ทุกท่านเข้าใจการอวดอุตริมนุษธรรมกันว่ายังไงคะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 24 พฤษภาคม 2016.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ภิกษุมหาโจร
    รายงานโดย :ดนัย จันทร์เจ้าฉาย

    วันก่อนได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับครูบาอาจารย์หลายรูป อาทิ ท่านเจ้าคุณพระศรีญาณโสภณ วัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก พระอาจารย์มานพ อุปสโม ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาราชนครินทร์ เขาดินหนองแสง จันทบุรี

    พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี สถาบันวิมุตตยาลัย ตลอดจนครูบาอาจารย์สายวัดป่าที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ต่างแสดงความห่วงใยในความมั่นคงของพระศาสนา เนื่องด้วยชาวพุทธจำนวนหนึ่งกำลังสนใจในเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ความสามารถที่เหนือมนุษย์ในการทำนายทายทักและพยากรณ์ลูกศิษย์คนใกล้ชิด ตลอดจนตัวผู้เผยแผ่คำสอนว่าเป็นผู้ที่เข้าสู่กระแสการเป็นอริยบุคคล

    บางคนได้รับการทำนายทายทักว่าได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน หรือตำแหน่งที่สูงกว่า ก็เกิดทิฐิมานะ และนำมาซึ่งลาภสักการะ รวมถึงความยึดติดต่อผู้ทำนายทายทักโดยไม่รู้ตัว

    เพื่อเป็นการให้แสงสว่างแก่ชาวพุทธว่าสิ่งใดถูกต้องตามพระธรรมวินัยที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าจะเป็นพระศาสดา เป็นหลักสำคัญแก่พุทธบริษัทสี่หลังจากที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว ท่าน ว. วชิรเมธี ได้เมตตายกบทบัญญัติในวินัย จากหนังสือพุทธธรรม หน้า 440 เรียบเรียงโดย พระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ.ปยุตฺโต ดังนี้

    ... มีพุทธบัญญัติไม่ให้ภิกษุอวดอุตริมนุษยธรรม คือ คุณวิเศษหรือการบรรลุธรรมอย่างสูงที่เกินปกติของมนุษย์สามัญ เช่น สมาธิ าน สมาบัติ มรรคผล ถ้าอวดโดยที่ตนไม่มีคุณวิเศษนั้นจริง คือหลอกเขา ย่อมต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ (วินย.1/227-231/165-171) แต่ถึงแม้ว่าจะได้บรรลุคุณวิเศษนั้นจริง ถ้าพูดอวดหรือบอกกล่าวแก่ชาวบ้าน หรือผู้อื่นใดที่มิใช่ภิกษุหรือภิกษุณีก็ไม่พ้นเป็นความผิด เพียงแต่เบาลงมา เป็นอาบัติปาจิตตีย์ (วินย. 2/304-5/208-211)

    ต้นเหตุที่มีพุทธบัญญัตินี้ เกิดจากในคราวทุพภิกขภัย ภิกษุพวกหนึ่ง คิดหาอุบายจะให้พวกตนมีอาหารฉันโดยไม่ลำบาก จึงกล่าวสรรเสริญกันและกันให้ชาวบ้านฟังตามที่เป็นจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ว่าท่านรูปนั้นได้าน ท่านรูปนั้นเป็นโสดาบัน ท่านรูปนั้นเป็นพระอรหันต์ ท่านรูปนั้นได้อภิญญา 6 เป็นต้น ชาวบ้านเลื่อมใสพากันบำรุงเลี้ยงภิกษุกลุ่มนั้นอย่างบริบูรณ์ เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบจึงทรงบัญญัติสิกขาบทขึ้นห้าม โดยทรงติเตียนว่าไม่สมควรที่จะอวดอ้างคุณความดีพิเศษกันเพราะเห็นแก่ท้อง และสำหรับผู้ที่อวดอ้างโดยไม่เป็นจริง ทรงติเตียนอย่างรุนแรงว่าเป็นมหาโจรที่เลวร้ายที่สุดในโลก เพราะบริโภคอาหารของชาวบ้านชาวเมืองโดยฐานขโมย

