ทำไม ฮิตเลอร์ ถึงฆ่าคน และทรมานคน เป็นล้านเลย >< (ทรมานโหดมากๆ)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mamboo, 2 ตุลาคม 2011.

  1. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    ทำไม ฮิตเลอร์ ถึงฆ่าคน และทรมานคน เป็นล้านเลย >< (ทรมานโหดมากๆ)

    คนๆหนึ่ง จะมีความคิดที่โหดร้ายเช่นนี้ ได้อย่างไร ??? >< มันเกิดขึ้น เพราะอะไร ?? ><

    [​IMG]

    [​IMG]

    ตอนอเมริกัน อังกฤษ กับ โซเวียต มาช่วยอ่ะ ดูแล้วน้ำตาไหลเลย T-T
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2011
  2. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,163
    ถ้าพูดกันเรื่องจำนวนก็ถือว่าโหดมาก แต่ก็ไม่ได้เลวอย่างไม่มีเหตุผลหรอกครับ อันนี้ไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่ฮิตเลอร์ทำนะครับ เพราะถ้าฮิตเลอร์คิดแต่เรื่องชั่วๆ เลวๆ จริงๆ ใครจะยอมยกให้เป็นผู้บังคับบัญชาล่ะครับ คนเขาก็ไม่ได้โง่กันหรอกครับที่จะแยกแยะดีชั่วไม่ออก แต่เพราะความเชื่อความเข้าใจแบบผิดๆ ต่างหากที่เป็นตัวการทำให้เวลาคนเราคิดที่จะแก้ไขความไม่ดีของคนอื่น จะมองไปในด้านทำลายผู้อื่นเสียส่วนใหญ่ แม้แต่สังคมปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นนี้เสมอ ที่เลวกว่าฮิตเลอร์มีเยอะแยะไปครับสมัยนี้หาดูไม่ยากแถวหน้า 1 หนังสือพิมพ์มีให้เห็นตลอด เวลาเรามองดูก็มองดูแค่ที่เขากระทำเราเคยเห็นไปถึงกรรมเขาไหมครับ ก็เพราะเราไม่เห็นไปถึงขนาดนั้นเราเลยไม่มีทางเข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำอย่างนั้น นี่แหละครับโทษของความไม่รู้ รู้ไม่ครบ แต่ก่อนผมก็เกลียดฮิตเลอร์ เกลียดคนชั่ว เกลียดความไม่ยุติธรรม ใครแสดงสิ่งเหล่านี้มาให้ผมรับรู้หรือแสดงกับผมๆ ก็ต่อต้านเต็มที่ทุกรูปแบบ จะมีเรื่องถึงตายก็ยอม แต่มาคิดดูแล้วคิดแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเลยสักนิด มันดีครับที่จะรักษาความดีทำลายความชั่ว แต่เราทำลายความชั่วในใจเราได้หรือยัง ถ้ายังเราก็ไม่ต่างไปจากเขาเท่าไหร่นักหรอก

    ตอนหลังมานี้ไม่คิดจะโกรธเกลียดใครอีกต่อไปแล้ว เพราะที่สุดเราก็เข้าใจเขาว่าเขาเองก็คงไม่อยากจะทำความชั่วความเลวหรอกครับ ถ้าเลือกได้เขาก็อยากจะทำดีต่อคนอื่น เพียงแต่ความเชื่อความรู้ความเข้าใจยังมีไม่ถูกมีไม่ครบ โลกมันก็เป็นธรรมดาแบบนี้แหละครับ มีวิธีมากมายครับที่สู้กับอำนวจความชั่วได้โดยไม่ต้องใช้วิธิทำลายต่อกัน เพียงแต่เราจะยอมรับวิธีนั้นได้ไหมแค่นั้นเอง

    พักหลังตอบกระทู้ยาวทุกกระทู้เลย ต้องขอโทษสำหรับถ้าใครอ่านแล้วดูเหมือนจะยาวเกินกว่าคำถามกระทู้ พอดีเขียนบรรยายให้กับคนสนใจกลุ่มนึงที่ตามอ่านตอบกระทู้ผมน่ะครับ จะได้มีความเข้าใจในเรื่องพวกนี้มากขึ้นน่ะครับ ขออภัยถ้าความเห็นอาจจะยาวและเกินประเด็นไปหน่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2011
  3. Humra

    Humra สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +5
    สงสัยตะแก จะเป็นฮิตทีเรีย ดูชื่อแกยังออกฮิต เหมือนกันเลย 55555ๆ :mad:
     
  4. nichaojung

    nichaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +8,247
    ฮิตเลอร์บอก ในโลกนี้ไม่เคยกลัวใคร มีคนเดียวที่ฮิตเลอร์กลัว คือ อัลเบิร์ต อัลสไตน์
     
  5. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    ผู้ชนะสงครม คือผู้เขียนประวัติศาตร์ จะเขียนอย่างไงก็ได้

    จะโยนควมผิดไห้คนที่ตายไปแล้ว ยังไงก็ได้
     
  6. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    [​IMG]
     
  7. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    สงคราโลกครั้งที่สองเกิดจาก การเอาเปรียบ ของอังกฤษ และฝรั่งเศส
    ผลจากสงคราโลกครั้งที่หนึ่ง จึงทำไห้ เยอรมัน ต้องส่งส่วย แร่ ดีบก สังกะสี
    ่ทอง เงิน เหล็ก ฯล ฮิตเลอร์จึงเด้งสู้ ฉีกสนธิสัญญาแวร์ซายทิ้ง ประกาศ
    ไม่ยอม อ่อนข้อ ไห้อักฤษ กับฝรั่งเศสอีกต่อไป พร้อมประกาศสงครามสู้
     
  8. Astral

    Astral Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +34
    อย่างที่คุณ "พรานป่า" ว่าแหละครับ "ผู้ชนะสงครม คือผู้เขียนประวัติศาตร์" ลองศึกษาดีๆก็จะรู้ว่าทำไมฮิตเลอร์ถึงทำแบบนี้ (ไม่ได้บอกว่าฮิตเลอร์ไม่ผิดนะ ผิดอยู่ แต่ไม่ควรว่าฝ่ายเดียวเอะอะก็บอกว่ามันเป็นปีศาจร้าย ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มันเลวมันชั่ว )

    อีกอย่าง ยังกะว่า อเมริกัน อังกฤษ กับ โซเวียต หรือประเทศอื่นๆไม่เคยทำแบบนี้ เพียงแค่ทำเนียนกว่า เวลาทำก็โยนความผิดว่ามันเป็นคนชั่วแล้วก็อ้างความชอบธรรมนี้ซัดมันซะ ข้าจะได้เป็นฮีโร่ เท่านั้นเองแหละ ละก็ยังย้ำคำเดิม "ผู้ชนะสงครม คือผู้เขียนประวัติศาตร์" หุหุหุ
     
  9. ดาวบุ๋น5

    ดาวบุ๋น5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +375
    เหมือนเคยได้ฟังมาว่า ฮิตเลอร์มีมนุษย์ต่างดาวกลุ่มหนึ่งสนับสนุนอยู่นี่ครับ
    ไม่อย่างนั้นไม่น่าจะฆ่าคนได้มากขนาดนี้...คนที่ติดต่อมนุษย์ต่างดาวต้องระวังให้ดีจะถูกเสี่ยมให้ฆ่าพวกเดียวกัน

    อเมริกาก่อนจะบุกถล่มอิรักก็ได้ยินมาว่ามนุษย์ต่างดาวบอกให้ทำแบบนั้นเหมือนกันครับ
     
  10. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,453
    เคยอ่านมา สายหลวงพ่อฤาษีบอกว่า ฮิตเลอร์เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ที่จะมาช่วยบูรณะวัดท่าซุงในอนาคต ...

    "ผู้ที่จะมาบูรณะวัดในกาลข้างหน้า
    ท่านบอกว่าในจำนวน 5 ทหารเสือนี้แหละ ในจำนวน 2 คนนี้ ซึ่งมีเชื้อสายมาจาก
    "พุทธภูมิ" ในอดีตทั้งสองคนนี้เคยอยู่ที่ อิตาลี และ เยอรมัน
    คนหนึ่งจะมาเกิดเป็นพระอรหันต์องค์นั้น
    ส่วนอีกคนหนึ่งจะมาเกิดเป็นพระเจ้าธรรมิกราช ตามพระพุทธพยากรณ์นั้น
    และสถานที่แห่งนี้ หลวงพ่อได้เคยเล่าให้พระฟัง หลังจากทำสังฆกรรมในพระอุโบสถ
    เมื่อประมาณ 2-3ปีก่อนว่า
    สถานที่บริเวณวัดท่าซุงแห่งนี้ ต้งแต่อดีตกาลนานมาแล้ว
    ได้มีผู้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว 72 องค์
    โดนท่านทั้งหมดได้มาปรากฏแล้วบอกให้หลวงพ่อทราบ
    มีบางท่านบอกผมว่าบุคคลที่มาจากเยอรมัน 1 ในนั้น ก็คือ ฮิตเลอร์นั่นเอง"
     
  11. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler)

    [​IMG]

    Adolf Hitler อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำเผด็จการ ของเยอรมันนีผู้โหดเหี้ยม ผู้สั่งสังหารชาวยิวกว่า 1.6 ล้านคน ณ ค่ายกักกันเอาชวิตซ์ ( Auschitz Concentration Camp ) ก่อตั้งแบรนด์รถยนต์โฟล์คสวาเก้น

    ประวัติชีวิต อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler)
    <hr>
    • 1889 เมื่อวันที่ 20 เมษายน ฮิตเลอร์ถือกำเนิด ที่เมืองเบรานา (Braunau) ประเทศออสเตรีย เป็นบุตรของนายอาลัวส์ ฮิตเลอร์ (Alois Hitler) และนางคลารา ฮิตเลอร์ (Klara Hitler) ในวัยเด็ก ฮิตเลอร์ เป็นเด็กเรียนเก่งจึงได้รับการไว้วางใจให้เป็นหัวหน้าห้อง เป็นคนรักศิลปะ และนั้นก็เป็นเหตุให้ผลการเรียนของเขาตกลง
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    รูปซ้าย นางคลารา ฮิตเลอร์ (Klara Hitler) แม่ของฮิตเลอร์ รูปกลาง ฮิตเลอร์ในวัยเด็ก รูปขวานายนายอาลัวส์ ฮิตเลอร์ (Alois Hitler) พ่อของฮิตเลอร์

    • 1903 ฮิตเลอร์สอบตอกซ้ำชั้นจึงถูกบิดาไล่ออกจากบ้าน และหลังจากนั้น 3 วันฮิตเลอร์ก็กลับมา ครอบครัวฮิตเลอร์ย้ายไปอยู่ลินซ์ ( Linz )
    [​IMG] [​IMG]
    รูปซ้าย ฮิตเลอร์เมื่อวัย 4 ขวบ คนขวามือสุดแถวบน รูปขวา ฮิตเลอร์ตอนเรียนเกรด 4 คนกลาง แถวบนสุด

    • 1907 มารดาของฮิตเลอร์เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเต้านม และทำให้ฮิตเลอร์หนีไปอยู่กับป้าที่เวียนนา

    • 1907-1909 ฮิตเลอร์หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นจิตกร และได้หลงรักหญิงสูงศักดิ์ แต่มาเธอผู้นั้นได้ไปแต่งงานกับชาวยิว ( นั้นอาดเป็นเหตุที่ทำให้ฮิตเลอร์ผูกใจเจ็บชาวยิว และเป็นชนวนในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวต่อมา )

    • 1909 ฮิตเลอร์ เข้าเป็นอาสาสมัครในกองทัพเยอรมัน

    • 1914 ฮิตเลอร์ เข้าเป็นแนวหน้าของทัพบกเยอรมัน เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในตอนนั้นฮิตเลอร์ยังเป็นแค่พลทหารเขาอยู่ในหน่วยรบแนวหน้า เขาเฉียดตายหลายครั้งแต่ก็รอดมาได้ ในไม่นานด้วยความกล้าของเขาทำให้เขาได้ติดยศสิบตรี
    [​IMG]
    รูป ฮิตเลอร์ในวงกลม กำลังร่วมฉลองเยอรมันประกาศสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ the Munich Odeonsplatz

