ทำไมวัดธรรมกายสอนแบบนี้! พุทธศาสนาจะเป็นอย่างไร?? แล้วทำไมคนติดจัง

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย bennynaja, 11 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. bennynaja

    bennynaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +104
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2011
  2. jaya

    jaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,110
    ค่าพลัง:
    +2,183
    เคยได้ยินได้ฟังมาบ้างเหมือนกัน ถึงขนาดบ้านแตก มีรถขายรถ มีบ้านขายบ้าน มีที่ดินขายที่ดิน ถวายทำบุญให้หมดตัว พ่อแม่ลูก ต้องแตกแยกกันไปคนละทิศละทาง เพราะคำสอนที่ว่า ทำบุญให้สุดตัวทำให้มาก เวลาบุญใหญ่มาจะได้มีกำลังรับได้...

    อย่าว่าแต่ชาวบ้านแถวนี้เลย ขนาดเจ้าของกิจการใหญ่โต เอ่ยชื่อเป็นร้องอ้อยังถูกล้างความคิดเป็นแบบนี้เหมือนกัน....

    ขอเพียงพวกเราตั้งสติให้มั่น เทียบเคียงวิเคราะห์ให้ดี ธรรมะของพระพุทธเจ้า (องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านะ....ไม่ใช่องค์อะไรต่อมิอะไรที่เห็นกันตอนนี้) ของแท้ไม่สร้างทุกข์ให้ผู้ปฏิบัติ (อย่างมีสติปัญญา)
     
  3. แฟรงค์MBT

    แฟรงค์MBT สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2011
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +0
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

    พระดีๆมีเยอะแยะไม่ไปหา
    ไปหาหลวงพ่อนะจ๊ะ ก็ขึ้้นจานบินไปกับหลวงพ่อนะจ๊ะละกัน
     
  4. bennynaja

    bennynaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +104
    เหอๆ เห็นด้วยที่ว่าเอาสติไปด้วยยังไงก็ไม่โดนหลอกคะ สิ่งเหล่านี้อาจจะถูกกับจริตของพวกเขาก็ได้นะ เราก็ว่าเขาไม่ได้ ^^ เค้าเลือกที่จะศรัทธากันเอง
     
  5. Satanloki

    Satanloki สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +3
    ท้ายของท้ายทีุ่สุด ก็ต้องหลักธรรม กาลามสูตร ๑๐ ประการมาใช้ แล้วให้สติเป็นตัวตัดสิน แต่บางคนมิอาจมองเห็น เนื่องจากความกลัวและพยายามหลีกเลี่ยงกรรมของตนอย่างไม่ลืมหูลืมตา
     
  6. nopopathorn

    nopopathorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +2,065
    ระวังกรรมปรามาสด้วยนะครับมันกรรมหนักนะครับ
     
  7. warrrior

    warrrior Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +64
  8. วงบุญพิเศษ

    วงบุญพิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +649
    คนบางคนบรรลุธรรมเพราะอรรถที่ว่าด้วยโทษของกาม

    คนบางคนบรรลุธรรมเพราะอรรถที่ว่าด้วยเรื่องทาน

    คนบางคนบรรลุธรรมเพราะอรรถที่ว่าด้วยเรื่องศีล

    คนบางคนบรรลุธรรมเพราะอรรถที่ว่าด้วยเรื่องนรก

    คนบางคนบรรลุธรรมเพราะอรรถที่ว่าด้วยเรื่องสวรรค์


    เรื่องที่ท่านสอนนั้นก็เป็นไปตามนั้นนั่นเอง ท่านไปรู้ไปเห็นด้วยญาณทัศนะโดย

    อาศัยวิชชาธรรมกายไปรู้ไปเห็นมาอย่างไรท่านก็ว่าตามนั้น มันเป็นกำลังใจใน

    การเดินทางสร้างบารมีแล้วแต่คนน่ะ ตามแต่ฐานบารมีที่บำเพ็ญมา ถ้ามีแต่

    สมถะแบบท่านพุทธทาสหมด ถามว่าคนอย่างที่เข้าวัดพระธรรมกายนับแสน ที่

    เค้าชอบแบบนั้นเค้าจะไปไหน อาจไม่เข้าวัดหรือเปลี่ยนศาสนาไปเลย

    แล้วท่านก็สอนแบบนี้แหละ จนทำงานใหญ่ด้านการเผยแผ่พระศาสนาได้อย่าง

    ที่ไม่คาดคิด

    [​IMG]

