ผมคุยกับ คนที่ ศึกษาพุทธ แต่ไม่นับถือ นับถือวิทย์ผมเลยอยากถามว่า

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 3 พฤศจิกายน 2011.

  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ผมมีรุ่นพี่ เค้าก็เก่งวิทย์ พุทธศาสนา เค้าก็อ่าน พระไตรปิฏก แล้วเค้าบอกไว้ว่า

    การตายคือการนำเอาร่างกายและพลังงานคืนสู่วงจรอันยิ่งใหญ่ที่เรียกว่าระบบนิเวศน์

    ก็คือนิพพาน ที่เค้าบอก ผมก็บอกไปว่า นิพพาน คือ ไม่ต้องเกิดเป็นสุขอย่างมยิ่ง

    เค้าก็บอกว่าหลักฐาณมันไม่มี ผมก็ไม่ได้ตอบอะไร เพราะไม่มี หลักฐาณ เพราะพระพุทธเจ้าไม่เคย เอาสิ่งของอะไรจากนิพพาน มาให้มนุษย์ดู ถ้า พระพุทธเจ้าเอามา คนทุกคน ทั่วโลกคงหันมา นับถือศาสนาพุทธ

    ตอนนี้ตัวผมก็ชื่อนิพพาน แต่ก็ ไม่รู้จะ เอาหลักฐาณไรมาพิสูจน์ ถ้าจะให้ผมตายไปนิพพาน จะมาเกิด ก็มาไม่ได้ จะ หยิบของจากนิพพานมา ก็ไม่รู้ทําไง

    แต่ผมคิดว่า สวรรค์คงหยิบของมาได้มั้ง

    ผมเลยอยากถาม พวกท่านๆ พี่ๆ ทั้งหลายว่า มีหลักฐาณไรไหม ที่ยืนยันว่านิพพานมีจริง ผมก็เชื่อที่พระพุทธเจ้าบอก แต่ หลักฐาณมันไม่มี คนอื่นเค้าก็ไม่เชื่อ บ้าง
     
  2. Percas

    Percas สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +1
    ทุกอย่างเกิดขึ้นที่ศรัทธาค่ะ หากคุณศรัทธาในใครสักคนคุณก็จะไม่สนใจที่จะไปค้นหาว่า เพราะอะไร เพราะสาระมันไม่ได้เกิดที่ตรงนั้นค่ะ
    เหมือนเช่นซานตาคอส ที่จนป่านนี้ก็ไม่มีใครเที่ยวไปตามหาว่าซานตาคอสตัวจริงต้องเป็นอย่างไร แต่ซานตาคอสก้ยังเป็นขวัญใจของเด็กๆทุกยุคทุกสมัยค่ะ
     
  3. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ผมก็ศรัทธาพระพุทธเจ้าด้วย ศรัทธานักวิทย์ศาตร์ ด้วย แต่ ผม ศรัทธา คนที่พูดความจริงบอกสัจธรรม ไม่ได้งมงายไรมากกว่า อ่าครับ ก็ถูกของพี่ ทุกอย่างต้องเกิดจากศรัทธา เลยลองมาปฎิบัติ
     
  4. พรพรพรพรพ

    พรพรพรพรพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +1,298
    แม้แต่แบล็คเบอร์รี่ หากคุณไม่สามารถที่จะใส่พินโค้ดของเพื่อนคุณลงไปในเครื่องของคุณ คุณก็คงไม่สามารถรับข้อความที่เพื่อนส่งมาหาคุณได้

    หรือเกล็ดน้ำแข็งบนดวงจันทร์ คุณกับเพื่อน(รุ่นพี่)ของคุณเองก็รู้ เห็นได้จากสารคดี ไม่ได้ไปจับต้องหรือฝรั่งแบกมาให้คุณสัมผัสถึงหน้าบ้านสักหน่อย แต่กว่าคุณกับพี่คุณจะรู้ว่ามี ก็ต้องค้นข้อมูลซ้ำแล้วซ้ำอีก ปรับจูนโทรทัศน์กว่าจะเจอสถานีและช่วงเวลาที่เขาถ่ายทอดให้ดู และที่มากกว่านั้น ทั้งที่คุณกับพี่คุณเห็นแล้วว่ามี ก็ใช่ว่าคนอื่นจะเชื่อตามที่คุณบอกว่าได้เห็นมา