    • 1916 เศรษฐกิจเยอรมันตกต่ำจากภาวะสงคราม บ้านเมืองจลาจลวุ่นวาย ข้าวยากหมากแพง ซึ่งทำให้ความกดดันนั้น ทำให้ฮิตเลอร์เกิดอุดมการณ์รักชาติขึ้นมา และเริ่มปลุกระดมชาวบ้านให้สู้ และอุดมการณ์อันแรงกล้าของฮิตเลอร์ ทำให้ฮิตเลอร์เริ่มเป็นที่รู้จักในวงแคบ และเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตการเมืองของฮิตเลอร์
    [​IMG]
    รูป ฮิตเลอร์คนซ้ายสุดแถวล่าง และเหล่าเพื่อนทหารเมื่อปี ค.ศ.1916

    • 1919 ฮิตเลอร์เข้าร่วมกับพรรคนาซี และในปีเดียวกันนี้ เยอรมันได้ทำสนธิสัญญาแวร์ซายส์ ซึ่งเยอรมันเสียเปรียบอย่างชัดเจน ทำให้อุดมการณ์ของฮิตเลอร์โดดเด่นขึ้นมา ฮิตเลอร์จึงเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และพรรคนาซี ก็เริ่มมีคนเยอรมันสมัครเข้ามาร่วมเป็นจำนวนมาก
    [​IMG]
    รูป ฮิตเลอร์เมื่อปี 1919

    • 1921 ฮิตเลอร์ได้เป็นหัวหน้าพรรคนาซี โดยพรรคนาซีในยุคฮิตเลอร์มีนโยบายต่อต้านชาวยิว และลัทธิสังคมนิยม

    • 1923 ฮิตเลอร์พยายาม ก่อการปฏิวัติ แต่ไม่สำเร็จ จึงถูกตัดสินจำคุก ในระหว่างจำคุกนี้ เขาได้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า "การต่อสู้ของข้าพเจ้า" (Mein Kampf)
    [​IMG]
    หนังสือ "การต่อสู้ของข้าพเจ้า" (Mein Kampf) ที่ฮิตเลอร์แต่งในคุก

    • 1924 ฮิตเลอร์ถูกปล่อยตัวออกมาก่อนกำหนด และเริ่มดำเนินกิจกรรมการเมืองต่อ

    • 1927 ฮิตเลอร์ถูกสั่งห้ามปราศรัยในที่สาธารณะ

    • 1932 ในการเลือกตั้งในเยอรมนี พรรคนาซีได้รับเลือก 230 ที่นั่ง จาก 608 ที่นั่งในสภาขณะนั้น ทำให้อำนาจฮิตเลอร์มีสูงขึ้น

    • 1933 ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
    [​IMG]
    ได้รับความแสดงความยินดีหลังได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี

    • 1934 ฮิตเลอร์ควบตำแหน่งประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี ประมุขของรัฐ และผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือที่เรียกกับว่า ผู้นำ หรือ ฟือเรอร์ (Fuhrer)

    • 1935 เยอรมันก่อตั้งกองทัพอากาศขึ้นอย่างเป็นทางการ

    • 1939 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายใต้การนำของฮิตเลอร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพเยอรมันและฝ่ายอักษะ (ญี่ปุ่นและอิตาลี) ได้ยึดครองยุโรปได้เกือบทั้งทวีป ฮิตเลอร์ได้ใช้นโยบายด้านเชื้อชาติ ทำให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งทำให้ผู้บริสุทธิ์ตายไปอย่างน้อย 11 ล้านคน โดยเป็นชาวยิวถึง 6 ล้านคน ฮิตเลอร์เปลี่ยนแปลงเยอรมนีจากประเทศผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่หนึ่งมาเป็นมหาอำนาจของโลก

    • 1945 เยอรมันนีแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 พบศพฮิตเลอร์ยิงตัวตาย แต่ยังเป็นข้อถกเถียงกันถึงปัจจุบันว่านั้นใช่ ศพของ ฮิตเลอร์ ตัวจริง หรือไม่ ?
    [​IMG]
     
  12. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637

    จะเล่าไงก็เล่าไป อย่าเอาหลวงพ่อมาเกี่ยว เอาแค่ว่าผมเคยได้ยินมา

    แล้วก็มาเล่าสู่กันฟังก็พอ เอาหลวงพ่อมาเกี่ยว มีแต่เสียกับเสีย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ตุลาคม 2011
  13. veer

    veer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +356
    <TABLE class=tborder id=post5188125 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] วันนี้, 01:26 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #[​IMG]
    เคยอ่านมา สายหลวงพ่อฤาษีบอกว่า ฮิตเลอร์เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ที่จะมาช่วยบูรณะวัดท่าซุงในอนาคต ...

    "ผู้ที่จะมาบูรณะวัดในกาลข้างหน้า
    ท่านบอกว่าในจำนวน 5 ทหารเสือนี้แหละ ในจำนวน 2 คนนี้ ซึ่งมีเชื้อสายมาจาก
    "พุทธภูมิ" ในอดีตทั้งสองคนนี้เคยอยู่ที่ อิตาลี และ เยอรมัน
    คนหนึ่งจะมาเกิดเป็นพระอรหันต์องค์นั้น
    ส่วนอีกคนหนึ่งจะมาเกิดเป็นพระเจ้าธรรมิกราช ตามพระพุทธพยากรณ์นั้น
    และสถานที่แห่งนี้ หลวงพ่อได้เคยเล่าให้พระฟัง หลังจากทำสังฆกรรมในพระอุโบสถ
    เมื่อประมาณ 2-3ปีก่อนว่า
    สถานที่บริเวณวัดท่าซุงแห่งนี้ ต้งแต่อดีตกาลนานมาแล้ว
    ได้มีผู้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว 72 องค์
    โดนท่านทั้งหมดได้มาปรากฏแล้วบอกให้หลวงพ่อทราบ
    มีบางท่านบอกผมว่าบุคคลที่มาจากเยอรมัน 1 ในนั้น ก็คือ ฮิตเลอร์นั่นเอง"
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    จะเล่าไงก็เล่าไป อย่าเอาหลวงพ่อมาเกี่ยว เอาแค่ว่าผมเคยได้ยินมา

    แล้วก็มาเล่าสู่กันฟังก็พอ เอาหลวงพ่อมาเกี่ยว มีแต่เสียกับเสีย<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พรานป่า : วันนี้ เมื่อ 01:30 PM
    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("5188125")</SCRIPT> [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เป็นเรื่องจริงครับ..ไปหาอ่านดูได้ในหนังสือของหลวงปู่ หลวงปู่ท่านพูดเองครับ
     
  14. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    เอามาเลย เล่มไหน ชื่อหนังสืออะไร หน้าที่เท่าไหร่ เอามาไห้ชัด หลักฐานๆ อย่าพูดลอยๆ

    ท่านเอามาเล่า คนที่ไม่เชื่อ จะเป็นการปรามาสหลวงพ่อ ทำไห้คนตกนรกโดยที่ไม่จำเป็น

    คิดเยอะๆ ก่อนที่จะทำอะไร ผมคิดว่าคุณคงทราบดีนะ ว่าหลวงพ่อมีความเป็นมาอย่างไร
     
  15. veer

    veer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +356
    ขออนูญาตเจ้าของบทความนำมาลง เพื่อประกอบการเรียนรู้ในมุมที่แตกต่างครับ

    สวัสดิกะ ไทยมหารัฐ จักรพรรดิราช ตอนที่ 2 ฮิตเลอร์ ในมุมที่คุณไม่เคยรู้





    ฮิตเลอร์ ในมุมที่คุณไม่เคยรู้
    [​IMG]
    ต่อจากตอนที่ 1 พี่เอ๋ได้กล่าวถึงเรื่องเครื่องหมายสวัสดิกะของท่านฮิตเลอร์ เอาไว้ และจะเล่าต่อถึงเรื่องของท่านที่ไม่ค่อยมีใครได้รู้มาก่อนซึ่งพี่เอ๋เคยได้เขียนเอาไว้แล้ว ก็เลยนำมาต่อให้พี่ๆน้องๆทุกท่านได้อ่านเป็นความรู้กัน ว่าอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ที่เราๆท่านๆเคยได้รับข้อมูลด้านเลวร้ายแต่เพียงด้านเดียวจากสื่อของพวกยิวที่เกลียดชังนาซี มีความจริงอะไรที่น่าตื่นตะลึง หรือเรียกว่าช็อค เราๆท่านๆกันได้ไม่น้อย เชิญทรรศนา
    สิงหาคม 2554
    อารมณ์ดีๆ อากาศดีๆแบบนี้ ได้เวลาที่ฉันจะเขียนเรื่องราวที่อาจไม่มีสาระมากนัก แต่เขียนเพื่อความบันเทิงอารมณ์ของผู้เขียนเองและผู้อ่านเป็นหลักก็แล้วกัน
    จั่วหัวไว้ถึงจอมเผด็จการนาซี ที่ใครๆก็พูดว่าโหดเหี้ยมกระหายสงคราม นามอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ที่โลกจารึกว่าเป็นชนวนเหตุแห่งสงครามโลกครั้งที่ 2 และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน ชื่อเสียงในทางอำมหิตและยิ่งใหญ่เกรียงไกรของชายผู้นี้ ก็ไม่เคยถูกลืมได้


    มีหนังหลายเรื่อง สารคดีนับไม่ถ้วน หนังสืออัตชีวประวัติ พูดถึงสิ่งต่างๆที่ชายผู้นี้กระทำเอาไว้ในแง่มุมของสงคราม ความโหดเหี้ยมที่ปฏิบัติต่อชาวยิวนับล้านคน ล้วนแล้วแต่ในแง่ลบ และทุกครั้งที่ผู้คนได้ยินชื่อนี้ก็อดที่จะสะดุ้งผวาไม่ได้ แม้เจ้าตัวจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วก็ตาม


    แต่สำหรับฉัน กลับมองทะลุลงไปในแววตากร้าวแกร่งสีสนิมเหล็กคู่นั้นแล้วเห็นไปถึงหัวใจ

    ต่อไปนี้คือเรื่องเล่าโกหก ฟังกันสนุกๆอย่าได้คิดมากเอาจริงเอาจริงอะไรกับผู้เขียน

    ฉันเกิดใน พ.ศ.2521 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงสามสิบกว่าปี นับถือพุทธศาสนา ชอบอ่านพุทธประวัติและศึกษาเรื่องราวต่างๆในพระไตรปิฎก หลังจากเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ ในชีวิตของฉันจำได้ว่า ได้ฝันถึงเหตุการณ์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บ่อยครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งนั้น ฉันจำบรรยากาศในความฝันได้เป็นอย่างดี ในฝันภาวะตึงเครียดอบอวลไปทั่วทุกหัวระแหง ฉันมองเห็นทหารฝรั่งมากมายอยู่รอบๆ บางครั้งเป็นอาคาร บางครั้งก็เป็นค่าย แต่ทุกครั้งที่มีในฝันเหมือนๆกันก็คือ ผู้คนหดหู่เศร้าสร้อยและหวาดผวา เพราะเขาไม่รู้ว่าจะถูกฆ่าเมื่อไร แต่ตัวฉันกลับสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างสบาย


    และทุกครั้งในฝัน ฉันจะพบกับฮิตเลอร์ ท่านผู้นำจอมเผด็จการที่ทุกคนหวาดกลัว แต่ในฝันนั้นฉันกลับไม่มีความหวาดกลัวเขาแม้แต่น้อย กลับยินดีที่ได้อยู่ใกล้ๆ และรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่รักเป็นที่โปรดปรานของท่านผู้นำเผด็จการคนนี้เป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ว่า ทหารทุกคนต้องเกรงใจฉัน


    ฉันฝันคล้ายๆกันนี้หลายครั้ง เว้นระยะห่างกันไป แต่ก็ไม่เคยได้เอะใจอะไรจนกระทั่ง ในงานทำบุญออกพรรษาที่วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ในปี 2549 ฉันได้พบปะพูดคุยกับพี่ๆที่ปรารถนาพุทธภูมิหลายท่าน ได้แลกเปลี่ยนความรู้ใหม่ๆ และได้อธิษฐานก่อนทำบุญ ซึ่งในคำอธิษฐานนั้นมีตอนที่กล่าวว่า

    “ขอให้ข้าพเจ้า ได้เกิดมาเป็นผู้มีสัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา สัมมาปฏิบัติ” ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องอธิษฐานแบบนี้ จึงถามพี่ที่นั่งอยู่ด้วยกัน ท่านจึงกรุณาให้ความรู้ ที่ฉันฟังแล้วแทบหงายหลังตกเก้าอี้

    “ถ้าเราไม่อธิษฐานแบบนี้ เราก็อาจพลาดได้เหมือนกับพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ที่หลวงพ่อฤาษีท่านช่วยขึ้นมาจากนรกน่ะ ชื่ออะไรนะ” พี่คนนั้นทำท่านึกอยู่ก็โพล่งออกมาว่า