    โครงการบวช7,000รูป 7,000ตำบล สำเร็จแล้วพัฒนาเป็นบวชแสน


    [​IMG]

    โครงการอุปสมบทหมู่ 100,000 รูป กำลังจะบวชแสนที่3แล้ว

    [​IMG]

    โครงการอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 1,000,000 คน กำลังจะโครงการที่4แล้ว

    [​IMG]

    โครงการตักบาตรพระ500,000รูป สำเร็จแล้ว
    และตอนนี้กำลังดำเนินงานตักบาตรพระ 1,000,000 รูป ทุกวัดทั่วไทย


    [​IMG]


    เมื่อก่อนผมก็ไม่ชอบวัดนี้ ผมเป็นลูกศิษย์ของแม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรมมา

    ก่อน ทุกวันอาทิตย์จะมี "คนมีปัญหา" มาไห้แม่ชีใช้ญาณทัศนะ "เปิดกรรม"

    ซึ่งมีกรณีธรรมกายมากๆๆๆ คนที่ล่วงเกินเจ้าอาวาสวัดนี้แล้วเจอปัญหาชีวิตนั้นมี

    มากๆๆ จนในที่สุด ผมถามท่านเป็นการส่วนตัวว่า วัดพระธรรมกายดีไหมครับ

    ท่านว่า "ดีน่ะ ดีมากด้วย" ผมก็ถามอีกว่า "ผมไปได้ไหม" ท่านก็ว่า "ไปซิ

    ลองไปดู ไปเลย" ผมก็เริ่มศึกษาวัดนี้ จนในที่สุดก็พบว่าดีจริงๆดังที่แม่ชี

    ท่านบอก
     
  9. kamoochi

    kamoochi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +326
    หลวงปู่สดท่านเป็นพระอริยะเจ้าจริงอยู่
    หลังจากท่านสำเร็จวิชาธรรมกายแล้ว ท่านได้สอบอารมณ์กับท่านโชดก จึงได้เรียนรู้วิปัสนาญาณ

    การสอนให้คนเป็นคนดี สอนให้คนทำทาน สร้างบารมี ให้มีฤทธิ์ มีความสามารถอะไรต่างๆ มันเป็นเรื่องที่ดีอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ได้สอนให้คนพ้นทุกข์ ผมไม่เรียกว่าพระพุทธศาสนาอย่างเด็ดขาด(ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับหลวงปู่สด)

    ผมไม่ใช่พวกจำอวด คิดเห็นอย่างไรก็พูดไปตามนั้น เรื่องนรกไม่กลัว กลัวแต่คนดีจริงๆ ต้องเข้าใจนะครับสำหรับผู้ที่รู้ว่าผมคุยอยู่ด้วย พระพุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องของปรัชญา เรื่องการให้คนทำบุญแต่ฝ่ายเดียวทำแบบไม่ลืมหูลืมตา แล้วโลกจะสงบสุขอะไรอย่างนั้นน่ะมันไม่ใช่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2011
  10. kamoochi

    kamoochi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +326
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=YKcWUGUnMY4]YouTube - เทศน์ลำดับญาณ 4/12[/ame]
     
  11. วงบุญพิเศษ

    วงบุญพิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +649
    เรื่องเทศน์ลำดับญานนั้น ผมดูแล้วครับ

    จริงๆแล้วเรื่องแบบนี้ทางวัดพระธรรมกายจะไม่ตอบน่ะครับ


    ส่วนสายที่ตอบและมีธรรมวิจัยเรื่องวิชชาธรรมกายคือสายวัดหลวงพ่อสดธรรมกา

    ยารามเรื่องนี้คงต้องให้ท่านเจ้าคุณโชดกรับผิดชอบครับ ท่านปรามาสหลวงพ่อ

    สดทั้งๆที่หลวงพ่อมรณะแล้ว มีหลายรูปครับที่ปรามาสหลวงพ่อสด ทั้งๆที่เป็น

    พระปฎิบัติดี เมื่อละจากโลกนี้แล้วไปอยู่ข้างล่าง นี่คำพูดของศิษย์วัดหลวงพ่อ

    สดน่ะครับ<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
     
  12. Satanloki

    Satanloki สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +3
    หมายถึง ผมหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ก็ขออภัยอย่างยิ่ง ผมไม่มีความคิดดูหมิ่นอะไรทั้งสิ้น แต่มองดูผู้คนส่วนใหญ่พอมีปัญหาใหญ่ค่อยเข้าวัด บาดเจ็บสาหัสค่อยตักบาตรทำบุญ ส่วนดีอยู่แล้วก็ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  13. กัปปะ

    กัปปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +118
    งดถวายปัจจัยกับพระภิกษุสงฆ์ ลองเข้าไปอ่านนะครับ หน้า อภิญญา หลวงพี่เล็ก หัวข้อ งดถวายปัจจัยกับพระภิกษุสงฆ์ เผื่อจะมีแนวคิดสร้างสรรค์ช่วยกันจรรโลงพุทธศาสนาครับ
     
  14. rossalen

    rossalen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +323
    ดิฉันนั่งอ่านกระทู้นี้และก็ได้อาศัยสติปัญญาญาณอันน้อยนิดของตัวเองพิจารณาค่ะว่าเป็นอย่างไร สรุปก็คือ ตัวดิฉันนั่งทำสมาธิให้ใจสงบอยู่บ้านค่ะ สวดมนต์ประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ไม่ได้ญาณวิเศษอะไรหรอก แต่ได้ความสงบทางจิต และก็กำลังแสวงหาสถานปฎิบัติกรรมฐานเพื่อพัฒนาจิตตัวเองให้ดีกว่านี้ อย่างน้อยเราต้องมีครูบาอาจารย์ วิปัสนาจารย์คอยชี้แนะนะคะ ดิฉันปราถนานิพพานค่ะ ไม่อยากเกิดอีก เบื่อ แต่น่าแปลก(สำหรับดิฉันนะคะ คนอื่นไม่ทราบ) ดิฉันอยากจะไปปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์ที่มีจริยวัตรถ่อมตน พูดน้อย ปฏิบัติมาก ไม่สะสมวัตถุ แต่สะสมบารมีธรรม และให้ธรรมะที่ฟังแล้วอิ่มเอมหัวใจ ไม่รู้สึกเป็นทุกข์หรือร้อนลุ่ม และสถานที่ปฏิบัติที่เป็นสถานที่ที่สงบเงียบ ธรรมชาติ ไม่ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพราะอะไร เพราะว่าดิฉันอยากขัดเกลากิเลสที่ชอบความสะดวกสะบายจนเคยตัวออกไปบ้างค่ะ เพราะถ้าอนาคตหากเกิดเหตุเพทภัยพิบัติ เราจะได้เตรียมรับมืออย่างไม่ประมาท
    * ดิฉันความรู้ก็ไม่ด้อยและก็ไม่เด่นค่ะ แต่ก็ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิญญาณ ธรรมะ ศาสนาทุกศาสนาก็ศึกษาบ้างเพื่อประกอบการนำมาเปรียบเทียบ ความคิดเห็นส่วนตัวมันก็ออกมาเป็นอย่างนี้แล อิอิ ว่าจะไม่โพสต์แล้วเชียวนะเนี่ย<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. กัปปะ

    กัปปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +118
    ผมเห็นด้วยกับคุณเป็นอย่างมากครับ เพราะผมเองก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน ผมถึงอยากให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายลองมองพระสงฆ์ในปัจจุบัน เราต้องแยกดีเลวออกจากกันก่อนนะครับ แล้วมาช่วยกันพิจารณา ว่าจะทำอย่างไรเพื่อจรรโลงศาสนา โดยเอาเหลือบศาสนาออกจากพุทธศาสนาของเรา ผมถึงเห็นด้วยกับการงดให้ปัจจัยกับพระสงฆ์
     
  16. พิทย

    พิทย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +32
    ไม่ขอวิจารณ์คำสอนใดใด แต่ขอตบหลังเบาๆเตือนเพื่อนๆฆารวาสด้วยกัน

