ปู่ฤาษีตาไฟ อคฺคะ ธรรมโม ฤาษีตนสุดท้ายแห่งครบุรี จ.นครราชสีมา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 17 พฤษภาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    [​IMG]


    จ.นครราชสีมา นอกจากจะมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายรูปด้วยกัน เช่น หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ครูบากฤษณะ อินทรวัณโน แห่งสำนักสงฆ์มหาวัน ซึ่งมีลูกศิษย์ล้นหลามทั้งในและต่างประเทศที่ อ.ครบุรี แล้ว ยังมีฤาษีตนหนึ่ง ชื่อ ฤาษีตาไฟ อัคคะ ธรรมโม ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหาให้ความเคารพนับถือ อย่างล้นหลามเช่นกัน
    ปู่ฤาษีตาไฟ อัคคะ ธรรมโม อายุ ๘๑ ปี ได้ครองตนบวชเป็นฤาษีมาเป็นเวลากว่า ๔๐ ปี แล้ว มีวัตรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด อาศัยอยู่ในถ้ำเป็นอาศรม ถือศีลกินเจ ดำรงชีวิตเหมือนฤาษีในตำนานและวรรณคดี ให้การช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก รักษาผู้ป่วยไม่ว่าจะเป็นโรคเกาต์ โรคเบาหวาน มือชา เท้าชา อัมพฤกษ์ อัมพาต ปวดแข้ง ปวดขา โดยไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆ
    ปัจจุบันนี้หากท่านละสังขารไป คงเป็นเรื่องยากที่จะมีโอกาสเห็นฤาษีตัวจริง เพราะท่านได้บอกว่าฤาษีที่บวชมารุ่นเดียวกับท่านได้ละสังขารไปก่อนหมดแล้ว ส่วนที่เห็นปรากฏอยู่ตามสื่อนั้น เป็นฤาษีเฉพาะกิจ ฤาษีเพื่อการพาณิชย์ โดยท่านบอกว่า
    ฤาษีแท้ต้องยึดหลักพรหมวิหาร ๔ อย่างเคร่งครัด คือ เมตตา มุทิตา กรุณา อุเบกขา สร้างวัตถุมงคล หรือรักษาโรคต้องไม่มีการเรียกเงินทอง ใครจะให้หรือไม่ให้อยู่ที่ความศรัทธาเท่านั้น
    สำหรับประวัติของ ปู่ฤาษีตาไฟ อัคคะ ธรรมโม ท่านมีชื่อและนามสกุลจริง คือ นายหลง หัดกะโทก เกิดที่บ้านโคกกระชาย อ.ครบุรี ก่อนบวชเป็นฤาษีได้ใช้ชีวิตแบบชาวบ้านธรรมดาทั่วไป ทำไร่ ทำนา รับจ้าง จากนั้นเมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ก็ถูกเกณฑ์เป็นทหาร สังกัดทหารเสนารักษ์ ทำให้มีความรู้เรื่องการรักษาโรคด้วยสมุนไพร เมื่อพ้นจากทหารก็เข้าอยู่ในชุมโจรของ "เสือหล้า" ออกปล้นชาวบ้านใน จ.นครราชสีมาและใกล้เคียง
    ปู่ฤาษีตาไฟ เล่าว่า ตอนที่ออกบวชนั้น มีอายุ ๔๐ ปี ได้เดินทางไปแสวงหาเหล็กไหลกับ อาจารย์ทองคำ สิริกูล อยู่หลายปี ถ้ำต่างๆ ในภาคอีสานไปมาหมดแล้ว จนกระทั่งไปถึงถ้ำแห่งหนึ่ง ที่โล้นสามผาสามยอด เขาผาจันได ซึ่งอยู่ในเขตรอยต่อของ จ.เลย กับ จ.อุตรดิตถ์ ถ้ำแห่งนี้ร่ำลือกันว่ามีเหล็กไหล จึงเดินเข้าออกถ้ำนี้ถึง ๓ ครั้ง
    ระหว่างนั้นอาจารย์ทองคำ ถามว่า อยากบวชเป็นฤาษีหรือไม่ ด้วยความเบื่อหน่ายการใช้ชีวิต ขณะเดียวกันก็มีความอยากรู้ จึงตัดสินใจบวช
    การบวชนั้นได้ทำพิธีอัญเชิญวิญญาณฤาษีที่สิงสถิตอยู่ในถ้ำ จากนั้นฤาษีก็ปรากฏกายให้เห็น พร้อมกับถามว่า "เรียกเรามาปรากฏกายทำไม"
    จึงแจ้งความประสงค์ไปว่า "จะขอให้ช่วยทำพิธีบวชฤาษี" โดยใช้เวลาบวชประมาณ ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที หลักจากบวชแล้วต้องอาศัยอยู่ในถ้ำ ๓ วัน ๓ คืน
    การปฏิบัติตนของฤาษี คือ ถือศีล ๘ ปฏิบัติอยู่ในมรรค ๘ และยึดหลักพรหมวิหาร ๔ อย่างเคร่งครัด โดยมี นายสาร บ้านเฉลียง เป็นโยมอุปัฏฐากมาตลอดจนกระทั่งเสียชีวิต
    [​IMG]