    “ อ้อ ฮิตเลอร์ไง”


    “หา ฮิตเลอร์นี่นะ พระโพธิสัตว์” ฉันทวนคำแบบไม่เชื่อหูตัวเองสักเท่าใดนัก เป็นไปได้หรือ จอมเผด็จการที่เป็นผู้ร้ายในสายตาชาวโลก ฆ่าคนตายได้เป็นล้านๆ จะเป็นพระโพธิสัตว์ ให้ตายเถอะ! นี่ฉันก็ปรารถนาพระโพธิญาณ หมายจะได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเหมือนกัน แม้แต่มดก็ยังไม่อยากฆ่า นี่เป็นไปได้หรือคนที่ปรารถนาพระโพธิญาณ จะฆ่าคนได้มากมายขนาดนั้น

    “ท่านพลาดไปเกิดนอกศาสนาพุทธ เวลาทำบารมีก็ยิ่งใหญ่มาก เวลาพลาดก็พลาดมาก”

    นั่นเป็นคำอธิบายสั้นๆที่ทำให้ฉันต้องมาค้นหาคำตอบเอาเองในภายหลัง ว่าเหตุผลที่ผลักดันให้ท่านทำเช่นนั้น มีมากกว่าที่ทุกคนคิดและเข้าใจกันมากมายนัก


    เป็นจิ๊กซอว์ที่กำลังต่อเข้าหากันเพื่ออธิบายความฝันที่ผ่านมาในชีวิตของฉันตลอดมา ว่าเหตุใดทั้งๆที่คนพากันหวาดกลัวเขา แต่ฉันกลับรู้สึกอีกแบบ ฉันได้ค้นพบเรื่องเล่าที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เดินทางไปยุโรปสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ เพื่อไปโปรดนายพลสมัยสงครามโลกถึง 5 ท่าน และ 1 ในนั้นคือ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ โดยท่านและเทวดาองค์สำคัญ ไปช่วยขึ้นมาจากขุมนรก เพื่อให้มาเป็นเทวดาที่รักษาวัดท่าซุง และจะมาเกิดเป็นพระธรรมิกราชบูรณะวัดท่าซุงต่อไปในประมาณ พ.ศ. 2700

    [​IMG]
    หลวงพ่อไปช่วย ๕ ทหารเสือ สมัยสงครามโลกที่
    (๑. ฮิตเลอร์ ๒. มุสโสลินี ๓. เกอร์ริ่ง ๔. เปแตงค์ ๕.เชอร์ชิล)

    (จากหนังสือตามรอยพระพุทธบาท เล่ม๔)
    ตามที่ลงบันทึกการเดินทางของท่านแล้วจะเห็นว่าหลวงพ่อต้องฝืนทนสังขารไปโปรดลูกหลานถึงเมืองนอกเพราะเวลาก็ต่างกัน จึงทำให้ท่านต้องป่วยหนักทุกครั้งหลังจากที่ท่านกลับมาจากอเมริกาแล้ว ในปีต่อมา พ.ศ. ๒๕๓๑๑พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็ได้เดินทางไปยุโรปอีกเพราะมีภารกิจที่สำคัญ ณประเทศเยอรมัน

    ท่านกลับมาแล้วจึงได้เล่าเรื่องที่ไปช่วย ๕ทหารเสือให้พ้นจากขุมนรก โดยการสร้างพระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอก ๑ องค์ แล้วก็หน้าตัก๒๐ นิ้วอีก ๓ องค์ บวชเณร ๑ องค์ บวชพระ ๑ องค์ สังฆทาน ๑ ชุด เจริญกรรมฐาน ๗ วันหลวงพ่อได้เล่ากล่าวต่อไปอีกว่า......

    "ทำบุญให้เค้าน่ะคือว่ารับมาจะทำบุญให้ คือว่ามันเป็นวันพ้นพอดี ไม่ใช่ว่าว่าใครจะไปช่วยกันให้ขึ้นมาจากขุมนรกน่ะ มันช่วยไม่ได้ ใช่ไหม? ก็นรกที่เขาลงมันก็ไม่ลึกแค่อเวจี เท่านั้น ไม่ลึกกว่านั้นอีกน่ะ ถ้าลึกจริงๆเราก็มองไม่เห็น นี่มันไม่ลึกมากก็มองเห็น

    แต่ไม่ใช่ฉันนะก่อนจะไปต่างประเทศความนี้มันมีเหตุมีเรื่องแปลกนี่ฉันก็จะไปไม่ไหวแล้วแต่พระท่านให้ไปและท่านก็ไม่บอกเหตุ ไม่บอกผลนี่เราเจริญกรรมฐานฉันพูดได้ ถามท่านว่า ถ้าไปร่างกายไม่ดีแล้วจะเป็นยังไงท่านบอกว่าไม่เป็นไร จะเป็นทางท้องนิดหน่อยไม่มากนัก จะมีการล้างท้องสักครั้งหนึ่งให้นำเกลือสักครั้งหนึ่งก็หมดกัน เท่านั้นระหว่างเดินทางฉันก็เลยลอง....!

    แล้วไปคราวนี้มันเครียดต้องทรมานกายเหนื่อยทุกวันคิดว่ามันจะทนไหวไหม คือจะไปลองทนตามที่พระท่านพูด มันก็ไหวก็ตรงตามท่านว่า พอไปถึงอิตาลี ไม่เห็นใครเลย เห็นก็แต่ผีอื่น ผีที่เราต้องการไม่เห็น อยากจะรู้ มุสโสลินีอยู่ไหน...ไม่เห็น พอเข้าเขตสวิตเซอร์แลนด์จึงรู้ที่มาของคน ๒ -๓ คน

    ๑. ฮิตเลอร์ ๒. มุสโสลินี ๓. เกอร์ริ่งนายเกอร์ริ่งน่ะคู่หูเขา แต่ฉันไม่ดูเอง เวลานอนฉันก็ไปหาพระตามปกติฉันเป็นอย่างนั้นนะ หัวถึงหมอนปั๊บก็ถึงพระแล้ว เพราะอยู่กับพระ...เราคุยสนุก คุยสบายใจกว่า แล้วก่อนจะไปท่านก็บอกว่า ถ้าต้องการรู้อะไรให้ถามได้ท่านสองคนคือพระอินทร์ กับ ท่านสหัมบดีพรหม

    ฉันไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนเลยถ้าถามสององค์ ถามองค์หนึ่งก็เป็นหัวหน้าเทวดาทั้งหมดเป็นเทวราชาอีกองค์หนึ่งก็เป็นหัวหน้าพรหม...ใหญ่ที่สุด พอไปถึงสวิตเซอร์แลนด์ก็ไปนอนๆพอจิตสบายน่ะ... ไม่ได้ดูอะไรนะ ไอ้เรื่องดูนี่ขี้เกียจดูจิตมันเต็มกำลังมันก็หลุดพั๊วะ... ไปโน่น... ไปหาพระ... ไปเอง... ไม่ต้องสั่ง...พอไปถึงท่าน

    ท่านก็เลยถามว่าต้องการรู้ที่อยู่ของคนสองคนใช่ไหม ก็บอกว่าใช่ท่านบอกว่า... ถามโยมสิ โยมแกทั้งสองโยมน่ะ... เขารู้ พอดีโยมท่านก็ไปถึงพอดีแล้วถามท่าน ท่านก็บอกสองคนเวลานี้ลงอเวจีทั้งคู่เราก็สบายใจเพราะคนที่อยู่อเวจีได้ต้องใหญ่จริงๆ ไม่ใหญ่มันอยู่ไม่ได้.. ใช่ไหมคุณบาปไม่ใหญ่มันลงไม่ได้นะ

    พอท่านบอก ๒ คนอยู่อเวจีก็หมดทางที่พระพุทธเจ้าท่านบอกให้ถามสองคนนี้เป็นความจริง อำนาจของเราหมดเราสามารถจะช่วยได้ แต่ช่วยได้ยาก แค่ปรทัตตูปชีวีเปรตเปรตอีก ๑๒จำพวกเราก็ช่วยไม่ได้ อสุรกายเราก็ช่วยไม่ได้สัตว์นรก ๘ขุมช่วยไม่ได้เลย

    ทีนี้อยู่ขุม ๘ ก็หมดทาง... ใช่ไหม ถามบอกหมดทางท่านถามอยากจะช่วยไหม บอกไอ้อยากช่วยน่ะ อยากช่วยมานานไม่ว่าใคร หมดน่ะแต่ว่าในเมื่ออยู่ในขุมนี้ก็หมดทาง ท่านบอกไม่เป็นไร ท่านถามถึงความรู้สึกบอกผมมีอุเบกขา ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนมีกรรมคือมีอกุศลกรรมหนักต้องลงนรกเป็นเรื่องธรรมดาเราก็ไม่หนักใจ

    ท่านบอกว่าช่วยได้ แต่ไม่ใช่คุณ ต้องสององค์นี้จึงช่วยได้พระอินทร์ กับพระสหัมบดีพรหมก็เลยเริ่มทัวร์ทัวร์อันดับสองใช่ไหม ทัวร์จากนิพพานลงวไปอเวจี... ไปด้วยกันไหม... (หัวเราะ)เห็นหน้าอยู่คนพอไปได้ คนนี้ก็ไปได้นะ แต่ห้ามอยู่นะ(หัวเราะ) ไม่มีสิทธิ์ไม่มีสิทธิ์..ก็ไปได้น่ะ

    ถึงเวลาพอดี
    ทีนี้ก็เลยทัวร์ซ้อนทัวร์จากนิพพานไปอเวจี พอถึงอเวจีก็มีเจ้าของถิ่น ๒ ท่าน คือพระยายม กับนายบัญชีใหญ่ไปถึง ท่ากน็ถึงทันทีเหมือนกัน พอหันมา "นายบัญชีใหญ่"เปิดบัญชีและบัญชีท่านไม่พลิกอย่างเราเล่มหนาขนาดนั้นเนี้ย เปิดปั๊บถึงพอดี แกล้งเปิดหรือไงไม่รู้ พอเปิดปั๊บ...หมดสิ้นวัน... วันนี้ครับ เขาหมดเขต แน่ะ...เป็นวันพอดีมิน่า...พระถึงได้เข็น...!

    ฉันปฏิเสธหลายครั้ง การไปยุโรปนี่ฉันบอกมันไปไม่ไหวนะ ขอท่าน...บอกขอไม่ไป ท่านไม่ตกลง...บอกต้องไป พอเปิดบัญชีมาบอกหมดวันนี้ครับ...มีสิทธิ์ สององค์ท่านก็เรียกเอาขึ้นมา... ไม่ใช่ฉันนะเราน่ะหมดสิทธิ์แล้ว พระนะหมดแหงแก๋แล้ว...ยิ้มแหยแล้ว

    ท่านก็บอกนายนิริยบาล บอกเอาคนนี้ขึ้นมา เขาหมดเวลาแล้วก็เลยถามท่านว่า อเวจีนี้มันมีอายุ ๑ กัป แล้วพวกนี้ที่ลงไปยังไม่ถึง ๑วันนรกเลยแล้วขึ้นมาได้ยังไง ท่านบอกว่านรกมันมีอายุ ๑ กัปจริงแต่คนที่ตกลงมาในเขตนี้มีบุญถึงขั้นนี้ แต่ไม่เต็มกัปมันมีอยู่ ตัวอย่างพระนางมัลลิกาลงสัญชีพนรกแค่ ๗วันมนุษย์ใช่ไหม?