    ก่อน อื่นต้องบอกว่า ปัญหาส่วนใหญ่ คือ ปัญหาของผู้ที่รับสาร ( ในกรณีนี้กล่าวถึง ปุถุชน ซึ่งยังไม่ได้เข้าถึงสัมมาทิฐิ) ไม่ใช่ปัญหาของผู้ส่งสาร (อาจารย์ ผู้สอน ท่านต่างๆ) คนเรามักจะเลือกเดินเข้าไปซื้อาหารที่ตัวเอง ชอบและเห็นว่า อร่อยถูกใจ บางคนเดินเข้าไปซื้อแต่ไก่ทอด กินทุกวัน เพราะ ความชอบของตนเป็นหลัก(ทั้งรู้ว่าไขมันอุดตัน) ในทางเดียวกัน ปุถุชนคนที่ อยากได้บุญเร็วๆ ลำบากน้อยๆ ไม่ต้องบังคับกิเลส อยากโกรธ อยากนินทา อยากสร้างความเดือดร้อนให้ใครที่ไม่ชอบ ก็จะทำ อยากมีนั้นนี้สารพัด ไม่ได้ดังใจก็โกรธ กล่าวร้าย ขี้เกียจศึกษาพระธรรมความจริง ยังตามใจกิเลสตัวเอง ยังไม่คิดจะแก้ไข ก็คิดได้แต่ว่า ยังไงก็ยังอยากได้ดี ตายไปหรืออยู่บนโลก ก็อยากให้ตัวเองสบาย แต่....ไม่ลงทุนในการขวนขวายปฏิบัติ ปล่อยให้กิเลสตัวเองอยู่ครบ เอาสบาย เอาสะดวก ไม่คิดไม่แก้ความอิจฉา ความไม่ชอบ อะไรต่อมิอะไรสารพัดรอบตัว บางรายถึงกับ พยามหาทางลัด พอจะให้กิเลสได้ชอบใจ เสียอีกว่า งั้นก็ไปซื้อเอานิพพานสิ นิพานไม่ต้องอะไรมาก มีเงินก็เอาไปถมวัด ซื้อพระ สร้างสะพาน .. พวกสุดโต่งก็จะพยามหาช่องทางโจมตี อวดอัตตากันเลยทันทีว่า เอ้าแล้วงั้น ไม่ต้องทำบุญแล้ววัดกับพระจะอยู่อย่างไร เราต้องย้อนกลับมา เปิดกรุความจริงกันอีกว่า ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา คือ 4 แกนของพุทธศาสนา เราค้ำจุนกันในทางโลกและทางธรรม พระก็มีหน้าที่ลุยหน้า ฝ่ากิเลส แบบสันโดษแบบพอเพียง นำคำสอนการปฏิบัติมาเพื่อแผ่แก่หมู่ชนที่ใฝ่ธรรม ส่วนอุบาสกอุบาสิกา ก็มีหน้าที่ นำหลักธรรมมาใช้ให้ถูกกับตัวเองและสงเคราะห์แก่ผู้มอบธรรมให้กับเรา นั้นก็คือ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันนั่นเอง ทั้งผู้ที่เป็นพระก็ต้องตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิ และฆารวาสก็เช่นเดียวกัน
    อย่า โยนหน้าที่นี้ให้แก่พระเพียงอย่างเดียว เราจะมารอเอาแต่ธรรมะ บอกบุญ แค่นั้นไม่ได้ หน้าที่ของฆารวาส ก็คือ การเป็นผู้สนับสนุน และเป็นหน่อเชื้อที่ดีของพุทธศาสนา ฆารวาสเองก็ต้องมีความพยาม ใฝ่รู้ อย่างน้อยๆช่วยเหลือตัวเองได้ ในการที่จะมองให้ออกว่า อาจารย์หรือ พระที่เราจะฝากใจเข้าไปปฏิบัตินั้น ท่านเห็นถูกเห็นตรงตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ด้วยหรือไม่ แต่จำเอาไว้อย่างว่า ธรรมะเป็นของดี แล้วของดี ก็จะไม่มีทางได้มาแค่ง่ายๆ ทำง่ายๆ แบบทำงานหาเงินไปซื้อของถวายวัดแล้วก็จบกัน อันนั้นที่ได้ คือได้ละความตระหนี่ มีความเอื้อเฟื้อ แต่ยังไม่ได้ เหลียวไปแตะถูก การใช้ชีวิตให้ไม่เดือดร้อนผู้อื่น ไม่เดือดร้อนตัวเอง ที่แท้จริง การนั่งนิ่งๆ ไปเพ่งอะไรไว้ให้ใจยึด มันก็ไม่ยาก ก็เป็นการกดทับกิเลส ถ้ายังไม่มีปัญญาเอาสมาธิมาฆ่าฟันกับกิเลส ก็ถือว่ายังไม่เข้าข่ายปฏิบัติธรรม เป็นแค่การอยู่นิ่งๆไม่ก่อความวุ่นวาย แต่โดยมากแล้วพอออกมาจากสมาธิแบบมิฉาทิฐิ ก็ยังยิ่งก่อความวุ่นวายของจริง เที่ยวติติง ว่าคนอื่น โกรธคนง่าย คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นแน่นอน ข่มเขาไปทั่ว ยิ่งวุ่นวาย ยิ่งเร้าร้อน เข้าไปใหญ่ อันนี้แหละ ตัวกิเลสวาดหัววาดหางใหญ่เลย
    (ผู้ ที่ปฏิบัติธรรมได้ดีจริงๆ คือผู้ที่อ่อนน้อม ไม่อหังกาล ทั้งต่อหน้าและลับหลัง หรือแม้แต่คุยกับใจตัวเองเงียบๆคนเดียว ก็ไม่คิดว่าตัวเองอยู่เหนือคนอื่นๆ)

