บทเรียนก่อนตาย..โดย หลวงพ่อปราโมทย์ (ถอดเสียงเทศน์เมื่อวันพฤหัสที่ 3 กันยายน 2009)ค่ะ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย esmilunda, 10 กันยายน 2009.

  1. esmilunda

    esmilunda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +50
    <B>หุ หุ ขออำภัยมิตรรักแฟนเมล์ คนแก่พลาดอีกแว้ววว
    คนที่ถอดเสียงเทศน์หลวงพ่อวันที่ 3 ก.ย.คือคุณน้องอ๋อ (solardog) ค่ะ
    ตาลายเห็นชื่อคุณจู้อยู่บน ๆเลยนึกว่าคุณจู้ถอด
    แจ้งใหม่ค่ะ

    พร้อมกันนี้ ขอแจ้งเกี่ยวกับกำหนดการงานศพไปเลยดีกว่านะคะ
    เพราะมีการเปลี่ยนแปลงจากที่ป้อมแจ้งไปตอนเช้าค่ะ

    พุธ - พฤหัสฯ สวด ทุ่มครึ่งค่ะ
    ส่วนวันศุกร์ ขอเลื่อนเร็วขึ้นจากเดิม 1 ชั่วโมง
    จากเดิมที่แจ้งบ่าย 3 ฟังธรรม
    เปลี่ยนเป็นเริ่มพิธีการตอน บ่าย 2 คณะสงฆ์ที่ทับทิมแดงสวดให้หมวย
    ต่อด้วยการฟังธรรม .... แล้วจึงถึงพิธีเผาค่ะ
    เนื่องจากการเผาที่วัดนี้เป็นการเผากลางแจ้ง
    พระอาจารย์ท่านเลยกลัวฝนตอนเย็น ๆ น่ะค่ะ

    รับทราบทั่วกันนะคะ

    ป้อม




    เมื่อ กันยายน 9, 2009 1:41 หลังเที่ยง, ทัศรา กุลจิตติสุธีพร <tast00114@gmail.com> เขียนว่า:


    คุณจู้ถอดเสียงส่งการบ้านของหมวย เมื่อวันที่ 3 ก.ย.52 วันที่หมวยมากราบลาหลวงพ่อเป็นครั้งสุดท้ายค่ะ


    ลองอ่านดูให้เป็นมรณสติ และกำลังใจนะคะ

    ขอบคุณหลาย ๆ คนที่ช่วยกันส่งต่อค่ะ

    ป้อม






    หลวงพ่อสอนนักปฏิบัติที่เจ็บหนักครับ


    บทเรียนก่อนตาย- หลวงพ่อปราโมทย์พฤหัสที่3 กันยายน2009

    สวัสดีครับ

    หมวยเดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้วประโยชน์ที่ทิ้งไว้ให้แก่เพื่อนๆกัลยาณมิตรก็คงเหลือแต่บทสนทนากับพระอาจารย์วันพฤหัสที่ผ่านมาที่หมวยไปกราบลาพระอาจารย์ที่วัดน้องอ๋อได้เพียรแกะเสียงตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้ขอขอบคุณและอนุโมทนาด้วยกับน้องอ๋อเป็นอย่างมาก

    ผมได้ขอส่งต่อเมล์นี้กับน้องอ๋อแล้วแต่ก็คงส่งได้ไม่ทั่วถึงดังนั้นจึงแล้วแต่ผู้รับทุกๆท่านว่าจะเห็นประโยชน์ประการใดต่อผู้รู้จักหรือคนใกล้ตัวท่าน


    จู้



    หลวงพ่อปราโมทย์
    พฤหัสที่3 กันยายน2009
    บทเรียนก่อนตาย
    หมวยลูกศิษย์หลวงพ่ออายุ 30 กว่าๆเป็นมะเร็งมากราบลาหลวงพ่อครั้งสุดท้ายถวายผ้าไตรสังฆทานและปัจจัย

    (หมวยเสียชีวิตแล้วเมื่อคืนนี้เอง7 กันยา)

    นาทีที่20..............
    กราบนมัสการหลวงพ่อก่อนอื่นต้องขอขอบคุณที่หลวงพ่อได้กรุณาส่งไฟล์เสียงไปให้ตอนที่เข้าห้องICU แล้วได้ส่งอีกหลายๆครั้งกับความเมตตาที่หลวงพ่อได้มีให้อีกหลายครั้งแล้วก็ทางหมวยเองขอโอกาสถามคำถามเจ็ดข้อสุดท้ายเพราะคิดว่าหมวยคงไม่มีโอกาสได้มาอีกแล้ว(โดยให้ผมเป็นล่ามให้นะครับ)