    โทษเขาหนักถึงขั้นนั้นจริง แต่ว่าอายุเขาไม่ต้องอยู่นานเป็นอย่างนั้นต่างหากล่ะ... ใช่ไหม สารวัตรมีไหม? เรือนจำน่ะคนที่เขาเข้าเรือนจำไม่ต้องจำอยู่ตลอดชีวิตใช่ไหม... ไม่จำเป็น โทษน้อยมี โทษมากมีไม่ใช่กำลังฉันนะ อย่าลืม... ของ ๒ องค์ และเป็นวันที่หมดเกณฑ์ของเขาพอดีไม่ใช่ว่าไปดึงเขามาจากขุมนรก

    แต่ว่าการหมดเกณฑ์ที่ขุมนั้นต้องลงนรกบริวารและก็เศษยังผ่าน ยมโลกียนรก อีกต่างหาก อันนี้ถือว่าขุมใหญ่มีความจำเป็นก็ลงแล้วก็ไปตัดจากปากขุมพอดี ถ้าไม่ตัดต้องล้อมไปแต่ว่าเขาบอกว่ามีสิทธิ์อีก ๒๐๐ปี ถึงจะเกิดเป็นมนุษย์ได้บางทีถ้าลงบริวารก็ลงแค่นิดเดียว

    ก็เลยถามว่าต้องการอะไรบ้างตอนนั้นเขาขึ้นมาแล้ว... โปร่งแล้วนี่ ต้องการสังฆทานครับ บอก อือ ไม่เป็นไร..อะไรอีก? พระหน้าตัก ๒๐ นิ้ว ๓ องค์ นี่ไม่ได้ใบ้หวยนะ... อย่าเล่นนะมันกินหมด(หัวเราะ) บวชเณร ๑ องค์


    บอกเออ... แล้วก็ผลที่เธอได้...จะเป็นยังไง ผมก็เป็นเทวดาชั้น จาตุมหาราช ถามว่านักรบเป็นเทวดาได้ยังไงมันมีแต่รบอย่างเดียว เขาบอกว่า.. ผมไม่ได้มีแต่รบอย่างเดียวครับ บุญผมทำ เมตตาผมมีเอ้อ... เราก็เถียงไม่ได้เว้ย เลยถามว่าเอาอย่างนี้ก็แล้วกันแกไปเกิดประเทศไทยดีไหม แกบอก... แหลกเลยครับ...ผมฆ่าแหลกเลย...!!!

    ถ้ารูปนี้ก็ไม่เหลือ(หัวเราะ) ฮิตเลอร์เก่งจริงๆ ถามทำไมละ ขโมยขโจรไอ้พวกนี้... ผมฆ่าแหลกเลยนะก็เลยบอกเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน งั้นแกไปเกิดประเทศไทยถ้าต้องการไปเกิดประเทศไทยมันจะต้องทำยังไงบ้าง ก็ต้องสร้างพระหน้าตัก ๔ ศอกและก็บวชพระให้ ๑ องค์ผมไปเกิดประเทศไทยได้ครับ

    ถามว่าแกไปเกิดแล้วแกจะช่วยวัดฉันได้ไหมบอกช่วยได้แน่นอนครับ ในแผ่นทองคำ ๒๐๐ ปีนั้น คือผมนะครับโอ้...มันรู้เลย มันรู้ด้วย ถามแกว่าอ่านยังไงวะ บอกผมอยู่ในนรกผมอ่อนออก แหม...ไอ้ตานรกมันอ่านยาว เพราะเหลือ ๒๐๐ ปีพอดีไง ๒๐๐ ปีมนุษย์

    เอ้อ...มหัศจรรย์... ถามแกเป็นอะไร... บอกผมเป็นตามตำแหน่งนั้นแหละ มุสโสลินี เป็นอำมาตย์พอเราตกลงช่วย อย่างนี้มันไม่ยาก ยังไม่ได้สั่งช่างทำนี่ ถาม มุสโสลินีบอกผมขอเท่ากันครับ ถามแกเป็นอะไร...? บอกผมก็เป็นอำมาตย์ ต่อมาผมก็บวชอยู่วัดนั้นถามแก "จบ" ไหม..? บอก "จบ" ครับ...!!!

    แน่ะ... อย่าทำเป็นเล่นไปนะสัตว์นรกนี่ มันต่ำสุดก็สูงสุดได้เหมือนกัน... ใช่ไหมคุณ... ทำเป็นเล่นไปนะลองๆก็ได้นะ

    [​IMG]

    ****"แผ่นทอง"หมายถึงคำพยากรณ์ที่หลวงพ่อบรรจุไว้ในหลุมพระอุโบสถ เมื่อวันตัดลูกนิมิต๒๔ เมษายน ๒๕๒๐บอกว่าอีก ๑๘๐ ปี จะมีพระเจ้าธรรมิกราช(คือท่าน ฮิตเลอร์)พร้อมด้วยพระอรหันต์(ท่านมุสโสลินี)มาบูรณะวัดนี้(วัดจันทาราม(ท่าซุง))

    แล้วก็ต่อมาอีกวันหนึ่งนึกถึงเกอร์ริ่งมันคู่กับมุสโสลินีคนนี้อยู่ที่ไหน ท่าน ๒องค์บอกอยู่นั่นไง... กระดูกแดงฉานน่ะ ไฟแดงเผาโชนหมดวันเหมือนกันก็ขนขึ้นมาอีกทำบุญเท่ากัน และต่อมาก็ถึงฮอลันดา กำลังออกจากฮอลันดาสิฮิตเลอร์บอกนึกถึงเปแตงค์อาจจะเป็นศัตรูก็ได้ไม่เป็นในตอนนั้นนะ... เพราะยอมแพ้นี่ บอกให้ช่วยเปแตงค์ด้วยครับถามเปแตงค์อยู่ที่ไหน บอกที่เดียวกันครับ บอกเออ...ฉันไม่มีสิทธิ์หรอก

    เลยบอกเอ็งไปบอกพ่อ ๒ องค์สิ ฉันไม่มีสิทธิ์ฉันรับทราบได้ แต่... ไม่มีสิทธิ์ในการช่วย เขาก็ไปบอก ๒ ท่าน ไปบอก นายบัญชีโผล่มาอีกเหมือนกันกับพระยายม หมดวัน... รู้สึกวันพอดี แต่ว่านายนี่พอขึ้นมาแล้วถามต้องการอะไรบ้าง?

    บอกต้องการสังฆทานอย่างเดียวครับบอกแกเอาเท่าเขาแล้ววะ... ไม่อย่างนั้นใช้ยาก(หัวเราะ) หนอยแน่ มันเล่นขี้เกียจน่ะเลยเหมาเสร็จให้เท่ากัน แล้วก็ต่อมาพอข้ามมาถึงอังกฤษ นายเปแตงค์ก็เป็นห่วงเชอร์ชิลไอ้เจ้านี่... รู้สึกลำบากนิดหนึ่งทั้งสองท่านมา... บอกฉันจะลองดู กระดูกแดงเหมือนกันที่เดียวกันแหละ...คนนี้มีบุญ...!

    แหม... ไม่มีสนิมเลยคุณ เผาแดงช๊าดเลย สนิมเกาะไม่ได้ทั้งสองท่านไป... ไปขออนุญาตนายบัญชี มาถึงเปิดบัญชีปั๊บ... ขาด ๓ วันครับ ต้องอีก๓ วัน วันที่ ๓๐ - ๓๑ - ๓๒ เปล่า ๓๐ ขึ้น ๑ - ๒ ต้องวันที่ ๒ถึงรับโมทนาได้

    พอขาด ๓ วันทั้งสองท่านบอกเอาอย่างนี้ก็แล้วกันฉันให้เป็นสัมภเวสี ๓ วัน อ้อ... เค้าเรียกมีทางแก้...! ถ้าอย่างเราแหงแก๋...ดูเฉยๆ แล้วหมดสิทธิ์ ใช่ไหม เขาก็เลยให้ ให้เป็นสัมภเวสี ๓ วัน แล้วต่อนั้นมาก็เลยถามพระท่านว่า การมานี่มีกิจเท่านี้หรือครับ ท่านบอกใช่

    ก็บอกว่าถ้าบอกผมสักหน่อยเดียว ผมไม่มาหรอก(หัวเราะ) ท่านไม่บอกเลยนะ บอกแต่ให้ไปๆฉันยืนยันว่าไปได้ ไม่เป็นไรๆ เป็นบ้าง... เป็นทางท้องนิดหน่อยต้องล้างท้องหนึ่งครั้ง ให้น้ำเกลือหนึ่งครั้ง ก็ตรงตามนั้นหมด บอก...ถ้ารู้อย่างนี้ผมก็ไม่ต้องไป...นอนวัดก็ช่วยได้

    ท่านบอกมันก็ไม่ได้เหมือนกันนะ คงจะมีอะไรสักอย่างถ้านอนวัดเราก็ห่วงงานมากกว่า ใช่ ... ห่วงงานของเรา เราก็เลยไม่ห่วงพวกนี้เวลานั้นนั่งรถไป เราก็รำคาญการนั่งรถ... ใช่ไหม เราก็ใช้กำลังใจรถจะถึงไหนก็ช่างหัวมัน เราธุระของเราไปเรื่อยเฉื่อย อย่างไปถึง เยอรมันนี่เราก็ดูซ่อนอะไรที่ไหนมั่งหว่า... (หัวเราะ)

    ดูของที่ซ่อน โอ้...บานเจ้าเลย ความโง่ของฉัน เมื่อสมัยหลังสงครามครั้งที่ ๒ นี่จะโกหกให้ฟังนะใครจะเชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็ตามใจ บอกแล้วว่าโกหก เพราะไม่ได้ไปเห็นจริงนะ...แค่รู้ เพราะเค้าบอกว่าเยอรมันสร้างอาวุธ แล้วเก็บในเขา ฉันก็คิดว่าเก็บในถ้ำมันไม่ใช่อย่างนั้น เค้าสร้างถ้ำในเขา

    เพราะว่าออกจาก อิตาลี แต่ก่อนจะถึงสวิตเซอร์แลนด์ เรารู้สึกมันผ่านถ้ำไม่รู้เท่าไหรเลยใช่ไหม ภูเขา...ถนนเค้าไม่อ้อมเขา เขาทะลุถ้ำไปเลย... ยาวเหยียดๆ ขนาดตอนนั้น เขายังขนาดนี้ตอนก่อนเขาก็ทำใต้เขาให้เป็นถ้ำ ตามความหมายประสงค์ของเขา... แค่นี้เองนี่รวมความว่าฉันโง่แน่ ฉันไปนี่... ฉันฉลาดขึ้นมาหน่อย... หน่อยเดียวนะรู้ว่าเขาเจาะเขาได้สะดวกด้วย... ใช่ไหม ทีนี้มันก็มีปัญหาว่า ตามถนนรถยนต์ต่างๆน่ะมันมีอะไรอยู่ใต้ถนนบ้างหรือเปล่า นั่งไป เอ... นี่มันมีถนนสองชั้นเลยนี่หว่าจิ้งจกทัก(หัวเราะ) ห้ามพูดอันตราย ท่านบอก อันตราย... ไม่เป็นเรื่อง..." (จบบันทึกเพียงเท่านี้)


    ท่านผู้อ่านที่รัก เรื่องราวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฉันมีมุมมองต่อฮิตเลอร์เปลี่ยนไปอย่างมาก หากเราค้นคว้าดูดีๆแล้ว ยิวเป็นชนชาติที่กอบโกยผลประโยชน์ทุกอย่างไว้กับตัวอย่างตะกละตะกรามมาจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารโลก ศูนย์กลางควบคุมการซื้อขายหุ้น ทองคำ น้ำมัน และทรัพยากรธรรมชาติทุกๆอย่าง การทุบค่าเงินบาทของไอเอ็มเอฟ ที่ส่งผลให้คนไทยต้องฆ่าตัวตายล้มละลายเป็นหนี้สินกันในยุคปี 2540 ก็เป็นฝีมือของคนกลุ่มนี้ การเข้าไปแทรกแซงการเมือง เศรษฐกิจ ของประเทศต่างๆทั้งหลายในโลกเพื่อกุมอำนาจไว้ที่ตนเอง การเข้าครอบงำสื่อแบบเบ็ดเสร็จ ชี้ชะตากรรมของโลกผ่านข่าวสารที่ตนเองต้องการในแต่ละวัน การครอบงำวิถีชีวิตคนทั้งโลกด้วยระบบทุนนิยมและบัตรเครดิต เป็นการกระทำที่ไร้หัวใจอย่างยิ่ง จึงไม่แปลกใจเลยหากท่านสามารถมองเห็นอนาคตล่วงหน้าได้ว่า หากปล่อยคนพวกนี้ไว้ต่อไปโลกจะเป็นเช่นไรแล้วควรจัดการกับคนพวกนี้ยังไงดี?(ถึงแม้วิธีการจะผิดไปบ้าง)

    แม้แต่น้ำ ปัจจุบัน เรายังต้องซื้อกินกันแล้ว คุณตาคุณยายแก่ๆที่ไม่ได้เกิดมายุคอินเตอร์เน็ตล่ะจะทำเช่นไร เดินขอทานไปเรื่อยๆตามท้องถนนแล้วแต่ยถากรรมอย่างนั้นหรือ


