ประมวลพระคาถาและพิธีกรรมของหลวงพ่อ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย softkid9, 20 กรกฎาคม 2014.

  1. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    คาถาต่างๆ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกแ<wbr>ก่ศิษย์นั้น ส่วนใหญ่เป็นคาถาที่ท่านได้<wbr>จากกรรมฐาน และท่านเจ้าของคาถาให้บอกต่<wbr>อได้ ท่านบันทึกไว้ว่า

    “นักเจริญสมาธิถึงอารมณ์ฌาน
    <wbr>และทรงฌานได้ มีประเพณีที่ทราบกันว่า จะต้องเห็นและรับการศึกษาจา<wbr>กท่านที่เป็นอทิสมานกายเสมอ<wbr> จนมีระเบียบว่า เมื่อก่อนจะทำกรรมฐานต้องเต<wbr>รียมกระดาษดินสอไว้ เมื่อท่านบอกอะไรต้องรีบจด อย่าให้ค้างคืนถึงสว่างจะลื<wbr>มคาถาบางตอน ถ้านักทรงฌานไม่พบเรื่องอย่า<wbr>งนี้ จะเป็นเรื่องทรงฌานที่แปลกม<wbr>าก อาจจะเป็นฌานเก๊ก็ได้”

    พิธีกรรมต่างๆที่เนื่องในชี
    <wbr>วิตประจำวัน และเป็นประเพณีไทยแต่เดิมมา<wbr> รวมทั้งพิธีที่เนื่องด้วยพร<wbr>ะพุทธศาสนามีอยู่มาก พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้นำมา<wbr>อธิบายให้ศิษย์ได้เข้าใจถึง<wbr>วัตถุประสงค์ และที่มาของพิธีกรรมเหล่านั<wbr>้น ทำให้ได้เห็นความฉลาดของคนไ<wbr>ทยในอดีต

    นอกจากนี้พระเดชพระคุณท่านย
    <wbr>ังได้สอนวิธีใช้หรือวิธีทำโ<wbr>ดยละเอียด และให้นำไปใช้ให้เกิดประโยช<wbr>น์ในการดำรงชีวิตต่อตนเอง ญาติมิตรและเพื่อนฝูง พิธีกรรมเหล่านี้ยังมีเรื่อ<wbr>งปลีกย่อย และการสงเคราะห์เฉพาะเป็นบา<wbr>งครั้งบางคราวที่หลวงพ่อทำใ<wbr>ห้อีกมาก เช่น การแก้โรคไหลตาย, การป้องกันไฟไหม้บ้าน, การแก้กรรมต่างๆ ฯลฯ เป็นต้น

    คาถาต่างๆที่โบราณาจารย์ทั้
    <wbr>งหลาย ท่านถ่ายทอดให้ศิษย์โดย "มุขปาฐะ" (เป็นการบอกเล่า) ทั้งนี้เนื่องจากเหตุผลหลัก<wbr> ๓ ประการคือ

    ๑. คาถาที่ถ่ายทอดให้เป็นคาถาเ
    <wbr>ฉพาะสำหรับหมู่คณะหรือเฉพาะ<wbr>กลุ่ม เช่น คาถาประจำตระกูล เป็นต้น ซึ่งผู้อื่นนำไปใช้จะไม่บัง<wbr>เกิดผล (เพราะท่านเจ้าของคาถาท่านต<wbr>ั้งเจตนาไว้เฉพาะเช่นนั้น)

    ๒. การใช้คาถาให้บังเกิดผลนั้น
    <wbr> จะต้องมีศรัทธาความเชื่อมั่<wbr>นและคารวะ ความเคารพเป็นพื้นฐาน ดังนั้นถึงแม้คาถานั้นๆจะเป<wbr>็นสาธารณประโยชน์ แต่ถ้าผู้นำไปใช้ไม่มีศรัทธ<wbr>าคารวะ คาถานั้นๆก็ไม่อำนวยผล

    ๓. คาถาจำนวนมากมีที่มาจากองค์
    <wbr>สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพ<wbr>ุทธเจ้าโดยตรง หรือมาจากพระอรหันต์เจ้าและ<wbr>พระอริยบุคคลทั้งหลาย พรหม และเทพยดาทั้งหลาย ดังนั้นถ้าบอกกล่าวกันไปเป็<wbr>นสาธารณะ ก็จะมีผู้ได้ยินได้ฟังที่ไม<wbr>่มีศรัทธาเลื่อมใสอยู่บ้าง ถ้าเขาเหล่านั้นเป็นคนใจพาล<wbr> ตำหนิติเตียนคาถา หรือที่มาของคาถาเหล่านี้ ว่าทำให้ผู้คนงมงายฯลฯ ก็เท่ากับเป็นการปรามาสพระร<wbr>ัตนตรัยโดยตรง มีโทษหนัก