    ปัญหามันเกิด ก็เพราะเราเองยังไม่ดูแลตัวเองเลย ไม่ขวนขวายเพียรหาทางที่ถูกต้องไว้ยึดเหนี่ยว
    พอเจอปัญหา เจอพระไม่ดี เจอ อะไรที่สั่นคลอนพุทธศาสนา ก็ว่า ศาสนาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้
    พอ เจอพระไม่ดี โดนต้มมา ก็โกรธ ก็ด่าว่าพระไม่พอยังลามไปถึงพุทธศาสนาด้วย คือโยนความผิดให้ คนอื่นหมด ตัวเองไม่รู้อิโน่อิเหน่ อินโนเซ้นต์อยู่คนเดียว แต่90กว่าเปอร์เซ็นต์ของคนบนโลกนี้ ก็คิดแต่จะกล่าวโทษคนอื่นก่อนอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องชั่วที่คนเรามองมันเป็นเรื่องปกติ ในทุกๆสิ่งในทุกๆที่มีแต่ประโยชน์ หลักคือใช่จิตชั่วมอง หรือจิตดีมอง ถ้าจิตที่ดีมอง แม้แต่ในสิ่งที่ชั่วก็สอนเราได้ ก็หาข้อดีของมันออกมาใช้งานได้

    ปล. คำว่าคนดีกับคนชั่ว เป็นแค่คำจำกัดความของการแทนความ ชั่วคือกิเลสในคน ดีคือความถูกต้องอยู่ตรงกลาง ซึ่งทุกคนมีความดีแน่นอน เราอย่าเอาตัวเองไปยืดอกรับแทนกิเลส
    ถ้า เราโกรธเมื่อไหร่ แสดงว่า กิเลสออกโรงแล้ว ประเด็นคือ ผมตำหนิกิเลสในตัวคุณ ไม่ได้ด่าคุณ แบบนี้ บางคนเอาเชียว คิดว่าถูกด่า กิเลสก็เซี้ยมคุณเลยว่า อย่าไปเชื่อมัน อย่าไปฟังมัน ต้องหาข้อแก้ตัวให้ได้ อย่าให้ฉันถูกด่า(กิเลส) เพราะฉันแสบร้อน เธอก็ต้องร้อนตาม(จิตคน)
    คน โดยมาก จะคิดว่า ตัวเองกับกิเลสเป็นตัวตัวเดียวกัน ถ้าเป็นตัวตัวเดียวกันจริงๆ ทำไมคุณถึงห้ามตัวเองไม่ให้โกรธ ไม่ได้ล่ะ เพราะคนละตัวกัน มันคนละเรื่องกัน กิเลสมันจะหายไปได้ ตัวโกรธมันจะหายไปได้ ก็ต่อเมื่อ 1. มีเหตุผล มีความดี ความถูกต้องเข้ามาแทรก 2. มันจะหายไปเองตามเวลา แต่ถ้าปรุงอีก ก็เอาอีก สามารถโกรธเรื่องเดิมๆได้เป็นล้านๆครั้ง เผาตัวเองตายได้ชั่วชีวิต ( ยังคิดว่า กิเลสความโกรธเป็นเพื่อนแท้ให้เราได้อีกเหรอ) มันมีเหตุมันมีผล ของการเกิดและการดับ
    เอาไว้แค่นี้ก่อน เดี๋ยวจะเป็นการเปิดอีกประเด็นใหม่ จะไปกันอีกยาว