    ท่านรู้ไหมว่า นักวิทยาศาสตร์สามารถคิดประดิษฐ์รถยนต์ที่วิ่งโดยไม่ใช้น้ำมันมาได้นานแล้ว แต่ถูกพับงานวิจัยเอาไว้ด้วยอำนาจทุนของกลุ่มค้าน้ำมันรายใหญ่ ซึ่งถ้าไม่หยุด ก็ต้องตายเท่านั้น แล้วคนพวกนี้มีหรือจะไม่รู้ว่า น้ำมันทำร้ายสมดุลโลกมากแค่ไหน ทำให้มลภาวะเป็นพิษขนาดไหน ผู้คนต้องซื้อน้ำมันแพงๆจากการตั้งราคาตามแต่อารมณ์และทรงผมของคนไม่กี่คนในแต่ละวัน และแน่นอน คนเหล่านี้ก็คือ ยิว ที่ฮิตเลอร์พยายามกำจัดอย่างนักหนานั่นเอง


    ถ้าท่านยังชื่นชมยกย่องการที่ต้องจ่ายทุกอย่างด้วยเงิน และแขวนปากท้องไว้กับราคาน้ำมัน ทองคำและอีกสารพัดที่ถูกควบคุมโดยยิว ก็ขอให้ท่านสวัสดีมีชัยไปตลอดเถิด


    เพราะตอนนี้ฉันเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจอะไรๆมากขึ้น ในสิ่งที่พี่ของฉันทำมาในอดีตทั้งหมด แม้จะผิดพลาดไปมากมาย แต่ก็ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ต้องการให้โลกนี้มีความยุติธรรม ไม่ผูกขาดทรัพยากรธรรมชาติและความมั่งคั่งไว้ที่คนไม่กี่คน แล้วปล่อยให้คนอีกนับพันล้านคนอดอยากยากแค้นไปตามยถา


    ถึงวันนี้ฮิตเลอร์จะจากไปนานแล้ว แต่ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรทัดเทียมเจ้าจักรพรรดิก็ยังคงเป็นที่กล่าวขวัญถึง คุณเกลียดเขาเพียงอย่างเดียวไม่ได้หรอก คุณทั้งรักทั้งชังไปด้วยต่างหาก และก็ยังแอบทึ่งในบารมีอันมากล้นของคนตัวเล็กๆ ที่กุมหัวใจเยอรมันนีและชาวโลกเอาไว้ได้ ผ่านสุนทรพจน์อันทรงพลังมาจนถึงทุกวันนี้


    ฉันภาคภูมิใจในสายเลือดของพวกเรา เหล่าพุทธภูมิผู้แกล้วกล้า หมายปราบอยุติธรรมให้สิ้นไปจากโลก


    ฉันภูมิใจในตัวพี่


    ไฮ ฮิตเลอร์ !
     
  16. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    สุดสยอง ค่ายนรก เอาชวิตซ์

    [​IMG]
    Auschwitz Concentration Camp ค่ายกักกันเอาชวิตซ์ โดยคำว่า "เอาชวิตซ์ ( Auschwitz )" เป็นภาษาเยอรมัน ที่ใช้เรียกเมือง Oswiecim ที่อยู่ทางเหนือของโปแลนด์ ( Poland ) ที่ถูกยึด และผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมัน เอาชวิตซ์ เป็นชื่อเรียกรวมของค่ายกักกันขนาดใหญ่ 2 แห่ง และค่ายย่อยอีก 36 แห่ง ค่ายเอาชวิตซ์ ถูกใช้เป็นที่สังหารหมู่ชาวยิว และยิปซี เพียงเพราะ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) เห็นว่าพวกนี้ ไม่ มีผิวสีขาว ผมสีทอง และนัยน์ตาสีฟ้าเหมือนตน ซึ่งเป็นสายเลือดที่ไม่บริสุทธิ์ จึงทำการรวบรวมชาวยิว และชาวยิปซี จากทุกพื้นที่ในอณานิคมของตน ส่งมาทำลายที่ค่ายเอาชวิตซ์ กว่า 1.1 ล้านคนที่ต้อง ตาย ในค่ายเอาชวิตซ์



    [​IMG]

    ค่ายเอาชวิตซ์ ประกอบไปด้วย
    <hr>
    [​IMG]

    • ค่ายเอาชวิตซ์ 1 ถูกสร้าง เดือน มิถุนายน 1940 และถือเป็นค่ายหลัก เพื่อเป็นที่กักกัน ชาวโปแลนด์ ( พื้นที่ค่าย คือ จุดสี่เหลี่ยมสีส้มเล็กอันกลาง )
    • ค่ายเอาชวิตซ์ 2 หรือ Birkenau ถูกสร้างใน เดือนตุลาคม 1940 เพื่อช่วยบรรเทาความแออัดของ ค่ายเอาชวิตซ์ 1 สร้างเพื่อเป็น โรงฆ่า ( Extermination Camp ) โดยเฉพาะ สำหรับชาวยิว ( ที่ตั้งค่าย คือ พื้นที่สีส้มอันใหญ่ ด้านซ้าย )
    • ค่ายเอาชวิตซ์ 3 หรือ Birkenau ส่วนนี้จะเป็นค่ายย่อยประมาณ 36 ค่าย ที่อยู่กระจากยตัวอยู่โดยรอบ ผู้ที่ถูกกักกันอยู่ที่นี้โดยมากจะเป็น พวกนักโทษ และชาวโปแลนด์ อาจจะเป็นเชลยที่ค่อนข้างโชคดีกว่าพวกที่ถูกกักกันไว้ที่ ค่ายเอาชวิตซ์ 1 และ 2 เนื่องจากจะถูกเกณฑ์ไปใช้แรงงานเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยมี ชาวยิว เนื่องจากชาวยิวจะถูกกักไว้ที่ค่าย 1 และ 2 เพื่อรอการทำลายทิ้ง ( ที่ตั้งค่าย คือ สี่เหลี่ยมสีส้มด้านขวามือ )
    ไปทัวร์ ค่ายเอาชวิตซ์ 1 กับ wowboom กัน
    <hr>
    [​IMG]

    1 Commandant House
    <hr>
    บ้านพักของผู้บัญชาการ ค่ายเอาชวิตซ์ ซึ่งผู้บัญชาการค่ายคนแรกคือ Rudolf Höss จนกระทั้งถึง ปี 1943 จึงเปลี่ยนมาเป็น Arthur Liebehenschel และ Richard Baer ตามลำดับ และบาปกรรมก็ติดจรวด ภายหลังเยอรมันแพ้สงคราม Rudolf Höss ถูกกองทัพอังกฤษจับไ้ด้จาก การที่ภรรยาของเขาเป็นผู้ชี้ที่หลบซ่อนตัวของเขาให้แก่กองทัพอังกฤษ และเขาถูกตัดสินประหารชีวิต โดยการแขวนคอที่หน้าค่าย เอาชวิตซ์นั้นเอง

    [​IMG] [​IMG]
    รูปซ้าย รูปถ่่ายนาย Rudolf Höss รูปขวาบ้านพักของ Rudolf Höss ที่อยู่ข้างค่ายกักกันเอาชวิตซ์

    2 Commandant Offiec
    <hr>เป็นสถานที่ทำงานของเหล่านายทหารระดับสูงของค่ายเอาชวิตซ์

    3 administration office
    <hr>เป็นสถานที่ทำงานของทหารเยอรมันระดับล่างลงมา

    4 SS hospital
    <hr>โรงพยาลของหน่วยเอส.เอส. สำหรับพวกนาซีนั้นมันคือโรงพยาบาล ที่แสนดี สะดวก สบาย ในการรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย แต่สำหรับเหล่าเชลย คนพิการ และชาวยิว มันคือ แห่งรวม ผีห่าซาตาน จากนรก ที่อยู่ในคราบของ หมอ โดย หมอเหล่านี้จะไปทำการทอลอง ที่เหี้ยมโหด ณ บล็อก 10

    เหล่าทูตมรณะ ในคราบของ หมอ
    <table border="1" width="100%"><tbody><tr><td style="text-align: center;">[​IMG]
    โจเซฟ เมงเกเล

    [​IMG]
    กำลังเริ่มทดลอง

    [​IMG]
    ครอบครัวคนแคระ
    Ovitz family
    </td><td width="100%">นายแพทย์ โจเซฟ เมงเกเล ( Dr.Josef Mengele )
    นายแพทย์หนุ่ม รูปงาม แต่จิตใจดุจดัง ปีศาจ ผู้จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยมิวนิก ( Munich University ) ด้วยวัยเพียง 24 ปี เขาเป็นสมาชิกพรรคนาซีเมื่องปี ค.ศ. 1937 ได้รับฉายาว่า เทพแห่งความตาย ( Angel of Death ) เนื่องจากเป็นผู้ตัดสินว่าเชลยที่ถูกขนส่งมาโดยทางรถไฟ เมื่อลงมาสู่ค่ายเอาชวิตซ์ โดยเขาจะเป็นคนชี้ว่า คนนี้ไปอยู่ทางซ้าย คนนี้ไปทางขวา ( ซ้าย คือ ถูกส่งเข้าสู่ ห้องรมแก๊สพิษ ขวา ถูกนำไปใช้แรงงาน หรือรอเป็นหนูทดลองต่อไป ) ความโหดเหี้ยมของ หมอโจเซฟ นั้นถึงขั้นที่ว่า ครั้งหนึ่งมีเหตุการณ์เหาระบาดในค่าย หมอโจเซฟได้ออกคำสั่งให้ ทำการควบคุมการแพร่ระบาดโดยการเผาที่พักที่มีการระบาด ไปพร้อมกับผู้ป่วยที่เป็นเหาทั้งเป็น และยังมีความเชี่ยวชาญในการใช้ แก๊สพิษไซคลอน บี ในการสังหารหมู่ ตัวพ่อ ของค่ายเอาชวิตซ์ โดย การทดลอง สุดสยองที่เขาได้ทำไว้ มีดังนี้

    • การทดลองเกี่ยวกับความผิดปกติของร่างกาย ทางพันธุกรรม
    • การเปลี่ยนสีตา โดยการฉีดสารเคมีเข้าสู่ลูกตาของเด็ก
    • การ สูญเสียอวัยวะ แขน ขา ทั้งความสามารถในการทนความเจ็บปวด การรักษา แน่นอนการทดลอง ก็จะนำเชลย มาตัด แขน ตัดขา กันสด เฝ้าดูการว่าจะทนพิษบาดแผลได้นานเท่าไร ? ที่เวลาต่างๆ ต้องใช้การช่วยเหลือ หรือประถมพยาบาลอย่างไร จึงสามารถช่วยชีวิตได้ทัน
    • เหยื่อที่ หมอโจเซฟ ชื้นชอบที่สุด คือ ฝาแฝด และคนแคระ มีฝาแฝดประมาณ 14 คู่ที่ต้องจบชีวิต โดยมือของ หมอโจเซฟ ( รูปซ้ายล่าง คือครอบครัว Ovitz ทั้งหมดเป็นพี่น้องกัน ตระกูลนี้มีพี่น้อง 10 คน 7 คน เป็นคนแคระ ทั้ง 12 ชีวิตถูกจับส่งเข้าสู่ค่ายเอาชวิตซ์ เมื่อ หมอโจเซฟ พบครอบครัว Ovitz เขาคิดว่าพระเจ้าได้ประทานสิ่งหายากยิ่งให้แก่เขา 2 ใน 12 เสียชีวิตในการทดลอง ที่เหลือโชคดีที่การทดลองยังไม่ทันจบ เยอรมันก็แำพ้สงครามก่อนจึงรอดชีวิตมาได้
    </td></tr></tbody></table>
    <table border="1" width="100%"><tbody><tr><td style="text-align: center;">[​IMG]
    หมอเฮอร์ทา

    [​IMG]
    รูปบาดแผลที่ขา
    ของเหยื่อ
    </td><td width="100%">แพทญ์หญิง เฮอร์ทา โอเบอร์ฮอยเซอร์ ( Dr. Herta Oberheuser )
    หมอ เฮอร์ทา ทำการทดลองเกี่ยวกับการรักษาบาดแผล ที่เกิดจากสงคราม ซึ่งการที่จะได้ตัวอย่างที่เหมาะสมต่อการทดลองต้องใช้เวลานาน เธอจึงสร้างบาดแผลต่างที่ต้องการขึ้นมา โดยการ ผ่าร่างกายของเชลย ให้เกิดบาดแผล แล้วใ่ส่ เศษดิน ต้นไม้ใบหญ้า เศษกระจก เศษเหล็ก เป็นการจำลองแผลจากสงครามขึ้น ขอจนอับแสบอย่างรุนแรง แล้วทำการรักษา ด้วยตัวยาสูตรต่างๆ

    • ส่วนบาดแผลไฟไหม้ เธอก็ทำเหมือนเช่นเดิน เธอจะกีดร่างกายเหยื่อ แล้วใส่สาร Phosphorous ลงในแผล แล้วจุดไฟ จะเกิดการลุกไหม้อย่างแรง ทำให้เกิดแผลไฟไหม้รุนแรง
    • หลังสิ้นสุด สงคราม เธอถูกดำเนินคดีในฐานะอาชญากรสงคราม ที่ศาลทหารในนูเรมเบิร์ก ( Nuremberg ) ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 20 ปี แต่เนื่องจากปฏิบัติตัวดีจึงได้รับการลดโทษ และปล่อยตัวในปี 1952 หลังจากได้รับการปล่อยตัวเธอแอบไปประกอบอาชีพเป็นแพทย์ แต่เชลยสงครามไปพบเข้า จึงได้แจ้งความร้องเรียน จนเธอถูกยึดใบอนุญาตประกอบวิชา
    </td></tr></tbody></table>
    5 Main Gate
    <hr>ประตูทางเข้าหลัก ของ ค่ายเอาชวิตซ์ ซึ่งปากประตูมีข้อความว่า " ARBEIT MACHT FREI " เป็นภาษาเยอรมัน มีความหลายว่า " การทำงานจะไปสู่อิสระภาพ "



    [​IMG]

    การทำงานจะไปสู่อิสระภาพ ( ARBEIT MACHT FREI ) เหล่าเชลยคงไม่ทราบว่า อิสระภาพที่เหล่านาซีเยอรมัน จะมอบให้นั้นก็คือ " ความตาย "

    6 Kitchen
    <hr>โรงครัว ของ ค่ายเอาชวิตซ์ เป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในค่าย ใช้ที่จัดให้นั้นน้อยเสียจนเพียงเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้เท่านั้น ทั้งยังไม่มีคุณค่าทางโถชนาการเลย จะเห็นได้จากร่างกายของเชลยในค่ายที่ผ่ายผอมเหลือแต่โครงกระดูกเท่านั้น หากว่าถามว่าแต่ละวันเหล่าเชลย ได้รับอาหารคนละเท่าไร ?