    พุทธบัญญัติอีกข้อหนึ่ง ในจำพวกห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม คือ สิกขาบทที่มิให้ภิกษุแสดงอิทธิปาฏิหาริย์แก่ชาวบ้าน ภิกษุใดแสดงภิกษุนั้นมีความผิด ต้องอาบัติทุกกฎ ต้นเหตุเกิดจากเศรษฐีท่านหนึ่ง เอาบาตรไม้จันทน์แขวนไว้ที่ปลายไม้ไผ่ แล้วประกาศท้าพิสูจน์ว่า ใครเป็นพระอรหันต์ มีฤทธิ์จริงก็ขอถวายบาตรนั้น แต่ให้เหาะไปเอาลงมาเอง พระปิณโฑลภารัทวาชะได้ยินคำท้า ประสงค์จะรักษาเกียรติของพระศาสนา จึงเหาะขึ้นไปเอาบาตรลงมา ทำให้ชาวเมืองตื่นเต้นเลื่อมใสกันมาก พระพุทธเจ้าทรงทราบจึงทรงบัญญัติสิกขาบทห้าม โดยทรงตำหนิว่า ไม่สมควรแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นธรรมล้ำสามัญมนุษย์ เพราะเห็นแก่บาตรที่เป็นของมีค่าต่ำ ทรงเปรียบการทำเช่นนั้นว่า เป็นเหมือนสตรีที่เผยอวัยวะพึงสงวนให้เขาดูเพราะเห็นแก่เงินทองของต่ำทราม

    จากพุทธบัญญัตินี้ ชาวพุทธทั้งหลายพึงข้อสังเกตวิธีการสอนของผู้ประกาศตนว่าเป็นผู้เผยแผ่ธรรมของพระพุทธองค์ว่าเป็นไปตามพระธรรมวินัยหรือไม่ ทำไมผู้สอนบางท่านจึงอ้างถึงคุณวิเศษในการทำนายทายทักบุคคลอื่น พูดถึงเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ซึ่งพิสูจน์ได้ยาก หรือพยากรณ์คุณธรรมของผู้อื่นว่าบรรลุธรรมขั้นใด ทั้งที่การพยากรณ์การเป็นอริยบุคคลนั้น เป็นพุทธวิสัย คือ เฉพาะพระพุทธองค์เท่านั้น

    ครูบาอาจารย์สายวัดป่าทุกรูปล้วนมีปฏิปทาน่าเคารพยกย่อง มีจริยาวัตรและข้อวัตรปฏิบัติตามพระธรรมวินัย และตามรอยครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัด เราเป็นชาวพุทธแบบเถรวาท ความหมายคือ ยกย่องเทิดทูนเคารพบูชาครูบาอาจารย์ผู้เป็นพระเถระอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ขัดแย้ง ไม่จาบจ้วง และไม่มีสิ่งใดด่างพร้อย การช่วยกันสอดส่องดูแลผู้เข้ามาอาศัยพระศาสนาและใช้ธรรมะของพระพุทธองค์บังหน้า จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ที่จะช่วยกันลดจำนวนภิกษุมหาโจรให้น้อยที่สุด เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของพระพุทธศาสนา และความบริสุทธิ์ของพระธรรมต่อไป


    รายงานโดย :ดนัย จันทร์เจ้าฉาย
    วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553
    บันเทิง - ไลฟ์สไตล์
     
  2. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    จขกท. เข้าใจว่าเกี่ยวกับการสำรวมในวัตรปฏิบัติ การทักวาระจิตของบุคคลเป็นเรื่องควรกระทำหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้นๆหรือเปล่าคะ มาร่วมกันแสดงความคิดเห็นโดยปราศจากอารมณ์ที่ขุ่นมัวกันค่ะ
     
  3. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +2,226
    น่าจะถามว่า นวลปราง เข้าใจว่าอย่างไรมากกว่านะ
     
  4. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    และการบอกภูมิธรรมของตนเอง ควรบอกแก่ใครและเมื่อไหร่ มีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องบอก แล้วการสอบถามปัญหาการปฏิบัติธรรมกับกัลยาณมิตร จำเป็นต้องบอกมั้ยว่า ตนบรรลุขั้นไหนแล้ว รบกวนชี้แจงให้จขกท. เข้าใจด้วยค่ะ
     
  5. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    จขกท. ยังเป็นนักปฏิบัติที่ภูมิธรรมน้อย การภาวนาไม่ได้เข้มข้น จึงอยากรู้ว่า จะแยกออกได้อย่างไร ว่า ผู้ใดจงใจ อวด ผู้ใดมีเจตนา บอกสอน จขกท. ต้องใช้ ปัญญา ในการแยกแยะอย่างไรคะ หรือว่าประเด็นนี้อาจไม่สำคัญในการปฏิบัติของจขกท.
     
