ปฏิบัติหรือทำอย่างไรถึงทำให้จิตใจที่มีแต่ความอิจฉาริษยาลดลงได้

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย makcloud, 10 เมษายน 2015.

  1. makcloud

    makcloud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +535
    สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวพลังจิต
    แต่ก่อนผมไม่ตระหนักว่าตัวเองมีจิตใจที่อิจฉาริษยารุนแรงเพียงใด แต่ในระยะนี้ผมกลับพบว่าตัวเองอิจฉาผู้อื่นรุนแรงขึ้น มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่ในเรื่องความรวยหน้าที่การงาน ความสำเร็จในชีวิต ฯลฯ แต่อิจฉาผู้ที่สมหวังในเรื่องความรัก ผมอิจฉาผู้ที่มีคู่ อิจฉาแม้กระทั่งเพื่อนของตัวเอง คิดมากคิดจนย้อนกลับมามองที่ตัวเองก็ยิ่งฟุ้งซ่านมากขึ้นเรื่อย ๆ คิดแม้แต่ว่าศีล 5 ที่ตัวเองได้รักษามาตลอด 4 ปีนี้ ไม่ได้ให้ในสิ่งที่ผมต้องการเลย กลับโดนผู้หญิงว่าเป็นคนไร้ชีวิตชีวา ไม่อยากอยู่ใกล้ จนผมอยากกลับไปเป็นคนที่ไม่มีศีลอีกครั้ง ซึ่งผมไม่อยากเลย ตอนทำสมาธิก็ไม่มีเรื่องนี้เข้ามากรบกวน แต่ตอนออกจากการปฏิบัติแล้ว เรื่องราวก็วิ่งเข้ามาหาเรื่อย ๆ จนเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่อยากจะออกจากบ้านอยู่แล้ว ผมอยากกลับไปเป็นคนที่ไม่คิดเรื่องอะไรมากมายอีกครั้งครับ แต่การหนีไม่ใช่การแก้ปัญหา ผมอยากหันหน้าเข้าสู้ แต่ไม่รู้จะสู้ยังไงครับ
     
  2. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    1.เมตตาภาวนา ทำไม่ได้ก็ท่องไปก่อนก็ได้ เพื่อให้ไม่ฟุ้งซ่าน
    2. การโดนต่อว่า ว่าไร้ชีวิตชีวา ทำให้คุณหมดความหมั่นใจ ในตัวเอง ใช่ไหมและตั้งที่ใจอยากอยู่ใกล้ แต่ก็กลัวโดนตำหนิ ก็ให้ใช้อุบายหนีไปห่างๆ พระท่านเองก็ยังหนี อย่างหลวงปู่แหวาน
    3.อยากเป็นคนไม่มีศีลเพราะธรรมชาติ ของสูง มักจะไหลต่ำ เขาให้พยายามฝึกดัดตน

    ลองตามดูความฟุ้งซ่านให้ถึงที่สุดว่าจะไปถึงไหน อันนี้เป็นแนวทางปฏิบัติ หลวงปู่ พุธ ฐานิโย

    ถ้าไม่อยากหนี ก็สู้กับตัวเอง ดูความฟุ้งซ่านไป เข้าใจนะว่ามันทำยาก แต่เมื่อเราสู้ได้ 1 ครั้งมันก็เป็นทุน ให้เรามีกำลังใจ สู้ต่อไป การที่ดูอารมณ์ของตัวเองให้ชัด นั้นสมถะเป็นฐานที่มั้นของสติ ทำควบคู่กันไป
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ลุงแมวขาดประสบการณ์ ในเรื่องการอิจฉา
    ริษยา
    เห็นคนอื่นได้ดีมีทรัพย์
    ก็ได้แต่คิดว่าเขาทำบุญกุศลมาดีกว่าเรา

    เห็นตำแหน่งหน้าที่ของเขาเหนือกว่าเราก็คิด
    ว่าเขามีความสามรถสูงกว่าเรา ในเรื่องนั้นๆ

    ความสามารถของเรามีแค่นี้ แค่ไม่ต้องดิ้นรน
    ก็พออยู่พอกิน จะทำกิจอะไรที่ต้องแข่งขันเรา
    ก็ทำไม่เป็น แต่ไม่เคยคิดให้คนอื่นที่รุ่งเรื่อง
    ต้องมาตกต่ำกว่าเรา

    โดยรวมแล้วคือลุงแมวมองว่าบุญใครบุญมัน
    ดีกว่าง่ายดี
     
  4. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    :cool: ต้องตีความให้ชัดก่อนครับ..อิจฉา-ริษยา มีความหมายอย่างไรก่อน
     