    ทำนองเดียวกัน การที่เขากำหนดจิตไปนิพพานได้ เขาฝึกจิต ชำระนิวรณ์กัน กว่าจะสัมผัสได้ ถ้าบางคนหรือบางท่านที่มีวาสนาหน่อยไปกันทั้งตัว เขาจะหยิบเอาของที่ระลึกมาฝากคุณหรือไม่ก็ได้เรื่องของเขา

    และที่สำคัญ แม้เขาจะเอามาให้ดู ก็ใช่ว่าคุณจะเชื่อว่าเขาเอามาจากนิพพานเพราะคุณไม่ได้ไปกับเขาด้วย

    ฝากเรื่องนี้ไปเล่าให้รุ่นพี่คุณฟังด้วยนะครับ :)
     
  5. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    เราเลือกเชื่อผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบดีกว่าอ่าค่ะ อย่างเช่นพระพุทธองค์ หลวงปู่ต่างๆ อย่างที่รู้ๆกันอยู่อ่ะ วิทยาศาสตร์นั่นแหล่ะคือความเชื่อ(เพราะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา) ส่วนคำสอนของพระพุทธองค์ต่างหากคือความจริง(ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง) คิดดูนะ เมื่อก่อนเราก็เชื่อว่าโลกแบนมาตั้งนาน แต่พระพุทธองค์บอกไว้ตั้ง๒,๕๐๐ปีมาแล้วว่าโลกมีทรงเหมือนผลมะขามป้อม^^ สสารต่างคืออะไร แท้จริงส่วนใหญ่มันก็คือความว่าง ถ้าอะตอมของทุกอย่างยุบตัวลง เอาความว่างออกไป โลกเราก็คงหดเหลือเท่ามะขามป้อมจริงๆหล่ะมั้ง^^ ในเมื่อความว่างมีอยู่ นิพพาน(ความว่างจากกิเลส)ก็ต้องมีอยู่แน่นอน แบบชิมลองก็มีให้พิสูจน์ได้นี่คะ พวกที่เชื่อวิทยาศาสตร์เป็นสรณะหน่ะนะ ขอถามหน่อยว่า พรุ่งนี้มีมั้ย? ก็ต้องตอบว่ามี แล้วถามว่างั้นเอามาให้ดูหน่อยได้มั้ย.....^^ ถ้าเอามาให้ดูไม่ได้จะเชื่อได้ไง บลาๆๆๆ:)
     
  6. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    อ้อ!! ลืมบอก "ขอบคุณสำหรับคำถามค่ะ"
     
  7. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    "ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ"
    แปลว่า พระธรรมอันผู้บรรลุจะพึงรู้เฉพาะตัว

    เพราะการเข้าใจธรรมมะ สามารถเข้าใจด้วยปัญญาของปุถุชน

    แต่การบรรลุธรรม ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยปัญญาของปุถุชน

    และการบรรลุธรรมแล้ว สภาวะนั้นก็ไม่สามารถบรรยายด้วยภาษาใดๆ

    เหมือนกลิ่น คนเราแยกกลิ่นได้หยาบมาก และมีอีกหลายกลิ่นที่ไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจตรงกันได้ คนจึงบรรยายต้นตอของกลิ่น เช่นหอมดอกมะลิ.....แต่ถ้ามันเพี้ยนไปอีกหน่อยก็บอกไม่ถูกแล้วว่ากลิ่นอะไรแต่รับรู้สัมผัสกลิ่นได้

    การบรรลุธรรม ไม่สามมารถใช้ปัญญาของปุถุชนได้ ต้องใช้ปัญญาสูง

    เพราะฉนั้น พระพุทธองค์ จึงบอกวิธีการสร้างปัญญามาให้

    คือ ศีล - สมาธิ - ปัญญา เป็นลำดับ

    ถ้าบุคคลนั้นมีความเป็นวิทยาศาสตร์จริงต้องพิสูจน์ เพราะตอนนี้ทุกคนงมงาย กับสิ่งที่เราสัมผัสได้ทั้ง 6 หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ นักวิทยาศาสตรืทั้งโลกจึงพิสูจน์สิ่งภายนอก
    ยกเว้น พระพุทธองค์ ที่ วิเคราะห์ analyze สิ่งภายใน ว่าเหตุใดจึงทุกข์ และพ้นทุกข์อย่างไร


