บุญถึงพร้อม 3 ขณะ

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย deneta, 24 สิงหาคม 2011.

  1. deneta

    deneta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,712
    ค่าพลัง:
    +5,723
    [​IMG]
    วิธีทำบุญ
    (โดย แม่ครูนราวรรณ กุลธรชุติภาส)
    การทำบุญนั้นจะต้องถึงพร้อม 3 ขณะ ตั้งแต่คิด ขณะทำ และหลังจากทำแล้ว ใจต้องผ่องใส อิ่มใจ, สดชื่น ฯลฯ
    เรียกว่าถึงพร้อม 3 ขณะ บุญชนิดนี้จึงจะมีกำลังในการส่งผล อาจจะสงสัยว่าบุญส่งผลอย่างไร ? เมื่อไหร่ ?
    [​IMG]
    บุญเริ่มส่งผลตั้งแต่คิด …จนถึงทุกครั้งที่ระลึกได้พร้อมกับความ สุขใจ, อิ่มใจ, ผ่องใส ฯลฯอย่างใดอย่างหนึ่ง
    บุญแม้เพียงครั้งเดียว เมื่อถึงพร้อม 3 ขณะ บุญนั้นจะให้ผลไม่มีที่สิ้นสุด
    ทุกครั้งที่ระลึกถึงบุญได้พร้อมกับความรู้สึกสุขใจ ฯลฯ นั่นแสดงว่าบุญให้ผลแล้ว ความสุขใจเป็นผลจากการทำบุญ
    เป็นบุญที่เกิดจากใจ บุญที่เกิดทางใจส่งผลให้กายกระปี้กระเปร่า ความกระปี้กระเปร่าเกิดจากความสุขใจ
    เมื่อมีความสุขใจสุขกาย จิตใจย่อมปลอดโปร่ง คิดทำการงานสิ่งใดย่อมสะดวกสบาย ไม่ติดขัด หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
    ความสุขใจทำให้เกิดความเบา เป็นความเบาของกาย - ใจ ความเบาทำให้เกิดความรู้สึกอยากทำความดี เมื่อมีความคิดที่ดี
    การแสดงออก กิริยาอาการต่าง ๆ การพูดจาก็ดีไปด้วย เมื่อมีผู้พบเห็นได้พูดคุยก็พลอยได้รับบุญไปด้วย
    บุญชนิดนี้เป็นบุญที่มีกำลังแรงมากให้ผลไม่มีที่สิ้นสุด เป็นบุญที่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งของตนเองและผู้อยู่ใกล้ได้

