บวชมาต้องมาละมาวาง ปฏิบัติธรรมเพื่อละเพื่อวาง : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Nana nora, 23 เมษายน 2023.

  1. Nana nora

    Nana nora สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +68
    #บวชมาต้องมาละมาวาง ปฏิบัติธรรมเพื่อละเพื่อวาง

    “...๕ มาสก ๑ บาท มันก็ตกนรกเพราะขาดจากการเป็นพระภิกษุแล้ว ถ้ามีเจตนาลามก คือไม่คิดที่จะให้แต่เพียงใช้วาจาว่าขอยืม ๕ มากส ๑ บาทไทย พระก็ขาดจากการเป็นพระภิกษุ ปาราชิก ฆ่ามนุษย์ ลักของขโมยของเขาในราคา ๕ มาสก เสพกามพระมีเมียพระเสพกาม จะเสพกับผู้ชายก็ตามเสพกับผู้หญิงก็ตามเสพกับสัตว์เดรัจฉานก็ตาม องคชาตเข้าไปเพียงเมล็ดงา พระรูปนั้นต้องปาราชิกไม่ต้องเปล่งวาจาลาสิกขา ขาดจากการเป็นพระภิกษุทันที ทันที อวดอุตริมนุสธรรมว่าตัวเองมีฌานมีญาณมีฤทธิ์มีเดชมีอานุภาพโดยที่มีเจตนาหลอกลวง ว่าตัวเองเป็นโสดาสกิทาคาอนาคาและอรหันต์เมีเจตนาลวงโลกอวดอุตริมนุสธรรม ผู้นี้ต้องปาราชิกไม่ต้องกล่าวคำลาสิกขา ขาดจากการเป็นพระภิกษุ “อะสังวาโส หาสังวาสไม่ได้” ลองคิดดูสิ

    จะบอกว่าข้าพเจ้าคือโสดาสกิทาคาอนาคาอรหันต์...ไม่ได้ ต้องบอกว่าเราปฏิบัติธรรมเพื่อมรรคเพื่อผลนั่น เพื่อโสดาสกิทาคาอนาคาและอรหันต์มันไปตามนั้น และสิ้นสงสัย ไม่คิดที่จะกลับมาเกิดอีกเพราะมันทุกข์ เป็นชาติสุดท้ายเราไม่กลับมาเกิดอีก เกิดมาก็มาแก่มาเจ็บมาตายนั่น มันไปอย่างงั้นเพราะมาเป็นทาสของขันธ์มาเป็นทาสของร่างกายใช่อย่างงั้น ต้องพามันอยู่พามันกินพามันขี้พามันเยี่ยว หนาวก็หาผ้าห่มให้มันร้อนก็ลมพัดวีให้มัน เอ้า...เอาแล้วมันเจ็บไข้ได้ป่วยก็ โอ...ทุรนทุรายกับมัน กลัวมันจะตายหาหยูกหายาให้มันกินนั่น เราเป็นทาสของร่างกายจะกลับมาเกิดอีกเหรอ กลับมาเกิดก็มาเป็นทาสของมันอยู่อย่างงี้ ถ้าไม่ได้อย่างงั้นมันก็บีบหัวใจตรงนั้นจะเป็นจะตายกับมัน

    เนี่ยความสำออยมันก็เกิด เมื่อความสำออยเกิดมันก็ยึดขันธ์ เมื่อมันยึดขันธ์ภพชาติย่อมมีนั่นมันเป็นอย่างงั้น มายาทิ้งไม่ได้ ทิ้งมายาไม่ได้ อุปทานตัวยึดมั่นถือมั่นในขันธ์มันก็เกิดนั่น เดี๋ยวนี้พวกเราก็เลยมาเป็นทาสของร่างกาย ธาตุของรูปนี้ มีหูมีตามีจมูกมีทวารหนักทวารเบาแล้วแต่นี่เรียกว่าเป็นรูปเป็นร่างแห่งมนุษย์เราก็เลยมายึดมัน แล้วเป็นทาสของมัน เราเลี้ยงวัวเลี้ยงควายเราก็เป็นทาสของมันต้องไปหาหญ้าต้องไปหาของมาให้มันกิน เออ...เอาไว้ในคอกกลัวมันไม่อ้วนพี นี่อุปทานยึดมั่นถือมั่นภายนอก อุปทานยึดมั่นถือมั่นในตัวตนเราเขานั่นตัวนี้หนักสาหัสสากรรจ์ ของข้าของกูตัวกูตัวเขาตัวเรามันเกิดปั๊บ ถ้าไม่ได้ดั่งใจปรารถนามันก็จะเป็นจะตายเกิดทิฐิมานะนั่น งุ่นง่านเกิดขึ้นแต่ก็ต้องดูแลมัน ไม่ดูมันก็ไม่ได้อีก มันก็เป็นหน้าที่ต้องดูแลมันแต่ถ้าดูแลโดยธรรมตัวนี้พออยู่ได้ รู้เขารู้เราพิจารณาไตร่ตรองไปเรื่อยๆๆเกิดความนิพพิทาเบื่อหน่ายไปเรื่อยๆมันก็มีความสุข วางไปเรื่อยๆนี่

