ประสบการณ์กรรมฐานเมตตาใหญ่-กรรมฐานกับดวงจิตวิสาขบูชา66น.91-ยันต์คนมนต์พระกาฬ

.
ล็อกเก็ตติดเกศานิมิตรและจีวร ลป.เทพโลกอุดร

 

เรื่องเล่ามโนๆความเชื่อส่วนตัว..... ลป.เทพโลกอุดร -อิเกสาโล-ลป.มหากัสสปเถระเจ้า
.
เดิมทีผมเคยเห็นรูป ลป.อิเกสาโล มานานตั้งแต่เข้ามาเรียนรู้พระศาสนา แต่ก็ไม่มีความเข้าใจและไม่รู้จักท่าน รู้จักแต่ ลป.เทพโลกอุดรหรือ ลป.ใหญ่ เท่านั้น แต่ความรู้สึกลึกๆ ท่านคนละองค์กับ ลป.เทพโลกอุดร เพราะช่วงที่ผ่านมา 10 กว่าปี ผมจะเน้นหนักไปทางการตามหาการเรียนรู้ในสาย ลป.ใหญ่
.
จากการสะสมบุญตามรอยตามแนวทางที่ท่าน อ.สนปภัส มอบหมายสั่งการแนะนำ จนผมจดจำพลังงานกระแสญาณบารมีหลวงปู่เทพโลกอุดรได้ค่อนข้างดี และด้วยวิชาบางอย่างที่มั่วๆเอาจนตามกระแสพลังงานตามช่วงเวลาได้ (เรียกไม่ถูกและใช้บ่อยไม่ได้เพราะใช้กำลังสูง) โดยมีท่านอาจารย์เป็นกระแสหลักที่ผมอาราธนาเป็นประธาน ไต่ญาณไปที่กระแสะพระ หรือเทพพรหม หรือแต่ละองค์ไป
1.กระแสพลังงานหลวงปู่ใหญ่หรือหลวงปู่เทพโลกอุดร จะลึกไปถึงช่วง 2พันกว่าปีจากปัจจุบัน กระแสพลังงาน ลป. เป็นกระแสโลกุตระ ที่ยังก้ำกึ่งกับกระแสนิพพาน เนื่องจาก ลป.ใหญ่ ยังดำรงค์ขันธ์ถึง 4 ท่าน นิพพานไปแล้ว 1 ท่าน
2.กระแสหลวงปู่อิเกศาโล ผมตามกระแสพลังงาน ลป. อยู่ช่วง 1000 ปีจากปัจจุบัน(อาจไม่ถึง) แต่กระแส ลป.นั้นวิจิตรพิศดารไปทางฤทธิ์ปาฎิหาริย์ อำนาจ วาสนา บารมี สูงมากๆ ท่านยังสงเคราะห์ลูกหลานอยู่มาก แต่จะเฉพาะกลุ่ม
3.ส่วน ลป. มหากัสสปเถระเจ้า พระอรหันต์เถระช่วงพุทธกาล ท่านอาจารย์บอกกล่าวว่าเป็นอาจารย์ของ ลป.เทพโลกอุดร องค์หลักอีกท่าน ซึ่งผมก็เข้าใจว่าก็เป็นคนละองค์กับ หลวงปู่อิเกศาโลและ ลป.เทพโลกอุดร เพราะกระแสพลังงาน ลป.พระมหากัสสปเถระ นั้นกระแสนิพพานเต็มๆ เท่าที่ผมสัมผัสได้ (ก่อนหน้านี้ก็บอกไม่ถูก)
.
สำหรับผม ทั้ง 3 องค์ เป็นคนละองค์ กัน แต่ไม่ต้องไปไขว่คว้าอะไรมาก เรียนรู้แค่พอรู้พอ เอาเวลาไปพัฒนาจิตดีกว่าครับ
.
ตรงนี้เป็นความเข้าใจส่วนตัว ขอบคุณครับ
.
ผิดถูกยังไงเดี๋ยวท่านอาจารย์กับ ลป. จะมาเขกหัวอีกที
.
.

 

https://www.youtube.com/shorts/4l8N6eK0Q0E

ฝากติดตาม Youtube ด้วยนะครับ

.................
พิธีบูชาครูที่ จ.พิจิตร
.
ผมไปกับรถท่านอาจารย์ ถึงที่แรกคือ จ.เพชรบูรณ์ สถานที่สร้าง พระเจดีย์ศรีอาริยะโลกอุดร พี่น้อง
ทำำพิธีบูชาพระเจดีย์ แดดร้อนๆ เสร็จพิธีบ่ายๆ ก้อเดินทางไป จ.พิจิตร ไปพิธีบูชาครู
.
ไปถึงก็เกือบค่ำ พอค่ำๆ ก็ทานข้าว และสนธนาธรรม นิดหน่อย (เอาไว้เล่าทีหลัง)
.
พอตื่นเช้าวันที่ 15/4/66 ผมเข้าห้องกรรมฐาน คนเดียว ยังไม่อาบน้ำ สวดมนต์+เดินกรรมฐาน รู้สึกเห็นแวบๆ องค์พ่อพระศรีอารย์ ท่านมากายเงินทรงเครื่องรออยู่ในห้องพระแล้วเพื่อจะทำพิธี
.
รายละเอียดเพิ่มเติมในคลิปบางส่วนครับ


https://www.youtube.com/shorts/4l8N6eK0Q0E
.