    ดังนั้นการพิมพ์เผยแพร่หรือ
    <wbr>บอกกล่าวคาถาเป็นสาธารณะนั้<wbr>น จึงเป็นดาบสองคม อำนวยประโยชน์ก็ได้ ให้โทษก็ได้ โบราณาจารย์ทั้งหลายจึงไม่เ<wbr>ผยแพร่คาถาเป็นสาธารณะ บอกให้เฉพาะหมู่ศิษย์เท่านั<wbr>้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อของเรา เมื่อท่านจะบอกคาถาให้ใคร ท่านจะกำชับเสมอว่า

    "..อย่าพูดมากไป อาจจะเป็นโทษแก่ผู้อื่นได้.
    <wbr>."

    คำเตือนสำหรับท่านผู้อ่าน
    การนำคาถาและพิธีกรรมต่างๆม<wbr>าประมวลไว้ ณ ที่นี้ ก็เพื่อประโยชน์ของบรรดาศิษ<wbr>ยานุศิษย์ และสาธุชนทั้งหลายที่มีศรัท<wbr>ธาเลื่อมใสในพระเดชพระคุณหล<wbr>วงพ่อท่านเจ้าคุณพระราชพรหม<wbr>ยาน (วีระ ถาวโรมหาเถระ) โดยเฉพาะ ถ้าท่านไม่มีความเชื่อในเรื<wbr>่องเหล่านี้ และบังเอิญมาอ่านพบเข้า ขอให้ทำใจเป็นอุเบกขา หรือให้ข้ามไปเสีย อย่าอ่าน ถ้าท่านอยากอ่านและเมื่อได้<wbr>อ่านแล้วก็ไม่เชื่อไม่เลื่อ<wbr>มใส ก็ขอให้วางใจเป็นกลางอย่าได<wbr>้ประมาทปรามาสล่วงเกินเข้าจ<wbr>ะเป็นโทษ


    [​IMG]

    **************************<wbr>*********

    คาถาคงกระพันชาตรี

    พุทธังคงหนัง ธัมมังคงเนื้อ สังฆังคงกระดูก

    หลวงพ่อให้แก่ทหารนาวิกโยธิ<wbr>น อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี คราวไปเยี่ยมเยียนเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๙

    **************************<wbr>*********

    พระคาถาของสมเด็จพระพุทธกัส<wbr>สป

    หลวงพ่อบอกคาถาบทนี้ เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๒๐ คาถาบทนี้ ท้าวเวสสุวัณ มาให้ ท่านบอกว่าให้สวดมนต์ไว้ทุก<wbr>คืน ก่อนอื่นให้ระลึกถึงบารมีขอ<wbr>งพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ อันมี สมเด็จพระพุทธกัสสป ทรงเป็นประธาน เพราะท่านเป็นเจ้าของพระคาถ<wbr>านี้

    พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย จงวินาศสันติ
    พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ โรคภัยทั้งหลาย จงวินาศสันติ

    บทในบรรทัดที่ ๒ นี้รักษาโรค ท่านบอกว่าเสกน้ำให้กิน เสกอะไรให้กิน เสกข้าวให้กินก็ได้นะ แม้แต่ยาพิษมันก็สลายตัว

    อีกบทหนึ่งของพระพุทธเจ้าอง<wbr>ค์ปัจจุบัน

    ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ

    ทั้ง ๓ บทนี้ ท่านให้สวดพร้อมกันเลย เวลาฉันข้าวก็เสก กลางคืนก็ให้ภาวนาไว้นะ ภาวนาไว้สักครู่ เช้าเย็นอะไรนี่นะ ท่านบอกว่าศัตรูจะพินาศไปเอ<wbr>ง

    สำหรับบทหลังศัตรูทำอะไรไม่<wbr>ได้ จะทำอะไรแล้วเราจะต้องรู้อย<wbr>ู่เสมอ

    บทกลางนะทำลายโรค ไอ้ทำลายโรคนี่ดีใช่ไหม เสกข้าวนะ ข้าวที่เราจะฉัน เสกซะหมด และคนอื่นกินก็เป็นยาไปหมด ให้เป็นยาสำหรับคนอื่นด้วยน<wbr>ะ ดีไหม ถ้าเห็นว่าดี ถ้าคุณจะให้ศึกษานี่นะ ถ้าจะใช้รักษาโรค คุณจะต้องหาดอกบัวมา ๓ ดอก ธูป ๕ ดอก เทียน ๑ เล่ม บูชาขอท่านต่อพระพุทธรูป