  5. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    :cool: รักษาศิลแบบไม่เข้าใจในศิล..สักแต่ว่าแล้วเหมาเอาว่าตนเองมีศิล เฉกเช่นคนที่จะเลิกเหล้า-บุหรี่ นึกจะเลิกก็เลิกเลย ไม่นานก็กลับมาสูบใหม่..
    (k).. บางคนคนเลิกไป2-5ปี แล้วก็กลับมาสูบ-มาดื่มอีก เพราะไม่เห็นโทษของบุหรี่และเหล้า ซึ่งเสมือนเหมือนคุณขณะนี้ที่ รักษาหรือถือศิลแบบ ไม่เข้าใจในศิลเพียงพอ สักแต่ว่า สักแต่ว่า เพียงอยากให้คนอื่นมองตนเองดีแค่นั้น
    :'( หากคุณไม่เป็นดังที่ผมโต้แย้งไว้..คุณจะเข้าใจ บาป-บุญ-กรรม -เมตตา ได้ดีและไม่สนใจหรือแยแสคำที่เขียนว่า.."อิจฉา" เลยสักนิดเพราะคุณจะมีเหตุผลแบบสัมมาทิฏฐินำเลยทีเดียวครับ (อ่านของลุงแมวนั่นแหละ-ผลของศิล)
     
  6. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    คุณต้องมองให้เห็นทุกอย่างไร้ค่าไร้ราคาแล้วคุณจะไม่อิจฉาใครเลย เพราะถ้าใครๆก็ตามมีแต่สิ่งไร้ราคาคุณจะไม่อิจฉาอะไรใครเขาได้.
     
  7. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    การอิจฉาไม่ได้แต่เรื่องทรัพย์สินเงินทองนะครับ. อย่างที่ลุงแมวอิจฉา bigtoo. อยู่นี่ไงครับ
     
  8. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    แล้วมองคนอื่นในเชิงลบโดยที่เราไม่รู้ว่าเขาเป็นอย่างไรคิดอะไรแบบนี้เรียกว่าอะไรครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2015
  9. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    ดูเรื่อง มุทิตา จาก พรหมวิหาร 4 ครับ

    เวลาที่ต้องการลด บางครั้งมันยาก เพราะจิตเราจะไปคอยจับ หรือ คิดถึงแต่อารมณ์นั้น

    ซึ่งอาจทำให้เรามีอารมณ์นั้นมากขึ้น ถ้าไม่รู้เท่าทัน

    ควรใช้วิธี ใช้กรรมฐานที่แก้ไขจุดนั้นได้ โดยปล่อยวางอารมณ์ที่มีปัญหานั้นไปก่อน

    ควรเริ่มจาก เมตตา กรุณา มาก่อน แล้วจึง เจริญ มุทิตา
     
  10. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ฉงฉานละไม่ว่า
    อิจฉาไม่เป็น มองเป็นเรื่องของการสร้างกรรมกับ
    การชดใช้กรรม ของเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย

    ลุงแมวติดแบบลายเซ็นต์อ่านแล้วเข้าใจไหมน่ะ
     
  11. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    (๐) อญฺญาสิ วต โภ (๐)

    "จงพิจารณาให้เห็นความเป็นจริงเถิดว่า"

    "โลกมันกว้างนะ" สหโลกธาตุนั่นด้วย ไปยึดความX++[พอใจ]++Xอะไรของเขาเข้าล่ะ? แล้วตอนนี้รู้ตนเองหรือเปล่าว่าไปยินดีกับการเสวยเวทนานี้หรือเปล่า ถ้าไม่ยินดีก็สลัดออก ไปหาธรรมที่ขจัดปลดบ่วงตามภาวะใดๆนั้นเสีย ธรรมจักรกัปวัฒนสูตรฯลฯ ทรงตรัสสอนไว้แล้ว

    เห็นหรือยัง?

    อิทัง โข ปะนะ ภิกขะเว ทุกขัง อะริยะสัจจัง
    ( ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็นี้แลเป็นตัวทุกข์อย่างแท้จริง คือ )
    ชาติปิ ทุกขา ( แม้ความเกิดก็เป็นทุกข์ )
    ชะราปิ ทุกขา ( แม้ความแก่ ก็เป็นทุกข์ )
    มะระณัมปิ ทุกขัง ( แม้ความตาย ก็เป็นทุกข์ )
    โสกะปริเทวะทุกขะโทมะนัสสุกปายาสาปิ ทุกขา
    ( แม้ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ก็เป็นทุกข์ )
    อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข ( ความประสบพบกับสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์ )
    ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข ( ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์ )
    ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง
    ( มีความปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์ )
    สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา ฯ
    ( ว่าโดยย่อ อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นตัวทุกข์ )