 

การฝึกกรรมฐาน ต้องฝึกอย่างต่อเนื่อง สะสมทั้งกำลังจิตและขัดเกลาจิตใจ
.
.
ศีลอริยะมรรค คือ จุดสูงสุดรองจากพระนิพพานที่ทุกคนใฝ่หา เฝ้าไขว่คว้าที่จะปฏิบัติให้ได้มา
ครูบาอาจารย์ เข้าถึง ดูแล รักษา ศีลอริยะมรรคด้วยการรักษาใจในชีวิตประจำวันเพียงอย่างเดียว ทำอะไรก็ให้ดูใจ คิดอะไรก็ให้ดูใจ พูดอะไรก็ให้ดูใจ รักษาใจกายวาจาก็จะบริสุทธิ์เป็นหนึ่ง
.
สำหรับเราปุถุชน สามารถเข้าถึง ศีลอริยะมรรค ได้ตลอดเวลาเช่นกันแต่อานิสงค์จะมากน้อยขึ้นอยู่กับความบริสุทธิของใจและศีลที่เข้าถึงและถือครอง โดยจะต้องมีความเข้าใจเบื้องต้นในหลักแห่งศีลอริยะมรรคเป็นพื้นฐาน
และในสายเวียงนาคราชนั้นมีหลักการปฏิบัติที่ทำให้ผู้ปฏิบัติ เข้าถึงศีลอริยะมรรคได้อย่างสูง มีผลอย่างกว้างขวางจากการปฏิบัติ เป้าหมายเพื่อผู้ปฏิบัติได้สร้างบุญสะสมบุญจากการปฏิบัติช่วยเหลือตนเองและบุคคลที่รักจากกรรมที่ส่งผลแก่ชีวิตและจิตวิญญาในปัจจุบันและอนาคตจนถึงภพภูมิต่อไป
ด้วยหลักการปฏิบัติแบบเคลื่อนไหว กาย+วาจา+ใจ มีสติรู้รวมเป็นหนึ่งในขณะปฏิบัติ รวมกับคำภาวนาที่มีผลมากมายตามแต่ละความหมาย
.....

 

เล่าประสบการณ์มโนๆ
.
เมื่อวันที่ 30/4/65 ได้มีโอกาสไปที่ จ.สุพรรณบุรี ไปบวงสรวงที่ที่ ต.ดอนคา อ.อู่ทอง เมื่อเสร็จแล้วขากลับได้แวะไปไหว้พระแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครั้งที่ 2 เจตนาคือแฟนผมขาถูกโฉลกกับที่นี่ ขอพรจุดธูปเลข 2 ครั้ง ให้ตรงๆ แต่กรรมบัง ซึื้อไม่ถูกสักที
.
ครั้งที่แล้วที่ไปไหว้ ราวๆ ปลายเดือน ตุลาคม 65 ตอนนั้นไปเหนื่อยๆ ตอนเข้าไปก็แแวบแปลกๆ เห็นเหมือนพญานาคหรือพญามังกร สีดำ เลื้อยตามขอบหน้าผ้าบริเวณที่ผมเดินไปแต่ละจุด เห็นราวๆ 4-5 ครั้ง ขนาดใหญ่กว่าลำตาล ตอนนนั้นเหนื่อยๆก็คิดว่าคิดไปเอง แต่พอมาทบทวนก็แปลกๆ ท่านน่าจะมาให้เห็น
.
ครานี้ที่ไป........ก่อนขับรถเข้าไปก็นึกในใจว่าวันนี้จะมาดูให้ชัด ว่าท่านเป็นอะไร เพราะสงสัยว่าคิดไปเองหรือว่าอะไรด้วย
พอจอดรถลงรถแล้วเดินเข้าไไปเท่านั้นละ ท่านโชว์หน้าขึ้นมาให้เห็นทั้งหน้าสูงหนือหน้าผาใหญ่ เฉพาะส่วนหัวใหญ่กว่าองค์พระนิดหน่อย แล้วขาทั้ง 2 ข้างก็เกาะหน้าผาเห็นนิ้วที่เกาะเป็นกงเล็บเลย 55555 เล่นเอาตกใจ เดินเข้าไปก็เห็นอยู่นานนึกก็เห็น จนออกจากสถานที่จึงจะไม่เห็น
.
และที่นี่มีความศักดิ์สิทธิ์หลายจุด ที่ผมบูชาประจำก็จุดปู่+ย่าพญานาค ในวันนี้ 30/4/65 ที่ไปที่เห็นพิเศษคือ ในระหว่างที่แฟนผมก้มกราบผมเห็นเหรียญทองไหลจากมือท่านย่า กระพริบตา2-3ครั้งก็ยังเห็นอยู่จึงให้แฟนเข้าไปก้มกราบที่มือ เพื่อรับพร
และอีกจุดคือตรงท่านแม่ธรณี ธูปที่ได้เลขครั้งที่แล้ว พย.66 ก็จากท่านแม่นี่ละครับบ แต่กรรมบังซื้อไม่ถูก
น่าจะแล้วแต่องค์ประกอบ แฟนผมมีส่วนในภพชาติบริเวณนี้จึงอาจจะได้รับพรบางส่วนได้ดี รอผลบุญส่งเสริมคงจะมีวาสนาดีๆครับ
.
ลองฟังในวีดีโดที่อัดมาบางส่วนนะครับ
.
ขอบคุณครับ
.
ท่านใดมีเวลาลองไปกราบไหว้ขอพรดูครับ

.

 