    ปู่ฤาษีตาไฟ กล่าวถึงพุทธคุณ ของวัตถุมงคลที่ทำแจกฟรี ซึ่งมีอยู่ ๒ ชนิด คือ ขุนแผน และ รูปเหมือนตนเองว่า เป็นผู้ที่กดพิมพ์เองทุกองค์ ต้องการให้ผู้ใช้เกิด ความเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด โดยใช้ว่าน ๑๐๘ ชนิด เป็นมวลสาร ซึ่งได้จากลูกศิษย์ ส่วนจะมอบให้ใครนั้นขึ้นอยู่กับความพอใจ ส่วนตัว ถ้ามาตื๊อขอมากๆ ก็จะนั่งเฉย ไม่ให้ใครเลย นอกจากนี้ ตั้งแต่ถือบวชเป็นฤาษียังไม่เคยอนุญาตให้ลูกศิษย์คนใดสร้างวัตถุมงคล ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
    สำหรับอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาให้นั้น ปู่ฤาษีตาไฟ บอกว่ามีหลายท่าน ส่วนการถ่ายทอดวิชาให้ลูกศิษย์คนใดเพื่อสืบทอดวิชา ปู่ฤาษีตาไฟ ยืนยันว่า "ไม่เคยถ่ายทอดวิชาให้ใคร เพราะไม่มีใครยึดหลักปฏิบัติอย่างเคร่งครัดได้ มีฤาษีบางตนแวะมาเยี่ยม ๒-๓ ครั้ง มาให้ครอบครูให้ จากนั้นก็ไปอ้างเป็น ลูกศิษย์ของตน ขออย่าไปเชื่อ ยิ่งไปประกอบพิธีแล้วเรียกเงิน ยิ่งเชื่อไม่ได้เลย"
    ปู่ฤาษีตาไฟ ยังพูดถึงจุดประสงค์ที่ลูกศิษย์เดินทางมาหาว่า ส่วนใหญ่มา ขอความช่วยเหลือทุกๆ ด้าน แต่ที่มากหน่อยก็จะมาขอให้ ลงนะหน้าทอง อาบน้ำมนต์ รวมทั้งขอเครื่องรางของขลัง เพื่อเพิ่มสิริมงคลให้กับตัวเอง สำหรับไปประกอบอาชีพค้าขาย ทั้งนี้จะไม่มีการเรียกเงินเลยสักบาทเดียว ขณะเดียวกัน ก็มีคนจำนวนไม่น้อยมาขอเลขเด็ด แต่ไม่เคยให้ใครไปเลยสักครั้งเดียว เงินที่ได้นั้นเกิดจากความศรัทธาล้วนๆ และเงินที่ได้มาก็จะไปถวายวัดทำบุญ ทั้งทอดผ้าป่าและถวายกฐิน
    ทั้งนี้ผู้ถือบวชเป็นฤาษียังต้องทำบุญ รวมทั้งยังต้องนับถือพระเหมือนคนทั่วๆ ไปเช่นกัน ฤาษีไม่ใช่ผู้วิเศษมาจากไหน ยังต้องปฏิบัติธรรม บำเพ็ญเพียร เพื่อให้หลุดพ้นจากกิเลส ด้วยเหตุนี้เองปู่ฤาษีตาไฟได้บอกวิธีการสังเกตว่า มีใครอ้างตนเป็นฤาษีว่า
    "ฤาษีจริงหรือปลอมมีวิธีง่ายๆ คือ ฤาษีจริงต้องทำวัตถุมงคลแจกฟรี ไม่ทำวัตถุมงคลเพื่อพาณิชย์ ถ้าฤาษีตนใดทำของขาย เรียกเงินจากการประกอบพิธีกรรม ถือว่าไม่ใช่ฤาษี เป็นฤาษีเฉพาะกิจ ถือบวชเพื่อหาเงิน ซึ่งปัจจุบันนี้มีอยู่จำนวนมาก"
    เมื่อถามถึงชุดที่สวมใส่ซึ่งเป็น ผ้าลายเสือโคร่งนั้น ปู่ฤาษีตาไฟ บอกว่า ใส่ตามชุดที่ฤาษีในอดีต ส่วนชุดหนังเสือแท้ๆ นั้นไม่เคยใส่ เพราะไม่มีใครซื้อมาถวาย มีแต่ลูกศิษย์ซื้อมาให้เพื่อรองนั่งสำหรับปลุกเสกวัตถุมงคลเท่านั้น ส่วนวันไหว้ครูหรือครอบครู ให้ลูกศิษย์ จะจัดขึ้นทุกๆ ปี ในวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๓ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘
    ปู่ฤาษีตาไฟ พูดถึงการสร้างวัตถุมงคลไว้อย่างน่าคิดว่า "แม้ว่าทุกคนจะมีพระอยู่ในใจ แต่บางช่วงเวลาเราอาจจะลืม เกจิอาจารย์ยุคโบราณจึงสร้างวัตถุมงคลที่เป็นรูปพระเพื่อกันลืมพระพุทธเจ้า ลืมครูบาอาจารย์ เมื่อใครศรัทธายึดมั่นถือมั่น ปาฏิหาริย์ก็ย่อมเกิดกับผู้นั้น"

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2006
  2. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,402
    น่าสนใจทีเดียวครับ
     
  3. Hurahara

    Hurahara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +106
    ผมก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาแล้วคับตอนที่ทางรายการ ตี10 เขาไปถ่ายทำ ท่านน่าเลื่อมใสมากคับ อนุโมทนาสาธุ
     
  4. ณิชาพัชร์

    ณิชาพัชร์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +13
    สาธุขอให้ปู่ฤาษีตาไฟ ช่วยคุ้มครองให้มีแต่ความสุขด้วยเถอะสาธุ.....
     

แชร์หน้านี้

Loading...