พระเจ้าชู้-พระหกนิ้วแห่งเดียวในสยามณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 24 สิงหาคม 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    'พระเจ้าชู้-พระหกนิ้ว'แห่งเดียวในสยามณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>"พระเจ้าชู้ พระหกนิ้ว"แห่งเดียวในสยามณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร</TD></TR><TR><TD vAlign=top>24 สิงหาคม 2550 03:22 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG][/IMG] [​IMG] วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารต.ในเมืองอ.เมืองจ.นครศรีธรรมราชนอกจากเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมธาตุเดจีย์แล้วคนส่วนใหญ่รู้เพียงว่า "เป็นต้นกำเนิดขององค์จตุคามรามเทพ"
    แต่มีน้อยคนนักที่ไม่รู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดมหาธาตุฯแห่งนี้ มีเรื่องราวอีกมากมายที่ชาวพุทธยังไม่รู้ แม้คนนครศรีธรรมราชเองก็ยังไม่ค่อยมีใครรู้มากนักว่า วัดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ประดิษฐานของ "พระพุทธรูปเจ้าชู้หรือพระแขนขาดที่ศักดิ์สิทธิ์และพระพุทธรูปหกนิ้ว"ที่


    นายนริศน้อยทับทิม มัคคุเทศน์และฐานะผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช เล่าว่า พระพุทธรูปทั้งสององค์นี้ถือเป็นปริศนาธรรมที่ต้องการให้ชาวพุทธได้รับรู้ถึงปาฏิหาริย์ที่เล่าขานเป็นตำนาน เป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนาได้เป็นอย่างดี พระพุทธรูปแขนขาดมีตำนานที่แอบแฝงในเรื่องเร้นลับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยใครเชื่อก็เชื่อ แต่ใครไม่เชื่อก็อย่าไปลบหลู่ เหมือนเขาบอกว่า เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใดเอย ต้องค้นหาความรู้


    พระพุทธรูปแขนขาดองค์นี้มีตำนานบอกว่าในยามวิกาลท่านแปลงร่างเป็นบุรุษที่หล่อเหลามากทีเดียว แล้วท่านได้ไปรักกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นผู้หญิงกำพร้าอายุประมาณ ๑๔ ปี หรือ ๑๕ ปี จึงอยู่คนเดียวโดยไม่มีพ่อแม่ดูแลทำให้พระองค์นี้เกิดความลุ่มหลง เพราะเวลาเที่ยงคืนพระองค์นี้ได้แปลงร่างเป็นผู้ชายแล้วไปอยู่กับเด็กสาวคนนี้


    เมื่อพระองค์นี้ได้ไปอยู่กับเด็กคนนี้ในยามค่ำคืนที่บ้านหลังนั้นพอดีที่ข้างบ้านมีลุงอยู่คนหนึ่งได้ยินเสียงคนคุยกัน ทำให้เกิดความสงสัย จนวันหนึ่งประมาณตีสี่เศษๆ ได้เห็นผู้ชายเดินลงมาจากบ้านหลังนี้โดยศรีษะล้าน คุณลุงคนนี้ได้เดินตามไปเรื่อยๆ พอตามมาถึงวัดพระมหาธาตุฯ ชายคนดังกล่าวได้หายตัวไป ความในใจของคุณลุงคนนี้ได้เห็นเป็นเช่นนั้นแล้ว พระสงฆ์จะปฏิบัติตัวแบบนี้ไม่ได้แล้ว ถือว่าผิดกาเม เสพเมถุนอย่างนี้เอาไว้ไม่ได้แล้ว