    โยม:สภาวะจิตของหมวยตอนนี้มีโมหะจิตออกนอกแล้วก็ไม่ตั้งมั่นแล้วก็เป็นกลางอยู่ครับ(ลพถามว่าอันสุดท้ายอะไรนะ) แล้วก็เป็นกลางอยู่ครับ(ลพตอบว่าอือถูกแล้ว)

    ลพ:อย่าไปกังวลนะว่าจิตจะสว่างหรือไม่สว่างจิตสงบหรือจิตฟุ้งซ่านสภาวะทั้งหลายเนี่ยะโดยตัวของมันเองเท่าเทียมกันมันไม่เท่าเทียมกันเพราะว่าใจที่ไม่เป็นกลางที่ไปให้ค่า

    เพราะฉะนั้นเวลาเราภาวนาบางทีเวลาโดนยาเข้าไปบ้างหรือว่าร่างกายทรุดโทรมบ้างเบลอๆอย่าไปตกใจนะเบลอรู้ด้วยความเป็นกลางใช้ได้ตัวสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าสภาวะอะไรเกิดขึ้นตัวสำคัญอยู่ที่ว่าเป็นกลางหรือไม่เป็นกลางนะอย่ากังวลนะอย่ากังวลใจ

    โยม:ข้อที่สองครับตอนที่หมวยเข้าICU หมวยเค้าก็เห็นทุกขเวทนาเยอะมากในทุกนาทีแต่จิตมีกำลังตั้งมั่นมีตัวรู้และก็มีขันธ์ห้ากระจายออกตอนนั้นหมวยไม่ได้ทำสมถะเยอะไม่ได้ทำตามรูปแบบเยอะเพราะว่าเข้าโรงพยาบาลประมาณเดือนนึงแล้ว

    คราวนี้หลังจากออกจากICU เห็นแต่ความไม่เป็นกลางของจิตเพราะจิตเกิดโทสะเพราะว่ามีแต่ได้รับทุกขเวทนาตลอดเวลา(คนที่เป็นล่าให้เริ่มเสียงเครือแล้วพูดต่อไม่ได้ต้องให้คนอื่นมาเป็นล่ามแทนให้) .....จิตที่ไม่ตั้งมั่นเกิดจากตอนที่ออกจากICU แล้วได้รับทุกขเวทนาเนี่ยะ(ล่ามคนใหม่) ได้รับทุกขเวทนามากเพราะได้รับยาปฏิชีวะนะทุกขนาดแต่อาการไม่ดีขึ้นมีแต่ทรุด
    จนหมอบอกจะอยู่ได้อย่างมากก็หนึ่งเดือน(ลพแล้วนี่อยู่มาตั้งนานแล้ว)

    โยม:ข้อสี่ค่ะตอนนี้พักอยู่ที่โรงพยาบาลด๊อกเตอร์โบว์ทำงานอยู่ไปอยู่ตั้งแต่วันที่25 เห็นจิตที่ชอบไม่ชอบเห็นจิตที่ไม่เป็นกลางเห็นจิตที่ไม่เป็นกลางขณะที่ไปเห็นการเปรียบเทียบของหมอโรงพยาบาลสองโรงพยาบาล

    โยม:ข้อที่ห้านะคะ

    ลพ:คือการภาวนานะอย่างไปกังวลจนเกินไปอันดับแรกเจริญเมตตาเมตตาร่างกายเรื่อยๆนะร่างกายนี้ได้รับความลำบากน่าสงสารเพราะฉะนั้นอย่าไปรังเกียจมันพอใจเราเจริญเมตตาใจเราก็ร่มเย็นใจร่มเย็นนะก็ค่อยๆดูมันไปดูมันเจ็บดูมันตายเราก็ทำเป็นแค่คนดูแค่นั้นแหล่ะบางครั้งพอเวลาเวทนารุนแรงเนี่ยะสติเราตามไม่ทันโทสะมันขึ้นพอโทสะเกิดขึ้นมาเนี่ยะอย่าไปตกใจกลัวมัน

    พยายามเจริญเมตตากับร่างกายมันนะเป็นกลางกับมันนะดูไปเรื่อยตัวสำคัญอยู่ที่ความเป็นกลางหล่ะนะแล้วอย่าไปกังวลกับมันถ้าเกิดจะตายจริงๆเนี่ยะอย่างตอนเรายังไม่ตายโทสะมันขึ้นได้แต่เกิดนาทีวิกฤติจริงๆนะเวลาจะตายเนี่ยะโทสะมันจะไม่ขึ้นหรอกสติปัญญามันจะขึ้นมาแทนเพราะฉะนั้นไม่ต้องไปกังวลตรงนั้นหรอกเพราะจิตที่เราฝึกมาจนถึงขนาดนี้นะขันธ์มันแตกตัวออกไปหมดแล้วพอเราฉุกเฉินขึ้นจริงๆมันจะทำงานอัตโนมัติ

