พระมหาเถระสมัยพระเจ้าอโศกมาแนะนำวิปัสสนา เห็นผลภายในสิบวัน :หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย เสขะ บุคคล, 20 มกราคม 2016.

  1. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    54
    ค่าพลัง:
    +4,023
    ได้พบพระมหาเถระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช


    เป็นพระอรหันต์ไม่ได้บอกชื่อไว้เสียด้วย น่าจะกลัวพระงูเหลือม ท่านก็บอกว่าเป็นอรหันต์นิพพานเมื่ออายุ ๙๗ปี กับ๓วัน
    นี่ท่านพบกันแล้วท่านก็บอกว่าฉันเป็นอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
    ฉันเป็นพระอรหันต์ แล้วฉันนิพพานเมื่ออายุ ๙๗ ปี ๓ วัน พระคุณเจ้ารูปนี้ นั้นได้โปรดแนะนำให้ทำวิปัสสนา
    ว่า จะเห็นผลภายในสิบวัน นี่อาจารย์นี่ย่องมาสอนเป็นพิเศษ
    ปกติพระมหากัจจายนะและสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า อาจารย์องค์นี้ย่องมาสอนต้องลัดคิว


    ว่าจะเห็นผลภายในสิบวัน


    ว่าให้ทำฌานแล้วให้ปลงในนิวรณ์ก่อน จำได้ไหมนิวรณ์ห้าประการ ปลงตัดมันเสียให้หมด แล้วก็ทำสมาธิ

    แล้วพิจารณาขันธ์ห้าตามไตรลักษณญาณ ไตรลักษณ์ก็รู้แล้ว อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    แต่ให้มันสูง ปลงให้เห็นว่าอนิจจังนี่มันเป็นของไม่เที่ยงจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นอะไรทั้งหมดในโลกนี้
    ถ้าไม่เที่ยงเราไปยึดมันเข้าแล้วมันเป็นทุกข์ ต้องปล่อยตามมันๆ จะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน
    แล้วในที่สุดมันก็เป็นอนัตตาพังสลายตัวหมด อย่าไปยึดไปถือมัน อย่าไปยึดว่าจะมีอะไรเป็นเราเป็นของเราต่อไป
    แม้แต่ร่างกายเรายังพัง ในเมื่อร่างกายเรายังพังแล้วจะมีอะไรทรงอยู่
    อะไรมันทรงอยู่แล้วก็ตาม ถ้าหากว่าร่างกายเราพังแล้ว เราก็ไม่มีสิทธิ์จะมายึดว่ามันเป็นเราเป็นของเรา
    ท่านบอกว่าต้องทำอย่างนี้จริงๆ จังๆ ปล่อยไม่ได้

    แล้วก็ต่อมาจงปล่อยความยึดมั่นจากรูปที่เห็นทางตา จงอย่ายึดว่ารูปนั้นเป็นเราเป็นของเรา
    ปล่อยเสียงที่ได้ยินทางหู
    ปล่อยกลิ่นที่รับทราบทางจมูก
    ปล่อยรสที่รับทราบทางลิ้น
    ปล่อยสัมผัสที่รับทราบทางกาย
    ปล่อยอารมณ์ใจที่เป็นอกุศล อย่าเอาเข้ามายุ่ง

    ฟังแล้วก็จำนะ นี่เราเรียนกันมาแล้ว นี่ท่านย่อมา ผมเห็นว่าไม่ยาก ผมก็ย่อไป

    ท่านก็บอกว่า ปล่อยใจว่าเป็นเชื้อของเดิมมาเพราะอารมณ์ทั้งหมดเนื่องจากรูป
    ท่านบอกว่าที่ต้องมาเกิดอย่างนี้ต้องมาเป็นทุกข์อย่างนี้เชื้อเดิมมาเพราะอาศัยรูปเป็นสำคัญ
    คืออาศัยรูปทางตา อาศัยเสียงทางหู อาศัยกลิ่นทางจมูก อาศัยรสทางลิ้น อาศัยสัมผัสทางกาย
    อาศัยอารมณ์ใจที่เกลือกกลั้วในกามารมณ์

    นี่ที่ต้องมาเกิดเป็นอย่างนี้อาศัยตัณหาเป็นเจ้าเรือน ตัณหาก็คือความอยาก
    อยากได้รูปสวยๆ อยากได้เสียงเพราะๆ อยากได้กลิ่นหอมๆ อยากได้รสอร่อยๆ อยากได้รับการสัมผัสที่เราพอใจ
    อยากได้อารมณ์ที่พึงปรารถนา ท่านบอกว่า นี่พวกนี้เป็นเจ้าเรือน ต้องทำลายไปเสียให้หมด ต้องทำให้ได้
    แล้วจะรู้ผลภายในสิบวัน

    จำไว้นะ ใครอยากจะได้บรรลุมรรคผลเร็วๆ ละก็ปล่อยตามที่ท่านบอก จะรู้ผลในสิบวัน..


    ที่มา : ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า (บันทึกแนวทางการปฏิบัติพระกรรมฐาน โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)
    ฟัง 17_ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า_9A
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 มกราคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...