    นายนริศเล่าต่อว่า ด้วยความพยายามาของคุณลุงคนนี้จึงลับมีดจนคมเพื่อจะไปฆ่าพระสงฆ์รูปนี้ให้จงได้ จนพระรูปนี้ได้ทำภาระกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นได้เดินลงมาจากบ้านของผู้หญิงกำพร้า จังหวะที่ก้าวลงจากบันไดมาถึงขั้นที่สามเท่านั้น คุณลุงคนนี้จึงได้เอามีดดาบที่เตรียมเอาไว้ฟันลงไปที่พระรูปนั้นทันที แต่ปรากฎว่าพระรูปนั้นได้เอามือมารับแทนจนแขนขาด ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่านถือท่านจึงได้เดินต่อไป ด้วยความพยายามของคุณลุงนี้จึงได้เดินตามมาจนถึงวัดพระมหาธาตุฯ แล้ว ประกอบสมัยนั้นเส้นทางเดินมายังวัดพระมหาธาตุฯ มีความเปลี่ยวอย่างมาก บ้านคนไม่ได้มีมากมายอย่างปัจจุบัน ตรงนี้เองทำให้คุณลุงกลัวผีจึงไม่ตามแล้วได้เดินกลับบ้าน


    ความพยายามของคุณลุงพอถึงตอนเช้าพระฉันเพลเสร็จคุณลุงได้เดินตามรอยเลือดที่ฟันพระเมื่อคืน แล้วเดินตามไปเรื่อยๆ จนได้ไปหยุดดูเลือดที่หน้าพระพุทธรูป ทันใดนั้นคุณลุงแก่จึงก้มดูเลือดว่าทำไมเลือดมาหยุดอยู่ตรงนี้ พอเงยหน้าไปดูองค์พระพุทธรูปองค์นี้เท่านั้น ถึงกับตะลึงเมื่อเห็นว่าพระองค์นี้แขนขาด ตรงนี้เองจึงเป็นความเชื่อว่า พระพุทธรูปองค์นี้ต้องแปลงกายเป็นพระสงฆ์แล้วไปที่บ้านผู้หญิงกำพร้า คุณลุงคนนี้ได้เอาผ้ามาพันธนาการเพื่อไม่ให้ท่านไปไหน แล้วสังเกตให้ดีว่าบนเศียรขององค์พระไม่ได้เป็นเจดีย์ แต่เป็นเขาใช้ปลายดาบปักลงไป เพื่อให้คนเห็นจะได้หวาดกลัว จึงเป็นที่มาของพระเจ้าชู้

    นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งที่ชาวบ้านเรียกว่าพระหกนิ้ว ซึ่งประดิษฐานอยู่ใต้พระบรมธาตุ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ตีนพระธาตุ ที่มีนิ้วขึ้นมาหกนิ้ว ช่างสร้างขึ้นมาไม่ได้เป็นเพราะช่างตั้งใจปั้นให้เกิน หรือระหว่างปั้นนายช่างนั่งหลับหรือไม่ ทั้งสองอย่างนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องมหัศจรรย์เลย แต่พระหกนิ้วที่วัดมหาธาตุฯ สมัยก่อนถือเป็นแหล่งเรียนรู้มาตั้งแต่ก่อนสุโขทัย

    "พระพุทธรูปหกนิ้วนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเตือนสติอารมณ์ว่า ใครพูดหรือบอกอะไรแล้วอย่าเชื่อทั้งหมด องค์สมเด็จสัมมาพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ใครบอกอะไรอย่าเชื่อให้บรรลุหรือเรียนรู้ แล้วค้นหาด้วยตัวเอง เพราะบางเรื่องที่มีคนบอกกับเรามาก็ต้องมีเรื่องที่โกหกอยู่บ้าง ดังนั้น เราได้รับฟังอะไรมาก็ต้องพิจารณาให้รอบครอบอย่างมีสตินั่นเอง" นายนริศกล่าว



    เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง
    ภาพ ประเสริฐ เทพศรี



    -->
    [​IMG]

    วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารต.ในเมืองอ.เมืองจ.นครศรีธรรมราชนอกจากเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมธาตุเดจีย์แล้วคนส่วนใหญ่รู้เพียงว่า "เป็นต้นกำเนิดขององค์จตุคามรามเทพ"
    แต่มีน้อยคนนักที่ไม่รู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดมหาธาตุฯแห่งนี้ มีเรื่องราวอีกมากมายที่ชาวพุทธยังไม่รู้ แม้คนนครศรีธรรมราชเองก็ยังไม่ค่อยมีใครรู้มากนักว่า วัดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ประดิษฐานของ "พระพุทธรูปเจ้าชู้หรือพระแขนขาดที่ศักดิ์สิทธิ์และพระพุทธรูปหกนิ้ว"ที่
    [​IMG]


    นายนริศน้อยทับทิม มัคคุเทศน์และฐานะผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช เล่าว่า พระพุทธรูปทั้งสององค์นี้ถือเป็นปริศนาธรรมที่ต้องการให้ชาวพุทธได้รับรู้ถึงปาฏิหาริย์ที่เล่าขานเป็นตำนาน เป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนาได้เป็นอย่างดี พระพุทธรูปแขนขาดมีตำนานที่แอบแฝงในเรื่องเร้นลับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยใครเชื่อก็เชื่อ แต่ใครไม่เชื่อก็อย่าไปลบหลู่ เหมือนเขาบอกว่า เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใดเอย ต้องค้นหาความรู้
    [​IMG]


    พระพุทธรูปแขนขาดองค์นี้มีตำนานบอกว่าในยามวิกาลท่านแปลงร่างเป็นบุรุษที่หล่อเหลามากทีเดียว แล้วท่านได้ไปรักกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นผู้หญิงกำพร้าอายุประมาณ ๑๔ ปี หรือ ๑๕ ปี จึงอยู่คนเดียวโดยไม่มีพ่อแม่ดูแลทำให้พระองค์นี้เกิดความลุ่มหลง เพราะเวลาเที่ยงคืนพระองค์นี้ได้แปลงร่างเป็นผู้ชายแล้วไปอยู่กับเด็กสาวคนนี้
    [​IMG]


    เมื่อพระองค์นี้ได้ไปอยู่กับเด็กคนนี้ในยามค่ำคืนที่บ้านหลังนั้นพอดีที่ข้างบ้านมีลุงอยู่คนหนึ่งได้ยินเสียงคนคุยกัน ทำให้เกิดความสงสัย จนวันหนึ่งประมาณตีสี่เศษๆ ได้เห็นผู้ชายเดินลงมาจากบ้านหลังนี้โดยศรีษะล้าน คุณลุงคนนี้ได้เดินตามไปเรื่อยๆ พอตามมาถึงวัดพระมหาธาตุฯ ชายคนดังกล่าวได้หายตัวไป ความในใจของคุณลุงคนนี้ได้เห็นเป็นเช่นนั้นแล้ว พระสงฆ์จะปฏิบัติตัวแบบนี้ไม่ได้แล้ว ถือว่าผิดกาเม เสพเมถุนอย่างนี้เอาไว้ไม่ได้แล้ว
    [​IMG]

    นายนริศเล่าต่อว่า ด้วยความพยายามาของคุณลุงคนนี้จึงลับมีดจนคมเพื่อจะไปฆ่าพระสงฆ์รูปนี้ให้จงได้ จนพระรูปนี้ได้ทำภาระกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นได้เดินลงมาจากบ้านของผู้หญิงกำพร้า จังหวะที่ก้าวลงจากบันไดมาถึงขั้นที่สามเท่านั้น คุณลุงคนนี้จึงได้เอามีดดาบที่เตรียมเอาไว้ฟันลงไปที่พระรูปนั้นทันที แต่ปรากฎว่าพระรูปนั้นได้เอามือมารับแทนจนแขนขาด ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่านถือท่านจึงได้เดินต่อไป ด้วยความพยายามของคุณลุงนี้จึงได้เดินตามมาจนถึงวัดพระมหาธาตุฯ แล้ว ประกอบสมัยนั้นเส้นทางเดินมายังวัดพระมหาธาตุฯ มีความเปลี่ยวอย่างมาก บ้านคนไม่ได้มีมากมายอย่างปัจจุบัน ตรงนี้เองทำให้คุณลุงกลัวผีจึงไม่ตามแล้วได้เดินกลับบ้าน

