บุคคลผู้ต้องไปอบายแน่นอนเป็นพวกไหน?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย TupLuang, 18 กันยายน 2008.

  1. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    <DD>ถาม อยากทราบว่า บุคคลผู้ต้องไปอบายแน่นอน โดยแก้ไขไม่ได้นั้นเป็นพวกไหนครับ <DD> </DD>

    <DD>ตอบ เราต้องเป็นผู้รับทุกข์ในวัฎฎะเพียงลำพัง และยังต้องไปตามอำนาจของกรรมที่ตนทำเอง นึกดีไปดี นึกไม่ดีไปไม่ดี นั้นเป็นเรื่องที่ใครก็ช่วยไม่ได้นะคะ ในอารมณ์สุดท้ายนั้น เพราะจิตจะจับอารมณ์อะไร ขึ้นอยู่กับความสันทัดและกรรมที่ตนเองทำ

    แต่ในบุคคล ๕ จำพวกนี้ แรงกรรมมีมากและหนัก จนไม่สามารถแก้ไขได้เลยค่ะ ก็ได้แก่ บุคคลผู้ฆ่ามารดา ๑ ผู้ฆ่าบิดา ๑ ผู้ฆ่าพระอรหันต์ ๑ ผู้มีจิตประทุษร้ายพระตถาคตให้ข้อพระโลหิต ๑ ผู้ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน ๑ ซึ่งเป็นบาปหนักที่สุด มีที่ไปคือไปอบาย ต้องไปนรก เดือดร้อน แก้ไขไม่ได้ค่ะ


    <DD>

    <DD>ถาม มีคนหนึ่งในสายตาผู้อื่น ๆ จะเป็นคนที่ใจบุญ ทำบุญ นั่งสมาธิ สวดมนต์ภาวนา แต่คนทำงานด้วย หากเป็นเด็กกว่า ก็จะถูกวางอำนาจว่าฉันนี่มีอำนาจนะใหญ่โต และเป็นคนที่ชอบเอาเรื่องที่คนอื่นนินทานายไปฟ้องให้คนของนายฟัง ทำงานร่วมกับคนอื่นก็ว่าเป็นผลงานตัวเอง ทำตัวให้ยุ่งว่ามีงานมากมาย ดุว่าบุพการี ชอบให้ร้ายคนอื่น แต่ชอบสร้างภาพว่าเป็นคนใจบุญสุนทาน รักษาศีลนั่งสมาธิสวดมนต์ อย่างนี้เรียกว่าคนปฏิบัติธรรมหรือไม่


    <DD>ตอบ สวัสดีค่ะคุณผู้ใช้ชื่อว่าสงสัย คำถามเช่นนี้เป็นคำถามที่มองออกไปยังผู้อื่นทั้งนั้นโดยไม่มองตนเองเลย จึงอยากจะบอกคุณว่า..คุณรู้ได้อย่างไรว่า เขานั้นๆไม่ประพฤติธรรมจริงเหมือนเสแสร้งอย่างนั้นในเมื่อเราเองก็ไม่มีอภิญญาจิตหยั่งรู้ใจใครได้


    <DD>อยากจะแนะนำสักนิดค่ะว่า การมองคนอื่นไม่ดีนั้นจิตเราเองนั่นละไม่ดีแน่นอน และการที่อาจกล่าวหาเขา ว่าเขา เราไม่รู้เลยว่าอดีตชาติเขาอาจเป็นผู้มีพระคุณต่อเราก็ได้ หรือไม่เขาคนนั้นอาจอธิฐานเป็นพระพระพุทธเจ้าก็เป็นได้ใครจะรู้ จึงไม่ควรว่าใครเลยจะปลอดภัยกว่าค่ะ ด้วยการหันมามองตัวเองดีกว่าค่ะ ไม่เสี่ยงและปลอดภัยดี


    <DD>ถ้าเขาทำไม่ดีจริงก็เป็นบาปของเขาเอง อย่าเอาเราไปข้องเกี่ยวและบาปโดยไม่รู้ตัวจะดีที่สุดหยุดที่ตนปลอดภัยเสมอ </DD>

