ท้ายไร่...ใต้ต้นสะแก

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย มันตรัย, 18 พฤศจิกายน 2008.

  1. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +8,189
    สายลมพัดอ่อนโยน ริมน้ำแม่กลอง ตามชายเฟือยริมแม่น้ำ มีกอพงกอหญ้าขึ้นรกปรก น้ำใสมองเห็นสาหร่ายหางกะรอก ปลาสร้อยตัวเล็กๆว่ายน้ำเกาะกันเป็นกลุ่ม คนเฒ่าคนแก่สมัยบุรุ่มบุราณ แกว่า "มันจะไปกราบพระแท่นดงรัง มันจะไปให้ถึงนิพาน"
    ลมหนาวโชยมาเอื่อยๆ สาวกระถินห่อไหลด้วยความหนาว โดยมีหนุ่มทัด หรือสันทัด ลูกหลานคนลาดบัว โอบกอดร่างชะอ้อนของสาวกระถินเอาไว้ ริมท่าแห่งนี้สาวๆหนุ่มๆมักจะมานั่งพูดคุยหยอกเย้ากั นยามเมื่อเสร็จจากงานครัวงานไร่
    "กระถิน ข้ารักเอ็งจริงๆนะ"
    "พี่ทัด..อย่าเดี๋ยวใครมาเห็น..."
    "น่า...ขอให้พี่ชื่นใจสักนิด...."
    "ไม่เอาพี่....อย่าน่า......"
    สองหนุ่มสาวเคล้าคลอรำพันก็เพียงแต่พองามหาได้ทำอะไร มากเกินเลย ด้วยว่าขนบประเพณีนั้นยังยึดถือมั่นต่อกันมาไม่เปลี่ ยนแปลง
    "พี่ทัด..พอแล้ว..."
    "กระถินเอ็งก็รู้ว่าพี่รัก....."
    "เฮ้ย!.....จะเป็นไรมี"
    สองสาวหนุ่มผงะออกจากกันด้วยอำนาจเสียงปานฟ้าผ่าลงมา ปลาเล็กปลาน้อย และมวลแมลง ต่างตกใจพูกันไปคนละทิดละทาง หนุ่มทัดถึงกับหน้าถอดสี เมื่อเห็นร่างชายวัยกลางคน
    ผู้หนึ่งเดินออกมาจากหลังพุ่มต้นทองหลางนั้น
    "พ่อ..."
    "ไหงเอ็งมาเรียกข้าว่าพ่อล่ะไอ้ทัด....กระถินกลับไปบ ้านบัดเดี๋ยวนี้...ข้ามีเรื่องจะต้องพูดกับไอ้ทัดสัก กะหน่อย..."
    "พ่อจ๋า.....อย่าทำอะไรพี่ทัดนะจ๊ะ....."
    "เออว่ะ...เอ็งสบายใจได้ ข้ากะมันคนละรุ่นกันโว้ย...."
    สาวกระถินครึ่งเดินครึ่งลากออกไปจากการฉุดของพี่ชายข องเธอ
    "ไอ้ทัด ดูเหมือนหยั่งกับว่า ข้าเคยพูดกะเอ็งสามครั้งแล้วกระมัง ว่าอย่ามานัดแนะกะนังกระถินลูกข้าอีก
    "เอ่อ..ฉัน....."
    "ไปซะเดี๋ยวนี้...ก่อนที่ข้ายังยั้งใจยั้งตีนไว้ไม่ท ัน.....เอ็งอยากได้นังกระถิน...ฮะเฮ้ย....หามาสักสอง หมื่นซีวะ..ข้าจะยกให้...ฮ่าๆๆๆ.........."
    หนุ่มทัด ให้ข่อนใจหนัก เขาเองหาได้เกรงกลัว"น้าปลั่ง"พ่อของกระถินสักนิดก็หาไม่ ด้วยว่าใจของเขาเองนั้นก็เป็นลูกผู้ชายชาติทหารคนนึง แม้จะรู้ว่าน้าปลั่งนั้นจะมีชื่อเสียงไปในทางที่ไม่ด ี คนถิ่นอื่นอาจจะเรียก
    "เสือปลั่ง " ถึงจะไม่ดังหยั่งกะเสือฝ้าย เสือมเหศวร แต่ก็พอจะทำให้คนได้ยินชื่อ ก็ต้องหลบหน้าลงดิน และรู้ๆกันอีกว่าแกมีวิชาอาคม มีลูกศิษย์ลูกหาหลายคน ล้วนพร้อมที่จะเป็นโจรกันทั้งสิ้น แต่ที่หนุ่มทัดไม่กลัวเพราะเขาได้บวชเรียนกับหลวงพ่อ สุรินทร์และฝากตัวเป็นศิษย์ และคำพูดของอาจารย์สุรินทร์ยังแว่วอยู่ในหูของหนุ่มท ัดก็คือ
    "อ้ายปลั่งนะหรือ มันก็แค่แมวตัวนึง หาใช่เสือสางที่ไหน ข้าเป็นพระไม่อยากจะยุ่งกับใคร แต่ถ้าใครมารังแกลูกหลานข้า เหอะน่า ข้าคนนึงละไม่มียอม เอ็งก็ไม่เห็นจะต้องกลัวกับมัน ถึงเวลากรรมก็จะเป็นตัวกำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง"
