการ สามารถสร้างรูปกายได้เหมือนต้นแบบ แบบไร้ที่ติ

    เขาจะสร้างรูปแบบนั้น เมื่อตัวเองสิ้นไปแล้ว เพื่อสืบต่อสันตติหรือ ก็ไม่ใช่ เพราะทันทีที่ตาย ขันท์จะสืบสันตติไปภพภูมิใหม่ตามแต่กำลังวาสนาบารมี การเกิดขึ้นของสังขารในหลอดทดลองย่อมไม่อาจเป็นสิ่งเดียวกัน

    อีกทั้ง ยังต้องรอเวลาเจริญเติบโตพอที่จะมา สืบสมบัติ เหตุนี้ เจ้าของตัวแบบ คงไม่เอาแน่ ครั้นจะให้ สังขารในหลอดทดลอง เจริญ คาบเกี่ยว ก่อนที่ตัวเองจะดับวายไป ก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจ นั้นไม่ใช่ตัวเอง เพราะ สมบัติ นั้นแหละที่ต้องหวงไว้ ไม่อาจแบ่งกันได้


    จะเห็นว่า ไม่ว่าอย่างไร สิ่งที่เกิด ย่อมไม่เกี่ยวอะไรกับ ดวงจิตเดิม คนๆเดิม ต้องเวียนว่ายตายเกิดไปตามเดิม ไปตามกรรม แน่นอน

    *****
    กลุ่มนับถือพระเจ้าเดือดร้อนไหม ก็คงไม่ เพราะต้นแบบ สร้างโดยพระเจ้า เมื่อเอาต้นแบบมาเพาะ ก็เพาะต่อจากพระเจ้าอยู่ดี


    ****
    กลุ่มนับถือวิญญาณเดือดร้อนไหม ก็คงไม่ เพราะลำพังคนเป็น หมู หมา กาไก่ ยังสิงได้ นับอะไรกับร่างถอดแบบ


    ****
    ก็มีแต่ คนที่มี ทิฏฐิ กายนี้คือเรา ไอ้หน้าอย่างนี้คือเรา เท่านั้น ที่จะงงงวยเพราะความหลงของตัวเอง


    ****
    กับอีกคนที่เป็นคนสร้าง ถือว่าเหนือพระเจ้า เหนือวิญญาณ จะหลงคิดไปว่า นั้นคือสิ่งของ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา ไม่ใช่ตัวต้นแบบ ก็จะถือเหตุ แล่เนื้อเถือหนังตัดกระดูกตัดไต ส่งไปขายโรงพยาบาล อย่ากล่าวให้ถึงขั้นสิ้นเลย แค่ตอนทำให้สิ่งมีชีวิตเกิด(ทุกสิ่งที่มีจิต เจตสิก ธรรมชาติรู้) ในทางพุทธ ก็ชี้แล้วว่า บาป เป็น ทุกข์ เป็น บ่วงร้อยรัด ให้ต้องสร้างกรรม อย่างน้อยก็ต้องคอยหาเลี้ยง ไม่ต่างกัน

    ****
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2007
  4. karain

    karain เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +707
    วัฏสงสาร หรือจักถูกปฏิวัติ ?
     
  5. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,739
    อนุโมทนาสาธุ คุณเล่าเป็งตามความเห็นส่วนตัวของผม ท่านอธิบายได้ดีมาก

    ส่วนตัวผมเองก็มั่นใจเป็นที่สุดว่า ไม่มีมนุษย์และสัตว์โลกตนใดจะหาวิธีทางหนีกรรมไปได้ ไม่ว่าวิทยาการจะก้าวหน้าเพียงใด ไม่มีใครเลยแม้แต่ตนเดียวที่จะหนีจากวัฏะด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ใครจะหนีกฎของไตรลักษณ์ แม้แต่จะมีอรุปพรหมชั้นสูงสุดเองยังต้องเปลี่ยนแปลง จะช้าหรือเร็วเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่จะทำการค้นคว้าสิ่งใดก็ตามไม่มีทางจะถึงที่สุดได้ ก็ทำเรื่องที่ไม่ควรคิด (แต่ก็มีประโยชน์กับโลกนะ) การค้นคว้ากายกับจิตของตนให้ถ่องแท้ ถ้าจบแล้วก็จบเลยไม่ต้องเกิดมาค้นคว้าหาอะไรอีก

    ที่เขาหาลำดับรหัสพันธุกรรม 3,120 ล้านคู่เบสได้สำเร็จใช่ว่ามนุษย์จะควบคุมกลไกปฏิกริยาทางชีวเคมีต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างเบ็ดเสร็จ กลไกการทำงานของยีนแต่ละยีนมันสลับซับซ้อนมาก คนเรามีประมาณแสนยีนมันโยงใยเกี่ยวพันกันกว่าจะทำให้แสดงผลของลักษณะต่าง ๆ ออกมา ลองนึกดูซิโรคคนมีหลายร้อย ไม่เป็นโรคนั้นก็ต้องเป็นโรคนี้ รักษาโรคนี้ได้ แต่ไปตายด้วยโรคนั้น
    เห็นด้วยกับการใช้ประโยชน์ ช่วยรักษา ช่วยยืดอายุได้ แต่อย่าหวังผลจนเกินจริง เช่นว่าจะเป็นอมตะ หรือหนีออกจากวัฏะ หรือหนีกรรม อย่างไรก็เป็นไปไม่ได้ สัตว์โลกที่ไม่มีร่างกายที่แท้จริงมีกายเป็นทิพย์ ไม่มีอวัยวะ ปอด ตับ ไต ไส้ หัว ใจ ฯลฯ ให้ต้องเสียหายยังต้องตายเลย
     
  6. ป่าตอง

    ป่าตอง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +36
    คือลำต้นเกิดขึ้นได้ก็เพราะอาศัยเมล็ด
    เมล็ด เกิดขึ้นได้ก็เพาะ อาศัยลำต้น
    ยางเหนียวเกิดขึ้นได้ ก็เพราะอาศัยลำต้น
    เมื่อเปรียบกันกับวัฏ สาม แล้ว
    วิปากวัฏ เปรียบเหมือนลำต้น
    กิเลสวัฏ เปรียบเหมือนยางเหนียว
    กัมมวัฏ เปรียบเหมือนเมล็ด
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    คนโบราณฉลาด...รู้จักนอบน้อม เคารพ ดินฟ้าอากาศ
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** หน้าที่ของการเกิดเป็นมนุษย์ ****

    คือ ขจัดกิเลสนิสัยของตัวเอง
    "สัจจะ" คือ หนทางที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานมาให้
    อยู่ที่แต่ละคน...พบแล้วเชื่อหรือไม่ !!!
    ทำแล้วหรือยัง !!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2007
  9. uko

    uko สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +5
    ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อุตสาห์นั่งเปิดดิกแปล

    <img src="http://i41.photobucket.com/albums/e278/jj2jj/littlelamb002.gif"
     
  10. Sept.

    Sept. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +55
    “ปี้” วัฏฏ์กาลก่อเกิด กรรมเก่า
    “สับ” สวดส่งสี่ซ้ำ สี่แจ้ง
    “กลกาม”เกิดแก่ก่อน ราหุล
    “ชุ่ม” ฉงน ฉงายโจทก์ ริเขียน เป็นกวี
     
  11. userx

    userx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2007
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +1,061
    ถอดรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ได้ ก็เหมือนแค่ถอดรหัสพืชนิยามของมนุษย์ได้เท่านั้นเอง ชีวิตต้องประกอบด้วย 5 นิยาม
     
  12. suwinai

    suwinai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +275
    ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...