ผมควรจะวางใจอย่างไร เมื่อถูกลบหลู่พระศาสนา

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย changthai, 7 ธันวาคม 2011.

  1. changthai

    changthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +515
    เนื่องจากผมมีเพื่อนสนิทนับถือศาสนาอื่น ชอบลบหลู่ปรามาสพระสงฆ์ พระพุทธเจ้า ผมพยายามวางใจอุเบกขาคิดว่าเขาพูดอย่างไรคงได้รับผลกรรมของเขาเอง แต่ใจของผมก็ยังขุ่นมัวติดอยู่ในใจตลอดเวลา เลยอยากปรึกษาเพื่อนชาวพุทธว่าควรทำอย่างไรดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 ธันวาคม 2011
  2. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,962
    มันคาใจเคืองใจ สินะ

    ก็พยามวางใจอยู่เฉยๆไม่มีผลกระทบอะไรกับเราไม่ของเราไม่ตัวตนของเรา
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ถ้าคุณเป็นผู้ที่ศึกษามาแล้วค่อนข้างมากคุณจะสามารถตอบคำถามเขาได้ เช่นคุณมีความรู้ดีในด้านของศาสนาพุทธ ในขณะเดียวกันคุณมีความเข้าใจในศาสนาของเขา หาจุดเชื่อมโยงและแตกต่าง คุณก็จะสามารถอธิบายให้เขาได้....โดยที่คุณจะได้ไม่อึดอัดใจไว้....การวางเฉยโดยไม่ประกอบด้วยปัญญา ไม่ใช่การวางเฉยในพระพุทธศาสนา.
     
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    [​IMG]



    อย่าโกรธเมื่อใครติเตียนพระพุทธเจ้า


    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนเหล่าอื่นอาจกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์. ท่านทั้งหลายไม่พึงผูกอาฆาต ขุ่นเคือง ไม่พอใจในบุคคลเหล่านั้น. เพราะถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคือง หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์นั้น, อันตรายเพราะความโกรธเคืองนั้น ก็จะพึงเป็นของท่านทั้งหลายเอง. ถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคือง หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์ จะรู้ได้ละหรือว่า คำกล่าวของคนเหล่าอื่นนั้น เป็นคำกล่าวที่ดี (สุภาษิต) หรือไม่ดี (ทุพภาษิต) ?

    "ไม่ทราบ พระเจ้าข้า." "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงชี้แจง (คลี่คลาย) เรื่องที่ไม่เป็นจริง ให้เห็นว่าไม่เป็นจริง ในข้อที่คนเหล่าอื่นกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์ ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นไม่จริง ข้อนั้นไม่แท้ ข้อนั้นไม่มีในพวกเรา ข้อนั้นไม่ปรากฏในพวกเรา ดังนี้."

    พรหมชาลสูตร ๙/๓








    <CENTER></CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>อย่าดีใจตื่นเต้นเมื่อใครชมเชยพระพุทธเจ้า </CENTER>


    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนเหล่าอื่นอาจกล่าวชมเชยเรา ชมเชยพระธรรม หรือชมเชยพระสงฆ์ ท่านทั้งหลายไม่พึงแสดงความชื่นชมโสมนัส หรือความรู้สึกตื่นเต้นในบุคคลเหล่านั้น เพราะถ้าท่านทั้งหลายมีความชื่นชมโสมนัส มีความตื่นเต้นในบุคคลที่กล่าวชมเชยเรา ชมเชยพระธรรม หรือชมเชยพระสงฆ์ อันตรายเพราะเหตุนั้น ก็จะพึงเป็นของท่านทั้งหลายเอง.


    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงรับรองเรื่องที่เป็นจริง ให้เห็นว่าเป็นจริง ในข้อที่คนเหล่าอื่นกล่าวชมเชยเรา ชมเชยพระธรรม หรือชมเชยพระสงฆ์ ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นจริง ข้อนั้นแท้ ข้อนั้นมีในพวกเรา ข้อนั้นปรากฏในพวกเรา ดังนี้."
    พรหมชาลสูตร ๙/๔




    ที่มา พระไตรปิฏก ฉบับ สำหรับประชาชน หน้า ๑๓๕ ถึง ๑๓๖
    http://www.larnbuddhism.com/tripitak...st/part11.html<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. 90