  6. ธรรมดาบส

    ธรรมดาบส สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2016
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +23
    แทนที่จะเอาเวลามาปฏิบัติธรรม
    ก็เอาเวลามาดูการแสดงฤทธิปาฏิหาริย์แทน
    ศาสนาก็เลยถดถอยลงไปเรื่อยๆ
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ภูมิธรรม ในการ พิสูจน " พระ " เน้นนะว่า เฉพาะ "พระ" ฆราวาสก็ยกเว้น
    ไปตามระเบียบ เพราะใน พุทธบัญญัติ ไม่ให้ถือเอา ฆราวาส เป็น ครูสอน

    อย่า งง นะ

    ฆราวาส เอาไว้ คุย ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง ได้ทุกรูปแบบ และอย่าไป ยกเป็น "ครู"
    สอนธรรม เท่านั้นก็จะ ถูกต้องตรงตาม พุทธบัญญัติ " ม้าที่พระพุทธองค์เลือกใช้ "

    เวลา ฟังพระเทศนา จะ มี ธรรมวาที อธรรมวาที พระพุทธองค์ก็ จรนัย ชี้เอา
    ไว้ง่ายๆ ในหลัก กาลมาสูตร ....

    เพียงแต่ กาลามสูตร เราไป จับประเด็น พระสูตรผิด ทำไปตาม พุทธธรรม
    ปรับขยาย ไปจับประเด็นตรง 10 ข้อ

    ซึ่ง คนละเรื่อง ประเด็นของกาลมสูตร คือ คนเรียน ให้เอาหัวใจตัวเองมาวัด
    ว่า คำสอน อุบายธรรมใด เหล่านั้น เป็นหนทางที่ทำให้ กิเลส โลภะ โทษะ
    โมหะ บรรเทา เบาบาง หรือ สิ้นไป หรือเปล่า

    อุบายธรรมใด จะอุตริผิดปรกติแค่ไหน แต่ ถ้า คนเรียน สมาทานใส่ใจ รับรู้
    อุบายธรรมนั้นๆแล้ว แล้ว โลภะ โทษะ โมหะ ของตนลดลง พระพุทธองค์
    ตรัสให้ กราบ คำสอนเหล่านั้น !!! จัดเป็น คำสอนของ ตถาคต ทั้งหมด
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ทีนี้ เราก็ดูไปสิ แล้ว ทำไม ฆราวาส ที่เรียนกับ " พระ " ทำไมถึง ทะเลาะกับพระ

    แม้นแต่เป็น พระ ก็ยัง ทะเลาะกับ พระ จนลืมกลับวัด

    จะไปยากอะไร ฆราวาสบางคน เรียนธรรมะ เพื่อ สร้างฐานะ และ โอกาส ทาง
    การให้ คำปรึกษาราคาแพง หาโอกาสเขียนหนังสือว่าตัวเองรู้อะไร สำเร็จอะไร

    แต่พอไปเจอ ของจริง ที่รู้ กาลควรพยากรณ์ ไม่ได้ พยากรณ์ เพราะเห็น
    แก่ ลาภ สักการะ ที่เอามา ล่อ ฆราวาส พระ เหล่านั้น ก็ ขัดใจจอร์จ

    ประกาศคว่ำบาตร จับสึก พระ ไปโน้นนนนน เพื่อ ชิงภาพลักษณ์ ชิงเป็นฝ่ายถูกต้อง

    ซึ่ง ฟังดีๆนะ

    นี่วิจารณ์ ไม่ใช่ไปด่าใคร

    แต่ กล่าวไปให้ คนเรียนธรรมะ คนที่สนทนากันอยู่นี่ รองไตร่ตรองใคร่ครวญดู

    ฆราวาสที่ดี เป็น อุบาสก อุบาสิกา ของพระพุทธองค์ มีหรือ จะขวนขวาย ประกาศ
    " หลักคำาสอนอื่น " เหนือกว่าศาสดา

    อุบากสก ขยัน ทำหนังสือ นอกเขตสัมมาทิฏฐิ นั่นควรเห็นหรือว่า เป็น อุบาสก

    อุบาสิกา ที่ขยันสร้างเสริมมูลค่า ราคา จิตวิทยาตาน้ำข้าว นั่นควรหรือว่า เป็น อุบาสิกา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2016
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    การแสดง อุตริมนุษย์ธรรม ของ พระ

    นั้นมีข้อยกเว้น และ ข้อกำกับ ให้แสดง

    กรณีที่ ผู้ฟัง ผู้สดับ มีแนวโน้ม ใส่ใจ ศรัทธา ในธรรม ของพระผู้มี พระภาค
    การไม่แสดงถึง อุตริมนุษยธรรม จะมี อาบัติ

