เสียงธรรม บทสวดพระวัชระสัตว์ (คำถา100 ขอขมากรรม) Rap Ver.

ในห้อง 'เพลงธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย banpong, 1 ตุลาคม 2011.

  1. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,434
    ค่าพลัง:
    +1,770
    <object width="640" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/ICDbrANyNdk?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/ICDbrANyNdk?version=3&amp;hl=th_TH&autoplay=1" type="application/x-shockwave-flash" width="640" height="360" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>


    แปลกดีครับแบบแร็พ แต่เมืองนอกมองเป็นเรื่องธรรมดาขึ้นอยู่กับการปรุงแต่งของใจครับ^^
     
  2. กุนเชียง

    กุนเชียง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +1,593
    บทสวดจะเสื่อมก็แบบนี้ล่ะครับ อย่าทำบทสวดแบบนี้เลยครับ มันไม่ดี มันไม่มงคลนะครับ เอาบทสวดธรรมดาน่าจะดีกว่านะครับ อย่าปรุงแต่งเลยนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ไพเราะมากค่ะ ชอบความหมาย เป็นคำสวดสรรเสริญคุณของพระโพธิสัตว์ใช่มั้ยคะ แปลไม่เป็นหรอกค่ะ...เดาเอา รู้สึกซาบซ่านไปทุกรูขุมขน แล้วภาพของแต่ละพระองค์เหมือนลอยออกมาเลยค่ะ อุปทานหรือเปล่าเนี่ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2011
  4. onekisswithlove

    onekisswithlove Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +57
    ตอนได้ยินเสียง ปิ้ววววว ปิ้วววววว นึกถึงเรื่อง ไซอิ๋วเลย ฮ่าๆๆๆ
     
  5. kungzaza88

    kungzaza88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +536
    ผมว่าถ้าบทสวดแนวนี้จิตใจไม่สงบแน่แถมจะโยกไปตามจังหวะแรฟด้วย
    บทสวดจิงๆสวดเพื่อความสงบของจิตใจให้เป้นสมาธิมากกว่าน่ะ
     
  6. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    พวกศิลปินหัวล้านนอกครู นอกรีต นอกรอย เสื่อม... ฟังแล้วใจไม่สงบเลย
     
  7. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    เคยไปวิจารณ์เหมือนกันครับ เขาก็ตอบเป็นภาษาจีนกลับมาครับ ประมาญว่า
    ผู้ปฏิปัติ ทางวัชระยานเขาต้องวางใจเป็นกลางครับ เป็นสภาวะธรรมอย่างหนึ่ง
    ทางวัชระยาน ท่านไม่ได้เน้นให้ไปหาที่สงบแล้วปฏิบัติครับ ท่านบอกปฏิบัติที่ไหนเมื่อไหรก็ได้ เพราะถ้าเราหาที่สงบเพื่อปฏิบัติพอเราออกจากที่นั้นจะปฏิบัติไม่ได้เลย...
    เป็นอุบายธรรมครับ
     
  8. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    เป็นเรื่องที่ อาจขัดกับใจชาวพุทธเถรวาทนะครับ
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แต่เราฟังแล้วรู้สึกสงบนะ ลองเอาจิตไปวางไว้ที่คำสวดซิ
     
  10. talkjoss

    talkjoss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2010
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +2,252
    แก่นแท้ ทางจิตวิญญาณ ? ลองพิจารณาดูครับ....
     
  11. thaboo

    thaboo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +27
    ถ้าเราเอาเถรวาทของเราเข้าไปจับจะรู้สึกว่ามันไม่ใช่

    แต่อันนี้เป็นมหายาน หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือศาสนาอื่นๆ ที่ใช้เสียงเพลงเพื่อให้เกิดความเพลิด
    เพลิน...ไม่เ้น้นการหลุดพ้น
     
  12. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    ขอโทษนะครับ นี่เป็น บทสวดของวัชระยาน เน้นการบรรลุชาตินี้ครับ
    แต่เถรวาทใช้การตัดกิเลศออกจาใจ
    วัชรยานใช้การดูกิเลศในใจ พระท่านว่าน้ำเข้าหูจะเอาน้ำออกต้องกรอกน้ำเพิ่ม

    ฉนั้น ความสงบหรือไม ไม่ได้อยู่ที่ดนตรีครับ บางคนฟังแล้วชอบบางคนฟังแล้วไม่ชอบ เพราะการชอบไม่ชอบเป็นการสงบหรือไม่?
    ความสงบจริงแท้เกิดที่จิต วัชรยานจะไม่สอนให้หลับตานั่งสมาธิ จะให้นั่งสมาธิลืมตา แล้วไม่เน้นว่าที่ๆนั้นจะเป็นที่สงบหรือไม่ เพราะทุกวันนี้สังคมวุ่นวายความสงบหายาก