    90 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +67
    แผ่เมตตาให้เขาเถอะ เขาคงหลงเวียนว่ายในวัฏฏสงสาร ทนอยู่ในทุกข์อีกนานแสนนาน ทำใจให้ว่าง ให้สะอาด เอาตัวเองให้รอดก่อนแล้วจึงคิดกลับมาช่วยเขา อย่าหลงโดดลงบ่อโคลนเสียเอง
     
  6. wannop karakate

    wannop karakate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    340
    ค่าพลัง:
    +589
    โดนเหมือนกันเลยแต่จากคนที่ได้ชื่อว่า เป็นคนพุทธเสียด้วยซ้ำ
     
  7. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,766
    อยู่ห่างๆ ไว้
    หากต้องเข้าใกล้ ก็ไม่ต้องแลกเปลี่ยนในเรื่องนี้

    เลี่ยงไปสนทนาเรื่องอื่นดีกว่า และควรแสดงออกให้รู้ด้วยว่าเราไม่ชอบ
    หากเขาพูดไม่ดี แล้วเรายังทนฟังอยู่และไม่ทำอะไร จิตจะมีอกุศลเข้าเกาะกุม

    ความแตกต่างเรื่องศาสนา หรือการเมืองเลี่ยงได้ด้วยการมีระยะห่าง คุยเรื่องอื่นๆ ที่ชอบเหมือนกัน เช่น ทำทาน ช่วยคนพิการ การศึกษา ฯลฯ

    เพื่อนใหม่กัลยาณมิตรยังมีอีกมากมาย
     
  8. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    อนุโมทนาบุญธรรมทานครับ
     
  9. makcloud

    makcloud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +535
    ขอบคุณมากครับ

    ใฝ่ใจเรียนรู้ให้มากขึ้นไปอีก จนสักวันจะได้ใช้ความรู้ช่วยเหลือเหล่าสรรพสัตว์ได้
     
  10. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ถูกต้องแล้วครับ....เหตุเกิดจากความไม่รู้ ไม่เข้าใจ....ถ้าเราทำได้ชื่อว่ามอบปัญญา มอบความรู้ มอบสัมมาทิฏฐิ และถือได้ว่ารักษาและเผยแผ่พระศาสนา....


    [​IMG]
     
  11. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    หลายคนต่างเคยได้ยินแนวคิดที่ว่า ถ้าเราคุยกับเพื่อนหรือคนรู้จัก หรือเข้าสู่สังคม ไม่ควรที่จะพูดเรื่องในสองเรื่องคือ ลัทธิความเชื่อ กับ เรื่องการเมืองการปกครอง เพราะว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน มักจะผิดใจกันได้ง่าย....

    โดยส่วนตัวผมไม่คิดอย่างนั้นนะครับ....ผมว่าถ้าเราเป็นผู้ที่มีศิลปในการพูดและมีใจที่ดีมีเมตตา เป็นพื้นฐาน พร้อมกับความรู้ที่ได้ศึกษามา เราจะมองจุดที่จะสร้างซึ่งมิตรภาพและความเข้าใจซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี....ผมมีเพื่อนที่นับถือในศาสนาที่หลากหลาย ลัทธิความเชื่อที่แตกต่าง แต่สิ่งสำคัญคือ เราเป็นมิตรที่ดีต่อกันได้...ผมเคยสนทนาในในวงหมู่เพื่อนหลากหลายแนวคิดหลายหลายเชื้อชาติ หลากหลายศาสนา โดยที่จุดสุดท้ายเรามายื่น ณ. จุดเดียวกันได้ดี... พร้อมกับความเขาใจอันดี ในแนวคิดต่างๆนั้น...

    สำหรับผม ผมถือว่าหลายสิ่งหลายอย่างเกิดจากความไม่รู้ (ทางพุทธศาสนาเรียกว่า อวิชชา) ถ้าเราอธิบายได้ให้เขาเข้าใจ และ เราเข้าใจในเขา มันจะเป็นอะไรที่ดีมากๆเลยนะครับ.....

    ต้องบอกเลยนะครับ....ตอนนี้พุทธศาสนาของเรานี้เจริญมากๆในต่างประเทศ...ห้องเรียนวิชาพุทธศาสนาในมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นที่สนใจอย่างมากกับชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวยุโรป และ อเมริกา หรือแม้แต่ชนชาติในชาติที่ปกครองโดยระบบสังคมนิยม ซึ่งปกติมักจะปราศจากความเชื่อด้านศาสนา เช่น จีน เป็นต้น...มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางด้านของศาสนาพุทธ ปรัชญา ตลอดจนทั้ง การปฏิบัติวิปัสสนา....อันนี้เป็นสิ่งที่น่าคิดและนำมาพิจารณากันนะครับ....