    • ขนนปัง 350 กรัม ต่อวัน
    • น้ำที่ทำกลิ่นรสเลียนแบบ กาแฟ ( ersatz coffee ) ตอนเช้าครึ่งลิตร
    • ซุปผักกาด กับ มันฝรั่ง 1 ลิตร ตอนเที่ยง โดยในซุปจะมีเนื้ออยู่ประมาณ 20 กรัม
    • โดยเฉลี่ยเหล่าเชลยจะได้รับ พลังงานจากอาหารประมาณวันละ 1,300-1,700 แคลลอรี/วัน
    [​IMG] [​IMG]
    ภาพถ่่าย เยี้องจากประตูทางเข้าหลัง จะเห็นรั้วไฟฟ้า ตั้งอยู่รายล้อมค่าย ถึงสองชั้น และอาคารที่เห็นอยู่ด้านหลังคือโรงครัว จะสังเกตเห็นปล่องครัวเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก

    7 Slolen Stuff Warehouse
    <hr>โกงดังเก็บของ ที่ได้จากการยึดมาจากเชลย หรือจากศพของผู้เสียชีวิต เช่นฟันทอง จะถูกนำไปหลอม และนำส่งกลับเยอรมัน แต่ของมีค่าบางส่วนก็ถูกพวก SS ยักยอกไป

    [​IMG]
    รูปภาพ หนึ่งในโกดังเก็บเสื้อผ้า ที่เต็มจนล้นทะลักออกมานอกประตู และถ้าสังเกตที่หน้าต่างเล็กด้านซ้ายก็อัดเต็มไปด้วยเสื้อผ้า คงจินตนาการได้ว่าจำนวนเหยื่อผู้เสียชีวิตนั้นมากมายขนาดไหน

    8 Death Wall or Black Wall
    <hr>ผนังแห่งความตาย หรือ ผนังดำ ผนังนี้ตั้งอยู่บนลานระหว่างเรือนนอนสองหลังคือ บล็อก 10 กับ บล็อก 11 ผนังนี้เป็นอีกหนึ่ง สถานที่ สุดสยอง ภายในค่ายเอาชวิตซ์ เพียงชั่วเวลาสั้นจากปี 1940 ถึง 1944 ระยะเวลาเีพียง 4 ปี ผนังแห่งนี้เป็นพยาน ของแห่งความโหดเหี้ยมของเหล่านาซีเยอรมัน กว่า 20,000 ศพ โดยผนังนี้จะเป็นบริเวณที่ใช้เป็น ลานประหารโดยการยิงกระสุนเข้าบริเวณกระดูกต้นคอข้อสุดท้ายที่ต่อกับกระโหลก โดยเพชรฆาต สองหมื่นศพผู้นี้มีชื่อว่า " Rapportfürher Gerhard Palitsch " เหยื่อของมันมีไม่เว้นแม้แต่ เด็ก และผู้หญิง
    ที่มาของ ชื่อ ผนังดำ เนื่องจาก ผนังค่ายสร้างจากอิฐ จะมีฉากสร้างจากท่อนไม้ บุหน้าด้วยไม้ค็อกทาด้วยสีดำ เนื่องจากพวกนาซีกลัวว่าผนังอิฐสวย ของ พวกเขาจะเป็นรอยจากกระสุนปืน

    [​IMG] [​IMG]

    รูปซ้าย เป็นภาพวาด ผนังแห่งความตาย เมื่อเหยื่อถูกยิงทิ้ง เหล่าเชลยจะยกศพไปวางกองกันไว้
    รูปขวา เป็นผนังแห่งความตายในปัจจุบัน เมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนก็มักจะมีการนำ ดอกไม้ มาไว้อาลัยให้แก่ผู้ล่วงลับ

    G Gas Chamber and Crematory
    <hr>ห้องรมแก๊สพิษ และเตาเผาศพ หนึ่ง ในอีกสถานที่ สุดสยอง ในค่ายเอาชวิตซ์ เนื่องจากพวกนาซีรู้สึกเสียดายลูกกระสุน ที่ต้องเสียไปในการยิงชาวยิวทิ้ง ซึ่งพวกเขาคิดว่ามันไม่คุ้มเสียเลยที่ต้องแลกระหว่าง กระสุน 1 นัด กับ 1 ชีวิตชาวยิว จึงคิดหาวิธีที่สามารถกำจัดชาวยิวได้ครั้งละมาก และต้องถูกด้วย และห้องรมแก๊สพิษ คือคำตอบ และห้องรมแก๊สพิษห้องแรก ก็ถูกออกแบบโดยดัดแปลงโรงเรือนที่สร้างจากอิฐ และให้ชื่อว่า The Little Red House หรือ บ้านเล็กสีแดง wowboom

    [​IMG]

    • a พื้นที่ให้เชลยรอก่อนเข้าห้องรมแก๊สพิษ
    • b ห้องกองเถ้ากระดูกที่เหลือจากการเผา และห้องล้างทำความสะอาด
    • c บริเวณพื้นที่รมแก๊สพิษ
    • d ห้องเผาศพที่เสียชีวิตจากการรมแก๊สพิษ
    • e ปล่องควัน ที่เหลือจากการเผาศพ
    • f ห้องเก็บถ่านหิน และเชื้อเพลิงสำหรับเผาศพ
    • g ออฟฟิซผู้คุม
    • Plan ซ้ายจะเป็นแปลนห้องดังเดิมที่สร้างเมื่อปี 1942
    • Plan เป็นแปลห้องรมแก๊สพิษ ที่สร้างขึ้นมาใหม่ เนื่องจากพวกนาซีได้เผาทำลายห้องรมแก๊สเพื่อทำลายหลักฐานความชั่วร้ายของตนเอง
    [​IMG] [​IMG]
    รูปซ้าย เป็นตัวอาคารห้องรมแก๊สพิษ
    รูปขวา เป็นประตูทางเข้าสู่ ห้องรมแก๊สพิษ

    [​IMG] [​IMG]
    รูปซ้าย คือพื้นที่ที่เหล่าเหยื่อชาวยิว จะถูกส่งเข้าเพื่อเป็นที่ตาย โดยการรมด้วยแก๊สพิษ
    รูปขวา คือบริเวณหลังคาของห้องรมแก๊สพิษ ที่เห็นเป็นปล่องเหล็กมีฝาปิดคือ ช่องสำหรับหย่อนแก๊สพิษลงไปภายในห้องเพื่อฆ่าชาวยิว

    [​IMG] [​IMG]
    รูปซ้าย เป็นเมรุเผาศพ เหยื่อที่ถูกรมแก๊สพิษ เสียชีวิต ส่วนที่เห็นอยู่ด้านหน้าเมรุ คือรถเข็นศพ
    รูปขวา เป็นรูปเหยื่อกำลังถูกลำเลียงเข้าสู่เมรุ

    9 Barrack
    <hr>โรงนอน ภายในค่ายเอาชวิตซ์มีโรงนอนอยู่ 28 หลัง ( โดยโรงนอนเหล่านี้จะถูกเรียกว่า บล็อก ( Block ) )โดยแต่ละหลังมีเชลยกว่า 1,000 คนอาศัยอยู่อย่างแออัดโดยอาคารจะเป็นอาคาร 2 ชั้น ภายในอาคารมีแต่พื้นที่สำหรับวางเตียงนอนแบบ 3 ชั้นมีพื้นที่เีพียงเสือกตัวนอนได้เท่านั้น เนื่องจากอากาศที่ถ่ายเทไม่สะดวก และอุณหภูมิที่ต่ำ และสภาพสุขอนามัยที่ต่ำมาก ทำให้ในทุกรุ่งเช้า เชลยที่ตายจากไปทุกวัน ในระหว่างนอนหลับ

    [​IMG] [​IMG]
    รูปซ้าย ภาพโรงนอนในปัจจุบัน
    รูปขวา เป็นสภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ของเชลยหญิง ที่ต้องแออันกันอยู่ในเตียง 3 ชั้น

    10 Block 10
    <hr>บล็อก 10 เป็นเป็นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นห้องทดลองนรก ของค่ายเอาชวิตซ์ ผู้ที่เข้าที่ บล็อก 10 นั้นจะถูกทำการทดลองต่างๆ ได้รับทุกข์แสนสาหัส บ้างก็เสียชีวิต และนี้คือหนึ่งในการลองนรก สุดสยอง

    [​IMG] [​IMG]
    Hypothermia Experiment เชลยจะถูกแช่ในน้ำเย็นจัด หัวหน้าการทดลองนี้คือ นายแพทย์ ซิกมุนด์ ราสเชอร์ ( Sigmund Rascher ) และผลการทดลองทำให้ทราบเป็นครั้งแรกว่า ถ้าอุณหภูมิร่างกายมนุษย์ต่ำกว่า 25 เซลเซียส มนุษย์จะเสียชีวิต ทั้งยังศึกษาถึงการช่วยชีวิตด้วยวิธีต่างสำหรับผู้ที่เกิดอาการ เกิดสถาวะหนาวจัด (Hypothermia) จึงการทดลองมีทั้งการ การส่องด้วยหลอดไฟความร้อน การฉีดน้ำร้อนเข้าสู่กระเพาะ ลำไส้ การให้ความร้อนโดยร่างกายโดยใช้เชลยหญิงให้ความอบอุ่นแก่ผู้ป่วย การแช่ในน้ำร้อน (ซึ่งเป็นวิธีที่ดีทีุ่สุด) การทดลองนี้เป็นหนึ่งที่จะนำไปสู่การบุกยึดรัชเซีย ซึ่ง ฮิตเลอร์รู้ดีว่า ศัตรูสำคัญของการบุกยึดรัชเซียคือความหนาวเย็น
    รูปขวา โฉมหน้านายแพทย์ ซิกมุนด์ ราสเชอร์ ( Sigmund Rascher ) ถ่ายคู่กับลูก

    [​IMG] [​IMG]
    High Altitude การทดลองความกดอากาศสูง โดยการนำเชลยไปอยู่ในห้องควบคุมแรงดัน แล้วทำการลดแรงไปเรื่อยเพื่อจำลองสภาพความสูงที่ 20,000 เมตรจากพื้นดิน และลดปริมาณออกซิเจนในอากาศ พร้อมทั้งมีการบันทึก ผลการทดลองที่ความดันต่าง จนถึงความดันสุดท้ายที่เหยื่อเสียชีวิต การทดลองนี้ทำเพื่อหาระบบป้องกันนักบินขับไล่ของเยอรมัน จากการดีดตัวออกจาก เครื่องบิน