    ครูบาอาจารย์ ได้เคยบอกว่า ตราบใดที่เรายังคิดด้วยสมองอยู่ คุณก็ไม่สามารถเข้าใจได้
    แต่ตราบใดคุณข้ามพ้นการใช้สมองในการคิด คุณจะเข้าใจเอง ฉะนั้นไปปฏิบัติธรรมซะ
    (แล้วอาจารย์ก็ไล่เราไปปฏิบัติธรรม)

    ศาสนาพุทธคือวิทยาศาสตร์ขั้นสูง พิสูจน์ สิ มีวิธีการบันทึกไว้แล้ว แต่ ผลลัทพ์ไม่สามารถบันทึกได้เพราะอยู่นอกเหนือภาษาเท่านั้นเอง
     
  8. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    คุณพูดก็ถูก....

    ขออนุโมทนาในการปฏิบัติของคุณด้วยค่ะ อย่างที่คุณบอกแหล่ะค่ะ พระพุทธองค์ท่านรู้อยู่แล้วหล่ะ ว่าคนที่จะรู้ตามที่พระองค์สอนได้หน่ะ มันน้อยยยยค่ะ พวกปฏิบัติหวังฤทธิ์หวังเดช ด้วยกิเลสพาไป อุปาทานกิน บิดเบือนคำสอน หลอกตัวเองหลอกชาวบ้านที่ด้อยปัญญาก็มีเยอะค่ะ ก็พากันหลงไปกันใหญ่ มันก็แล้วแต่บุญกรรมของแต่ละคนด้วยอ่ะค่ะ อย่างว่าแหล่ะยุคนี้.....
     
  9. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    น้องคงยังเช้าใจอะไรผิดไป
    นิพพานไม่ใช่เมืองแก้วเมืองสวรรค์
    แต่เป็นสภาวะที่เป็นอิสระอย่างยิ่ง
    การเข้าสู่สภาวะนิพพานนั้นเป็นอย่างไร ทำได้อย่างไร สามารถอ่านได้จากคีรีมานนทสูตร
    ตามlink
    http://www.kammatan.com/download/book/kirimanon.pdf
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 พฤศจิกายน 2011
  10. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
    บอกให้รุ่นพี่นักวิทยาศาสตร์ของ จขกท. ลงมือทดลอง และพิสูจน์

    ตามคำสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ขออนุโมทนา สาธุ
     
  11. konngaam

    konngaam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +369
    เพื่อนเจ้าของกระทู้คือคนที่ยึดในฐิถิในวิทยาศาสตร์ ขาดการเป็นนักวิทยาศาสตร์ ที่ต้องลงมือทดลองและทำ

    การปฏิบัติทำให้รู้เห็น แต่ไม่ใช่หลักฐานที่นักวิทย์ต้องการ
    พูดกับคนยึดในฐิถิเป็นเรื่องยาก ต้องให้เขาเปิดใจจริงถึงจะพอรู้

    นักวิทย์ไม่เคยเชื่อเรื่องวิญญาณการเวียนว่ายตายเกิด แล้วจะไปพูดเรื่องนิพพานกับเขาให้เข้าใจได้อย่างไร พูดให้ตายก็ไม่เข้าใจ
    ถ้าไม่ลงมือทำ
     
  12. รักหมดใจ

    รักหมดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +290
    จะเชื่อหรือไม่เชื่อ นั่นไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลยกับความเป็นจริง

    สิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริงได้นั้น ไม่ต้องอาศัยการมีอยู่แห่งศรัทธาในสิ่งนั้น ๆ

    ในที่นี้ จะมีใครสักกี่คน ที่ศรัทธาความจริง ว่าโลกนี้มีแรงโน้มถ่วง มีแสงสว่างตกกระทบมาถึง มีแผ่นดิน แผ่นฟ้า และท้องทะเลที่งดงาม

