พระเทพรัตนกวี พระนักพัฒนาเพชรบูรณ์

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย คือ~ว่างเปล่า!, 14 ธันวาคม 2008.

  1. คือ~ว่างเปล่า!

    คือ~ว่างเปล่า! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,647
    ค่าพลัง:
    +473
    พระเทพรัตนกวี พระนักพัฒนาเพชรบูรณ์

    คอลัมน์ มงคลข่าวสด




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    "พระเทพรัตนกวี" เป็นพระเถระที่เลื่องลือชื่อ เป็นศูนย์รวมใจพุทธศาสนิกชนชาวเมืองเพชร บูรณ์ ด้วยความเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้มีศีลาจารวัตรอันงดงาม กอปรด้วยเมตตา

    รวมถึงการเทศนาบรรยายธรรม แจกแจงคำสอนของพุทธองค์อย่างลึกซึ้งถึงแก่นสาร เพื่อให้สาธุชนนำไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย

    แม้ล่วงสู่ปัจฉิมวัย แต่สุขภาพพลานามัยยังมีความสมบูรณ์แข็งแรง สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

    ปัจจุบันสิริอายุ 71 พรรษา 49 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ และเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ พระอารามหลวง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า สุรินทร์ แย้มสุข เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2480 ณ บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 1 ต.พยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ โยมบิดา-มารดาชื่อ นายนาค และนางมณี แย้มสุข

    มีความใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนามาแต่เยาว์วัยด้วยการติดตามบุพการีไปเข้าวัดฟังเทศน์ ทำบุญ เมื่อเรียนจบการศึกษาระดับประถมศึกษา ออกทำงานหาเลี้ยงบิดามารดา

    กระทั่งมีอายุครบ 18 ปี ได้บังเกิดความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า และขออนุญาตบุพการีออกบรรพชาที่วัดเนินเหล็ก ต.เนินเหล็ก อ.เมือง จ.อุทัยธานี มีพระครูอุดมธรรมภาณ วัดทัพทัน ต.ทัพทัน อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี เป็นพระอุปัชฌาย์

    สามเณรสุรินทร์เป็นผู้ที่มีใจใฝ่ศึกษามุ่งมั่นเล่าเรียนพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท และเอก ตามลำดับ

    จนเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเนินเหล็ก อ.เมือง จ.อุทัยธานี เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2502 โดยมีพระครูอุทัยธรรมวินิจ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูอุกฤกสุตการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์บุญธรรม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลังอุปสมบทได้ออกเดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ที่วัดโพธาราม อ.เมือง นครสวรรค์ และสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค รวมทั้งสอบได้วิชาชุดครูมูล จากนั้นหันมาศึกษาด้านอภิธรรม และศึกษาเพิ่มเติมพระวินัยปิฎก, พระสุตันตปิฎก เป็นภาษาอังกฤษกับพระอาจารย์อูมานันทะ, พระอภิธรรมปิฎก ภาษาอังกฤษ กับพระอูโสภณะ พระสงฆ์ชาวพม่า

    นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานกับพระอุอินทะวังสะ พระสงฆ์ชาวพม่าอีกรูป

    ต่อมา พระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโพธาราม เปิดสำนักเรียนพระปริยัติธรรม ที่วัดโกรกพระใต้ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ จึงส่งท่านไปเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ทั้งแผนกนักธรรมและบาลี พร้อมกับศึกษาบาลีควบไปกับการสอนด้วย จนสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค

    พ.ศ.2513 พระธรรมคุณาภรณ์ได้มาเปิดสำนักเรียนปริยัติธรรม แผนกนักธรรมและบาลี ที่วัดมหาธาตุ อ.เมืองเพชรบูรณ์ จึงได้ถูกส่งมาเป็นครูสอนที่วัดมหาธาตุ พร้อมกับสอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค

    พ.ศ.2513 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกนักธรรมและบาลี รวมทั้งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ และเป็นพระธรรมทูต

    นอกจากนี้ยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ โดยท่านได้เปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ

    พ.ศ.2514 เป็นประธานสงเคราะห์วัดที่ขาดแคลนและอยู่ในถิ่นทุรกันดาร พ.ศ.2515 เป็นเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ

    พ.ศ.2529 ได้รับเข็มเกียรติคุณนักพัฒนาแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษและประธานองคมนตรี

    พ.ศ.2530 ได้รับรางวัลวัดพัฒนาตัวอย่างดีเด่นจากสมเด็จพระสังฆราช พ.ศ. 2534 เป็นพระสังฆานุรักษ์สิ่งแวดล้อม จากกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ

