ทำไมเวลาอยู่ในความฝันตัวเบามากๆอยากรู้จริงๆ

คือเวลาที่ผมฝันผมสังเกตว่าตัวเองแทบไม่มีน้ำหนักเลยตัวเบามากๆผมกระโดดครั้งเดียวลอยอยู่กลางอากาศนานมากกว่าจะตกลงพื้น อีกอย่างถ้าอยากจะลอยก็นึกเอาแล้วต้องมั่นใจว่าลอยได้ ปรากฎว่าลอยขึ้นเฉยเลยครับทีนี้ งงเลยครับแถมยังเหาะได้ยังกับ เดอะแม็ททริคเลย แถมยังเห็นคนที่ตายไปแล้วซะอีกแต่กลับไม่มีความรู้สึกว่าเขาตายเลยเหมือนกับลืมไปเลยว่าเขาตายแล้วแถมยังไม่กลัวผีอีกต่างหากเวลาอยู่ในความฝันแต่พอตื่นขึ้นมาสยองเลยทีนี้ ครั้งนึงเคยฝันว่าพูดภาษาอังกฤษได้แบบลืมภาษาไทยไปเลยผมงงมากผมพูดได้ยังไงทั้งที่ผมพูดไม่ได้ในโลกความจริง แลัวเคยฝันเห็นบ้านตัวเองมีใครก็ไม่รู้อยู่กันเป็นครอบครัวเลย ผมเลยรู้เลยว่าทำไมเวลารื้อบ้านจะต้องมีการบอกกล่าวก่อนแล้วในหมู่บ้านผมในความฝันมีคนแปลกหน้าอยู่กันที่ผมไม่รู้จักอยู่กันเป็นครอบครัวเลยมักจะเห็นหน้าคนในฝันไม่ค่อยชัดแต่รู้ว่าเป็นใคร.........หรือว่าเวลาเราฝันเราได้เข้าไปสู่ในโลกอีกโลกหนึ่งหรือเมืองผีเข้าแล้วจริงๆแล้วเวลาผมจะถามหรือจะพูดกับใครในความฝันนะก็ไม่มีใครอยากจะพูดหรือตอบคำถามผมซักเท่าไร ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ผมไม่รู้เป็นอะไรฝันได้ฝันดีฝันแทบจะทุกคืนเลย ใครรู้ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยครับ................................................................

 

โพสผิดห้องแล้วหง่ะ

 

ลืมตาอย่าเพิ่งขยับตัว ลงสังเกตตนเองสิว่า นอนอย่างไรนอนทับแขนขาจนเป็นเหน็บหรือไม่

ผู้ที่ฝันแบบนี้แสดงว่านอนอยู่ในท่าที่ปรกติเลือดลมในร่างกายเดินสะดวก
คืนไหนฝันว่าวิ่งหนีสิ่งที่น่ากลัว เช่นวิ่งหนีสัตว์ร้าย แล้วหนีวิ่งไปค่อยออกเหนื่อยแทบขาดใจ แสดงว่าร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งถูกทับจนเลือดลมในกายเดินไปสะดวกเป็นเหน็บ

เมื่อสังเกตจับทางได้อย่างนี้แล้ว ต่อให้ฝันอย่างไรสุขทุกข์ตัวหนักตัวเบา
ตื่นมาก็ไม่ฟุ้งต่อ เพราะรู้สาเหตุแล้ว

 

ก็เพราะมันคือฝันไงครับ.......(tm-love)

 

เราก็ชอบฝันฟุ้งซ่าน

 

ฝัน........

(*) เพราะฝันอาศัยรับรู้ทางมโนวิญญาณ ที่ไม่ประกอบด้วยธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ จึงไม่หนัก เหมือนโลกแห่งความจริง:d ​

 

ก็มันคือความฝันนะครับ หรือจะเรียกว่าฝันฟุ้งซ่าน นั้นเอง ผมก็ฝันบ่อยเหาะได้ ลอยได้ อย่าไปคิดมากครับใครๆก็เป้น

 

เมื่อ เวลา เราอยู่ในความฝันนั้นก็คือช่วงเวลาที่จิตวิญญาณของเราเปลี่ยนวิถีการจดจ่อไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง โลกอื่นมิติอื่น ที่ปราศจาก ช่องว่างระยะ ทางและการเวลา จึงทำให้คนส่วนมากจดจำความฝันของตัวเองไม่ได้และทึกทักเอาว่าเราไม่ได้ฝัน แต่จริงๆแล้วความฝันของเราดำเนินตลอดแม้กระทั่งเวลาที่เราตื่น แต่ความคมชัดจะต่างกัน การที่คุณพบเจอคนที่ไม่รู้จัก(ในชีวิตจริงในความฝันของคุณ ) นั้นความฝันกำลังเปิดเผยให้คุณเข้าใจธรรมชาติของความจริงข้อที่ว่านอกจากโลกใบนี้ที่เราหายใจอยู่นี้ ยังมีอีกโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ ที่เป็นอยู่ ดำเนินอยู่ต่อไป ควบคู่กับโลกที่เรารู้จักและหายใจอยู่นี้ตลอดเวลา ส่วนการที่คุณพูดภาษาต่างๆได้ในความฝันนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะจิตวิญญาณของคุณไม่ได้ดำเนินชีวิตในมิตินี้เพียงมิติเดียว
ผมคงแสดงความคิดเห็นได้เท่านี้ ในฐานะที่เป็นศิษย์ ของท่าน อาจารณ์ โนวา อนาลัย และความเข้าใจที่ผมแสดงความคิดเห็นของคุณ ข้างบนนั้น ก็มาจากคำสอนของท่าน
ยังมีความจริงอีกมากมายที่กำลังเปิดเผยให้เรารับรู้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่การเปิดใจรับรู้ข้อมูลของเรานั้นจะมีมากหรือน้อยเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ส่วนบุคคลและ การปลูกฝังของวัฒนะธรรมตามถิ่นกำเนิด แต่ถึงอย่างไรก็ตามไม่ว่าเราจะมีความเชื่อ แบบได้สิงที่คนเราต้องเผช็ญเหมือนๆ กันคือ ข้องมูลความจริงที่บริสุทธ์อันเดียวกัน

 

ฮ่าๆ ผมก็ฝันบ้าๆบอๆเหมือนกานคับ

แตแมผม เวลาเค้าฝันไรจะแมนมากคับ

แตผมละฝันเกือบทุกวาน อิอิ