นาทีคลั่งทุบ"พระพรหม" โหรทำนาย "ลางร้าย" หล่อใหม่-เนื้อนวโลหะ

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 24 มีนาคม 2006.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    [​IMG]
    วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 15 ฉบับที่ 5594​
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>
    นาทีคลั่งทุบ"พระพรหม" โหรทำนาย "ลางร้าย" หล่อใหม่-เนื้อนวโลหะ


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    คอลัมน์ สดจากสนามข่าว


    </TD><TD vAlign=top align=right>
    [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>คนไทยใจหายกันทั้งประเทศกับเหตุการณ์หนุ่มคลั่งใช้ค้อนทุบ "ท้าวมหาพรหม" สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจนพังพินาศ

    การทำลายท้าวมหาพรหมหรือพระพรหม นอกจากจะสูญเสียสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจแล้ว ยังโยงถึงเรื่องความเชื่อของคนไทย ที่เชื่อว่าองค์ท้าวมหาพรหมคือเทพแห่งความสงบสุข เป็นเทพในศาสนาพราหมณ์ตัวแทนของหลักพรหมวิหารธรรม คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา

    ดังนั้น เมื่อท้าวมหาพรหมถูกทำลายจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการพูดถึงลางร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา ยิ่งสถานการณ์ทางการเมืองกำลังวุ่นวายใกล้จุดแตกหัก เหตุทุบพระพรหมจึงถูกหยิบยกมาวิพากษ์วิจารณ์กับสถานการณ์การเมืองที่กำลังร้อนระอุ

    หลายคนมองว่านั่นคือลางร้าย!??



    นายธนากร ภักดีผล อายุ 27 ปี คือหนุ่มสติไม่ดีที่ลงมือทุบทำลายรูปปั้นท้าวมหาพรหม เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตอนตี 1 วันที่ 21 มีนาคม โดยนายธนากรเกิดอาการคลุ้มคลั่งวิ่งถือค้อนตรงเข้าทุบศาลพระพรหมอย่างบ้าคลั่ง ทุบไปส่งเสียงร้องโวยวายไปอย่างไร้เหตุผล ท่ามกลางความตะลึงงันของคนแถวนั้น

    ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันจับนายธนากร แต่เจ้าตัวไม่ยอมให้จับ ซ้ำยังยกค้อนขึ้นมาขู่เอาเรื่องอีกต่างหาก แต่ถึงกระนั้นนายธนากรก็ต้องจนมุมชาวบ้านที่ล้วนเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 4-5 คน ที่บุกรวบตัวเอาไว้อยู่หมัด

    หลังความชุลมุนวุ่นวายร่างของนายธนากร นอนพังพาบอยู่กับพื้นทางเดินเข้าโรงแรมเอราวัณในสภาพเลือดท่วมกาย ตำรวจสน.ปทุมวันเดินทางมาตรวจสอบพบว่านายธนากร ถูกรุมสหบาทาจนสิ้นใจตายในสภาพยับเยิน ใกล้ศพพบค้อนอันที่ใช้ทุบพระพรหมมีรอยเปื้อนเลือดตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

    สำหรับรูปปั้นองค์ท้าวมหาพรหม ได้รับความเสียหายถูกทุบแตกกระจาย ตั้งแต่ฐานขึ้นไป เศียรกระเด็นตกลงมาที่พื้น นอกจากนี้ ยังมีชิ้นส่วนต่างๆ แตกกระเด็นไปทั่ว เหลือแต่ช่วงฐานที่ไม่ได้ถูกทุบ เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมพื้นที่ไว้รอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการปรับปรุงแก้ไข

    อันดับแรกต้องหาคนร้ายที่ร่วมกันฆ่านายธนากรก่อน!

    ไม่ทันข้ามวันตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้ 2 ราย คือ นายศักดิ์ศรี กลิ่นบัว อายุ 27 ปี และนายเกษมศักดิ์ การุณวงศ์ อายุ 42 ปี ลูกจ้างชั่วคราวสำนักงานเขตปทุมวัน รับผิดชอบทำความสะอาดศาลท้าวมหาพรหม แต่ทั้ง 2 คนยังให้การภาคปฏิเสธ อ้างว่าพยายามเข้าจับนายธนากรแล้วเกิดการต่อสู้กัน เลยใช้ไม้ตีเพื่อป้องกันตัวคนละครั้ง หลังจากนั้นมีคนอื่นเข้ามาช่วยรุมทำร้ายซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครบ้าง เพราะตอนนั้นมีด้วยกันหลายคน ตำรวจจึงตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย

    ส่วนผู้ต้องหารายอื่นเจ้าหน้าที่กำลังขยายผลอยู่!!