    [​IMG]

    ความพยายามของคุณลุงพอถึงตอนเช้าพระฉันเพลเสร็จคุณลุงได้เดินตามรอยเลือดที่ฟันพระเมื่อคืน แล้วเดินตามไปเรื่อยๆ จนได้ไปหยุดดูเลือดที่หน้าพระพุทธรูป ทันใดนั้นคุณลุงแก่จึงก้มดูเลือดว่าทำไมเลือดมาหยุดอยู่ตรงนี้ พอเงยหน้าไปดูองค์พระพุทธรูปองค์นี้เท่านั้น ถึงกับตะลึงเมื่อเห็นว่าพระองค์นี้แขนขาด ตรงนี้เองจึงเป็นความเชื่อว่า พระพุทธรูปองค์นี้ต้องแปลงกายเป็นพระสงฆ์แล้วไปที่บ้านผู้หญิงกำพร้า คุณลุงคนนี้ได้เอาผ้ามาพันธนาการเพื่อไม่ให้ท่านไปไหน แล้วสังเกตให้ดีว่าบนเศียรขององค์พระไม่ได้เป็นเจดีย์ แต่เป็นเขาใช้ปลายดาบปักลงไป เพื่อให้คนเห็นจะได้หวาดกลัว จึงเป็นที่มาของพระเจ้าชู้

    นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งที่ชาวบ้านเรียกว่าพระหกนิ้ว ซึ่งประดิษฐานอยู่ใต้พระบรมธาตุ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ตีนพระธาตุ ที่มีนิ้วขึ้นมาหกนิ้ว ช่างสร้างขึ้นมาไม่ได้เป็นเพราะช่างตั้งใจปั้นให้เกิน หรือระหว่างปั้นนายช่างนั่งหลับหรือไม่ ทั้งสองอย่างนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องมหัศจรรย์เลย แต่พระหกนิ้วที่วัดมหาธาตุฯ สมัยก่อนถือเป็นแหล่งเรียนรู้มาตั้งแต่ก่อนสุโขทัย

    "พระพุทธรูปหกนิ้วนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเตือนสติอารมณ์ว่า ใครพูดหรือบอกอะไรแล้วอย่าเชื่อทั้งหมด องค์สมเด็จสัมมาพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ใครบอกอะไรอย่าเชื่อให้บรรลุหรือเรียนรู้ แล้วค้นหาด้วยตัวเอง เพราะบางเรื่องที่มีคนบอกกับเรามาก็ต้องมีเรื่องที่โกหกอยู่บ้าง ดังนั้น เราได้รับฟังอะไรมาก็ต้องพิจารณาให้รอบครอบอย่างมีสตินั่นเอง" นายนริศกล่าว



    เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง
    ภาพ ประเสริฐ เทพศรี




    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    ---------------------
    Ref.
    http://www.komchadluek.net/2007/08/24/j001_132357.php?news_id=132357
     
  2. virot05

    virot05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,679
    อนุโมทนาบุญด้วยขอรับ อ่านแล้วได้คติดีครับ เผื่อใครที่ชอบเจ้าชู้ระวังไว้ด้วยนะขอรับ
     
  3. cassanovit

    cassanovit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    459
    ค่าพลัง:
    +939
    ใครเจ้าชู้ระวังจะโดนตัด นะครับ
     
  4. nicpcc10

    nicpcc10 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +14
    เยี่ยมมากครับ ผมฅนคอนยังไม่ทราบเลย
     
  5. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,099
    ค่าพลัง:
    +2,696
    เป็นเรื่องราวที่แปลกและมหัศจรรย์มากจริงๆครับ ทำไมลุงไม่ย้อนไปดูมือที่ตัดว่าหลุดไปอยู่ที่ไหนล่ะครับ จะได้รู้ว่ามือคนหรือมือพระกันแน่
     