    ตอนที่มันทำงานอัตโนมัติเนี่ยะจะเห็นขันธ์แยกออกไปนี่บอกล่วงหน้าไว้เลยนะขันธ์มันจะแยกออกไปขันธ์มันตายนะแต่ใจที่เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานเนี่ยะมันอยู่ต่างหากไม่เสียทีหรอกนะอย่างไปกังวลอย่างไรก็ไม่เสียทีหรอกจิตที่ฝึกมาถึงขนาดนี้

    เมื่อก่อนมีองค์นึงนะอาจารย์วันชัยเจริญรอยเดียวกันเลยนี่ภาวนาแข็งกว่าอาจารย์วันชัยอีก

    ล่าม:อยากจะถามอีกนะคะข้อห้าค่ะ
    หมวย: จะถามว่าเลิการประคับประคองคือไม่ขอปั้มหัวใจไม่ขอ...(ฟังไม่ถนัดว่าพูดอะไร)ไม่ขอเข้าICU และไม่ต้องการยาปฏิชีวะนะเลิกที่จะให้มอร์ฟีนบรรเทาความเจ็บปวดแต่อีกอันนึงคือการเลือกที่หมอเลือกให้เหมือนตั้งใจจะเริ่มรักษาใหม่ให้ดีที่สุดเผื่อว่าจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้แต่ว่าต้องเริ่มใหม่แต่ต้องเริ่มให้ยาเคมีบำบัดใหม่หมดเลยค่ะ

    ลพ:จุดสำคัญนะร่างกายเนี่ยะทิ้งมันไปให้หมอเค้าดูแลไปนะหน้าที่เรามีอันเดียวคือรักษาใจเราไว้เอาใจไว้นะร่างกายปล่อยให้หมอเค้าทำหน้าที่ของเค้าไป

    หมวย:เพราะฉะนั้นการที่หนูเลือกเลิกการประคับประคองครั้งสุดท้ายไว้ถือว่าหนูเลือกทำอนันตวิบากหรือมีเจตนาฆ่าตัวตายหรือเปล่าคะ

    ลพ:ไม่ได้ฆ่าตัวตายหรอกมันตายเอง
    หมวย:ถ้าอย่างนั้นหนูเลือกเลิกการประคับประคองคือหนูเลือกเองอย่างนี้ได้หรือเปล่าคะมีเจตนาฆ่าตัวตายหรือเปล่าคะ

    ลพ:เปล่าไม่ได้อยากฆ่าตัวตายเลยนะ

    หมวย:คือไม่อยากรับยาปฏิชีวะนะยาคีโมค่ะ

    ลพ:ได้เราเลือกวิถีชีวิตเราได้นะชีวิตเราเนี่ยะสั้นนิดเดียวนะสั้นนิดเดียวครูบาอาจารย์ท่านก็กลับวัดนะไม่ใช่ว่าท่านกลับมาฆ่าตัวตายซะที่ไหนหล่ะตายเอง

    ครูบาอาจารย์หลายองค์นะมีองค์หนึ่งชื่อว่าหลวงปู่จันเขมมฺปัตโตองค์นี้ภาวนาเก่งนะเพราะว่าท่านยังเหลืออีกนิดหน่อยมาไม่สบายอยู่กรุงเทพเนี่ยะเสร็จแล้วพอท่านจะตายนะท่านกลับหนองคายพอไปถึงวัดนะเดินจงกรมได้เดินจงกรมนะตายกระดูกเป็นพระธาตุเลย

    งั้นไม่ใช่ว่าให้หมอเลิกรักษาแล้วคือฆาตกรรมไม่ใช่คือดูแล้วมันรักษาไม่ไหวมันรักษาไม่ได้เราก็ไปรักษาจิตของเราไว้แต่อย่างหมอเนี่ยะถ้าเค้าจะช่วยได้บ้างคือช่วยบรรเทาทุกขเวทนาฉีดให้ฉีดมอร์ฟีนให้อย่างเนี่ยะมันก็ไม่เป็นไรหรอก