    การบูรณะซ่อมแซมศาลท้าวมหาพรหม เป็นงานเร่งด่วนที่กระทรวงวัฒนธรรม ต้องรีบเข้ามาดำเนินการเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจประชาชนให้กลับคืนมาโดยไว เนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทบต่อสภาพจิตใจคนทั้งประเทศ กรมการศาสนาจัดเจ้าหน้าที่พิธีการด้านศาสนาดูแล ฝ่ายพราหมณ์ ราชครู มาทำพิธีอัญเชิญชิ้นส่วนต่างๆ ของท้าวมหาพรหมที่เหลือ อาทิ พระเศียร สังข์ ศาสตราวุธ ที่ยังสมบูรณ์นำไปไว้ในที่ที่ปลอดภัย เพื่อเร่งทำการบูรณะซ่อมแซมใหม่ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2 เดือน ระหว่างนี้ยังเปิดให้ประชาชนเข้าไปสักการบูชาได้ตามปกติ โดยจะมีภาพถ่ายท้าวมหาพรหมติดเอาไว้ให้บูชา

    สำหรับวิธีการบูรณะซ่อมแซมครั้งใหม่ ในที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ข้อสรุปว่า จะมีการหล่อองค์พระพรหมขึ้นมาใหม่ โดยใช้เนื้อนวโลหะมงคล 9 ชนิด ประกอบด้วย ทองคำ เงิน ดีบุก ทองแดง ปรอท เหล็ก เจ้าน้ำเงิน (พลวง) ชิน และแร่บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นชื่อโลหะจากตำราโบราณที่นิยมใช้สร้าง พระพุทธรูป และเทวรูปต่างๆ มาหล่อเป็นองค์พระพรหมแทนปูนปลาสเตอร์ของเดิม และจะเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมทำบุญบริจาคเงินและโลหวัตถุมงคล เพื่อใช้หล่อพระพรหมองค์ใหม่ด้วย ซึ่งพระพรหมองค์ใหม่จะสร้างโดยสำนักช่างสิบหมู่ที่มีฝีมือและมีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

    ส่วนเศษชิ้นส่วนเดิมอันประกอบด้วย พระเศียร พระหัตถ์ ศาสตราวุธ จะถูกนำไปบรรจุไว้ที่ฐานขององค์ท้าวมหาพรหม เพราะตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ถือว่าจิตวิญญาณของพระองค์ยังคงสถิตอยู่ ส่วนรูปองค์ท้าวมหาพรหมเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของพระองค์ท่านเท่านั้น เมื่อการบูรณะเสร็จสิ้นประชาชนก็สามารถเดินทางมาสักการะองค์ท้าวมหาพรหมได้ตามเดิม และจะยังคงรักษาสภาพของศาลให้เป็นแบบเดิม ไม่มีการยกให้สูงขึ้นแต่อย่างใด เพราะของเดิมเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวดีอยู่แล้ว

    ทั้งนี้ จะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเข้าเวรดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย



    เหตุชายวิกลจริตทุบทำลายศาลท้าวมหาพรหม คงจะหนีไม่พ้นการโยงไปยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังร้อนระอุอยู่ในขณะนี้ เมื่อนายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ออกมาระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสมือนเป็นสัญญาณเตือนจากเทพเทวดา ว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นในบ้านเมืองเรา เตือนผู้นำผู้ปกครองบ้านเมืองให้ยึดถือหลักพรหมวิหารธรรม นำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่กำลังวุ่นวาย

    โดยทุกฝ่ายต้องใช้หลักพรหมวิหาร 4 แก้ไขปัญหาร่วมกัน หากไม่ใช้หลักนี้บ้านเมืองอาจตกอยู่ในภาวะคับขัน อาจยุ่งเหยิงจนเกิดเหตุจลาจลขึ้นได้ และการที่มีคนไปรุมทำร้ายคนเสียสติจนถึงแก่ความตาย ก็เป็นเครื่องเตือนคนในสังคมได้เช่นกันว่า ถ้าไม่นำหลักธรรมมาแก้ปัญหาก็อาจเกิดเหตุขั้นรุนแรงขึ้นได้ ให้ทุกคนมีสติสัมปชัญญะและยึดหลักพรหมวิหาร 4 ถ้ามัวแต่ถืออัตตา ไม่รับฟังกัน ก็เปรียบเหมือนคนขาดสติ ไม่ต่างอะไรกับคนเสียสติหรือคนบ้าที่เข้าไปทำลายท้าวมหาพรหม

    ใครไม่เชื่อแต่รับไว้เป็นเครื่องเตือนใจก็ยังดี

    ทุกอย่างหาทางออกได้ด้วยพรหมวิหาร 4 "เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา"



    ประวัติท้าวมหาพรหม เริ่มจากเมื่อปลายปี 2498 บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด ผู้สร้างโรงแรมเอราวัณได้หาฤกษ์เพื่อเปิดโรงแรม โดยพล.ร.ต.หลวงสุวิชาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางโหราศาสตร์ ท้วงติงว่าฤกษ์การวางศิลาฤกษ์ของโรงแรมที่ทำไว้ไม่ถูกต้อง จะต้องแก้ใหม่ โดยสร้างศาลท้าวมหาพรหม และศาลพระภูมิขึ้นในบริเวณโรงแรม ต่อมาจึงดำเนินการสร้างองค์ท้าวมหาพรหม ปั้นด้วยปูนปลาสเตอร์และปิดทอง ออกแบบและปั้นโดยนายวิจิตร พิมพ์โกวิท ช่างจากกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร แล้วอัญเชิญมาประดิษฐานเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2499 ด้วยเหตุนี้ในวันและเดือนดังกล่าวของทุกปีจะมีพิธีบวงสรวงศาลท้าวมหาพรหม ตั้งแต่เริ่มประดิษฐานมาจนถึงปัจจุบัน ท้าวมหาพรหมแห่งนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คนไทยและชาวต่างประเทศมาเคารพสักการะและบนบานเพื่อให้สมหวังเป็นจำนวนมากทุกๆ วัน โดยเฉพาะชาวต่างชาติเชื้อสายจีน โปรแกรมสำคัญในการท่องเที่ยวเมืองไทย 1 ในนั้นต้องมากราบไหว้ท้าวมหาพรหมแห่งนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...