    ถ้าใครต้องการจะให้เรารักษา<wbr> ต้องบังคับให้เขาเอาดอกบัวม<wbr>า ๓ ดอกนะ ธูป ๕ เทียน ๑ เล่ม เสกน้ำมนต์ เสกอะไรๆ ให้กินได้ นั่งทำก็ได้ นอนก็ได้ ภาวนาให้เป็นฌาน เป็นฌานในกรรมฐานภายในตัวเส<wbr>ร็จ อย่าลืมนะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เกาะก็ได้ผลเท่ากันเป็นฌาน

    **************************<wbr>*********

    คาถาเสกน้ำล้างหน้าเพื่อเห็<wbr>นอมนุษย์

    ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วว่า "พุทธาโมยะนะ"
    เมื่อเสกน้ำล้างหน้าแล้ว ท่านให้นั่งภาวนาคาถาว่า ดังนี้

    อะสูญ มะสูญ สูญทิพย์สูญ อะพุทธัง ปัจจักขามิ เตติปิภาวัง อุทาสะ โกติมัง ทาเรจะ
    อะสูญ มะสูญ สูญทิพย์สูญ อะธัมมัง ปัจจักขามิ เตติปิภาวัง อุทาสะ โกติมัง ทาเรจะ
    อะสูญ มะสูญ สูญทิพย์สูญ อะสังฆัง ปัจจักขามิ เตติปิภาวัง อุทาสะ โกติมัง ทาเรจะ

    ต้องอธิษฐานขอเห็นก่อนว่าจะ<wbr>พบใคร แล้วจึงจะภาวนา จนจิตถึงอุปจารสมาธิ จึงจะเห็นภาพได้ ท่านให้ไว้เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๘ (ท่านให้ก่อนที่จะมีการฝึกส<wbr>อนวิชามโนมยิทธิ ปัจจุบันได้มโนมยิทธิกันแล้<wbr>ว จึงไม่ได้ใช้คาถากันอีกเลย)

    **************************<wbr>*********

    คาถาของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค

    คาถากันฟ้าผ่า

    อากาเสจะ พุทธทีปังกะโร นะโมพุทธายะ

    คาถากันไฟไหม้ และคาถากันฟ้าผ่านี้ ท่านพิมพ์เป็นใบปลิวแจกในขณ<wbr>ะที่ อยู่วัดสะพาน ท่านพิมพ์ไว้ว่า คาถานี้ของหลวงพ่อปาน ท่านให้บูชาไว้ทุกวันๆ ละ ๓-๕-๗-๙ จบ ท่องทุกเช้าค่ำ จะปลอดภัยจากไฟไหม้และฟ้าผ่<wbr>า

    ต่อมาเมื่อหลวงพ่อมาอยู่ที่<wbr>วัดท่าซุงแล้ว ท่านให้ใช้เฉพาะ “โส นามะ ยักโข” เท่านั้น โดยกล่าวว่า “ให้เขียนเป็นภาษาไทยไว้บนห<wbr>ัวนอน สวดมนต์กราบไหว้อยู่เสมอ ไฟไม่ไหม้ ฟ้าไม่ผ่า และกันนิวเคลียร์นิวตรอนได้<wbr>ด้วย”

    คาถากันไฟไหม้

    พะระโส นามะยักโข เมตตะทันตะ ปะริวาสะโก อสุนีหะเต โหตุ เต ชะยะมังคะลานิ

    คาถามหาอำนาจ

    (ใช้เสกน้ำล้างหน้าทุกวันตอ<wbr>นเช้า แล้วจะมีอำนาจเป็นที่ยำเกรง<wbr>ของคนทั้งปวง)

    เอวัง ราชะสีงโห มะหานาทัง สีหะนาทะกัง
    สีหะนะ เม สีละเตเชนะ นามะ ราชะสีงโห
    อิทธิฤทธิ พระพุทธังรักษา สารพัดศัตรู อะปะราชะยัง
    อิทธิฤทธิ พระธัมมังรักษา สารพัดศัตรู อะปะราชะยัง
    อิทธิฤทธิ พระสังฆังรักษา สารพัดศัตรู อะปะราชะยัง

    คาถาเสกผ้าเช็ดหน้า

    คาถาสำหรับเสกผ้าเช็ดหน้า เสกเช้ามืด ๓ เที่ยว ๗ เที่ยว ๓ คืน อธิษฐานใช้ได้ต่างๆ ผู้ที่เอาไปใช้ห้ามไม่ให้ลั<wbr>ก ไม่ให้ปล้น ไม่ให้กินเหล้า จึงจะมีคุณต่างๆ

    ๑. "วิวีพุทโธอิติ" ภาวนาเวลาหลงทาง เอาหลังพิงต้นไม้ จะเห็นหนทางโดยเทวดานำทางให<wbr>้