  6. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ร่วม [​IMG] อนุโมทนาบุญด้วยครับ.^./|\.^. [​IMG]
     
  7. nirvana4485

    nirvana4485 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +749
    แปลกดีคับไม่เคยได้ยินคับก็พิจารณามากๆละกันคับ ว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
     
  8. aek_nida7

    aek_nida7 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +699
    ขออนุโมทนาครับ กระทู้ดีๆ มีธรรมะดีๆแทรกอยู่เสมอ

    สาธุ
     
  9. s_thit

    s_thit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +3,027
    ตำนาน ความเชื่อ ที่เล่าสืบๆ กันมา มักจะแฝงไปด้วยธรรมะ ต้องค้นให้เจอ...โมทนาครับ ที่นำมาให้อ่าน
     
  10. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    จากข้อความ

    เพื่อเตือนสติอารมณ์ว่า....

    "ใครพูดหรือบอกอะไรแล้วอย่าเชื่อทั้งหมด องค์สมเด็จสัมมาพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ใครบอกอะไรอย่าเชื่อให้บรรลุหรือเรียนรู้ แล้วค้นหาด้วยตัวเอง เพราะบางเรื่อง ที่มีคนบอกกับเรามา ก็ต้องมีเรื่องที่โกหกอยู่บ้าง

    ดังนั้น เราได้รับฟังอะไรมาก็ต้องพิจารณาให้รอบครอบอย่างมีสตินั่นเอง"

    สาธุ....

    ..................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2007
  11. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระพุทธรูป มี "นิ้วมือ 6 นิ้ว" มีประวัติว่ามีการสร้างขึ้น เพื่อเตือนสติ....


    ลองมาดูพระพุทธรูป "นิ้วพระบาท 6 นิ้ว" บ้าง ซิครับ....

    จะเชื่อได้ไหม หนอ....

    ดูรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่....
    http://www.palungjit.org/board/showt...t=75308&page=8

    ...................................................................................<!-- / message --><!-- sig -->​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2007
  12. suraontour

    suraontour สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +6
    เป็นการเรียนรู้ธรรมะ จากสภาวะที่เห็นได้จริง
    ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  13. nok_sparrow

    nok_sparrow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +370
    ทำไมพระถึงเจ้าชู้ "พระเจ้าชู้" จะดีหรือคะ....แล้วมีคนกราบไหว้หรือเปล่าคะ...หรือว่าท่านตั้งพระพุทธรูปไว้สอนใจเพียงเท่านั้น
     
  14. wudiman

    wudiman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,333
    อนุโมทนากับเรื่องราวทั้งหมดด้วยครับ แล้วมัดท่านแบบนั้นท่านไม่โกธร หรือ ครับ ตำนานก็แปลกและสนุกดี
     
  15. koisung

    koisung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +3,469
    ตอนอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์แปลกใจกับเรื่องราวของพระเจ้าชู้

    หากพระพุทธคือตัวแทนของพระพุทธเจ้าให้เราได้บูชา เหตุใดพระพุทธรูปนั้นจึงกลายมาเป็นคนแล้วไปอยู่กับผู้หญิงล่ะคะ เพราะพระพุทธเจ้า...พระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว พระองค์เป็นผู้ไม่มีกิเลสอีกแล้ว

    หากความสงสัยเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย..ก็ขออโหสิกรรมมา ณ ตรงนี้ด้วยค่ะ
     
  16. สุขและทุกข์

    สุขและทุกข์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +55
    อนุโมทนาสาธุครับ อ่านแล้วได้ความรู้เยอะมาก คนโบราณท่านก็ช่างคิดผูกเรื่องราวจนน่าสนใจ ขอบคุณครับที่นำมาบอกกล่าว
     

แชร์หน้านี้

Loading...