    นี่เป็นอุบายธรรม

    ผมไม่อยากให้มองแบ่งอยกเป็นมหายาน กับ เถรวาท เพราะพระสูตรที่แต่ละนิกายมีก็มาจากการแสดงธรรมพระพุทธเจ้าเหมือนกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าใครบันทึกส่วนไหน พระอานนท์ก็บันมึกเป็นแนวเถรวาท พระสาริบุตรก็บันทึกทางมหายาน

    ผมคิดว่าควรแยกออกเป็น สูตรยาน กับ มนตรยาน จะดีกว่าครับ
    สูตรยาน=นิกายเปิด คือ พระสูตรที่เราสามารถศึกษาได้ทั่วไปจากพระไตรปิฏก

    มนตรยาน=นิกายลับ คือ พระสูตรที่พระพุทธองค์ สอนศิษย์ในวงแคบเป็นความลับ และการเรียน ศึกษาต้องมีอาจารย์กำกับ พระพุทธเจ้าได้สอน เรื่องของวัชระยานไว้ตั้งแต่สมัยพุทธกาล เช่น กาลจักระ ตันตระ ซึ่งเป็นบทปฏิบัติตันตระชั้นสูง พระพุทธเจ้าได้เทศนาหลังจากได้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว1ปีพระพุทธเจ้าได้เทศนาสอน แก่พระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญในภูมิที่สูง ฉะนั้นคำสอนตันตระจึงถือว่าเป็นคำสอนลับเฉพาะ

    อันนี้เป็น พระธรรมจารย์จิ้งคงธรรยายธรรมเรื่อง วัชรยานแบบธิเบต ครับ
    กรุณากด CC ที่มุมจอล่างขวามือ เพื่อดู Subtitle แปลไทย

    <object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/mxpEEmW4fkI?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/mxpEEmW4fkI?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2011
  13. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    หากดินแดนแถบสุวรรณภูมิไม่มีวัชรยานแผ่ เข้ามาแต่ก่อนเก่า การที่จะเรารับเอาเถรวาทเข้ามาก็เป็นเรื่องยาก

    เพราะคนสมัยก่อนนับถือผีสางอย่างงมงายวัชระยานมีอุบายธรรมให้คล้ายกับลัทธิแบบบูชา และ คล้ายกับศาสนาพราหม์ขึ้นอยู่กับท้องถิ่นนั้นๆ
    ทำให้คนท้องถิ่น ที่เปลี่ยนมานับถือไม่รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงในทันใด เป็นอุบายธรรมที่ค่อยๆน้อมนำคนเข้ามาสู่แก่นแท้ของศาสนา ค่อยเปลี่ยนมาเป็นแนวปฏิบัติบูชาอย่า่งแยบยล

    สิ่งที่วัชระยานแต่เก่าก่อนหลงเหลือให้เห็นก็คือ วิชาอาคมการสักยันต์คงกระพันต่างๆ
    ในสมัยก่อน มีศึกสงครามคนเราทุกคนกลัวตายก็ไปสักยัต์ ครูบาอาจารย์ท่านก็จะห้ามนู่นห้ามนี่เป็นกฏ.....ต้องถือศีล5 ต้องทำอย่างนู้นอย่างนี้ เป็นการแก้สันดานดิบคนเราได้อย่างแยบคาย

    ในปัจจุบันก็จะเห็นการหลอกนักเลงเข้าวัดด้วยเรื่องพวกนี้อยู่เนืองๆ เช่นอยากไปตีกับเขาเลยอยากเหนียวก็ต้องไปสักยันต์ พระท่านก็ห้ามด่าพ่อแม่ ต้องกตัญญู อย่างนู้นอย่างนี้ พอเขาโตขึ้นส่วนมากก็สนิทธรรมทั้งนั้น

    นี่คืออุบายธรรมของวัชรยานแต่เก่าก่อนซึ่งเป็นหลักฐานที่เหลือทิ้งไว้มาแต่โบราณ
    มีการหลอกล่อสันดารดิบของมนุษย์มาดัดเสียก่อนให้ได้รับธรรมมะชั้นสูงและปฏิบัติเพื่อบรรลุต่อไป....
     

แชร์หน้านี้

Loading...