ธรรมะ รักษาโรคด้วยตัวเองก่อน โดยอาณาปาณสติ และเจริญเข้าสู่วิปัสนา ในเวลาอันสั้น

ธรรมะ รักษาโรคด้วยตัวเองก่อน โดยอาณาปาณสติ และเจริญเข้าสู่วิปัสนา ในเวลาอันสั้น

-รักษาโรคด้วยตัวเองโดยรหัส อาณาปาณสติ เพื่อเป็นการรับมือกับโรค เมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้น จะไม่สามารถหาหมอได้ เช่น ภูมิแพ้อากาศ โรคมะเร็งในกระเพาะอาหารระยะแรก ๆ ไซนัส ปวดเข่า(เกี่ยวกับข้อกระดูก) คุณไสย ส่วนโรคอื่นๆ ยังไม่ระบุ เพราะยังไม่มีคนไข้ยืนยัน แต่ที่ระบุมา มีตัวอย่างคนไข้ยืนยันครับ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยา

-เป็นการปรับธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ให้สมดุล รักษาโรค ลมปราณทะลุทะลวง ง่ายต่อการปรับธาตุ ทำให้ปฎิบัติธรรมได้ง่ายขึ้น (สุขภาพร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ก็เข้าหลักสติปัฏฐาน4(กาย เวทนา จิต ธรรม)) และเข้าสู่โพชงค์7 แบบเร่งด่วน โดยอาศัยการปฎิบัติให้เห็นชัด

-ธรรมเปิดโรคกรรมบันดาล เน้นรักษาโรคก่อน แล้วเข้าสู่วิปัสนา จะข้ามขั้นตอนตกพะวัง การแช่สภาวะ ได้ดี และเข้าสู่โพชงค์7 (ถ้าไม่ยึดติดสภาวะ ตามคำแนะนำของครูบาอาจารย์ แต่ส่วนหนึ่ง มีญาณ ก็ไม่ค่อยจะฟังครูบาอาจารย์แล้ว ทำให้หลง และช้า)

-เหมาะกับผู้ที่รักษาผู้อื่นโดยการถ่ายกรรมให้แล้วขับออกไม่หมด หรือไม่ทันหรือพลาดรับมาหนักเกินไป กรรมมาติดกับตัวเอง ทำให้สุขภาพผู้รักษาทรุดไปด้วย โดยจะแสดงอาหารขับออกทันที หรือ อีกรูปแบบ คือว่าง ก็จะไม่เข้าตัว จะเป็นช่องผ่านออกไปเลย ไม่ต้องขับออกทีหลัง เช่นกัน

-เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มปฎิบัติธรรม และ ผู้ที่ยังไม่สามารถรักษาโรคด้วยตัวเอง หรือ ผู้ที่ต้องการรักษาโรค แบบใช้กายหยาบรักษา โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยา

-เน้นหลัก ใช้หนี้กรรม รักษาโรค และ เจริญเข้าสู่วิปัสนาทันที(สามารถทำได้ในขั้นตอนติดต่อกัน) แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอัตตาสูง

โดย พระอาจารย์สุวัฒน์(สายหลวงปู่มั่น และ หลวงปู่คง ) สำนักสงฆ์ พุทธพัฒนา (ผู้คนในตลาดเรียกกันว่า วัดป่าไผ่)ต.เขาฉกรรณ์ จ.สระแก้ว เป็นการต่อยอดวิชาธรรมเปิดโลก โดยรักษาโรค (ในอนาคต จะรักษาโดยผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเห็นตัวผู้รักษา เป็นวิชาที่ไม่เคยมีมาก่อนนับแต่พุทธกาล อันนี้ไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ จากคำกล่าวฝากไว้ จากหลวงปู่เทพโลกอุดร)

 

มีต่ออีกหรือเปล่าครับ...จะได้ติดตาม...ขอขอบคุณบทความที่มีประโยชน์

 

