"พยายามระวังจิตให้จิตมันเป็นธรรมชาติ" : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Nana nora, 2 กรกฎาคม 2023.

  1. Nana nora

    Nana nora สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +68
    357132260_6695131527172731_1494268326731277241_n.jpg

    "พยายามระวังจิตให้จิตมันเป็นธรรมชาติ"

    “...พยายามระวังจิตให้จิตมันเป็นธรรมชาติ #อย่าไปอยากถ้าอยากแล้วมันจะเป็นบ้า #จิตจะรวมหรือไม่รวมก็เรื่องของจิตนี่นา ก็เหมือนกับเราง่วงนี่ถึงเวลาง่วงเราก็นอนพักผ่อน รู้สึกตัวเราก็ตื่นขึ้นทำงานต่อไป ไม่ใช่ว่าจะไปเอาอะไรที่มันเกินไปขนาดนั้น ผมเป็นมาก่อนเฮาก็เลยว่ายังงี้ ผมเป็นบ้ามาก่อนเรื่องนี้ถ้าไม่มีหลวงปู่ถวิล สุจิณโณ จี้ให้ผมเป็นบ้าตั้งแต่ฆราวาสโน่นเฮาเลยว่าอย่างงี้ มีแต่จะเอามัน มีแต่จะเอามัน ที่ไหนได้ล่ะจิตที่จริงมันต้องปรับสภาพเป็นมัชฌิมาคือความพอดี จิตมันพักผ่อนก็ปล่อยให้มันพักผ่อนแล้วมันก็กลับออกมาทำงานเราว่างี้ อย่าให้จิตมันขี้เกียจ มันพักผ่อนอย่างเดียวมันไม่นึกไม่ตรึกไม่ตรองเลยมันก็เป็นบ้าไปสิ ก็เหมือนกับคนนอนตลอดๆมันก็เป็นบ้าไปสิ เออ...มันเป็นบ้าแบบไหน ก็เป็นบ้าด้วยความขี้เกียจขี้คร้านนั่นแหละนี่เฮาเลยว่า

    อันนี้จิตก็เหมือนกันเฮาว่า ปล่อยมันไปถ้ามันจะรวมก็ปล่อยมันรวมไป ถ้ามันไม่รวมก็กลับออกมานั่น มาพัฒนากาย วาจา ใจ คือใช้สติใช้กำลังใช้ปัญญาพิจารณากาย วาจา ใจ ปรับสภาพของมัน พิจารณาธาตุทั้งสี่ พิจารณารูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ลงสู่พระไตรลักษณ์ญาณอยู่ตลอดๆๆอย่าออกจากจุดนี้นั่นแหละจิตรวมอยู่ตลอดเราว่างี้แหละ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นอนิจจังทุกขังอนัตตาให้อยู่อย่างงี้จิตมันก็เพ่ง มันก็ใช้ปัญญา มันก็เพ่งมันก็ใช้ปัญญาอย่างงี้ มันเหนื่อยเหมือนกับจะนอนหลับพักผ่อนก็ปล่อยมันไป หรือจะนอนธรรมดาก็นอนปั๊บลงไปเราว่า เออ..รู้ตัวขึ้นก็ฟัดกันต่อ มันเหนื่อยก็นอนธรรมดา กรนคร๊อกๆธรรมดา ลุกขึ้นมาก็ซัดต่อเราว่า ถ้าไม่ไหวก็เข้าทางจงกรม อย่าคิดว่ากุจะเอามึงกุจะเอา ผมเป็นมาก่อนทั้งนั้นเฮาว่างั้นแหละ ก็ซัดกันหนักอยู่นะอยู่ที่ภูเมืองนะ โห...สมัยก่อนมันยังไม่มีอะไรนะ ปีพ.ศ. ๒๕๔๓ นั่น ไม่มีอะไรภูเมืองนะ มีชะง่อนหินที่พ่อพักนี่พูดถึงเรื่องภาวนานั่นให้เอาพอดี ถ้ามันไม่พอดีก็เป็นบ้าไป เพราะจิตมันต้องออกมาเป็นมัชฌิมาปรับสภาพของมัน เป็นธรรมชาติของมัน

    ธรรมชาติของจิตคืออะไรคือต้องคิด นึก ต้องตรึก ต้องตรอง คิดโน่น คิดนี่ คิดนั่น คิดนี่แต่การกระทำมันด้วยกาย การพูดด้วยวาจา คือคิดแล้วไม่พูดก็แล้วไป มันคิดชังคนนั้นเกลียดคนนี้คิดอย่างนั้นคิดอย่างนี้ เราก็ไม่พูดออกมาทางวาจาก็สิ้นเรื่อง เราไม่แสดงออกมาทางกายมันก็สิ้นเรื่อง มันก็เกิดดับ เกิดดับอยู่งั้น นั่นไอ้คนไม่เข้าใจเวลาคิด คิดแล้วก็ปรุงแต่งแล้วก็มาพูดก็แสดงออกมาทางกิริยามันก็เลยมีความโกรธ ความโลภ ความหลง ทิฐิมานะ เอ้า...ทะเลาะเบาะแว้งกันนั่น ก็ภาษาความคิดก็เกิดดับของมัน มันเป็นอาหารของจิตต้องให้มันนึกมันตรึกมันตรองเมื่อจิตมันไม่นึกไม่ตรึกไม่ตรองมันก็เป็นบ้าไปสิ เพราะมันไม่ใช่ธรรมชาติของมันใช่ไหมล่ะ...”

    โอวาทธรรม: องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
    วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
    ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๓
     

แชร์หน้านี้

Loading...