27 ก.พ. 64

วันนี้มีเหตุ..มีคนอยากให้พาไปวัดสะแก.อยุธยา..ไปกราบหลวงปู่ดู่
.
ตอนแรกผมก็ลังเล..จะไม่ไป...สุดท้ายไปก้ไป...
.
ออกจากบ้านประมาณ..8.00.น.
.
ผมพยายามขับรถใจเย็นๆ....เพราะผมไม่ได้ขับรถออกต่างจังหวัดไกลๆ..ระหว่างเดินทางก็สวดมนต์ไปเรื่อยๆเล็กๆน้อยๆ..
.
การเดินทางก็ไปลงทางด่วนไปทางบางปะอิน..แต่ปัญหาคือ..ผมไม่ได้ไปมาราว 10 ปีแล้ว..ลืมเส้นทางก็เปิด GPS ไป..สุดท้ายไปผิดทาง GPS พาอ้อมเข้าด้านหลังวัดเสียอย่างนั้นมึนเลย
.
ระหว่างทางที่ตาม GPS ไปวัดสะแก..ที่วนไปด้านซอยหลังวัดเสียไกล ใจก็ระลึกถึงหลวงปู่ก็มีภาพหลวงปู่ขึ้นมาในใจภาพที่ท่านยืนอยู่ทางขึ้นกุฏิ แต่ผมกลัวเป็นภาพจำก็สะบัดหน้าลืมๆภาพไป..ก็ลองนึกใหม่แต่ก็มีภาพเดิมปรากฎขึ้นมา และสลับภาพหลวงปู่นั่งหัวเราะ..ก็ได้แต่งงในใจ แล้วก็นึกถึงเรื่องอื่นไป ภาพหลวงปู่ก็ก็หายไป
.
เมื่อไปถึงคุณผู้หญิงที่อยากมาหาหลวงปู่ดู่ก็ลงไปหาซื้ออาหารถวายเพล ส่วนผมก็เดินสำรวจรอบๆ บริเวณวัดใหม่เพราะแปลกตาไปมาก จนพบว่ากุฏิหลวงปู่ดู่ท่านปิด
พอคุณผู้หญิงซื้ออาหารมาเสร็จผมก็พาเดินไปถวายเพลหลวงพ่อรูปหนึ่ง และก็สอบถามท่านถึงสาเหตุที่กูฏิหลวงปู่ดู่ปิด .
หลวงพ่อบอกว่า..เพราะ ..มีคนขายกาแฟในวัดติดโควิด 2 คน..จาก..รพ..ธรรมศาสตร์ ปิดกุฏิมาแล้ว 3 วัน
พอดีผมถามหลวงพ่อถึงหลวงน้าสายหยุด...ท่านบอกว่ามรณภาพไปเมื่อปี58.ที่บ้านญาติ...
(พอดีผมได้เคยไปพบหลวงน้าและได้รับพระจากหลวงน้าสายหยุดมาราวๆปี53)
.
หลังจากถวายอาหารเพลหลวงพ่อเสร็จ .ผมก็เดินไปที่โบสถ์...แล้วหาที่นั่งสวดมนต์....แล้วให้คุณนายไปกราบรูปหล่อหลวงปู่ดู่องค์ใหญ่ที่ริมท่าน้ำส่วนผมก็แยกไปหาที่สวดมนต์
ผมสวดมนต์ตามสูตรที่ท่านอาจารย์ได้มาโพสไว้
สวดคาถามหาจักรพรรดิ์ 35 จบ สวดคาถาเงินล้าน 35 จบ สวด คาถามนต์พระกาฬ 35 จบ
ระหว่างนั้นผมก็พาคุณนายที่เดินมานั่งใกล้ๆ อธิฐานอนุโมทนาภูเขาบุญหรือเจดีย์บุญที่หลวงปู่ท่านอธิฐานจิตตั้งไว้ เหนือวัดสะแก
เมื่อกล่าวอธิฐานอนุโมทนาภูเขาบุญเสร็จ ผมก็ให้คุณนายไปหาที่สวดคาถามหาจักรพรรดิ์ถวายหลวงปู่
ส่วนผมก็กล่าวอธิฐานถวายบุญการสวดมนต์..จนจบ
แล้วผมก็เดินไปตั้งจิตเดินกรรมฐานเมตตาใหญ่ รอบโบสถ์ 3 รอบ (แต่ต้องเดิน 5 รอบ) โดยกล่าวคำอธิฐานบอกกล่าวการเดินกรรมฐานและเชิญเทพพรหมเทวดามาบริเวณวัดสะแกร่วมเดินกรรมฐานด้วย
..
เมื่อกล่าวคำอธิฐานเสร็จ ผมก็เดินกรรมฐานตามวิธีการที่คุ้นเคยตามที่ท่านอาจารย์สอนแต่สถานที่ไม่อำนวยให้เดินแบบพิธีการมากก็เดินสบายๆเหมือนเดินสวดมนต์รอบโบสถ์ แต่ระหว่างเดินกรรมฐานเมตตาใหญ่รอบโบสถ์ ก็นึกในใจว่าที่กล่าวอัญเชิญท่านๆมาร่วมเดินกรรมฐานนั้นจะเป็นเช่นไร
.
ขณะที่เดินกรรมฐานครบ 2 รอบกำลังเดินรอบ 3 ในระหว่างเดินได้ครึ่งรอบก็รู้สึกซืึ้งใจสะอื้นน้ำตาตื้นขึ้นเหมือนจะร้องให้ จนเดินจรบ 3 รอบ กว่าๆ ก็นึกงงว่าอะไร
.
ก็ลองนึกอีกว่า หลวงปู่และเทวดาท่านจะมาร่วมเดินกรรมฐานใหมหนอ
ในใจก็บังเอิญปรากฎภาพช่วงหน้าแข้งของกลุ่มคนทั้งหญิงชาย ทั้งใส่ผ้าถุงและกางเกง เดินตามอยู่ และรู้สึกแน่นและหนักอึ้งขึ้นมาในอก
ผมก็นึกในใจว่าอ้าวแล้วพระหรือหลวงปู่ล่ะ ก็ปรากฎภาพช่วงชายสบง+ช่วงขาของพระรูปหนึ่งซึ่งท่าทางจะออกผอมๆ ผมเห็นท่านเดินนำหน้ากลุ่มคนเหล่านั้นอยู่ระยะหนึ่งเลยทีเดียวจนผมเดินครบรอบ 4 ก็นึกอย่างอื่นให้ภาพหายไป แล้วเมื่อเดินถึงถึงรอบ 4 ครึ่งก็ลองนึกใหม่ ก็เห็นภาพช่วงล่างกลุ่มคนและภาพช่วงล่างพระเช่นเดิม ก็ก็รู้สึกดีใจนิดๆ แต่ก็วางเฉยไว้ จนครบรอบ 5 ภาพก็หายไป
สุดท้านเมื่อเดินกรรมฐานเมตตาใหญ่ครบแล้วก็ กล่าวถวายบุญ
.
เมื่อเดินกรรมฐานเสร็จผมก็เดินไปถ่ายรูปหล่อหลวงปู่องค์ใหญ่ และ ถ่ายรูปพระมหาจักรพรรดิ์ ที่บริเวณท่าน้ำ แล้วก็พากันเดินทางกลับบ้าน ราวๆ 12.30 น.
.
ผมก็ขอพรหลวงปู่ท่านเหมือนกันครับ
.