    จริงอยู่ในความเป็นศาสนาของพวกคุณ อาจต้องอาศัยการมีอยู่ของความเชื่อ ความศรัทธา

    แต่ ณ. ที่นี้ เรากำลังจะกล่าวบอกกับคุณว่า สัจจะแห่งความเป็นจริงอย่างแท้จริงนั้น

    เราไม่ต้องอาศัยการมีอยู่แห่งศรัทธาในความเชื่อ ความนึกคิด ต่อสิ่งไหน ๆ เลยจริง ๆ

    ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปบังคับกฎเกณฑ์ใคร ๆ ให้หันมานับถือในศาสนาใด ๆ อีก ให้เป็นการรู้สึกขัดเคืองในจิตใจกันไปเปล่า ๆ ก็ความเป็นจริงในสัจจะธรรมทั้งปวงก็ย่อมฉายภาพแห่งสัจจะ ความเป็นจริงอยู่ตลอดกาละเวลาอยู่แล้ว

    ดังนั้นสิ่งๆนี้ คือ สัจธรรม มิใช่สิ่งที่ต้องอิงคำสอนในทางลัทธิความเชื่อของศาสนาใดอีก

    ขอเพียงท่านทั้งหลาย ศรัทธาต่อความเป็นจริงในจิตวิญญาณของตัวท่านเอง

    สัจจะที่แท้จริงนี้ ในจิตใจของท่านเอง ย่อมปูทางนำความสำเร็จแห่งจิตวิญญาณนั่น ๆ มาสู่จิตวิญญาณของท่านเองแน่นอน

    ซึ่งเมื่อเราได้เข้าถึงสภาวะทางจิตวิญญาณเช่นนั้นแล้ว จะเรียกถึงการมีอยู่แห่งจิตวิญญาณที่พ้นทุกข์ แล้วได้รับความสุขอย่างยิ่งนั่น ก็เป็นอันไม่ต้องพูดถึงกันอีกเพราะมันเป็นเรื่องแห่งความเป็นจริง เราก็ต้องยอมรับความเป็นจริง โดยยอมให้เหตุผลต่อภาพแห่งความเป็นจริงได้พิสูจน์ตัวมันเองนั้นออกมา
     
  13. k_pe

    k_pe สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +18
    เห็นด้วยกับน้องอัคนีวาตครับ คิริมานนทสูตร(มหาธรรมอันยิ่งใหญ่) เป็นธรรมที่ดลใจให้ผมอยากออกบวช ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หลังจากหมดห่วงจากภาระทางโลกแล้ว ท่านballbeamboy2และเพื่อนของท่าน จะไปพิสูจน์กับผมไหมครับ เพราะว่า ทฤษฎีนั้น นอกจากจะทำให้พวกเราเสียเวลาเสียโอกาศแล้ว ยังจะเป็นการต่อยอดไปอีกไม่รู้ กี่ภพ กี่ชาติ หากกุศล ผลบุญ ไม่เพียงพอก็อาจหมดสิทธิ์ได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีก เพราะว่าหากไปเกิดในภพ เดรัจฉานภูมิ ซึ้งเป็นภูมิที่ขวางกั้นต่อมรรคผล คือ หมดโอกาสที่จะทำบุญ ทำทาน รักษาศีล หรือเจริญภาวนาให้ถึงพระนิพพานได้
    ทางไปพระนิพพาน พระพุทธองค์ก็ได้ทรงเมตตาชี้ทางตรัสไว้ใน คิริมานนทสูตรแล้ว เป็นต้นว่า ให้ วางใจ ให้หนักแน่นเหมือน แผ่นดิน เพราะ แผ่นดิน ไม่มี สุข ทุกข์ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ เป็นต้น "หากว่าผมและทุกๆท่านปฏิบัติได้ตามนี้แล้ว เรื่องของ พระนิพพาน ก็เป็นอันว่า หมดแล้วซึ้ง ความสงสัย" สาธุ...
    Buddha Thus Have I Heard

    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/AYD2piKxp9w" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>

    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/dwKEfmvJ7HM" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>

    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/TyyiMTXSMvE" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>
     
  14. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    นิพพานมีจริงนะครับ แต่มันต้องรู้ได้ด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะเชื่อ ผมเคยเข้าใกล้สภาวะนั้นแล้วแต่ยังไม่กล้า ยังห่วงหลายเรื่อง ต้องฝึกตามเท่านั้น
     
  15. wacaholic

    wacaholic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +214
    ความสุขแท้ อยู่ที่ใจ

    ทุกคนแสวงหา กุญแจความสุข ข้างนอก
    และหลงว่า"กุญแจคือความสุข"