    [​IMG] [​IMG]
    Mustard gas experiments การทดลองผลของมัสทาร์ทแก๊ส ผลจากการได้รับพิษ การรักษาพยาบาล ( Note รูปภาพประกอบ มาจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ซ้ายเป็นผลจากการได้รับมัสทาร์ทแก๊ส โดยไม่สวมหน้ากากกันแก๊สพิษ รูปขวา เป็นทหารแคนนาดา ที่ถูกแก๊สมัสทาร์ท จะเห็นว่าเกิดบาดแผลพรุพองทั่วร่างกาย )

    11 Block 11
    <hr>บล็อก 11 เป็นอีกหนึ่งอาคาร สุดสยอง ที่สร้างเพื่อเิป็นคุก และห้อง ทรมาน เนื่องจากเชลย ที่ถูกส่งเข้ามาที่บล็อก 11 นั้นเพื่อเป็น การทำโทษ และทรามานด้วยวิธีต่างๆ ดังต่อไปนี้

    [​IMG]
    Standing Cell คุกยืน นักโทษจะถูกขังอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมขนาด 1.2 x 1.2 เมตร ( 1.5 ตารางเมตร ) ครั้งละอย่างน้อย 4 คน ซึ่งมันแคบจนไม่สามารถขยับตัวได้ ทุกคนจะต้องยืนอยู่อย่างนั้นตลอดการคุมขัง

    [​IMG] [​IMG]
    Starvation cells คุกอดอาหาร เป็นคุกหมายเลขที่ 21 ใครที่โดนจับมาขังยังห้องนี้ ก็คือได้รับโทษตาย เนื่องจากหลังจากถูกนำขัง นักโทษจะไม่ได้รับ น้ำ หรือ อาหาร อีกเลยจนกว่าจะเสียชีวิต ( รูปซ้ายประตูทางเข้า รูปขวา ภายในคุกอดอาหารจะเห็นว่ามีเครื่องเซ่นมากมายเนื่องจากห้องนี้เป็นห้องที่ Saint Maximillian Kolby มรณภาพ )
     
  17. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    ผมรู้มากกว่าที่ท่านเอามาลง ผมยังไม่เล่าเลย

    ผมเคยไปกราบ หลวงพ่อด้วยตัวผมเอง หลายครั้ง หลายวาระ(หลวงพ่อฤษี วัดท่าวัดท่าซุง)

    ไ้้ด้รับพระคำข้าว พระหางหมากจากมือท่าน ได้สบตากับท่าน ท่านเคยทักผมด้วย

    คนที่เกิดทันหลวงพ่อ เขามีกำัลังมาพอตัวแล้วละ ผมบอกคุณเท่านี้นะ
     
  18. veer

    veer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +356
    ขออนุญาตเจ้าของบทความอีกท่านนึงครับ หากท่านใดสนใจก็ค้นดูเพิ่มเติมจาก google นะครับ มีเพียบเลย

    หลวงพ่อไปช่วย ๕ ทหารเสือ สมัยสงครามโลกที่ ๒
    วันที่:
    วันพุธ 09 มกราคม 2008 @ 23:56:56
    หัวข้อ: บทความคำสอนปกิณกะ


    หลวงพ่อไปช่วย ๕ ทหารเสือ สมัยสงครามโลกที่ ๒
    (๑. ฮิตเลอร์ ๒. มุสโสลินี ๓. เกอร์ริ่ง ๔. เปแตงค์ ๕. เชอร์ชิล)


    (จากหนังสือตามรอยพระพุทธบาท เล่ม ๔)
    ตามที่ลงบันทึกการเดินทางของท่านแล้วจะเห็นว่าหลวงพ่อต้องฝืนทนสังขารไปโปรดลูกหลานถึงเมืองนอก เพราะเวลาก็ต่างกัน จึงทำให้ท่านต้องป่วยหนักทุกครั้ง หลังจากที่ท่านกลับมาจากอเมริกาแล้ว ในปีต่อมา พ.ศ. ๒๕๓๑๑ พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็ได้เดินทางไปยุโรปอีกเพราะมีภารกิจที่สำคัญ ณ ประเทศเยอรมัน

    ท่านกลับมาแล้วจึงได้เล่าเรื่องที่ไปช่วย ๕ ทหารเสือให้พ้นจากขุมนรก โดยการสร้างพระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอก ๑ องค์ แล้วก็หน้าตัก ๒๐ นิ้วอีก ๓ องค์ บวชเณร ๑ องค์ บวชพระ ๑ องค์ สังฆทาน ๑ ชุด เจริญกรรมฐาน ๗ วัน หลวงพ่อได้เล่ากล่าวต่อไปอีกว่า......



    "ทำบุญให้เค้าน่ะ คือว่ารับมาจะทำบุญให้ คือว่ามันเป็นวันพ้นพอดี ไม่ใช่ว่า ว่าใครจะไปช่วยกันให้ขึ้นมาจากขุมนรกน่ะ มันช่วยไม่ได้ ใช่ไหม? ก็นรกที่เขาลงมันก็ไม่ลึกแค่อเวจี เท่านั้น ไม่ลึกกว่านั้นอีกน่ะ ถ้าลึกจริงๆ เราก็มองไม่เห็น นี่มันไม่ลึกมากก็มองเห็น

    แต่ไม่ใช่ฉันนะ ก่อนจะไปต่างประเทศความนี้มันมีเหตุมีเรื่องแปลก นี่ฉันก็จะไปไม่ไหวแล้วแต่พระท่านให้ไปและท่านก็ไม่บอกเหตุ ไม่บอกผล นี่เราเจริญกรรมฐานฉันพูดได้ ถามท่านว่า ถ้าไปร่างกายไม่ดีแล้วจะเป็นยังไง ท่านบอกว่าไม่เป็นไร จะเป็นทางท้องนิดหน่อยไม่มากนัก จะมีการล้างท้องสักครั้งหนึ่ง ให้นำเกลือสักครั้งหนึ่งก็หมดกัน เท่านั้นระหว่างเดินทาง ฉันก็เลยลอง....!

    แล้วไปคราวนี้มันเครียดต้องทรมานกายเหนื่อยทุกวัน คิดว่ามันจะทนไหวไหม คือจะไปลองทนตามที่พระท่านพูด มันก็ไหวก็ตรงตามท่านว่า พอไปถึง อิตาลี ไม่เห็นใครเลย เห็นก็แต่ผีอื่น ผีที่เราต้องการไม่เห็น อยากจะรู้ มุสโสลินี อยู่ไหน...ไม่เห็น พอเข้าเขต สวิตเซอร์แลนด์ จึงรู้ที่มาของคน ๒ - ๓ คน

    ๑. ฮิตเลอร์ ๒. มุสโสลินี ๓. เกอร์ริ่ง นายเกอร์ริ่งน่ะคู่หูเขา แต่ฉันไม่ดูเอง เวลานอนฉันก็ไปหาพระ ตามปกติฉันเป็นอย่างนั้นนะ หัวถึงหมอนปั๊บก็ถึงพระแล้ว เพราะอยู่กับพระ... เราคุยสนุก คุยสบายใจกว่า แล้วก่อนจะไปท่านก็บอกว่า ถ้าต้องการรู้อะไรให้ถามได้ ท่านสองคนคือพระอินทร์ กับ ท่านสหัมบดีพรหม

    ฉันไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนเลย ถ้าถามสององค์ ถามองค์หนึ่งก็เป็นหัวหน้าเทวดาทั้งหมดเป็นเทวราชา อีกองค์หนึ่งก็เป็นหัวหน้าพรหม...ใหญ่ที่สุด พอไปถึงสวิตเซอร์แลนด์ก็ไปนอนๆ พอจิตสบายน่ะ... ไม่ได้ดูอะไรนะ ไอ้เรื่องดูนี่ขี้เกียจดู จิตมันเต็มกำลังมันก็หลุดพั๊วะ... ไปโน่น... ไปหาพระ... ไปเอง... ไม่ต้องสั่ง... พอไปถึงท่าน

    ท่านก็เลยถามว่าต้องการรู้ที่อยู่ของคนสองคนใช่ไหม ก็บอกว่าใช่ ท่านบอกว่า... ถามโยมสิ โยมแกทั้งสองโยมน่ะ... เขารู้ พอดีโยมท่านก็ไปถึงพอดี แล้วถามท่าน ท่านก็บอกสองคนเวลานี้ลงอเวจีทั้งคู่ เราก็สบายใจเพราะคนที่อยู่อเวจีได้ต้องใหญ่จริงๆ ไม่ใหญ่มันอยู่ไม่ได้.. ใช่ไหมคุณ บาปไม่ใหญ่มันลงไม่ได้นะ

    พอท่านบอก ๒ คนอยู่อเวจีก็หมดทาง ที่พระพุทธเจ้าท่านบอกให้ถามสองคนนี้เป็นความจริง อำนาจของเราหมด เราสามารถจะช่วยได้ แต่ช่วยได้ยาก แค่ปรทัตตูปชีวีเปรต เปรตอีก ๑๒ จำพวกเราก็ช่วยไม่ได้ อสุรกายเราก็ช่วยไม่ได้ สัตว์นรก ๘ ขุมช่วยไม่ได้เลย

    ทีนี้อยู่ขุม ๘ ก็หมดทาง... ใช่ไหม ถามบอกหมดทาง ท่านถามอยากจะช่วยไหม บอกไอ้อยากช่วยน่ะ อยากช่วยมานานไม่ว่าใคร หมดน่ะ แต่ว่าในเมื่ออยู่ในขุมนี้ก็หมดทาง ท่านบอกไม่เป็นไร ท่านถามถึงความรู้สึก บอกผมมีอุเบกขา ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนมีกรรม คือมีอกุศลกรรมหนักต้องลงนรกเป็นเรื่องธรรมดา เราก็ไม่หนักใจ

    ท่านบอกว่าช่วยได้ แต่ไม่ใช่คุณ ต้องสององค์นี้จึงช่วยได้ พระอินทร์ กับพระสหัมบดีพรหม ก็เลยเริ่มทัวร์ ทัวร์อันดับสองใช่ไหม ทัวร์จากนิพพานลงวไปอเวจี... ไปด้วยกันไหม... (หัวเราะ) เห็นหน้าอยู่คนพอไปได้ คนนี้ก็ไปได้นะ แต่ห้ามอยู่นะ(หัวเราะ) ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีสิทธิ์.. ก็ไปได้น่ะ

    ถึงเวลาพอดี
    ทีนี้ก็เลยทัวร์ซ้อนทัวร์ จากนิพพานไปอเวจี พอถึงอเวจีก็มีเจ้าของถิ่น ๒ ท่าน คือพระยายม กับ นายบัญชีใหญ่ ไปถึง ท่ากน็ถึงทันทีเหมือนกัน พอหันมา "นายบัญชีใหญ่" เปิดบัญชีและบัญชีท่านไม่พลิกอย่างเรา เล่มหนาขนาดนั้นเนี้ย เปิดปั๊บถึงพอดี แกล้งเปิดหรือไงไม่รู้ พอเปิดปั๊บ... หมดสิ้นวัน... วันนี้ครับ เขาหมดเขต แน่ะ...เป็นวันพอดี มิน่า...พระถึงได้เข็น...!

    ฉันปฏิเสธหลายครั้ง การไปยุโรปนี่ ฉันบอกมันไปไม่ไหวนะ ขอท่าน...บอกขอไม่ไป ท่านไม่ตกลง...บอกต้องไป พอเปิดบัญชี มาบอกหมดวันนี้ครับ...มีสิทธิ์ สององค์ท่านก็เรียกเอาขึ้นมา... ไม่ใช่ฉันนะ เราน่ะหมดสิทธิ์แล้ว พระนะหมดแหงแก๋แล้ว... ยิ้มแหยแล้ว

    ท่านก็บอกนายนิริยบาล บอกเอาคนนี้ขึ้นมา เขาหมดเวลาแล้ว ก็เลยถามท่านว่า อเวจีนี้มันมีอายุ ๑ กัป แล้วพวกนี้ที่ลงไปยังไม่ถึง ๑ วันนรกเลยแล้วขึ้นมาได้ยังไง ท่านบอกว่านรกมันมีอายุ ๑ กัปจริง แต่คนที่ตกลงมาในเขตนี้มีบุญถึงขั้นนี้ แต่ไม่เต็มกัปมันมีอยู่ ตัวอย่าง พระนางมัลลิกา ลงสัญชีพนรกแค่ ๗ วันมนุษย์ใช่ไหม?