    ๒. "เจจะตัง" ทำไส้เทียนจุดกลางฝนไม่ดับ (เป็นคาถาแคล้วคลาด)

    คาถามหาประสานใหญ่ (ของครูผึ้ง อายุ ๑๐๐ ปี)

    วะโรวะรัญญู วาระโท วะราหะโร อะนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ
    (ว่า ๓ เที่ยว ๗ เที่ยว)

    เมื่อจะประสานให้เอาใบตองปิ<wbr>ดบนแผลเสียก่อน แล้วจึงว่าคาถาหลับตาเป่าลง<wbr>ไปในใบตอง (เวลาว่าให้กลั้นใจ) แก้กลิ่นตัวไม่มีอีกด้วย ให้สวดมนต์ไว้ทุกวัน

    คาถาทำน้ำมนต์แก้เวทมนต์คาถ<wbr>า

    นะ คังคัง ปัญจะมัง มะหาสมุททัง สัพพะสิทธัง ภะวันตุ เต
    โม คังคัง ปัญจะมัง มะหาสมุททัง สัพพะสิทธัง ภะวันตุ เต
    พุท คังคัง ปัญจะมัง มะหาสมุททัง สัพพะสิทธัง ภะวันตุ เต
    ธา คังคัง ปัญจะมัง มะหาสมุททัง สัพพะสิทธัง ภะวันตุ เต
    ยะ คังคัง ปัญจะมัง มะหาสมุททัง สัพพะสิทธัง ภะวันตุ เต

    สำหรับทำน้ำมันต์แก้เวทมนต์<wbr>คาถาที่ร้อนรุ่ม ถ้าจะทำให้สำหรับตัวของเราเ<wbr>องให้ว่า "เต" เป็น "เม"

    คาถาอาราธนาพระเครื่องของหล<wbr>วงพ่อวัดท่าซุง

    อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งของ มะอะอุ ณ กาลบัดนี้เถิด
    (ว่า ๓ จบ)

    (ก่อนจะว่าคาถาให้ ตั้งนะโม ๓ จบก่อน แล้วยกพระเครื่องขึ้นพนมมือ<wbr> อาราธนาคาถาตามที่กล่าวแล้ว<wbr> ก่อนจะออกจากบ้านทุกครั้ง)

    คาถาอาราธนาผ้าธงมหาพิชัยสง<wbr>คราม

    พุทธะ สังมิ (ว่า ๓ จบ)

    (เป็นคาถาที่ท่านพิมพ์แจกมา<wbr>นานแล้ว ภายหลังท่านให้ใช้ "อิทธิฤทธิ" แทน แต่ผู้เขียนยังใช้ "พุทธะ สังมิ" ทุกครั้งก่อนเดินทาง โดยเสกน้ำลายกลืนทุกครั้งที<wbr>่ภาวนาคาถานี้)

    คาถาโรยทรายเสก (ของวัดท่าซุง)

    นะโมพุทธายะ

    (ขณะโรย "ทรายเสก" รอบบริเวณบ้าน ให้ภาวนาคาถานี้ไปตลอด โดยก่อนที่จะโรยให้อธิษฐานก<wbr>่อนว่า "ขอให้ผู้มีคุณทั้งหลายที่อ<wbr>ยู่ในเขตนี้ จงอยู่เป็นสุขปราศจากทุกข์ภ<wbr>ัย ส่วนผู้ที่มีภัยก็ขอให้จงออ<wbr>กไปจากบริเวณนี้เถิด")

    (มีคาถาเพิ่มมาจากหนังสือ "สมบัติพ่อให้" โดยนำมาจากหนังสือประวัติขอ<wbr>งวัดบางนมโค ปี ๒๕๒๓)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 297_n.jpg
      297_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.7 KB
      เปิดดู:
      785
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2014
  2. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    คาถาทุกคาถา หรือวิชาอาคมที่ประสงค์จะเรียนนั้น จะต้องอาศัยพื้นฐานคือพลังจิต จิตจะมีพลังได้ก็ต้องมีสมาธิ สมาธินั้นจะเกิดขึ้นได้แต่จากการนั่งภาวนาทำใจให้สงบ วิชาที่จะร่ำเรียนไปจึงจะบังเกิดผลศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีพิบัติภัยตามมา หากเลื่อมใสและศรัทธาต่อครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์ท่านก็จะมาประสิทธิให้สัมฤทธิผล
    กราบในบารมีของครูบาอาจารย์และหลวงพ่อฤาษีด้วยความเคารพและศรัทธายิ่ง
     
  3. daowdeaw

    daowdeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +1,558
    สาธุ กราบอนุโมทนาในพระคาถาที่หลวงพ่อให้ไว้ด้วยความเคารพ
     

แชร์หน้านี้

Loading...