สาธุ สาธู
-เคยไปขอเมตตารักษาภูมิแพ้อากาศมาแล้วครับ ขนาดออกจากห้องน้ำก็จามแล้วกินยาที เกือบ 20 วันกว่าจะหาย ล่าสุด อาการหายไป 5วัน เป็นอีกแล้วไม่ไหวแล้วเป็นไงเป็นกันยอมไปกราบขอเมตตา ตอนนี้ไม่ต้องพึ่งยาแล้ว ใช้ลมขับเชื้อโรคออกมาได้เลยครับ เกือบปีแล้วที่ไม่ได้ใช้ยา(ส่วนน้อยมากๆจนลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายซื้อยาเมื่อไหร่ หรือกินแค่ วัน สองวันก็หายแล้ว)

 

เพิ่มเติมตามคำเรียกร้องครับ
-เป็นการปรับธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ให้สมดุล รักษาโรค ลมปราณทะลุทะลวง ง่ายต่อการปรับธาตุ ทำให้ปฎิบัติธรรมได้ง่ายขึ้น (สุขภาพร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ก็เข้าหลักสติปัฏฐาน4(กาย เวทนา จิต ธรรม)) และเข้าสู่โพชงค์7 แบบเร่งด่วน โดยอาศัยการปฎิบัติให้เห็นชัด

-เหมาะกับผู้ที่รักษาผู้อื่นโดยการถ่ายกรรมให้แล้วขับออกไม่หมด หรือไม่ทันหรือพลาดรับมาหนักเกินไป กรรมมาติดกับตัวเอง ทำให้สุขภาพผู้รักษาทรุดไปด้วย โดยจะแสดงอาหารขับออกทันที หรือ อีกรูปแบบ คือว่าง ก็จะไม่เข้าตัว จะเป็นช่องผ่านออกไปเลย ไม่ต้องขับออกทีหลัง เช่นกัน

 

ยังมีต่อไหมครับ..แวะมารออ่านอีกครับ

 

มีต่อครับ

เน้นหลัก ใช้หนี้กรรม รักษาโรค และ เจริญเข้าสู่วิปัสนาทันที(สามารถทำได้ในขั้นตอนติดต่อกัน) แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอัตตาสูง

 

สาธุ สาธุ
-เคยทำครั้งแรก นอนไม่หลับเลย หลับตาแค่พักผ่อนสายตา ใครทำอะไร พูดคุยอะไรได้ยินหมด แต่ไม่รู้เรื่อง เพราะจะมัวแต่นอนอย่างเดียว เคยสอบถามพระธุดงค์ องค์หนึ่งว่าทำไม
ท่านเมตตาว่า "พระอาริยะเข้าจะเป็นกันแบบนี้ นอนแบบสะสมพลัง ถ้านอนแบบคนธรรมดา จะเสียพลัง หรือ ช้า ถ้านอนแบบนี้จะเป็นผู้ตื่นได้ด้วย คือตื่นจากการหลับ แล้วไหลไป
และได้ขอเมตตากับพระองค์อื่น ท่านเมตตาว่า "เป็นการปรับธาตุให้เป็นธาตุตื่น จิตจะตื่น เวลาตื่นแล้วจะลุกขึ้นนั่งทันที จะไม่บิดซ้ายที ขวาที จะไม่ตื่นแล้วมานั่งสมาธิ เป็นการแช่สภาวะ เป็นการตื่นทิ้ง ตื่นออก ตื่นแล้วลุกขึ้นทันที"

-และช่วงท้ายทอยพยามอย่าทับ หลวงพ่อท่านก็ทำแบบนี้ คือนั่งหลับ ถ้านอนทับท้ายทอยจะทำให้เสียพลัง ถ้านั่งหลับได้จะดีมาก คือไม่มีการทับท้ายทอยเลย หรือนอนแบบ ปางไสยาสน์ ก็ได้ ผมก็เห็นเพื่อนผมนอน แบบไม่ใช้หมอน ใช้แต่มือหนุนบ้าง ปางไสยาสน์บ้าง