    ล่าม:ขอเมตตาหลวงพ่อให้คำแนะนำอันสุดท้ายว่ามีอะไรยังติดอยู่หรือเปล่า

    ลพ:ไม่มีอะไรน๊าไม่ต้องไปกังวลอะไรหรอก

    ล่าม:ข้อสุดท้ายข้อเจ็ดค่ะข้อสุดท้ายแล้วค่ะ

    หมวย:ขอตั้งใจถวายสังฆทาน

    ล่าม:ขอกราบถวายสังฆทานและปัจจัยเข้าวัดเป็นโอกาสสุดท้ายที่มาที่นี่ขอกราบอโหสิกรรมหลวงพ่อ(ลพอืออ้าวดูจิตไป) และทุกคนที่นี้ด้วยถ้ามีการล่วงเกินแต่ไม่มีเจตนา

    ลพ:อ้าวอโหสินะเอวังโหตุเอวังโหตุ........
    รักษาใจอย่างเดียวนะ....(ถวายสังฆทาน)
    เป็นบทเรียนนะบทเรียนคนพึ่งภาวนาเวลาเจอสภาวะอย่างนี้มันสู้ไหวนะคนที่ไม่ได้ฝึกไว้เนี่ยะสู้ไม่ไหวหรอก

    อย่างบางคนเวลาจะตายนะให้ญาติมาบอกว่า พระอรหันต์มันไม่หันหรอกนะกินแต่หมูหันแทน

    เนี่ยะถ้าใจเราฝึกเอาไว้ดีแล้วไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นนะมันจะเห็นนะขันธ์มันจะแตกออกมาขันธ์อย่างไงมันก็แตกอยู่แล้วเราก็จะเห็นขันธ์ที่มันแตกแต่ใจยังเป็นกลางถ้าใจไม่ยึดกับขันธ์นะใจไม่ทุกข์กับขันธ์นะบางคนพ้นไปเลยก็มี

    ในสมัยพุทธกาลนะมีพระองค์หนึ่งท่านภาวนาทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จพอวันหนึ่งท่านรู้สึกว่าจิตใจดีกว่าวันอื่นนะท่านเชือดคอตัวเองเชือดคอแล้วยืนพิงฝานะรู้สึกน้อยใจตัวเองเราบวชตั้งชาตินึงนะแล้วไม่ได้อะไรติดตัวแต่ท่านมานึกได้ว่าตลอดเวลาเนี่ยะท่านรักษาศีลอย่างดีพอคิดว่าเรามีศีลที่ดีจิตใจเบิกบานขึ้นมา

    อย่างของหมวยเนี่ยะถ้าเราจะมองว่าเราได้ภาวนาเราภาวนาได้เต็มที่แล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมาจิตใจจะเบิกบาน

    พระองค์เนี่ยะท่านก็มองร่างกายมันตายเพราะฉะนั้นเวลาที่เราจะตายนะต้องตั้งสติไว้ดูกายมันตายลงไปใจอยู่ต่างหากนะฝึกดูอย่างนี้กายมันตายแล้วใจเราอยู่ต่างหากใจไม่ทุกข์ด้วยบางคนก็ได้ธรรมะพระองค์ที่ท่านเชือดคอเนียะท่านเป็นพระอรหันต์เลยหรือบางคนไม่ได้พระอรหันต์แต่ได้ธรรมะดีๆไปอยู่ที่นาทีวิกฤติเนียะแหล่ะ

    หลวงปู่ดูลย์เคยสอนตกกระใดพลอยโจนท่านสอนสำหรับคนที่ภาวนานะแต่มันยังไม่จบในนาทีที่มันจะตายนะเห็นกายมันตายไปยอมรับสภาพไปอย่าไปโกรธอย่าไปเกลียดมันนะดูเฉยๆเฝ้ารู้เฝ้าดูไปพอมันถึงเวลามันก็ต้องตายไปจิตอยู่ต่างหากนะจิตไม่เกี่ยวหรอก


    ที่มา--ฟอร์เวิร์ดเมลล์ค่ะ อนุโมทนาแด่ผู้ที่ส่งมาให้ด้วยค่ะ( คุณYossiri ,คุณ Chutima ,คุณ kampon )
    </B>
     
  2. เสฏฐวุฒิ

    เสฏฐวุฒิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +173
    สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกล้วนมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปเป็นธรรมดา
    ก่อนวาระสุดท้ายของชีวิต คุณหมวยได้พบพระแท้ถือเป็นมงคลชีวิตแล้วครับ
    หลับให้สบาย.....ชาตินี้ขันธมารเบียดเบียน....ชาติหน้าสู้ใหม่จุดมุ่งหมายคือความดับที่ไม่มีการเกิดอีกต่อไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...