    เมื่อมีโอกาสเข้าถึงบุญแล้ว ความปรารถนาต่าง ๆ จะมีกำลังในการส่งผล เพราะผลของความดี ( กุศล )
    ต้องอาศัยความเบาช่วยหนุน บุญทำให้จิตเบาความเบาของจิตง่ายต่อการทำความดีจิตเข้มแข็งไม่ตกต่ำ
    เมื่อขาดความเบาจึงต้องหาโอกาสทำบุญเพื่อให้จิตผ่องใส เข้มแข็ง ความดีต้องอาศัยความเบาของจิต
    ในทางตรงกันข้ามผลฝ่ายอกุศลต้องอาศัยความหนักของจิตช่วยหนุน ความหนักความเบาของจิตจึงเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน
    ความหนักเบาของจิตมีผลต่อพฤติกรรม พฤติกรรมแตกต่างกันมาก เกิดจากความหนักเบาของจิตที่แตกต่างกันมาก
    เมื่อมีโอกาสเข้าถึงบุญทั้ง 3 ขณะ จึงควรใช้พฤติกรรมบุญเข้าช่วย ด้วยการสร้างบรรยากาศของบุญให้มีกำลังจนเกิดเป็นพลัง ( ดูวิธีสร้างพลัง )
    พลังบุญมีลักษณะ ละเอียด ผ่องใส สดชื่น อ่อนโยน อบอุ่น เข้มแข็ง ฯลฯ ช่วยทำให้บ้านสงบ สะอาด น่าอยู่ เหมือนได้พักผ่อนอยู่ตลอดเวลา
    จิตที่ได้รับการพักผ่อนเต็มที่จะเกิดความเข้มแข็งในการทำความดี
    [​IMG]
    แล้วบุญเริ่มต้นได้อย่างไร?
    ก่อนทำบุญต้องมีความศรัทธา ศรัทธาในพระพุทธ ศรัทธาในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ศรัทธาในคำสั่งสอนของพระองค์ พระองค์ทรงสอนให้เป็นคนดี มีสัมมาคารวะ รู้จักแยกแยะ ผิด ชอบ ชั่ว ดี รู้จักครองตน
    รู้จักเสียสละ เสียสละความสุขส่วนตัว เสียสละปัจจัย เสียสละกิเลสที่อยู่ในใจ เพราะรู้จักเสียสละ ( ทำบุญ ) ศาสนาพุทธจึงยัง
    คงตั้งอยู่จนถึงทุกวันนี้ คำสอนของพระองค์จึงยังมีอยู่ ทำให้มีโอกาสได้ฟังธรรมะตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงที่สุด
    [​IMG]
    เมื่อมีความเข้าใจแล้วคิดจะทำบุญเมื่อไร บุญจึงเกิดในทันที เมื่อบุญเกิดขึ้นแล้วต้องรักษาบุญเอาไว้ด้วย
    เหตุที่ทำบุญแล้วไม่เกิดความรู้สึกได้บุญ เป็นเพราะขาดความเข้าใจอย่างหนึ่ง อยากเห็นเป็นรูปธรรมเร็ว ๆ
    อีกอย่างหนึ่ง ต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า รูปธรรมเป็นของหนัก เพราะฉะนั้นบุญจึงต้องอาศัยนามธรรม
    ซึ่งเป็นของเบา เมื่อบุญที่เกิดจากจิตมีกำลังมาก หรือที่เรียกว่า " พลังจิต" ยังส่งผลให้เป็นรูปธรรมทั้งชาตินี้
    และชาติต่อ ๆ ไป เมื่อต้องการตั้งจิต ให้ตั้งจิตอยู่ในบรรยากาศบุญ บุญจะมากหรือน้อย
    ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความมากน้อยของวัตถุสิ่งของ แต่ขึ้นอยู่กับกำลังความผ่องใส ความเบาของจิต
    [​IMG]
    วิธีอธิษฐานจิต
    เมื่อมีโอกาสนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ถือเสมือนหนึ่งอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์
    ขณะอธิษฐานให้น้อม ด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ผู้ขอซึ่งสร้างบุญกุศลมาเพียงน้อยนิดจึงต้องระมัดระวังขณะตั้งจิตอธิษฐาน
    ให้ทำความรู้สึกพร้อมกับเปิดใจหรือบรรยากาศน้อมรับ ด้วยอานุภาพของพระองค์ ทำให้จิตใจรู้สึกสงบ เยือกเย็น
    หากมีปีติเกิดขึ้น เช่น มีอาการไหวๆ อิ่มใจจนเกิดความรู้สึกว่าตัวใหญ่ขึ้นๆ หรือเล็กลงๆ ใจพองโต ตัวเบาหวิวคล้ายจะลอยได้
    มีอาการคล้ายตัวสั่น ซู่ซ่าระยิบระยับ น้ำตาไหลพราก ขนลุกซู่เป็นระยะ ตื่นเต้น หรืออาการเย็นสะท้าน ฯลฯ
    เมื่อมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นให้นิ่งอยู่ในความรู้สึก จนกว่าอาการต่าง ๆ จะหายไป เมื่ออาการต่าง ๆ สงบให้ตั้งจิต
    ก่อนตั้งจิตอธิษฐานต้องมีเป้าหมายชัดเจน ปรารถนาสิ่งใด ? เพื่อประโยชน์อะไร ? ขณะอธิษฐานต้องชัดเจน
    ไม่สับสน วกวน และต้องเข้าถึงบรรยากาศของคำอธิษฐานนั้น จะต้องอธิษฐานด้วยใจ ไม่ควรอธิษฐานด้วยปาก
    และต้องอธิษฐานอยู่ในบรรยากาศของความเข้าใจและนอบน้อม เมื่อมีความสว่างปรากฏขึ้นมา ให้ยกจิตขึ้นสู่แสงสว่าง
    เพื่อเพิ่มกำลังให้คำอธิษฐาน ให้มีความหนักแน่น มั่นคง และให้ผลเร็วยิ่งขึ้น หลังอธิษฐานแล้วยังต้องจำให้ได้อย่างแม่นยำ
    หากไม่ใส่ใจหรือจำไม่ได้ คำอธิษฐานนั้นจะให้ผลช้า หรืออาจจะไม่ให้ผลเลยก็เป็นได้ เมื่อปรารถนาให้คำอธิษฐานสัมฤทธิ์ผล
    ยังต้องอาศัยการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจึงจะครบองค์ประกอบ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2011
  2. ดอกสร้อย

    ดอกสร้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,842
    ค่าพลัง:
    +4,893

    "น้ำตาไหลพราก ขนลุกซู่เป็นระยะ ตื่นเต้น หรืออาการเย็นสะท้าน ฯลฯ "
    เพิ่งจะทราบว่าพอสงบนิ่งแล้วให้อธิฐานต่อ ขอบคุณๆ สำหรับบทความดี ๆๆ
     
  3. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
    ในบุญกุศลทุกอย่างกับทุกท่านด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
     
  4. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
    ในบุญกุศลกับทุกท่านด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
     
  5. bangsaennitting

    bangsaennitting สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +24
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ
    กมฺมุนา วตฺตตี โลโก : สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...