    <DD></DD>ถาม เวลาเราไปทำบุญให้คนอื่นแทน เช่น ไปถวายสังฆทานแทนพ่อ/แม่/พี่น้อง/ลูกหลาน ที่ยังมีชีวิตอยู่ ใครจะได้บุญค่ะ แล้วเวลาเราไปถวายถ้าเกิดมีสงฆ์เพียงรูปเดียวก็ได้ใช่ไหมค่ะ เพราะเราไม่ได้เจาะจงถวายให้แก่รูปไหน รบกวนด้วยน่ะคะขอบคุณค่ะ



    <DD>ตอบ ที่ถามมาว่า...เวลาเราไปทำบุญให้คนอื่นแทน เช่น ไปถวายสังฆทานแทนพ่อ/แม่/พี่น้อง/ลูกหลาน ที่ยังมีชีวิตอยู่ ใครจะได้บุญนั้น.. ผู้ที่ทำค่ะเป็นผู้ได้บุญกุศลนั้นแน่นอนค่ะ และถ้าผู้ที่เราต้องการให้ได้รับนั้นยังมีชีวิตอยู่ ถ้าท่านนั้นได้รับทราบและร่วมอนุโมทนาในกุศลที่เราทำละก็ ท่านก็ได้รับผลของบุญกุศลนั้นด้วยคะ แต่ท่านเหล่านั้นต้องมีใจยินดี คือร่วมอนุโมทนาด้วยนะคะถึงจะได้


    <DD>การถวายสังฆทานนั้นถ้ามิได้เจาะจงพระองค์ใดองค์หนึ่งก็เรียกว่าสังฆทานได้เหมือนกันค่ะ แต่ถูกต้องตามพระวินัยที่สุดคือพระรูปนั้นท่านต้องได้รับฉันทานุมัติจากที่ประชุมสงฆ์ด้วยนะคะว่าให้เป็นตัวแทนมารับสังฆทาน ซึ่งเป็นทานที่มีผลมากด้วยค่ะ


    <DD>ส่วนการที่พ่อแม่พี่น้องเป็นเจ้าของเครื่องสังฆทาน คือ เป็นผู้จัดหามา แต่ไม่ว่างหรือติดภารกิจไม่สามารถกระทำทานได้ด้วยมือของตนเอง การทำทานนั้นจัดว่าไม่สมบูรณ์ในมุญจเจตนา(เจตนาในขณะกระทำ) เพราะไม่ได้ทำด้วยมือของตนเอง แต่มิใช่ว่าจะมิได้กุศลนะคะ ...ได้กุศลเช่นกันแต่เป็นกุศลคนละแบบกับการถวายพระสงฆ์ ... แต่สำหรับผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ไปกระทำแทนนั้น ถ้าหากทำส่งๆไปแบบไม่ตั้งใจ..กุศลก็เกิดน้อยเช่นกัน...แต่อย่านำไปเปรียบเทียบกันเลยนะคะ เดี๋ยวจะกลายเป็นความโลภในการต้องการผลบุญไปเสียเปล่าๆ


    <DD>เพียงแต่ในทุกคราวที่จะทำกุศลนั้น ขอให้ตั้งใจทำด้วยความเคารพในการกระทำทาน ทั้งก่อนทำ ขณะกำลังทำ และภายหลังกระทำแล้ว(เช่น การกรวดน้ำ) ...กุศลที่เกิดขึ้นย่อมมีความสมบูรณ์มากค่ะ <DD> <DD>

    <DD>ถาม อยากทราบว่า ที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าท่านทรงตรัสว่า น้ำตาของผู้ท่องเที่ยวไปมา ในวัฎฎะนั้นมีมากกว่าน้ำในมหาสมุทรนั้น เนื้อความเป็นอย่างไรครับผม ?


    <DD>ตอบ เนื้อความเป็นเช่นนี้นะคะ พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย แล้วได้ตรัสว่า...