    พ.ศ.2540 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ (มหานิกาย)

    พ.ศ.2543 ได้รับปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันราชภัฏเพชรบูรณ์

    ผลงานด้านสาธารณูปการ พ.ศ.2518 ได้เป็นประธานก่อสร้างถนนดินลูกรัง ระยะทาง 7 กิโลเมตร เข้าวัดพิกุลทอง ต.ห้วยสะแก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยมิได้จัดสรรจากงบประมาณแผ่นดินมาใช้แต่อย่างใด

    พ.ศ.2518 ได้ก่อสร้างเสนาสนะ ศาลาการเปรียญ บูรณะซ่อมแซมศาสนวัตถุและศาสนสถานที่ชำรุดทรุดโทรม ปรับปรุงให้ดีขึ้น สร้างโรงเรียนปริยัติธรรม ศาลาอเนกประสงค์ขึ้นในวัด โดยมีพระภิกษุ-สามเณรอยู่จำพรรษาปีละกว่า 200 รูป ทุกอย่างสำเร็จสมบูรณ์ จนวัดได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี

    พ.ศ.2523 เป็นผู้จัดทอดกฐิน (กฐินตกค้าง) นำไปทอดยังวัดที่ไม่มีผู้จองปีละ 100 วัด โดยการชักชวนผู้มีจิตศรัทธาให้เป็นเจ้าภาพ ได้เงินถวายวัดรวมทั้งหมดกว่า 3.6 ล้านบาท

    กิจกรรมดังกล่าวเป็นที่โดดเด่นของวัดมหา ธาตุ ซึ่งได้ถือปฏิบัติกันสืบมาจนถึงปัจจุบัน กลายเป็นประเพณีของวัดมหาธาตุ ด้วยเหตุนี้พระเทพรัตนกวีจึงได้รับสมญานามจากชาวบ้านด้วยความรักและศรัทธาว่า "เจ้าคุณกฐินตก"

    งานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 เป็นต้นมา พระเทพรัตนกวีได้ยึดงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นหลัก สำหรับการปกครองคณะสงฆ์ และส่งเสริมการศึกษาคณะสงฆ์ ฆราวาส เป็นด้านรอง

    ดังนั้น ท่านจึงได้รับกิจนิมนต์ให้ไปแสดงปาฐกถาธรรมตามสถานที่ต่างๆ มากมาย เนื่อง จากเป็นผู้แตกฉานในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า และเป็นเจ้าของรายการพุทธภาษิตสะกิดใจของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.เพชรบูรณ์ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ท่านจะนำพุทธภาษิตขึ้นมาอธิบายให้ความหมายประกอบเรื่องราวต่างๆ ในชาดก จนมีผู้ฟังติดกันงอมแงม จนได้รับการยกย่องให้เป็นพระธรรมนิเทศก์ ที่แสดงธรรมและอรรถาธิบายธรรมได้อย่างดียิ่ง

    ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2517 ได้รับพระราช ทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนามที่ พระศรีพัชโรดม

    พ.ศ.2543 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชพัชราภรณ์

    ล่าสุด ในวาระมหามงคลวันเฉลิมพระชนม พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2551 ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ "พระเทพรัตนกวี"

    กล่าวได้ว่าท่านเจ้าคุณเป็นพระราชาคณะชั้นเทพรูปแรกของชาวจังหวัดเพชรบูรณ์

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ปรารภให้ฟังว่า "ตั้งแต่มาอยู่เพชรบูรณ์ยังไม่ได้หยุดทำงานเลย ทำงานหลายด้าน ทั้งงานด้านปกครอง ด้านสาธารณูปการ ศึกษาสงเคราะห์ สาธารณสงเคราะห์ และคงจะทำต่อไปเท่าที่สังขารจะเอื้ออำนวย"

    นับได้ว่าพระเทพรัตนกวีเป็นพระมหาเถระที่ได้บำเพ็ญหิตานุหิตประโยชน์ ทั้งแก่ประเทศชาติและพระพุทธศาสนาเป็นอเนกประการ

    ในมงคลวาระที่ท่านเจ้าคุณได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ พุทธศาสนิกชนจึงพร้อมใจกันถวายมุทิตาสักการะ

    ด้วยการยกย่องเกียรติคุณให้ปรากฏไพศาลสืบไป

    [​IMG]
    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHhNaTB4TkE9PQ==
     
  2. rachthaya

    rachthaya สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +4
    เมื่อ วันจันทร์ที่ ๒๑ พฤษภาคม ๕๕ ก็ไปกราบพระเทพกวีมาได้ไปกราบหลวงพ่อเพชรมีชัย ด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...