    รู้แล้วทำลายซะ หารจนหาเศษบ่มิได้ อย่าไปคูณไปบวกมัน (แฝง) สิ่งที่เราไปยึดนั้นหากเป็นสิ่งที่เป็น๐สัมมาทิฐิ๐จะเป็นเส้นสายตรงดิ่ง ทอดยาวถึงจุดหมายมีผลในการเจริญเข้าถึงสรรพธรรม แต่ถ้าเป็น#มิจฉาทิฐิ# ก็จะหมุนวนพันกันไปกันมาจับต้นชนปลายไม่ถูกทำให้ไม่มีทางเข้าถึงสรรพธรรมอันเจริญกว่าที่เสวยเวทนาอยู่ได้ อรรถนี้สาธยายโดยพิสดารโดย "เผยให้เห็นวิมุติ แต่ถ้าผู้มีปัญญาธรรมอันสั่งสมมาดีแล้ว จะทราบรส อันสืบเนื่องมาจาก วิมุติรสในพุทธภาษิต ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

    (๐)จงสรรเสริญสิ่งอันควรสรรเสริญยิ่ง(๐)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2015
  12. makcloud

    makcloud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +535
    ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ
    ผมถือศีลเพื่ออะไร? เพื่อไม่ให้ตัวเองไปเบียดเบียนผู้อื่นและเบียดเบียนตัวเอง ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนผมทำอะไรก็ได้ตามใจ ไม่มีอะไรมาขัดขวาง แต่พอถือศีล เรื่องต่าง ๆ ผมก็หยุดลง เหมือนกับตัวเองมีเมตตามากขึ้น สงสารคนอื่นมากขึ้น
    แต่ใครล่ะที่ทำแล้วไม่ต้องการสิ่งตอบแทน นั่นแหละสิ่งที่ผมคิดขึ้นมาในขณะเกิดความรู้สึกต่าง ๆ ขณะมีความคิดด้านลบ ใช่ว่าผมไม่ยินดีที่เพื่อน ๆ ของตัวเองมีความสุข ผมมีความยินดี เขารวย เขาหล่อ เขาพูดเก่ง เขาเก่งในเรื่องต่าง ๆ ที่ผมไม่มีทางทำได้ ผมก็ไม่เคยอิจฉาเขาเลย คิดเหมือนลุงแมวด้วยซ้ำว่าเขาทำบุญมาดีหรือเขามีของเดิม(ความสามารถ)ตั้งแต่ชาติก่อนมามาก ผมอิจฉาแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่ผมตัดมันไม่ขาด ก็คือเรื่องคู่ครองนั่นเอง ไม่ใช่ผมอยากได้แฟนคนอื่น ผมแค่สงสัยว่าตัวเองไม่ดีหรือไง แล้วทำไมคนอื่นถึงหาคู่แท้ของเขาได้ง่ายนัก
    มีเหมือนกัน ที่คนอื่นๆ แนะนำผมว่าการมีครอบครัว มันไม่ใช่เรื่องสนุกสนานออกจะทุกข์ด้วยซ้ำ แต่เรื่องที่ตัวเองขาด และมีความต้องการที่สูงกว่าเรื่องอื่นๆ พอมากระทบเข้า ได้ยิน ได้เห็น ไม่คิดก็ต้องคิด ผมจึงหาทางที่จะทำให้ความอิจฉาลดลง เพื่อที่จะไม่ต้องไปทำร้ายคนอื่น ๆ เข้า ไม่ว่าจะเป็นด้านความคิด(อิจฉา ริษยา)และการกระทำ(คำพูด)
    ผมอายุ 41 ยังไม่เคยมีแฟนแม้แต่คนเดียว ถือเป็นความสัตย์จริง แต่ถ้าผมหาไม่ได้หรือไม่มีก็แสดงว่าผมทำกรรมไม่ดีมาในด้านนี้ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำแนะนำครับ
     
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    อิจฉาคือไม่อยากให้ผู้อื่นได้ดี ได้เจริญงอกงามกว่าตนเอง

    ริษยาคือเห็นคนอื่นได้ดี มีความความเจริญแล้ว
    ไม่มีความยินดีด้วย
    มี จิตใจต้องการ
    ให้เขาสูญเสียล่มจม
    เพราะตนเองทำอย่างเขาไม่ได้