    คุณอย่าได้กลัวว่าเราจะเสียเพื่อน ให้คุณคิดว่าเขาไม่เข้าใจ และเราพร้อมที่จะให้ความปรารถนาดีแก่เขาด้วยความจริงใจ...โดยการให้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เขา...

    จงเดินตามแบบพุทธพจน์ข้างบนครับ....เพราะนั่นคือแนวทางที่สมเด็จท่านทรงมอบไว้แก่เราทั้งหลาย....
     
  12. wainkam

    wainkam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    757
    ค่าพลัง:
    +881
    อนุโมทนาสาธุ ท่าน จขท และ ท่าน Phanudet ด้วยครับ อ่านไปอ่านมากระจ่างในหลายเรื่องเลย :>
     
  13. เอื้อมบุญ

    เอื้อมบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    385
    ค่าพลัง:
    +617
    rabbit_eatingส่วนตัวคิดว่า..อะไรที่เค้าเข้าใจผิด หากเป็นเพื่อนกันแล้วย่อมจะอธิบายให้รู้ความจริงได้ แต่ไม่แน่ใจว่าเค้าจะเชื่อ...หรือจะเข้าใจความเป็นจริงของพุทธศาสนาได้หรือไม่ อันนี้ยากยิ่งกว่าการอธิบายอีก
    ปล.แนะนำว่าหากบอกกล่าวแล้วให้รีบทำใจวางเฉยทันที....(จะได้ไม่เสียความรู้สึก) เหตุเพราะเค้าไม่ได้เกิดในร่มเงาของพระพุทธศาสนาความศรัทธาของเค้าจึงไม่เกิดต่างหาก:VO
    เราคิดเองอย่างนี้น่ะนะ
     
  14. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    อยู่ห่าง ๆเขาไว้ก็ดีครับ มันเป็นกรรมของเขา
     
  15. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนากับคุณธัมมนัตาด้วยค่ะ ควรเลี่ยงสนทนาเรื่องอื่นไป หากเราเลี่ยงแล้ว เขายังหยิบยกเรื่องพระพุทธศาสนามาสนทนา ควรห่างบุคคลนี้ไปดีกว่าค่ะ

    ในบทมงคลชีวิต ๓๘ ประการนั้น มงคลชีวิตข้อแรก คือ ไม่คบคนพาล ผู้ที่ใช้วาจาว่าร้ายผู้อื่น จาบจ้วงปรามาสผู้อื่น แม้ว่าไม่ใช่พระสงฆ์ก็ไม่ควรทำ บุคคลประเภทนี้ จัดอยู่ในประเภทคนพาล

    ดังนั้น การไม่คบคนพาลเป็นมิตร ชีวิตเราจะมีความสุขค่ะ

    บุญรักษาค่ะ

    Numsai
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    รักษาใจให้เป็นปกติ ใสๆ เรื่องความคิดของใครเราเข้าไปเปลี่ยนเขาไม่ได้ อายตนะ 6 สำคัุญอย่างไร เพราะอายตนะ 6 เป็นด่านแรกของผัสสะ ส่วนที่รวบรวม ประมวลผลและบันทึกอยู่ที่จิต ดังนั้น ท่านจึงให้ระวังจิต จะระวังได้ก็ต่อเมื่อมีความสำรวมต่ออายตนะ 6 อย่าเอาจิตเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จะทำใจจิตขุ่นมัว ดังนั้น จึงไม่ต้องตามไปแก้ที่ใคร ให้แก้ที่เรา พิจารณาสิ่งที่ได้ศึกษามาแล้ว ทบทวนซ้ำแล้วซ้ำอีก ซ้ำๆ เข้าไป ให้เห็นชัดๆ ด้วยใจ ไม่ใช่ด้วยตา แล้วอุเบกขาจะเกิดเอง เมื่อมีวิชชาหรือความรู้นั่นเอง
     
