"พระอริยบุคคลชั้นสูงสุดดูภายนอกยังดูยากว่าอยู่ระดับไหน" : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร

"พระอริยบุคคลชั้นสูงสุดดูภายนอกยังดูยากว่าอยู่ระดับไหน"

"จิตที่มันออกจากวงโคจรได้แล้วก็เป็นจิตเสมอกันด้วยธรรมธาตุนั้น หมายถึงจิตที่เข้าสู่มรรคสู่ผลจะเสมอกันด้วยจิตตัวนั้นแต่ไม่เสมอกันด้วยความคิด จิตที่สว่างไสวตัวนั้นเสมอกันเป็นธรรมธาตุเสมอกันแต่ความคิดจะไม่เสมอกัน เมื่อร่างกายธาตุขันธ์ยังอยู่ความคิดของพระอรหันต์จึงไม่เสมอกันบางองค์ก็ไม่ต้องการอะไร บางองค์ก็สร้างเพื่อโลกเพื่อสงสาร แล้วแต่ความคิดจริตนิสัยที่สร้างสมอบรมมาตั้งแต่ในอดีต แต่อย่างไรก็ตามจิตที่เป็นธรรมธาตุแล้วก็ไม่เอาอะไรเท่าเก่า
ดูอากัปกิริยาภายนอกจึงดูยากสำหรับพระอริยบุคคล พระอริยบุคคลชั้นสูงสุดดูภายนอกยังดูยากว่าองค์ท่านอยู่ในระดับไหน

อย่างไรก็ตามพระพุทธเจ้าก็ให้สอนตัวเองนั่นแหละ อย่าไปดูคนอื่น อย่าไปดูว่าคนโน่นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้ ดูใจของตัวเองว่าเราเป็นอย่างไรเรารู้จักบุญรู้จักบาปไหม เดี๋ยวนี้ความโกรธมันยังรุนแรงอยู่ไหม ความโลภ ความหลง ทิฐิมานะยังรุนแรงอยู่ไหม มันยังไปใส่ร้ายป้ายสีคนนั้นคนนี้อยู่ไหม ปากที่อยู่ไม่เป็นสุขขมุบขมิบหาเรื่องหาราวใส่คนนี้พูดไปเรื่องที่มันไม่จริงยุแหย่ให้เขาแตกแยกกันไหม นั่นการปฏิบัติธรรมก็ต้องลงอยู่ที่นั่น ถ้าไม่ลงที่นั่นปฏิบัติจนถึงวันตายมันก็ยังเป็นเปรต เป็นผีเท่าเก่า บวชล้านพรรษาพระก็ไปตกนรกเท่าเก่า ญาติโยมก็ทำบุญร้อยปี หมื่นปี แสนปี ล้านปี ก็ตกนรกเท่าเก่า เพราะไม่ยอมที่จะเอาบาปอกุศลออกจากใจ

ร่างกายนี้พอถึงกาลเวลามันก็แตกสลาย แต่ใจนั้นแตกสลายไม่เป็น เพราะใจมันตายไม่เป็น มันยึดบุญและยึดบาป ยึดบาปมากหรือบุญมากถ้ายึดบุญมากมันก็เข้าสู่สุขคติภูมิ ถ้ายึดบาปมากมันก็เข้าสู่ทุติยภูมิ นั่นมันก็อยู่แค่นั้นแหละแต่ว่ามนุษย์เราไม่คิดอย่างนั้น คิดเอาแต่ได้แต่ดีเอาปัจจุบันตัวนี้ทำอย่างไรเราจะเด่นจะดัง เราจะทำให้คนนั้นมันแตกแยก เราจะทำให้คนนี้มันฉิบหาย คือไม่กลับมาดูตัวเองว่าเราเป็นระดับไหนว่าตัวเองเก่ง ตัวเองเลิศ ตัวเองประเสริฐ สอนจนถึงวันตายถ้าใจมันไม่เอามันก็เท่าเก่า”

โอวาทธรรม: องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
๑ ตุลาคม ๒๕๖๐