 

การฝึกฝนที่ก้าวหน้า คือ ใจที่ว่างลงจากรัก โลภ โกรธ หลง ว่างลงเรื่อยๆๆๆๆๆ ให้มันน้อยลง ๆ ๆ ๆ ๆ และหนักแน่นในองค์พระให้มากขึ้น ๆ ๆ ๆ เพราะข้อธรรมหากใจไม่ว่างพอ ช่องว่างที่จะทำให้เกิดปัญญาจะน้อย ดังนั้นเมื่อใดที่ใจมีกำลังหนักแน่นพอจึงเอาข้อธรรมมาขัดเกลาจิตใจ ข่มใจให้ลดกิเลสลงด้วยปัญญาอีกครั้ง
.
ถ้าผิดพลาดบบกพล่องลงไปก็ตั้งต้นใหม่ให้ดี ยึดองค์พระให้แน่นๆใหม่เป็นกรรมฐานง่ายๆ ที่จะนำพาไปสู่ปัญญา
.
คาถามหาลาภโดยบารมี ครูผึ้ง ผู้ถวายพระคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า แด่ ลป.ปาน ตามนิมิต ท่าน อ.สนปภัส เวียงนาคราชที่เป็นท่านแรกที่เผยแผ่บารมีองค์พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ปฐมต้น
.

 

.
คาถามหาโภคทรัพย์สายพญานาคราช โบราณ
.
.
https://youtube.com/shorts/CbKcHnR-DmA?feature=share
.

 

เรื่องเล่ามโนๆ เล็กน้อย 2 เรื่อง ที่เกี่ยวกับการปล่อยปลาในวันนี้

.

อานุภาพสายสิญจน์พลิกชะตาและอานุภาพบุญกรรมฐานปรับภพภูมิ

.

เรื่องแรก เกี่ยวกับการนำเงินของผู้บูชาสายสิญจน์พลิกชะตามาร่มบุญปล่อยปลาและไถ่ชีวิตแม่โค

.

มีผู้บูชาสายสายสิญจน์พลิกชะตามา 1 ท่าน

หลังจากนำเงินมาร่วมบุญปล่อยปลา ก็รู้สึกโปร่งเบาอย่างมาก เพราะตั้งแต่ให้บูชาก็เริ่มหนักขึ้นมาทันที และนำเงินบางส่วนไปร่วมไถ่ชีวิตแม่โคสาวท้อง ในระหว่างที่โอนก็นึกแวบว่ามีผลต่อเจ้าของเงินที่บูชาสายสายสิญจน์ใหมอย่างไร ก็ปรากฏภาพแวบขึ้นมาว่ากายในหรือกายทิพย์ผู้นั้นเปลี่ยนสภาพใส่ชุดไทยสวยงาม หมายถึงกำลังบุญที่ได้ทำสะสมมารวมตัวส่งผลต่อจิตและกายทิพย์ให้เปลี่ยนสภาพสูงขึ้น

ซึ่งผมเข้าใจว่าการที่สามารถเปิดทางให้กระแสบุญเข้ารวมตัวได้นั้นน่าจะมาจากอานุภาพสายสิญจน์ ที่ขจัดปัดเป่าวิบากกรรมและสิ่งไม่ดีที่ขัดขวางกระแสบุญ

......

เรื่องนี้เป็นความเข้าใจส่วนตัว คิดว่าผมมโนๆ เล่าให้อ่านแล้วกัน

วัตถุมงคลสายเวียงนาคราชที่ท่านอาจารย์จัดสร้างและที่ผมขอท่านอาจารย์จัดสร้างจะมีสภาวะการแลกเปลี่ยนกำลังบุญ และกระแสวิบากกรรม ซึ่งสุดแท้แต่จะเข้าใจ

 

เรื่องที่ 2

น้อมบุญกรรมฐานหนอและเมตตาใหญ่ส่งวิญญาณนกพิราบ 2 ตัวและ กบ 1 ตัว ที่พบระหว่างทางไปซื้อปลามาปล่อยไถ่ชีวิต เช้าวันที่ 4/9/65

.

เนื่องจากเช้าวันที่ 4/9/65 ประมาณ 6.45 น ผมขับรถเข้าไปจอดในโรงเรียนแถวท่าน้ำนนท์ เมื่อจอดเสร็จก็ลงรถ เดินกลับไปที่ตลลาดเพื่อจะซื้อปลามาปล่อยไถ่ชีวิต ระหว่างเดินตามซอยโรงเรียน ก็พบนกพิราบถูกรถทับนอนตาย 1 ตัว ก็ตั้งใจว่าระหว่างเดินไปซื้อปลาจะภาวนา แล้วจะส่งบุญให้

เดินไปอีกประมาณ 20 เมตร ผมเห็นพนักงานเก็บขยะเก็บขยะอยู่ผมรอจนเสร็จ กำลังเดินผ่านถังขยะเห็น กบตัวใหญ่เท่าฝ่ามือผู้ชายนอนตายเพราะถูกรถทับ ก็ดินผ่านไปและตั้งใจจะส่งบุญให้เช่นเดิม

และตั้งใจว่าหากกลับมาถ้ายังเห็นซากเช่นเดิมก็จะถ่ายรูปเพื่อนำรูปมาน้อมบุญส่งให้ชัดเจน

จนไปซื้อปลาเสร็จราวๆ 7.15 น เดินกลับมาก็พบซากกบเช่นเดิมจึงถ่ายรูปไว้ และพบซากนกตัวเดิมก็ถ่ายรูปไว้ และพบซากนกเพิ่มอีก 1 ตัว ก็เลยถ่ายรูปไว้ให้หมด แล้วผมก็เดินไปที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม

เมื่อผมเดินถึงศาลเจ้าแม่ทับทิมผมก็สวดมนต์ไหว้บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็เดินกรรมฐาน รวมเวลาเกือบครึ่ง ชม. ปลาที่จะปล่อยไถ่ชีวิตก็มาถึง แต่ผมก็ตั้งจิตอธิฐานน้อมบุญกรรมฐานหนอและกรรมฐานเมตตาใหญ่ส่งบุญให้กบและนกพิราบทั้ง 3 ตัวให้เสร็จ

เมื่ออธิฐานน้อมบุญเสร็จ ใจแวบขึ้นก่อนจะเดินไปปล่อยปลาว่ามีผู้ชาย 1 ท่าน และผู้หญิง 2 ท่าน มายืนอยู่ข้างหลังใกล้ๆ ใส่ชุดขาวสว่าง แต่ตอนนั้นไม่มีกำลังใจจะถามเพราะจะรีบไปปล่อยปลาต่อ จึงผ่านๆไป

เมื่อปล่อยปลาเสร็จก็มานึกถึงสักครู่ก็ยังเห็น 3 ท่านนั้นอยู่เช่นเดิม ผู้ชาย ภาพเบื้องหลังเขาเป็นกบ ภาพเบื้องหลังผู้หญิงก็เป็นนกพิราบ ใจก็นึกว่าเขาไปอยู่ไหนกัน แต่สภาวะไม่นิ่ง แต่โดยรวมรู้สึกว่าไปอยู่.....จาตุม/ดาวดึงส์ ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วง 8 โมงกว่าขณะกำลังเดินกลับมาที่รถหลังจากปล่อยปลาเสร็จ

และช่วงประมาณ เกือบ 4 โมงเย็นย้อนนึกเพื่อจะนำมาเล่าให้อ่าน รู้สึกว่าเขาเลื่อนชั้นไปปอยู่ชั้นปรมิน ไม่รู้ถูกหรือผิด รับรู้แบบมโนมาเล่าได้เท่านี้ครับ ยัไม่ได้ถามท่านอาจารย์

.

.

เป็นเรื่องเล่ามโนๆ ครับ

.

 

https://vt.tiktok.com/ZSLkxka3D/
.
พิธีเททองหล่อ...วันอาทิตย์ ที่ 27 มีนาคม 2565 สมเด็จองค์ปฐมต้นบรมโพธิสัตว์ผู้ทรงชนะมาร
โดยท่านอาจารย์สนปภัส เวียงนาคราช
.
*** ร่วมสร้างบารมีเกื้อหนุนดวงชะตา...ในกลียุคห้วงเวลาโกลาหล
ภาพเททองหล่อ.....
1.สมเด็จองค์ปฐมต้นบรมโพธิสัตว์ผู้ทรงชนะมาร” ปางเปิดโลก สูง 16 นิ้ว และ
2.สมเด็จองค์ปฐมต้นผู้บรมโพธิสัตว์ทรงชนะมาร” ปางห้ามสมุทร สูง 16 นิ้ว จำนวน 2 คู่(4องค์)

** เป็นองค์สมมติตัวแทนพระบารมีแห่งพระโพธิญาณทั้ง 2 องค์คือ
1.สมเด็จองค์ปฐม พระองค์เป็นพระพุทธเจ้าองค์แรกของโลก เป็นต้นพุทธวงค์สืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ทรงบำเพ็ญพระบารมีมากที่สุด และ
2.สมเด็จพระผู้ทรงชนะมารมหาโพธิสัตว์ ที่ความปรารถนาที่จะรื้อขนสรรพสัตว์เป็นองค์สุดท้าย
……………………………………..
*** วัตถุประสงค์ ...
1.คู่ที่ 1. ถวาย “เป็นพุทธบูชา...อุทิศให้เทพพรหมเทวดาอารักษ์ สายเทพอสูร ปู่พระพิราพ ปู่เวสสุวรรณ พ่อพญามัจจุราช พระแม่สุทธินีเทพอสูรและบริวาร ที่เกี่ยวเนื่องกับภัยพิบัติภัยโรคระบาดภัยสงครามภัยรังสีภัยอดอยาก ประเทศชาติ และเจ้ากรรมนายเวร”
2.คู่ที่ 2. ถวาย “เป็นพระโพธิญาณ...เกื้อหนุนดวงชะตาชีวิตดวงจิตที่ลงมาบำเพ็ญเพียรสร้างบารมี “พุทธภูมิ” ได้ผ่านพ้นเคราะห์กรรมใหญ่ เพื่อได้สร้างบารมีอนุเคราะห์สงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ต่อเนื่อง
(สถานที่จะถวาย...จะระบุสถานที่อีกครั้ง เมื่อถึงเวลา)
.
มโนๆ ส่วนตัวของผม
.
หลังจากพิธีหล่อพระผมเพิ่งจะฟื้นร่างกายได้วันนี้ 70%-80% เนื่องจากคืนวันเสาร์-อาทิตย์นอนไม่หลับ
.
การหล่อองค์พระมหาโพธิสัตว์ทั้ง 2 ปางนี้มีอานุภาพสูงมากในด้านมหาโพธิสัตว์และมหาเทพทั้งหลาย
ในพิธีผมพยายามหามุมสงบแล้วนั่งให้ใจสงบๆนิ่งเพื่อรับรู้ตามแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะเมตตา
หลังจากท่านอาจารย์บวงสรวงไประยะหนึ่ง ผมก็หลับตาทำสมาธิไปเรื่อยๆ เห็นภาพในใจเป็นรูปดอกบัวตูมขึ้นมาสักครู่ แล้วก็นิ่งๆสงบไป และเห็นภาพเงากลุ่มคนแน่นไปหมดในพิธีและโดยรอบ ใจรับรู้ว่าไม่ใช่พระพุทธเจ้าหรือพระปัจเจกพุทธเจ้า แต่รู้สึกว่าเป็นเทพทั้งหลายที่เกี่ยวเนื่องในบารมีพระโพธิสัตว์ ผมก็ลองตั้งจิตระลึกถึงพระพุทธเจ้าพระปัจเจกพุทธเจ้าท่านแต่รู้สึกว่าอยู่ไกลมากด้านบน แต่ท่านก็เสด็จมากันมากเช่นกัน
.
เป็นเรื่องมโนๆที่เล่าเป็นกำลังใจ อย่าไปยึดติด...........
.
สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้เล่า ..ในเฟส
.
ในระหว่างพิธี ผมรู้สึกมีกายทิพย์บางท่านมาแทรก รู้สึกท่านกำยำใหญ่โต.ตอนแรกนึกว่าเป็นบารมีท่านอาจารย์หรือหลวงปู่ใหญ่ แต่ไม่ใช่ ..
..มาตอนนี้เข้าใจว่าเป็นองค์พ่อชนะมาร องค์พระโพธิสัตว์ที่ปราถนาเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย ท่านมาเมตตา
.