    และไม่เข้าใจความเข้าใจเลยว่า
    ทุกอย่างมีเหตุปัจจัยมาเกื้อหนุนให้เป็นเช่นนั้นๆ
     
  14. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    "จงพิจารณาให้เห็นแจ้งตามนี้เถิด"
    พระนันทะกุมาร
    https://youtu.be/KI2cNJNd4Xk
    ตนเองมีภาวะบุญส่งเสริม ในเนกขัมบารมี ที่ตนเองบำเพ็ญไว้แท้ๆ ที่เป็นเหตุทำให้ไม่สามารถระลึกเข้าใจได้ เพราะผลของอกุศลกรรมนำพา อวิชชาเข้าแทรก รู้หรือเปล่า ฐานะที่น่าสงสารเวทนาน่ะคือผู้ติดรสในการเสวยกามคุณ๕ เธอไปยินดีในสิ่งที่ไม่เที่ยง ไม่มีอยู่จริง ยังไม่อิ่มอีกรึ ถ้าระลึกชาติได้ว่าเคยเป็นใหญ่มีทาสบริวารมากมาย มีนางบำเรอมากสมบัติมาก เธอมีหรือจะพอใจกับชีวิตตอนนี้ ลักษณะทางกายและปัจจัยต่างๆ นั้น สามารถเกิดจากการอธิษฐานจิตเอาไว้ได้ เลือกได้ เอาไม่รวย ไม่หล่อ ในขันธ์๕ น่ะ คนที่ไม่พอใจก็ตัดเฉาะปาดตนเองเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนพอใจเยอะแยะ เพื่อความพอใจ เพื่อให้สมปราถนาในกามคุณแล้ว ก็พร้อมที่จะทำทุกวิถึทางเพื่อให้ได้มาซึ่งการเสวยกามคุณ คนมีบุญเลือกได้ทุกลักษณะเพราะชอบใจในคติที่ปราถนา ไม่ใช่แต่เพียงมีรูปเพราะผลกรรมเพียงเท่านั้น ดั่งท่านพระมหากัจจายนะเนรมิตกาย ฯลฯ เพื่อหวังทดสอบชาติฯลฯ ผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตจริงๆ ไม่ใช่การมีคู่ครองแต่งงาน นี่ หมายถึงรู้จักคุณค่าของชีวิตจริงแล้วน่ะนะ


    อีกอย่างนะ สตรีที่ไม่เห็นธรรม ไม่รู้ธรรม ไม่ใช่คู่บารมีธรรม ไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้หรอก ในมุมกลับ บุรุษก็เช่นเดียวกันย่อมไม่เห็นธรรมในภรรยา ผัวผีเมียเทวดาเยอะแยะไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2015
  15. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ตรงนี้ฟังดูแปลก ๆ คล้ายกับว่า "การถือศีลของคุณ เป็นการ ติดสินบนประการหนึ่ง" มีการต่อรองว่า "ฉันถือศีล 5 ฉันต้องได้บางอย่างตอบแทน" แปลกดี

    +++ คล้ายกับว่า สำหรับคุณแล้ว "การถือศีลทำให้ไร้ชีวิตชีวา แต่ถ้า ไม่มีศีล จะมีชีวิตชีวายิ่งกว่า" ยังไงแปลก ๆ

    +++ ดู ๆ แล้ว เรื่องทั้งหมด ถ้าคุณจะสู้ ก็ต้อง "สู้ให้ชนะตนเอง" นั่นแหละ

    +++ อันดับแรก "ศีล" มีไว้สำหรับ "รักษากายใจ" ไม่ได้มีไว้ให้ "ต่อรอง"

    +++ "ศีเลนะสุขะติงยันติ" ศีลนำสุขมาให้ ไม่ใช่ "ถือศีลแล้วทำให้ไร้ชีวิตชีวา" คุณควร "ทำความเข้าใจ ศีล เสียใหม่" ให้ถูกต้อง นะครับ
     
  16. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ลองมองตรงอื่นสิครับ เช่น เงินน่ะมีมั้ย https://www.youtube.com/watch?v=ED3hlFJTZ68 (deejai) ไม่น่าเกี่ยวกับที่ จขกท. มีศีลแล้วผู้หญิงไม่รักนะ .... ผู้ชายไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ขยันหมั่นเพียรทำการงาน รักครอบครัว ญ. สมัยนี้ต้องการนะ
     
  17. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ลุงแมวเปลี่ยนลายเซ็นเมื่อไรอ่ะ?ไม่ทันสังเกต:cool::cool::cool:
     
  18. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    แบบลวยเซ็นต์. แค่สลอะ. ยังข้ามไม่ได้จะเหนือธรรมชาติได้อย่างไร โม้จังงงง
     
  19. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    "คู่บารมี"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    คนส่วนใหญ่มักพูดติดปากว่า..ธรรมะ คือธรรมชาติ
    แต่จริงๆแล้วนั้น.ธรรมะ.ต้องเหนือธรรมชาติ
    ถึงจะเป็นธรรมะที่เที่ยงแท้ และแน่นอน ขอการันตี:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...