พระป่าศิษย์หลวงปู่มั่น สอนกสิณเฉพาะดิน น้ำ ลม ไฟ

ท่านสอนให้เหล่าศิษย์ เอาไว้ใช้ในยามเดินธุดงค์กลางป่าเขาลำเนาไพร แต่สอนให้ใช้แค่สี่อย่าง ก็คือ ดิน น้ำ ไฟ และลม นอกนั้นท่านไม่ให้ใช้ เพราะว่ากสิณอีก 6 อย่าง สามารถหลอกพระบวชใหม่ได้ แต่ ดิน น้ำ ไฟ ลม เอาไว้ปรับอุณหภูมิในร่างกาย เช่น

เมื่อเดินตากฝน ก็ภาวนาว่า เตโชๆๆๆ จนความหนาวในร่างกายค่อยๆ หายไป จนร่างกายอุ่นขึ้นมา สามารถเดินตากฝนได้

เมื่อเดินกลางแดด ก็ภาวนาว่า วาโยๆๆๆๆๆ ให้ลมพัดมาถูกต้องตามร่างกาย จนรู้สึกว่าร่างกายของเราเย็นดีแล้ว ก็จะสามารถเดินกลางแดดได้ ไม่เป็นไข้แดด

เมื่อไม่ได้ใส่รองเท้า แล้วเดินตลอดเวลา เท้าของพระธุดงค์จะแตกจนเลือดซิปๆ ออกมาตลอดเวลา เป็นที่ทรมานยิ่งนัก ท่านก็ให้ภาวนาว่า ปฐวีๆๆๆ ให้ความรู้ถึงความนุ่มของดิน ภาวนาจน
ดินที่พื้นนุ่มขึ้น จะสามารถเดินต่อไปได้

และเมื่อเดินหลงป่า จนไม่มีน้ำดึ่ม ท่านให้ภาวนา อาโปๆๆๆ เพื่อให้ฝนตก หรือเดินไปเจอหมู่บ้านที่แห้งแล้ว ก็จะสามารถเรียกฝนให้มาตกได้ เพื่อโปรดญาติโยมที่กำลังแย่

โดยเฉพาะพระบางรุป ก็ไม่เคยฝึกกสิณเหล่านั้นเลย แต่ก็สามารถ จะทำได้ด้วยแรงอธิษฐาน
เป็นหลัก นั้นเอง แต่มีข้อกำหนดพระรูปนั้น ต้องมีศีลบริบูรณ์

 

ที่คุณ จขกท. มาแก้ไขเพิ่มรายละเอียดเพิ่มขึ้น.อ่านดูแล้วมีเหตุมีผลดีครับ..
แต่ขออนุญาติเสริมเพิ่มเติมจากที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น..ว่าการที่จะทำให้
ได้ผลอย่างนั้น.ต้องสามารถรวมรวมธาตุกสิณทั้ง ๔ กองนั้นได้ก่อน
และสามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจนว่าลักษณะพลังงานแบบไหน
เป็นกสิณกองไหน.และต้องพอทราบวิธีหนุนธาตุทั้งสี่ด้วย ซึ่งจุดนี้อาจแตกต่างกันได้
ตามแต่ครูบาร์อาจารย์ท่านจะสอน.

ไม่งั้นถ้ารวมพลังงานหรือรวมธาตุไม่ได้หากถึงจุดที่พอมีกำลังที่จะดึงพลังงานกสินขี้นมาใช้งานในแต่ละกองพลังงานกสิณจะแตกสลายเป็นสาย
และลามเข้าตัวผู้ฝึกได้จะรู้สึกแป๊บๆเหมือนไฟซ็อตแต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดอันตราย
กับร่างกายมาก จุดนี้ใช้ตรวจสอบตัวเองได้ว่าจิตเรายังไม่ดีพอที่จะใช้งานได้ในเบื้องต้น
.
แต่ว่าอาการจะไม่หนักเหมือนบุคคลที่โดนกำหนดกสิณมาใส่ร่างกาย
ที่จะหมดกำลังถึงขั้นลุกไม่ได้.และเพื่อให้สามารถใช้ได้รวดเร็ว.ผลถึง
จะเกิดอย่างที่คุณได้กล่าวมา..และอีกอย่าง ศีล เป็นพื้นฐานเบื้องต้นอยู่แล้ว
ต้องไม่มีความอยากในขณะที่ฝึก และมีเป้าหมายที่จะใช้งานไปในทางธรรม
หรือเพื่อความจำเป็นอย่างที่คุณเล่ามา.

และที่สำคัญถ้าจะถึงจุดที่คุณพูดมานั้นต้องสามารถเคยสร้างกำลังจิตในระดับปฏิภาคนิมิตร
ในกสิณกองใดกองหนึ่งไม่ ว่า ดิน น้ำ ลม หรือ ไฟ อย่างใดอย่างหนึ่ง และถ้าทำได้ซักระยหนึ่ง
ถ้าเคยมีของเก่าพวกนีี้จะกลับมาให้สามารถเรียกใช้ได้เองในระดับที่คุณได้เขียนมาโดยไม่ต้องไปฝึก ยกเว้นท่านที่ไม่เคยฝึกบางกองมาก่อน.

ส่วนจะเกิดเป็นรูปธรรมได้ทันที.พูดง่ายสามารถปรากฏธาตุทั้ง ๔ ขึ้นมาได้นั้น.และการปรากฏต้องไม่ฝืนกฏธรรมชาติ
และเป็นไปสำหรับการใช้งานในทางธรรมหรืออย่างใดอย่างหนึ่งนั้น...
ตัวปฏิฆะต้องเหลือน้อยมากๆๆๆ ถึงขั้นไม่มี.และในระหว่างวันต้องรู้จักการรักษาอารมย์ให้นิ่งได้
ตลอดเกือบทั้งวัน...และต้องผ่านด่านที่สำคัญอีกอย่างทางด้านภพภูมิก่อนถึงจะสามารถใช้เป็นรูปธรรมได้จริงๆแบบบุคคลทั่วไปมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า.
ไม่ใช่แค่รู้สึกได้จากกองกสิณนั่่นๆ หรือเป็นรูปธรรมแบบจับต้องได้แต่ความหนาแน่นน้อย
จากกสิณทั้ง ๔ กองครับ..​

 

พระอัลลอฮฺ ก็คือ พระอริยะ