 

การนำเรื่องมาเล่า เพื่อให้ผู้อ่านเห็นผลการภาวนานำไปใช้ในการฝึกจิตตนเอง และช่วยเหลือครอบครัว
ไม่ว่าจะเป็นการภาวนาใดๆ เพียงแต่การภาวนาเมตตาใหญ่นั้นส่งผลชัดเจน ที่จะรับรู้ได้ด้วยตนเองในระดับหนึ่งทีเดียวครับ
.
จากที่หายไปตั้งแต่ปี 2015 - 2023 ก็มีเรื่องเล่าราวๆ 40 เรื่อง ทีเดียว ที่เป็นประสบการณ์กรรมฐาน+การหล่อพระและภาระกิจบางอย่าง
.
ขอบคุณครับ

 

เล่าเมื่อ 15/2/20
.
ช่วงนี้ทำไมอยากเล่า.......

หนังสือกรรมฐานเมตตาใหญ่ ไม่ได้ทำต่อหลายปี เพราะเครื่องคอมเสีย...
ละก็มีบางอย่างอยากเพิ่มเติมเช่น พระคาถามนต์พระกาฬและพระคาถาเพชรหลีก...
และประสบการณ์การปฏิบัติเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
......ตั้งแต่ท่านอาจารย์ได้กรรมฐานเมตตาใหญ่จากหลวงปู่..ผมก็ปฏิบัติสลับกับกรรมฐานหนอที่ทำแบบเรื่อยๆ เกือบ 10 ปี
......กรรมฐานหนอมีผลให้จิตสะสมกำลังโลกุตระ ทำให้จิตมีสภาวะปลอดโปล่งเบาบางอยู่ภายใน เป็นกำลังที่รับรู้ได้ยากมากแต่อานุภาพสูงสุดถึงพระนิพพาน
......กรรมฐานเมตตาใหญ่..เป็นกรรมฐานที่รับรู้ได้ชัดขึ้นในระดับเข้าถึงจิตวิญญาณทั่วไป แต่มีอานุภาพสูง เช่นเดียวกัน
.....กรรมฐานเมตตาใหญ่ ผมได้รับเมตตาจากท่านอาจารย์ ที่ท่านเล่าเคล็ดวิธีการใช้กรรมฐานช่วยคนต่าง ๆ แต่ท่านไม่ได้บอกว่าใคร ผมก็จำหลักการใช้ไว้เป็นความรู้ ซึ่งบอกกล่าวไปจะเป็นอันตรายมาก และบางส่วนผมก็ทดลองปฏิบัติแบบพื้น ๆ เองแล้วปรึกษาขอคำแนะนำจากท่านอาจารย์
.
...........บอกกล่าวเพื่อให้ลองปฏิบัติกันครับ.............
.
.
เล่าเมื่อ..5/7/21
.
อานิสงค์การทำหนังสือกรรมฐาน...แตกต่างจากการทำหนังสือสวดมนต์ทั่วไป
.
ด้วยควาามอยากเผยแพร่บารมีครูบาอาจารย์........จึงขออนุญาติท่านอาจารย์รบกวนถาม
.
ผม รบกวนขอความเข้าใจ เรื่องทำบุญหนังสือกรรมฐานครับ

(.)พอดีเมื่อวันเสาร์ ที่ผมได้จัดทำหนังสือกรรมฐาน 50 เล่ม แล้วบอกบุญผู้ร่วมบุญในการจัดสร้างครับ
ผมมานึกๆว่ามีอานิสงอย่างไร และมีบัญชีในโลกทิพย์ใหมในการทำหนังสือกรรมฐานนี้ ผมไปนึกถึงการทำบุญองค์พ่อสมเด็จองค์ปฐมต้นทั้งองค์พระพุทธเจ้า และองค์พระปัจเจกพุทธเจ้า ก็นึกวนไปมาสักครู่ ก็มีภาพนายบัญชีกางสมุดขึ้นมาในใจและมีแสงสีขาวสว่างขึ้นมาจากสมุดครับ
ผมอุปทานไปใหมครับ และความหมายของสมุดแตกต่างกับสมุดบุญทั่วไปใหมครับ
.
****..คำตอบท่านอาจารย์...
.
มีอานิสงส์สิ ยังอ่านไม่ทันที่เราเห็นนิมิต เห็นเป็นสีเงิน ก้อตรงกัน เป็นแสงสว่างจ้า
.
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกรรมฐานนั้นๆว่ามีผลต่อการเข้าถึงอย่างไร ยิ่งมีผลการเข้าถึงมาก ก็มีอานิสงค์สูง และมีความพิเศษแก่ผู้ร่วมจัดสร้างนั้นๆ
..
เอาคร่าวๆนะครับจริงๆมีรายละเอียดอยู่มากแต่ผมเข้าไม่ถึง แค่นี้ก็มากเกินบรรยายแล้วครับ
ผมมีความเชื่อเต็ม100 ..แต่ที่บางอย่างนำมาก็เพื่อขยายความเข้าใจแก่ทุกท่านครับ
.