    -กุญแจเกิดจาก ความเพลิน ในสิ่งที่เราชอบ เราเชื่อ
    -กุญแจเกิดจาก ทำตามค่านิยมกระแสโลก
    -กุญแจเกิดจาก หรรษา ภาคภูมิใจ สมใจ สะใจ
    -กุญแจเกิดจาก ความเพียร
    -กุญแจเกิดจาก การเพ่งจิต จนเกิด ปิติ สุข อุเบกขา จิตมั่นคงเป็นหนึ่งเดียว
    -กุญแจเกิดจาก จิตที่สงบ สงัด จาก การรบกวนของอุปธิทั้งหลาย

    ....หายใจก็เป็นสุข...เปลี่ยนอิริยาบถ ก็เป็นสุข...มีสติสำรวมสังวรก็เป็นสุข
    ....ชีวิตที่่ปกติ เจริญกุศล ทิ้งอกุศล และปลดขยะปรุงแต่งชีวิต ก็เป็นสุข

    เพราะ...."ความสุขที่แท้จริงอยู่ภายในใจตลอด"

    นั่นแหละคือหลักฐานแห่ง "นิพพาน"
     
  16. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +215
    ศึกษาพระพุทธศาสนา อ่านอย่างเดียวจะรู้แค่เปลือก ต้องปฎิบัติจึงจะเข้าถึงแก่น
     
  17. Here I Am

    Here I Am สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +0

    เชื่อผู้ปฏิบัติดี ก็ยังใช้ไม่ได้ครับ พระอานนท์ ปฏิบัติดีหมด ยังรู้ทีหลังชาวบ้านเลยนะ
     
  18. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +215
    จะรู้ก่อน-หลังก็ตามบารมีของแต่ละคน มิใช่สาระสำคัญ
    สำคัญที่ต้องรู้จริงๆ ก็ดีทั้งนั้น
     
  19. เทพเมรัย

    เทพเมรัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +80
    มันก็อันเดียวกัน แค่ต่างมุมมองเท่านั้นเอง

    วิทยาศาสตร์บอกเราว่า บางครั้งอิเลกตรอนปรากฏเป็นคลื่น บางครั้งเป็นอนุภาค เมื่อเราคิดจะวัดความเร็วมัน เราจะไม่สามารถระบุตำแหน่งมันได้ ถ้าเราคิดจะระบุตำแหน่งของมัน เราจะวัดความเร็วมันไม่ได้ มันมีพฤติกรรมยากแก่การคาดคะเน คล้ายมันมีความคิดเป็นของมันเอง อนุภาคทั้งหลายคล้ายๆมีความคิด มีวัตถุประสงค์ในตัวมันเอง


    พุทธพจน์ กล่าวว่า สิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง ทนอยู่สภาพเดิมไม่ได้ และไม่มีตัวตนที่แท้จริง แปรเปลี่ยนไปตามสภาวะธรรม

    อันเดียวกัน ต่างที่ประโยชน์ใช้สอย
    อันแรกสนองตอบความผาสุขทางกาย เมื่อกายสุข คาดว่าใจจะสุขด้วย จริงหรือเปล่า?
    อันหลังสนองตอบความสงบสุขทางจิตใจ เมื่อสุขจากภายใน ก็น่าจะเผื่อแผ่สู่กายหยาบบ้าง จริงไหม?
     
  20. BareFoot

    BareFoot สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +0
    นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังงมงายในแบบของวิทยาศาสตร์ครับ คือ เชื่อเฉพาะสิ่งที่ตัวเองเห็นและสัมผัสได้ทางประสาทสัมผัส ตา หู จมูก ลิ้น กาย เท่านั้น โดยลืมคิดว่าประสาทสัมผัสเหล่านี้มันมีขอบเขตจำกัด สมมตินะครับ ถ้าเกิดผมไปเถียงกับคนที่เค้าตาบอดสีว่าผมเห็นแตงโมเป็นสีแดงแต่เค้าบอกว่าเห็นแตงโมเป็นสีดำ ถามว่าใครที่ผิด...ไม่มีใครผิดหรอกครับ เพราะเราเห็นสิ่งนั้นจริงแต่สิ่งที่เห็นนั้นไม่จริง

    จากรูป A กับ B สีเดียวกัน C กับ D ก็สีเดียวกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...