    พระพุทธองค์ อุปมา เหมือน คนมีอาหาร แล้ว ไม่รู้จักแบ่งปัน คนที่ สมควรให้

    เน้นนะว่า คนที่สมควรให้

    กรณีไป แบ่งปัน หรือ แสดงธรรม(เฉพาะแค่ แสดงธรรมพื้นๆ) กับ คนที่ไม่สมควรให้

    พระ ก็ต้อง อาบัติ อีกหน่าคร้าบ
     
  10. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    จขกท. คิดว่าจขกท. อาจไม่เหมาะกับครูบาอาจารย์ที่เน้นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ เพราะโมหะจะหนาตัวขึ้น หลงใหลในครูบาอาจารย์(ไม่ว่าเพศไหน) แล้วจะพาลไม่เปิดรับคำสอนของท่านอื่นๆ
     
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เนี่ยะ ลองสังเกตใหม่

    เอาคำพูดตัวเอง ยกขึ้น วิจัย ให้ดีๆ

    ว่า ยกปรารภแบบ " ทุกข์ให้กำหนดรู้ " หรือเปล่า

    ถ้าใช่ ให้เรียน อิทธิฤทธิ ปาฏิหาร์ย ไปได้เลย เพราะ เรา สังวรณ์ปทาน
    อยู่ มีการสอดส่องการหลงไหล ปหานประธานด้วย ....แล้วอะไรนะ

    ต่อไปต้อง ภาวนา หรือ อนุรักขา ก็ว่าไปสิ ถ้า เริ่มต้น ปรารภ ด้วยอาการ สังวรณประทาน เรียนเลยฮับ รออัลไล [ อ่าน กระทู้ สัมมัปทาน4 เพิ่ม ]

    เว้นแต่ อาการสังวรณ์ประทานหายไป

    เช่น ไปเห็นอะไรมา ก็ ยินดี ยินร้าย หรือ ปรารภว่า ฉันเฉยๆต่อการเห็นนะ

    อะไรแบบนี้ เขาเรียกว่า สังวรณ์ประทานหายไป เพราะ เวทนา กรุ้มรุมจิต

    ถ้า กรุ้มรุมจิตมากๆ ที่ ปุถุชนเรียกว่า วิปลาส ในทางธรรม เขาไม่ถือเอาผิด

    ปุถุชนที่ไม่รู้ธรรมเท่านั้น ที่จะ มุ่งจับไปตัดหัว จับขังคุก จับเข้าโรงพยาบาล
     
  12. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    สาธุค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ถ้าเข้าใจนะ

    ยกภูมิธรรม สัมผัส การกำหนดรู้อริยสัจจ เข้ามาเลย

    อย่าได้ตำหนิจิต อย่าไปเชื่อสิ่งที่จิตมันกระซิบหลอกเจ้าของ

    ให้โอนลอย ทุกสิ่งที่เห็นว่าเป็นตน ของตน ให้ พระศาสดา ไปเลย

    แล้วเล็งเข้ามาเลย

    ตะกี้ หากเป็นการปรารภ กำหนดรู้ทุกข์

    ก็นั่นแหละ จิตกำลังยกระดับมา ทำการแจ้งอริยสัจจ แจ้งนิพพาน

    แล้วตามเห็น ธรรมแม้นนี้ ก็ไม่เที่ยง เข้ามา ...

    แล้วอย่าถามว่า จะได้อะไร (หากมีการถาม แปลว่า เซ็นโอนลอยตะกี้ มีเม้มเอาไว้)
     
  14. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ตอนแรกอ่านที่คุณนิวรณ์โพสก้อพอเข้าใจแล้วนะ แต่อ่านมาโพสล่างๆไม่เข้าใจ เป็นอย่างงี้บ่อย คือภาษาที่ใช้อาจจะไม่เหมาะกับข้าพเจ้า เหมือนเฝือๆ
     
  15. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090

    สั้น ๆ ว่ามันคือ การหลอกลวง คือ รูัอยู่แก่ใจว่าไม่จริง ไม่มี ไม่ใช่ แต่กล่าวปดหรือแสดงออกไปเพื่อชักจูงให้บุคคลคล้อยตาม เพื่อผลประโยชน์ เช่น ลาภ ยศ ชื่อเสียง

    กรณีที่เข้าใจผิดว่าตนเองมี และเที่ยวกล่าวหรือแสดงให้บุคคลใด ๆ ได้รับรู้ตามที่ตนเชื่อ เพื่อผลประโยชน์ เช่น ลาภ ยศ ชื่อเสียง
    ก็จะเป็นอีกกรณี แต่ไม่เรียกหลอกลวง แต่เรียกว่าเขลา
     

แชร์หน้านี้

Loading...