 

ท่านใดต้องการหนังสือกรรมฐาน..ติดต่อมาทางข้อความได้ครับ
.
ทำไมถึงไม่ทำหนังสือกรรมฐานเป็น.แบบ..online...เป็นคำถามที่เคยมีคนถามไว้...
.
สำหรับผมนั้นมีเหตุผลด้านบารมีครูบาอาจารย์.เทพพรหม..ที่เกี่ยวของ.ครับ
.
หนังสือกรรมฐานนั้นถือเป็นที่สุดแห่งความศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่งเลยทีเดียว..และยิ่งเป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์ทั้งโลกทิพย์และกายเนือท่านสั่งให้สร้าง..ยิ่งมีอานุภาพยิ่งๆขึ้น..
.
ผู้มีหนั้งสือกรรมฐานไว้บนพานบูชา...และนำมาปฏิบัติ...จะมีแต่ความสุขสงบร่มเย็นยิ่งๆขึ้นไป...จะมีเทพพรหมมาอนุโมทนาบุญหนังสือกรรมฐานนี้อยู่เรื่อยไป.มีเทพพรหมรักษาหนังสือนี้ตลอดจนกว่าจะกลายเป็นธุลีไป
.
ความเข้าใจของผมนะครับ
.

 

ประสบการณ์..นิมิตท่านอาจารย์สนปภัส...เวียงนาคราช....
.
หัวใจคาถามัจจุราชและสร้างองค์แทนปู่เจตภูติพญามัจจุราช (บารมีเทวดาอินทกะในบารมีพญามัจจุราช)จากนิมิต
.
" สะ เส ตะ โข" นี้คือ คาถาหัวใจพญามัจจุราช

*** ที่ท่านพ่อเจตภูติพญามัจจุราช มอบให้ใน "วันโกน" เสาร์ ที่ 10 มิย.66 พร้อม"ตราลัญกรโลกแห่งวิญญาณพญามัจจุราช"

*** ช่วงค่ำวันนี้ ระหว่างที่คุยกับ "เจ้าป้า" เกี่ยวกับเหตุที่ทำให้เจ้าป้าไม่สบายต้องเข้า รพ. ทันที เห็นนิมิต"ว่าเจ้าป้ากำลังก้าวเท้าข้ามลำตัวงูสีดำลำตัวขนาดเท่า ศก. เกือบ 1 ไม้บรรทัด" ตีความหมายว่า"เกี่ยวเนื่องกับกรรมที่กำลังส่งผลในช่วงเวลานี้"(งดขยายความ)

*** ระหว่างนั้นเอง ได้ยินเสียงท่านพ่อฯว่า "ให้เจ้าป้าท่องคาถาหัวใจพญามัจจุราช อย่างน้อยวันละ 108 จบ" ขณะที่บอกอยู่นั้น ใจก็คิดว่ามีอานุภาพอย่างไร

*** เห็นเป็นแสงสว่างกระจายออกจากร่างไป 1 ช่วงแขนคล้ายเกราะแก้วใสเป็นประกาย แต่สีเกราะด้านนอกเห็นคล้ายเป็นผนังทองแดง...

*** เมื่อได้เห็นเช่นนี้ ก็แปลกประหลาดใจมาก ไม่เคยเห็นรัศมีของเกราะแก้วแบบนี้(การภาวนาพระคาถาเช่น เกราะแก้วกำแพง 7 ชั้น) ซึ่งเกราะนี้ด้านในใสจนมองเห็นภายนอก...แต่ภายนอกไม่สามารถเห็นด้านในได้...เห็นแต่เป็นผนังสีทองแดงทึบหนาแน่น

*** คิดว่าอานุภาพ...ในการท่องภาวนาคาถานี้ มีอานุภาพมาก...แต่ก็ขึ้นอยู่กับความศรัทธาในแต่ละบุคคลนะครับ

*** เรื่องเล่าสู่กันฟัง...พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม หนอออออออ

(มีเวลาจะมาเล่าเรื่อง "ตราลัญกรโลกแห่งวิญญาณพญามัจจุราช"นะครับ)
.

 

เชิญ ร่วมบุญกระทู้ถวายสังฆทาน ครับ
.
https://palungjit.org/threads/เชิญร...น้าเขียงเป็นสังฆทาน-วันที่-1-2-ก-ค-66.800885/

.

 

ส่วนของเกศาและอัฐิที่อัญเชิญแล้ว กับเรื่องเล่าปนมโน...ลงไว้เมือ..ปี2017

เมื่อคืน หลังจากที่ทำการอัญเชิญเกศา อัฐิ จีวรครูบาอาจารย์ ผสมรวมกันแล้วจำนวน 20 กว่ารูป
ก็พยายามต่อด้วยการทำกรรมฐาน หนอ และกรรมฐานเมตตาใหญ่ ผมใช้เวลาในการทำกรรมฐานประมาณ20-30 นาที
แต่มีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้น คือในระหว่างเดินกรรมฐานในห้องพักอยู่นั้น ผมก็มองไปบริเวณโต๊ะหมู่พระที่ตั้ง สิ่งมงคลทุกอย่างไว้รวมทั้งเกศา อัฐิ จีวร ครูบาอาจารย์รูปต่าง ๆ เพราะผมรู้สึกถูกมองอยู่ และสิ่งที่เห็นแวบ ๆ คือเห็นพระสงฆ์หลายรูปนั่งอยู่ ผมเห็นอยู่นานพอสมควรหลายนาที ก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ และเดินกรรมฐานและอธิฐานจนจบ

และวันนี้ก่อนเที่ยง จึงส่งข้อมูลทาง line ถามท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์ยืนยันว่าตามนั้น และท่านอาจารย์บอกว่า “ถ้าไม่เดินกรรมฐานโดนแน่” แสดงว่าในระหว่างที่ทำการรวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครูบาอาจารย์ ท่านรับรู้และเมตตามาคุมในระหว่างทำด้วย