    หนุ่มทัดกลับบ้านด้วยความรัดทด เขารักกระถินด้วยความจริงใจ หาได้จะรักแบบชั่วครู่ชั่วยาม แต่อยากจะถึงร่วมเรียงเคียงหมอนกันเลยทีเดียว รุ่งเช้า เขาจึงมานั่นอยู่ที่หน้ากุฏิหลวงพ่อสุรินทร์ พอแกเปิดประตูออกมาก็ปะหน้าศิษย์รักพอดี
    "ไหงเอ็งมานั่งทำหน้าปั้นไม่เสร็จหน้ากะติข้าแต่เช้า วะ...."
    "ผม.....เอ่อ............"
    "ฮึ..เรื่องทางโลก โลกียะ ข้าเองบอกตามกรง ไม่อยากจะยุ่งเลย ไอ้ทัดเอ้ย....."
    หนุ่มทัด ยังมิทันที่จะเอ่ยปากใดๆ แต่ดูเหมือนว่า หลวงพ่อสุรินทร์ท่านจะรู้อะไรทุกอย่างหมดแล้ว
    "เอ็งรักใครชอบใคร...เอ็งก็ไปที่บ้านเขาเลย....เอาเห อะข้าจะให้อะไรเอ็งไปอย่างนึง แต่รอให้วันปะรืนก่อนนะ แล้วเอ็งมาหาข้าอีกที ดึกๆหน่อยก็ดี...."
    "ครับหลวงพ่อ......."
    หนุ่มทัดลาท่านกลับมา เดินออกมาหน่อยนึง ก็พบพานกับเพื่อนฝูงนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟหน้าวัด หนุ่มทัดจึงแวะเข้าร่วมวง สนทนากับเพื่อนฝูง
    "ไอ้ทัด หมู่นี้เอ็งดูซูบเซียว สงกะสัย ล่อกระถินโคกจิ้มน้ำพริกวันละสี่ซ้าห้ามื้อกระมัง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ..........."
    "คนกะลังทุกใจ....เอ็งหนอไม่ช่วยแล้วยังซ้ำเติม. .."
    "ชะช้า.....เอ็งก็เล่นอยากได้ลูกเสือ เอ็งก็ต้องเจอเสือกัดก่อนซีวะ...ฮ่าๆ....
    "สองหมื่น..น้าปลั่งให้ข้าหามาสองหมื่น...ทองบาทนึงย ังไม่ถึงสี่ร้อย ข้าจะไปหาเงินที่ไหนมาให้เขา....."
    "โอ้โห น้าปลั่งแกเรียกเงินเอ็งขนาดนั้นเชียวหรือวะ...หยั่ง งี้มันไม่อยากยกนังกระถินให้เอ็งซะละมากกว่า......."
    หนุ่มทัดนั่งปรับทุกกับเพื่อนฝูง สายหน่อยก็ลากลับ วั้นนี้เขาจะต้องเผาอ้อยเพื่อที่จะเก็บส่งให้กับโรงห ีบ
    จากวันนั้นจนถึงวันที่หลวงพ่อสุรินทร์นัดให้เขาไปหาท ี่กุฏิ และมอบของสิ่งหนึ่งมาให้เขา และกำชับว่า ให้เปิดตอนที่จะคุยกับน้าปลั่ง พ่อของกระถิน และวันนี้ก็เป็นวันที่เขาตั้งใจว่าจะไปคุยกับน้าปลั่ ง บ้านท้ายไร่เรื่องของกระถิน เขาเองไม่มั่นใจ ด้วยว่าเงินสองหมื่นที่น้าปลั่งต้องการนั้นไม่มี จะมีก็พอที่จะหาได้จากสมบัติเก่าและเงินขายอ้อยก็ราว ๆสามพันบาทเท่านั้น และห่อผ้าอีกผืนที่หลวงพ่อสุรินทร์ให้มา
    "ฮะโว้ย...กล้าดีทีเดียวที่เอ็งมาเหยียบถึงบ้านข้า.. ..ไอ้ทัด วอนหาที่จริงนะมึง...."
    เสียงของน้าปลั่งดังแซดมา แต่หนุ่มทัด ก็มิได้อาทรหรือหวั่นเกรงใดหากแต่มีใจมุ่งมั่น จะขอกระถิ่นโฉมนางเท่านั้น
    "เอ็งแก้ห่อผ้าออก ก่อนที่จะพูดคุยกับไอ้ปลั่ง....."
    เสียงหลวงพ่อแว่วมาในความทรงจำ
    หนุ่มทัดยังมิได้ต่อความ ค่อยๆแก้ห่อผ้าในมือออกช้าๆ จนหมด จะเห็นก็แต่เพียงอักขระยันต์ต่างๆ แต่ก็ไม่ได้เข้าใจอะไรลึกซึ้ง และยัดเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ
    "ไอ้ทัด.........."
    ขาดเสียงน้าปลั่ง ร่างของแกก็ดูเหมือนคนจะเป็นลม หนุ่มทัดเข้าไปประคอง หามีเสียงใด้ออกมาจากปากน้าปลั่งไม่ จนเข้าไปถึงใต้ต้นสะแกข้างคอกวัวจึงได้นั่งลง
    "ขอบใจเอ็งไอ้ทัด.....ข้า....โอย..ข้าเป็นอะไรก็ไม่ร ู้....."
    "น้าปลั่งนอนพักก่อน กระถินวิ่งมานู่นแล้วจ๊ะ......
    "พ่อเป็นอะไรพี่ทัด.....พี่ทำอะไรพ่อฉัน........ "
    "เปล่าๆ....ทัดมันไม่ได้ทำอะไร.....พ่อหน้ามืดน่ะ... ....."
    "กระถินไปเอาน้ำกับยาลมมาให้พ่อเอ็งซิ..."
    หนุ่มทัดสั่งให้กระถินรีบไปเอายาลมมาให้พ่อของตัว จนช่วยกันพัดวี สักพักก็ดีขึ้น และจากนั้น น้าปลั่งดูเหมือนจะเปลี่ยนไปจนแม้หนุ่มทัดเองก็ไม่อย ากเชื่อ จวบจนหลังวันแต่งงานของทั้งสอง หนุ่มทัดแอบได้ยินหลวงพ่อสุรินทร์พูดกับพ่อของเขาบนก ุฏิ
    "ไอ้ปลั่งมันมีมิจฉาทิฐิ และมีมิจฉาอาคมต่างๆบ้านมันล้วนแต่มีสิ่งของอาถรรพ์เ ดียรัจฉานทั้งนั้น ....พอถูกทำลาย..จิตใจส่วนดีของมันก็กลับคืนมา ข้าเองก็ไม่อยากจะยุ่ง มันแล้วแต่กรรมใครกรรมมัน แต่ข้าก็อดไม่ได้ที่จะช่วยไอ้ทัดมัน แต่คราวนี้ไอ้ปลั่งคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน หากแต่เพราะเพรงกรรมของมันนั่นเอง มันทำอะไรใครไว้บ้าง พอหมดอาถรรพ์ เจ้ากรรมนายเวรก็มาทวงคืน............."
    หลังจากนั้นไม่ถึงสามเดือน น้าปลั่งก็ตายลง หากแต่ว่าหนุ่มทัดกับกระถินก็อยู่กินกันมาสืบต่อไป
    *หากแต่เรื่องนี้ที่ได้ฟังมา ก็เพียงแต่เค้าโครง รายละเอียดต่างๆปลีกย่อย ไม่ทราบจริงๆ และห่อผ้าคาถานั้นหากแต่ว่าแท้จริงแล้ว ลุงทัด(ในตอนนี้)แอบเอาไปแปะไว้ที่เสาร์กลางบ้าน โดยใช้กระถินลูกสาวน้าปลั่งเป็นไปแปะล้างอาถรรพ์ แต่ผ้าผืนเล็กๆที่ลุงทัดแก้ออกตอนคุยกับน้าปลั่ง ก็ได้สูญหายไปนานแล้ว ดูเหมือนว่า หลังจากวันนั้นก็หายไปแบบไร้ร่องรอย จวบจนบัดนนี้เวลาล่วงมา50กว่าปีแล้ว เรื่องราวต่างๆขออนุโมทนากับลุงทัด หลวงพ่อสุรินทร์ หากผิดพลาดล่วงเกินประการใด ก็ขออภัยและกราบขอขมา ต่อหลวงพ่อสุรินทร์แห่งวัดลาดบัวขาว ต.ลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี มา ณ ที่นี้ด้วย*
    <!-- / message --><!-- attachments -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +8,189
    ขอขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ
     
  3. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,073
    ค่าพลัง:
    +22,241
    อนุโมทนาครับ น่าติดตาม

    ผมห้อยเหรียญหมูหลวงพ่อมา 1 เดือน หลังเหรียญมาแล้ว 12 ตรงๆชอบครับ
     
  4. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
    สาธุๆ

    ยังน่าติดตามอีกเช่นคอย เห็นภาพเลย ทุกทีไป ^_^

    ขออนุโมทนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...