  17. changthai

    changthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +515
    อนุโมทนาธรรมกับทุกความคิดเห็นอ่านแล้วได้สติและกำลังใจมาก อย่างน้อยเพื่อนที่ดีที่สุดของผมคือพระธรรมของพระพุธเจ้าและเพื่อนเวปพลังจิตทุกท่าน ตอนนี้เพื่อนผมได้รับผลกรรมแล้วอยู่ๆก็เจ็บคอโดยไม่ทราบสาเหตุ
     
  18. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ดูเอาจากรูป เเทนตัวก็รู้ได้ทันทีว่าเป็น พุธ เเท้เเน่นอนนนนนนนน

    อย่าเข้าไปยึด ใน คําคนเลยจ๊าาาาา ขนาดคําของ เทพ ยังเสื่อมมาเยอะเเล้วนับประสาอะไรกับ ใจ ที่ไร้ขอบจํากัด

    เราเเต่งเขาไม่ได้ เเต่เราเเต่งใจเราเองได้ ทําให้เขาดู กันไปเลยว่า ชาวพุธเนี้ยยย มะ ใช้ว่าอะไรก็ เอน ก็ เอียง นั้นกระเเทกหน่อย นี่ กระเเทกหน่อยก็เเอบ เข้าไปยึดไว้ จนเเน่น
     
  19. crossis

    crossis Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +84
    ผมนี่แหละตัวดีเลย แต่ก่อนผมเป็นคริสต์

    ผมจะบอกให้ เกิดอะไรกับผมบ้าง

    ปี 2544 ผมเปลี่ยนศาสนา เป็นคริสต์
    ปี 2548 ผมประกาศศาสนาคริสต์ กับ ชาวพุทธ สามคน และพาไปเปลี่ยนเป็นคริสต์
    ปี 2549 ผมทำกิจการหอพัก
    ปี 2552 (เม.ย.)ระหว่างขับรถไปอ.บางระกำ ด้วยความเร็ว 170 km/hr ผมแหกโค้ง รถไปฟาดกับต้อหม้อสะพานข้ามแม่น้ำยม ผมตายคาที่ หลังจากนั้น มีคนพาผมไปส่ง รพ.บาระกำ และส่งต่อไปที่ รพ.รัตนเวช ผมพื้นขึ้นมาจากความตาย (ไปตรวจสอบได้)
    สิ่งที่เป็นพยานได้
    - ไม่มีพระเจ้า
    - ส่วนในขณะที่กำลังจะตาย มันเหมือนกับว่า ที่นี่เป็นความฝัน และเรื่องที่ดีและไม่ดี ปรากฏเต็มไปหมด แต่ผมเกิดปิติที่ได้ ดูแล แม่ เลยได้ไปพบที่ที่นึง ซึ่งมีความรู้สึก เป็นทุ่งหญ้า มีภูเขาหิมะ มีเด็กเล็กใส่ชุดขาววิ่งไปมา 4-5 คน
    ปี 2552 (ต.ค.) ผมเจอพระอาจารย์ อุบาลี อตุโล ผมไม่กราบ ไม่ไหว้ นั่งนิ่งๆ แต่ผมคิดอะไร พระอาจารย์ โต้ตอบได้หมด กระทั่งผมนึกว่า ก็แค่ฟรุ๊ค พระอาจารย์ ก็พูดมาตรงๆว่า เป็นความสามารถอย่างหนึ่งของมนุษย์
    ปี 2553 ผมก็ไปโบสถ์เหมือนเดิม แต่เกิดความสับสนอย่างมาก ได้แอบศึกษา พระไตรปิฎก(แบบจับผิด) และ แอบนั่งสมาธิ (เพราะคนอื่นรู้ว่าผม เป็นคริสต์เตียนเราเลยต้องแอบทำ)
    ปี 2553 ผมขยายกิจการทำโรงแรม
    ปี 2554 (มี.ค.) ผมได้อ่านพระไตรปิฎก มีใจความว่า
    "ครั้งนึงพระพุทธเจ้า เสด็จไปที่แม่น้ำ เนรัชรา ได้ไปพบพราหม์คนนึง ท่านได้ถามพราหม์นั่นว่าทำอะไรอยู่ พราหม์ตอบว่า กำลังล้างบาปอยู่ พระพุทธเจ้าถามไปว่า น้ำนั่นล้างบาปได้จริงหรือ พราหม์ พราหม์ตอบไปยาวเลย
    พระพุทธเจ้าเลยตรัสไปว่า หากจริงอย่างพราหม์ว่า กุ้งหอยปูปลาในน้ำนั้นก็บริสุทธิ์กว่าท่าน"
    สิ้นประโยคนั้น พราหม์ ขอบวช ผมก็ขอบวชเช่นกัน
    ปี. 2554 (เม.ย.) ผมอุปสมบท เป็น ภิกษุ ผมปฎิบัติ ทุดงค์วัตร แบบไม่รู้ตัว เพราะ พระอาจารย์ ให้ ฉันมื้อเดียว และให้ลดวันละคำ จนเหลือคำเดียว แล้วค่อยเพิ่ม
    ให้ บิณฑบาตรทุกวัน แม้ฝนจะตก ก็ต้องไป (เว้นวันพระ)
    ให้ ปฎิบัติกรรมฐานที่สุสาน
    ให้ใช้ผ้า 3ผืน
    ไม่ให้รับเงิน ได้เงินมาถ้าไม่โยนทิ้ง ก็เอาไปใส่ตู้สร้างวิหาร
    บวชไปได้ 33 วัน แม่ก็ชวนสึก พระอาจารย์ พระอุปัชญา เจ้าอาวาท ไม่อยากให้สึก
    แม่ก็ไป คุยกับ รองเจ้าอาวาท ชวนเราสึก พูดจนยอมสึก
    วันที่สึก พระอาจารย์ อุบาลี ท่านั่นกรรมฐานทั้งวันทำน้ำพุทธมนต์ให้ทั้งคืน และก็ลาดไปที่ศีรษะ
    ปี 2554 (มิ.ย.) หลังสึกได้ไม่นาน ผมได้ตำแหน่งเพิ่มขึ้นทันที
    ปี 2554 (ตุ.ค.) โรงแรมผ่านการประเมิณทุกอย่าง ไม่ติดอะไรเลย
    ปี 2554 (พ.ย.) ที่อื่นมีปัญหาน้ำท่วม ผมไม่มีอะไรเลยไม่เกิดอะไรขึ้น