เล่าแบบมโนๆครับ ตามแต่จะพิจารณาครับ
.
.
ผสมอัฐิเกศาจีวรชานหมากครูบาอาจารย์ กว่า30 รูป เช่นอัฐิหลวงปู่ดู่ ชานหมากหลวงปู่สี ผงสรีระหลวงปู่สี ผงอังคารธาตุหลวงปู่พิศดู เกศาหลวงปู่บุญศรี เกศาหลวงปู่เจี๊ยะ จีวรหลวงปู่แหวน เกศาหลวงปู่หงษ์ เกศาหลวงปู่ทองดำวัดท่าทอง เกศาหลวงปุ่ทองเดินหน เกศาหลวงปู่เทพโลกอุดร เกศาหลวงปู่เกษมเขมโก เกศาครูบาบุญปั๋น เกศาครูบาข่าย เกศาหลวงปู่ฟัก เกศาหลวงปู่จวน ผงน้ำมนต์สรงอัฐิหลวงปู่ศุข ผงอัฐิหลวงปู่ปาน ผงอัฐิหลวงปู่เดิม และอีกหลายองค์
และผงศักดิ์สิทธิ์มากมาย เช่นผงโสฬสมหาพรหม ผงเมตตาใหญ่ ผงวัดระฆัง ผง มหาจักรพรรดิ์ ผงปาฏิหารยิ์หลวงพ่อโสธร ผงสัมฤทธิ์ ผงชานหมากหลวงปู่โต
.

 

#ถวายสังฆทานที่ซอยสายลม วันอาทิตย์ ที่2/7/66
.
โดยในคืนวันเสาร์ที่1/7/66 ได้ทำการสวดมนต์ทำกรรมฐานหนอและกรรมฐานเมตตาใหญ่ บอกกล่าวพระและครูบาอาจารย์และเทพพรหมเทวดา
.
และหลังจากถวายสังฆทานใรวันที่2/7/66 เสร็จช่วงเย็นก็ทำกรรมฐานและสวดมนต์ส่งบุญ อีกครั้ง ตามคำอธิฐานที่ตั้งใจไว้
.
เนื่องจากการถวายสังฆทานครั้งนี้ผมไปดำเนินการคนเดียว...และมีผู้มาทำบุญเยอะจึงเร่งรีบและอาจไม่เหมะสมบางประการ
.
ครั้งนี้ผมเพิ่มการถวายสังฆทานแด่ปู่เซียนครูผึ้งปู่เวสสุวรรณและปู่พญานาคาธิยดีทั้ง9และพระชายา เพื่อขอเมตตาท่านสงเคราะห์ขจัดปัดเป่าอุปสรรคการทำมาหากินในยุคข้าวยากหมากแพง แด่ทุกๆท่านด้วยครับ
.

.........................................

เดือนนี้ไปถวายที่ซอยสายลมครับ สรุปยอดเงิน ร่วมบุญถวายสังฆทาน 12ชุด
.
1.ค่าถวายสังฆทาน แด่ปู่พญายมราชและท่านแม่สุมธินีเทวีเทพอสูร 9 ชุด 500-1ชุด/100-8ชุด = 1300 บาท รวมพระ9นิ้ว-1องค์ พระ5นิ้ว-8องค์
2.ค่าถวายสังฆทาน แด่ปู่เซียนโง้วกิมโควและครูผึ้งและปู่เวสสุวรรณ์และปู่พญานาคอธิบดีทั้ง 9 และพระชายา 100-3ชุด = 300 บาท
3.ค่าซื้อปลาหน้าเขียงไถ่ชีวิต 7 กก.x65 บาท = 450 บาท
4.ร่วมไถ่ชีวิตแม่วัวท้องและลูกวัวโต 2 ชีวิต = 150 บาท......โอนแล้ว
5.ร่วมไถ่ชีวิตควาย 5 ชีวิต = 150 บาท......โอนแล้ว
6.ร่วมบุญพระสงฆ์อาพาธ = 200 บาท
7.ชำระหนี้สงฆ์ = 200 บาท
รวมเป็นเงินข้อ 1-7 = 2750 บาท
8.ค่าน้ำผึ้ง 1 ขวด+นม 1 แพ็ค......ยังไม่รวมค่าใช้จ่าย
......
สรุปรายชื่อผู้ร่วมบุญ ….
1 ในนามปู่พระพิราพ+ปู่มหาพรหมฤาษีจินดามณี+ปู่ฤาษีกไลโกฏิ+ปู่เซียน+ครูผึ้ง 200
2 นายมาศภีมและครอบครัว 200
3
นายพิสิฐ เจียตระกูล +นางปราณี เจียตระกูล+ นางสาวพิสินี เจียตระกูล
300
4 Apisit Nathomtong 58
5 Urai Nontawong 100
6 Suriya Maduang 200
7 Nuttapong Sansap 900
8 ฌัสชาวีร์ สมปัญญา 1000
รวมเป็นเงิน................2958 บาท
.
.

 

สาธุ ขออนุโมทนาสาธุค่ะ

 

องค์พระเจดีย์ศรีอริยะโลกุตตระโลกอุดร(พี่น้อง ลป.โสนะเถระ ลป.อุตระเถระ) อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์

...ลป.โสนะเถระและ ลป.อุตระเถระ เมตตาลงทำพิธีคล้ายโบสถ์ ในคืนจำลองการตั้งยอดเจดีย์ที่ยังไม่ได้บรรจุพระธาตุในพระเจดีย์ เมื่อปี64เพื่อให้ภพภูมิมาอนุโมทนาก่อนวันติดตั้งจริง

บริเวณนี้ เป็นเมืองเก่ารอยต่อการสร้างเมืองศรีเทพ คือ เวียงวิชัยศรีปุระ มีท่านปู่พญานาคนิลกาฬ และ พญาเสือขาว(ลป.เทพโลกอุดร...เลี้ยงไว้) คอยดูแล
.
ก็มีเรื่องเล่าครับ
.