    <DD>ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ พวกเธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน น้ำตาที่หลั่งไหลของพวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมา คร่ำครวญร้องไห้อยู่ เพราะประสบสิ่งที่ไม่พอใจ เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจ โดยกาลนานนี้ กับน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ สิ่งไหนจะมากกว่ากัน

    ภิกษุเหล่านั้นทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกข้าพระองค์ ย่อมทราบธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงแล้วว่า น้ำตาที่หลั่งไหลออกของพวกข้าพระองค์ ผู้ท่องเที่ยวไปมา คร่ำครวญร้องไห้อยู่ เพราะการประสบสิ่งที่ไม่พอใจ เพราะการพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจ โดยกาลนานนี้แหละมากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย



    <DD>ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถูกละ ๆ พวกเธอทราบธรรมที่เราแสดงแล้วอย่างนี้ ถูกแล้ว น้ำตาที่หลั่งไหลออก ของพวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมา โดยกาลนานนี้แหละมากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย


    <DD>พวกเธอได้ประสบมรณกรรมของมารดาตลอดกาลนาน น้ำตาที่หลั่งไหลออกของเธอเหล่านั้น ผู้ประสบมรณกรรมของมารดา คร่ำครวญร้องไห้อยู่ เพราะประสบสิ่งที่ไม่พอใจ เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจนั่นแหละมากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย


    <DD>พวกเธอได้ประสบมรณกรรมของบิดา ของพี่ชายน้องชาย พี่สาวน้องสาว ของบุตร ของธิดา ความเสื่อมแห่งญาติ ความเสื่อมแห่งโภคะ ได้ประสบความเสื่อมเพราะโรค ตลอดกาลนาน น้ำตาที่หลั่งออกของพวกเธอเหล่านั้น ผู้ประสบความเสื่อมเพราะโรค คร่ำครวญร้องไห้อยู่ เพราะประสบสิ่งที่ไม่พอใจ เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจนั่นแหละมากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย


    <DD>ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้


    <CENTER>[​IMG]



    http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew&topic=11448</CENTER>
    </DD>
     
  2. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ที่นำสาระ ดี ๆ มาให้อ่านครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p



    _____________________________<O:p</O:p
    เชิญร่วมบริจาคหนังสือ เข้าห้องสมุดชุมชนวัดย่านยาว<O:p</O:p
    http://palungjit.org/showthread.php?t=130823<O:p</O:p
     
  3. โสภา จาเรือน

    โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,013
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,332
    อนุโมทนาสาธุบุญ

    สายลมห่มดินฟ้า
     
  4. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG]ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...
     
  5. ปัจเจกพุทธะ

    ปัจเจกพุทธะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +121
    อายันตุ โภนโต อิธะ ทานะ สีละ เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจาธิฏฐานะเมตตุเปกขา ยุทธายะ โว คัณหะถะอาวุธานีติ.
    ดูก่อนพระบารมีทั้งหลาย ขอเชิญพระบารมีคือ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิฐานะ เมตตา และอุเบกขา จงมาที่นี่โดยเร็วพลัน แล้วพากันถือเอาอาวุธ เพื่อยุทธ์กับพญามาร (กิเลส) เถิด.
    อนุโมทนาครับ.
    บริจาคเงินช่วยวัดพระบาทน้ำพุ
    โทร.1900-222-200 6บาท/นาที
     
  6. วุ่นวือ

    วุ่นวือ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +11
    หวาดดี ครับ ทุกคน ผม เป็นน้องใหม่นะ ครับ ยังไงก็ช่วยให้คำสอนด้วยนะ ครับ

    เมื่อจิตใจเรามีทุกข์ สิ่งเดียวที่เป็นที่ได้ คือ ธรรมะ ครับ
     
  7. Bill PEA31

    Bill PEA31 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +417
    กรรมแห่งการฆ่าบิดา มารดาหนักมากจริง เคยได้ยินเรื่องเล่าว่า มีแม่คนหนึ่งได้พาลูกชายไปวัด ตั้งใจจะให้ลูกชายนั้นบวชเพื่อบรรเทากรรมที่ได้ฆ่าบิดา แต่ด้วยกรรมนั้นหนักมากทำให้เมื่อลูกชายของหญิงนั้นเข้าเขตพุทธาวาท แล้วเกิดความรู้สึกร้อนทั้งกายและใจเป็นอย่างมาก ทำให้เขาไม่สามารถบวชได้ จากผลแห่งกรรมแห่งการฆ่าบิดา และผลแห่งกรรมนั้นย่อมส่งให้ไปนรกภูมิแน่นอน
     

แชร์หน้านี้

Loading...