    สรุปได้ว่า
    >>>คริสเตียน>>>หน้าที่การงานไม่เติมโต>>>ตาย>>>แอบปฎิบัติ>>>บวช ปฎิบัติ แบบน้ำไม่มีอะไรในแก้ว อาจารย์ให้ทำอะไรก็ทำ >>> สึก >>> กิจการใหญ่ขึ้น >>> ตำแหน่งสูงขึ้น >>> ประเมิณผ่านหมด >>> เพื่อนมากขึ้น เพื่อนปฎิบัติก็มากขึ้น >>> น้ำก็ไม่ท่วม

    คือ จะบอกว่า ผมอยู่อย่างมีความสุข สบาย ไม่มีปัญหาอะไรเข้ามาอีกเลย
    ตั้งแต่ เลิกเป็น ชาวคริสต์ และเปลี่ยนมาเป็น พุทธ
    ส่วนกรรมมีไหมอะไรบ้าง พิจารณาเอง (ผมขุดมาหมดเลย 555+)
     
  20. crossis

    crossis Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +84
    ก็ ขอบคุณ
    1. พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านเทศน์โปรด พราหม์รูปนั้น และผมที่ตาบอดได้มองเห็นแล้ว
    2. พระอาจารย์ อุบาลี อตุโล ที่ แสดงให้ผมเห็นว่า พระที่ปฎิบัติเป็นอย่างไร การสอนที่เข้มงวดของท่าน ขอบคุณครับ
    3. พระมหายงยุทธ์ อริยะวงค์โส พระอุปัชญา ที่สอนปริยัติธรรม
    4. หลวงตา กุฎิ ข้างๆ ที่ไม่มี ลูกศิษย์ แต่สอนผมปฎิบัติ สมาบัติ 8 ถึง รูปญาณ4
    5. หลวงปู่ฤาษีลิงดำ ไม่รู้ว่าทำไมผมคุ้นหน้าหลวงปู่มากๆ ทั้งๆที่ไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็นหน้า
    แต่ในใจมันรู้สึก ขอบคุณ

    ส่วนใครที่สงสัยอะไรเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ที่เป็นมิจฉาทิฐิ ก็ถามมาได้ PM มาก็ได้
    ผมตอบได้หมด
     

แชร์หน้านี้

Loading...