    บรรพชาบวชมาต้องมาละมาวางไม่ได้ว่าบวชมาเพื่อจะเอานู่นเอานี่ ปฏิบัติธรรมเพื่อละเพื่อวางโลภโกรธหลงทิฐิมานะในหัวใจดวงนี้ไม่ได้ปฏิบัติธรรมเพื่อเอานู่นเอานี่ เดี๋ยวนี้มันเป็นนั่นมันเป็นนี่ก็ละมันออกไปวางมันออกไปนั่น สติปัฏฐาน ๔ กายเวทนาจิตธรรม ตัวนี้เป็นทางอันเอกที่จะฆ่ากิเลสเปรตผี คืออุปทานตัวยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นเราเป็นเขานี้ได้อย่างถาวรและไม่กลับมาเกิดอีกนี่ทางเดินของมันอยู่นั่น แต่พวกเราไม่เข้าใจสิใช่ไหมล่ะ บวชมามีแต่จะเอาๆ มีแต่จะเอาๆๆ ของกูของกูนั่นเป็นอย่างงั้น จิตมันยึดมันถือจะบรรพชาหรือไม่บรรพชามันก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันด้วยอุปทานตัวยึดมั่นถือมั่น เมื่อบรรพชามาแล้วก็พึงละโลภโกรธหลงทิฐิมานะละทุกสิ่งทุกอย่างที่มันยึดมั่นถือออกให้ได้

    ถึงเวลาก็เดินจงกรมนั่งภาวนา ถึงเวลาก็ทำกิจวัตร ถึงเวลาก็พักผ่อน รู้การที่คนไม่ควรผู้นี้ก็จะสง่างามเบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลายที่สุด ว่าตัวเองยังไม่พร้อมยังไม่ดีเปรียบตัวเองเป็นผ้าขี้ริ้ว ผู้นี้จะสง่างามเบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลายที่สุด นี่ไม่ยึดมั่นถือมั่นในขันธ์นี้อยู่ดูแลกันไปโดยธรรมๆ
    ผู้ปฏิบัติผิดมันก็เป็นคนละแบบหน้ามือเป็นหลังมือของกูตัวกูกูไม่ผิดกูถูกอะไรของกูตัวกูกูจะเอานี้ กูจะเอาสมาธิกูจะเอาฌานจะเอาญาณกูจะเอานั้น กูไม่ผิดสักอย่าง การอ่อนน้อมถ่อมตนไม่มี ผู้ที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนได้ก็ต้องมีวัตรปฏิบัติ มีกิจวัตร มีวัตรปฏิบัติกับครูกับบาด้วยความเคารพ มีความรู้สึกว่าเราไม่ดีทั้งนั้น น้อมเข้ามาสู่ใจของตัวเองเราไม่ดีเรายังไม่พร้อม ไม่สามารถบังคับโลภโกรธหลงทิฐิมานะความไม่พึงพอใจคนนั้นคนนี้ได้ เรายังไม่พร้อมนี่มีสติรู้ตัวอยู่บังคับขู่เข็ญใจของตัวเองให้เคารพในครูในบาในผู้ที่มีพรรษาเหนือกว่าที่ท่านทรงธรรมทรงวินัยในหลักธรรมหลักวินัยคือพระพุทธเจ้าที่วางไว้เป็นแบบเป็นแผน...”

    พระธรรมเทศนา : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
    วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
    ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๕
    3.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...