    โทษเขาหนักถึงขั้นนั้นจริง แต่ว่าอายุเขาไม่ต้องอยู่นาน เป็นอย่างนั้นต่างหากล่ะ... ใช่ไหม สารวัตรมีไหม? เรือนจำน่ะ คนที่เขาเข้าเรือนจำไม่ต้องจำอยู่ตลอดชีวิตใช่ไหม... ไม่จำเป็น โทษน้อยมี โทษมากมี ไม่ใช่กำลังฉันนะ อย่าลืม... ของ ๒ องค์ และเป็นวันที่หมดเกณฑ์ของเขาพอดี ไม่ใช่ว่าไปดึงเขามาจากขุมนรก

    แต่ว่าการหมดเกณฑ์ที่ขุมนั้นต้องลงนรกบริวาร และก็เศษยังผ่าน ยมโลกียนรก อีกต่างหาก อันนี้ถือว่าขุมใหญ่มีความจำเป็นก็ลงแล้ว ก็ไปตัดจากปากขุมพอดี ถ้าไม่ตัดต้องล้อมไป แต่ว่าเขาบอกว่ามีสิทธิ์อีก ๒๐๐ ปี ถึงจะเกิดเป็นมนุษย์ได้ บางทีถ้าลงบริวารก็ลงแค่นิดเดียว

    ก็เลยถามว่าต้องการอะไรบ้าง ตอนนั้นเขาขึ้นมาแล้ว... โปร่งแล้วนี่ ต้องการสังฆทานครับ บอก อือ ไม่เป็นไร.. อะไรอีก? พระหน้าตัก ๒๐ นิ้ว ๓ องค์ นี่ไม่ได้ใบ้หวยนะ... อย่าเล่นนะ มันกินหมด(หัวเราะ) บวชเณร ๑ องค์


    บอกเออ... แล้วก็ผลที่เธอได้... จะเป็นยังไง ผมก็เป็นเทวดาชั้น จาตุมหาราช ถามว่านักรบเป็นเทวดาได้ยังไง มันมีแต่รบอย่างเดียว เขาบอกว่า.. ผมไม่ได้มีแต่รบอย่างเดียวครับ บุญผมทำ เมตตาผมมี เอ้อ... เราก็เถียงไม่ได้เว้ย เลยถามว่าเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน แกไปเกิดประเทศไทยดีไหม แกบอก... แหลกเลยครับ... ผมฆ่าแหลกเลย...!!!

    ถ้ารูปนี้ก็ไม่เหลือ(หัวเราะ) ฮิตเลอร์ เก่งจริงๆ ถามทำไมละ ขโมยขโจรไอ้พวกนี้... ผมฆ่าแหลกเลยนะ ก็เลยบอกเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน งั้นแกไปเกิดประเทศไทย ถ้าต้องการไปเกิดประเทศไทยมันจะต้องทำยังไงบ้าง ก็ต้องสร้างพระหน้าตัก ๔ ศอก และก็บวชพระให้ ๑ องค์ ผมไปเกิดประเทศไทยได้ครับ

    ถามว่าแกไปเกิดแล้วแกจะช่วยวัดฉันได้ไหม บอกช่วยได้แน่นอนครับ ใน แผ่นทองคำ ๒๐๐ ปีนั้น คือผมนะครับ โอ้... มันรู้เลย มันรู้ด้วย ถามแกว่าอ่านยังไงวะ บอกผมอยู่ในนรกผมอ่อนออก แหม... ไอ้ตานรกมันอ่านยาว เพราะเหลือ ๒๐๐ ปีพอดีไง ๒๐๐ ปีมนุษย์

    เอ้อ... มหัศจรรย์... ถามแกเป็นอะไร... บอกผมเป็นตามตำแหน่งนั้นแหละ มุสโสลินี เป็นอำมาตย์ พอเราตกลงช่วย อย่างนี้มันไม่ยาก ยังไม่ได้สั่งช่างทำนี่ ถาม มุสโสลินี บอกผมขอเท่ากันครับ ถามแกเป็นอะไร...? บอกผมก็เป็นอำมาตย์ ต่อมาผมก็บวชอยู่วัดนั้น ถามแก "จบ" ไหม..? บอก "จบ" ครับ...!!!

    แน่ะ... อย่าทำเป็นเล่นไปนะ สัตว์นรกนี่ มันต่ำสุดก็สูงสุดได้เหมือนกัน... ใช่ไหมคุณ... ทำเป็นเล่นไปนะ ลองๆก็ได้นะ

    ****"แผ่นทอง" หมายถึงคำพยากรณ์ ที่หลวงพ่อบรรจุไว้ในหลุมพระอุโบสถ เมื่อวันตัดลูกนิมิต ๒๔ เมษายน ๒๕๒๐ บอกว่าอีก ๑๘๐ ปี จะมีพระเจ้าธรรมิกราช(คือท่าน ฮิตเลอร์) พร้อมด้วยพระอรหันต์(ท่านมุสโสลินี) มาบูรณะวัดนี้(วัดจันทาราม(ท่าซุง))

    แล้วก็ต่อมาอีกวันหนึ่งนึกถึง เกอร์ริ่ง มันคู่กับ มุสโสลินี คนนี้อยู่ที่ไหน ท่าน ๒ องค์บอกอยู่นั่นไง... กระดูกแดงฉานน่ะ ไฟแดงเผาโชนหมดวันเหมือนกัน ก็ขนขึ้นมาอีกทำบุญเท่ากัน และต่อมาก็ถึงฮอลันดา กำลังออกจากฮอลันดาสิ ฮิตเลอร์บอกนึกถึง เปแตงค์ อาจจะเป็นศัตรูก็ได้ ไม่เป็นในตอนนั้นนะ... เพราะยอมแพ้นี่ บอกให้ช่วยเปแตงค์ด้วยครับ ถามเปแตงค์อยู่ที่ไหน บอกที่เดียวกันครับ บอกเออ... ฉันไม่มีสิทธิ์หรอก

    เลยบอกเอ็งไปบอกพ่อ ๒ องค์สิ ฉันไม่มีสิทธิ์ ฉันรับทราบได้ แต่... ไม่มีสิทธิ์ในการช่วย เขาก็ไปบอก ๒ ท่าน ไปบอก นายบัญชี โผล่มาอีกเหมือนกันกับพระยายม หมดวัน... รู้สึกวันพอดี แต่ว่านายนี่พอขึ้นมาแล้ว ถามต้องการอะไรบ้าง?

    บอกต้องการสังฆทานอย่างเดียวครับ บอกแกเอาเท่าเขาแล้ววะ... ไม่อย่างนั้นใช้ยาก(หัวเราะ) หนอยแน่ มันเล่นขี้เกียจน่ะ เลยเหมาเสร็จให้เท่ากัน แล้วก็ต่อมาพอข้ามมาถึงอังกฤษ นายเปแตงค์ ก็เป็นห่วง เชอร์ชิล ไอ้เจ้านี่... รู้สึกลำบากนิดหนึ่ง ทั้งสองท่านมา... บอกฉันจะลองดู กระดูกแดงเหมือนกันที่เดียวกันแหละ... คนนี้มีบุญ...!

    แหม... ไม่มีสนิมเลยคุณ เผาแดงช๊าดเลย สนิมเกาะไม่ได้ ทั้งสองท่านไป... ไปขออนุญาตนายบัญชี มาถึงเปิดบัญชีปั๊บ... ขาด ๓ วันครับ ต้องอีก ๓ วัน วันที่ ๓๐ - ๓๑ - ๓๒ เปล่า ๓๐ ขึ้น ๑ - ๒ ต้องวันที่ ๒ ถึงรับโมทนาได้

    พอขาด ๓ วันทั้งสองท่านบอกเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ฉันให้เป็นสัมภเวสี ๓ วัน อ้อ... เค้าเรียกมีทางแก้...! ถ้าอย่างเราแหงแก๋... ดูเฉยๆ แล้วหมดสิทธิ์ ใช่ไหม เขาก็เลยให้ ให้เป็นสัมภเวสี ๓ วัน แล้วต่อนั้นมา ก็เลยถามพระท่านว่า การมานี่มีกิจเท่านี้หรือครับ ท่านบอกใช่

    ก็บอกว่า ถ้าบอกผมสักหน่อยเดียว ผมไม่มาหรอก(หัวเราะ) ท่านไม่บอกเลยนะ บอกแต่ให้ไปๆ ฉันยืนยันว่าไปได้ ไม่เป็นไรๆ เป็นบ้าง... เป็นทางท้องนิดหน่อย ต้องล้างท้องหนึ่งครั้ง ให้น้ำเกลือหนึ่งครั้ง ก็ตรงตามนั้นหมด บอก... ถ้ารู้อย่างนี้ผมก็ไม่ต้องไป... นอนวัดก็ช่วยได้

    ท่านบอกมันก็ไม่ได้เหมือนกันนะ คงจะมีอะไรสักอย่าง ถ้านอนวัดเราก็ห่วงงานมากกว่า ใช่ ... ห่วงงานของเรา เราก็เลยไม่ห่วงพวกนี้ เวลานั้นนั่งรถไป เราก็รำคาญการนั่งรถ... ใช่ไหม เราก็ใช้กำลังใจ รถจะถึงไหนก็ช่างหัวมัน เราธุระของเราไปเรื่อยเฉื่อย อย่างไปถึง เยอรมัน นี่เราก็ดูซ่อนอะไรที่ไหนมั่งหว่า... (หัวเราะ)

    ดูของที่ซ่อน โอ้... บานเจ้าเลย ความโง่ของฉัน เมื่อสมัยหลังสงครามครั้งที่ ๒ นี่จะโกหกให้ฟังนะ ใครจะเชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็ตามใจ บอกแล้วว่าโกหก เพราะไม่ได้ไปเห็นจริงนะ... แค่รู้ เพราะเค้าบอกว่าเยอรมันสร้างอาวุธ แล้วเก็บในเขา ฉันก็คิดว่าเก็บในถ้ำ มันไม่ใช่อย่างนั้น เค้าสร้างถ้ำในเขา

    เพราะว่าออกจาก อิตาลี แต่ก่อนจะถึง สวิตเซอร์แลนด์ เรารู้สึกมันผ่านถ้ำไม่รู้เท่าไหรเลยใช่ไหม ภูเขา... ถนนเค้าไม่อ้อมเขา เขาทะลุถ้ำไปเลย... ยาวเหยียดๆ ขนาดตอนนั้น เขายังขนาดนี้ ตอนก่อนเขาก็ทำใต้เขาให้เป็นถ้ำ ตามความหมายประสงค์ของเขา... แค่นี้เอง นี่รวมความว่าฉันโง่แน่ ฉันไปนี่... ฉันฉลาดขึ้นมาหน่อย... หน่อยเดียวนะ รู้ว่าเขาเจาะเขาได้สะดวกด้วย... ใช่ไหม ทีนี้มันก็มีปัญหาว่า ตามถนนรถยนต์ต่างๆ น่ะมันมีอะไรอยู่ใต้ถนนบ้างหรือเปล่า นั่งไป เอ... นี่มันมีถนนสองชั้นเลยนี่หว่า จิ้งจกทัก(หัวเราะ) ห้ามพูดอันตราย ท่านบอก อันตราย... ไม่เป็นเรื่อง..." (จบบันทึกเพียงเท่านี้)

    ที่มา : หนังสือตามรอยพระพุทธบาท เล่ม ๔

     
  19. veer

    veer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +356
    ต้องขออภัยทุกท่านที่นำบทความมาลง ไม่ได้มาลงเพื่อชวนเชื่อใดๆ แต่ผมเห็นว่ามีประโยชน์ในเชิงความรู้ใหม่ เพราะว่าผมก็เพิ่งอ่านเจอเช่นกัน เหมือนดั่งเช่นในพระไตรปิฎก ที่บอกว่าท่านองคุลีมาลได้บรรลุอรหันต์ ผมก็นั่งคิดเป็นไปได้อย่างไรเพราะว่าตอนเรียนชั้นประถมนั้นหนังสือก็บอกว่า ท่านได้ฆ่าคนและตัดนิ้วมาแขวนคอตั้ง 99 คนแล้ว เหลืออีกนิ้วเดียวจะครบ 100คน มีท่านใดอ่านเจอเหมือนผมมั่งครับ ...ไม่ได้จะดูหมิ่นท่านใดและไม่ได้ปรามาสท่านใดครับ เพียงแต่มีความสงสัยในใจของตน และต้องการหาข้อมูลใหม่ๆ หรือข้อมูลเพิ่มเติม มาเสริมองค์ความรู้ของตนเองเพียงเท่านั้นครับ
     
  20. ประกายพลอย

    ประกายพลอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +452
    พี่เป็นผ้ใหญ่อะไรควร ไม่ควร กาละ เทสะ

    ดีแล้วครบ สมกับเป็นลูกศิษย์ อนุโมทนาบุญกับพี่ครับ

    คนอื่นช่าง ไม่ต้องสนใจครับพี่
     

แชร์หน้านี้

Loading...