    หลัก กาลมสูตรของพระพุทธเจ้าสอนว่าอย่างไร สอนให้พึ่งตัวเอง แต่ไม่ได้หมายความว่า นั่งเทียนเชื่อตัวเองเข้าข้างตัวเองไปเสียทุกเรื่อง แต่ให้วิเคราะห์เก็บข้อมูลก่อนจะเชื่อ ถูกต้องหรือไม่ ตรงตามหลักที่พระพุทธเจ้าท่านทรงมอบไว้ให้หรือไม่ ตามหลัก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือไม่ ไม่ใช่เห็นใครใส่ชุดตำรวจก็วิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือ ปรากฏว่า เป็นโจรในคราบตำรวจ กลับมารีดไถ่ มาปล้นเราซ้ำเสียอีก เราต้องรู้จัก สังเกตุการณ์ เก็บข้อมูล นำผลมาประมวล ว่า ถูกต้องตามหลักไหม ก่อนจะเชื่อ ไม่ใช่ว่าเขาว่า ก็ว่าตามกัน ถ้าเขาว่า ว่าตามกันมันดีจริง ขอถามหน่อยว่า คนบนโลกนี้ ดีกับชั่ว อันไหนตอนนี้มีมากกว่ากัน ถ้ามีคนดีมากๆแล้วธรรมชาติถึงโดนทำลายไปมากมายขนาดนี้ ทำไมคอร์รัปชั่นมีมาก ทำไมคนยังเดือดร้อนแก่งแย่ง ชิงดีฆ่าฟันกันไม่หยุดหย่อน อย่าแค่บอกว่าคนอื่นเขาเชื่อกัน เพราะคนจำนวนเยอะเขาเชื่อกัน เราก็ต้องเชื่อตาม ในเมื่อคนเลวมีมากกว่าคนดี ก็กรุณาใช้วิจารณญาณ
     
  17. 3y3

    3y3 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +6
    ส่วนตัวเฉยๆ บุญใครบุญมัน ลายนิ้วมือทุกคนไม่เหมือนกัน จิตแต่ละคนก็ไม่บำเพ็ญมาไม่เท่ากัน ที่สำคัญคือ รักษาจิตตัวเอง ให้ดี ครับ เรื่องภายนอก เป็นเรื่องของโลก ปล่อยวางเถอะ
     
  18. nishikido07

    nishikido07 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +13
    ทำแล้วสบายใจไง นั่นแหละมั้งเหตุผล
     
  19. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    เปิดเจอช่องธรรมกายช่วงเสาร์ทิตย์ที่ได้ดูเคเบิ้ล เห็นท่านสอนให้ไปดุสิตบุรี แสดงว่าเป็นพุทธภูมิ ก็โมทนาในความตั้งใจในการปฎิบัติ ส่วนเรื่องไหนที่ไม่ดี อันนี้ก็ไม่เคยเห็น เลยไม่สามารถบอกได้ แต่คิดว่า ก็อาจจะมีบ้างคนที่ทุ่มสุดตัว จนครอบครัวแตกแยก ก็คงเป็นหน้าที่ของศิษย์วัดและทางวัดที่จะช่วยกันแนะนำคนที่มาทำบุญให้รู้จักกำลังของตน แต่ถ้ารู้ทั้งรู้และยังเมินเฉย เพื่อให้วัดได้เงินเข้าวัดเยอะๆก็จะเป็นโทษที่จะได้รับเองแหล่ะ ใครทำใครได้ มีทั้งบุญและบาป ให้เราโมทนาบุญ มีพรหมวิหารสี่ ในการมองวัดธรรมกาย เราก็จะได้ไม่ต้องขุ่นข้องหมองใจ
     
  20. อีโต้

    อีโต้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +256
    ผมไปร่วมงานv-starครั้งล่าสุดมา เห็นว่า มีหลาย รร.พาเด็กไปแล้วไม่ค่อยได้อะไรเนื่องจากคนเยอะมากจะเดินไปไหนก็ลำบากเพราะคนมากันเป็นล้านคนแถมยังอากาศร้อนด้วย เห็นบาง รร.ไม่ยอมปล่อยเด็กไปชมนิทรรศการ เพราะกลัวเด็กหลง เวลาก็มีจำกัด ถ้าหากคนน้อยกว่านี้น่าจะดี สุดท้ายก็ให้นักเรียนกล่าวถวายตัวเป็นพุทธมามกะพร้อมกันล้านคน และมีการถ่ายทอดไปทั่วโลก ให้คนทั้งโลกได้เห็นว่าเยาวชนไทย1ล้านคนมาร่วมทำความดีกันที่วัดพระธรรมกาย ถือว่าเป็นโครงการที่ดี
    แต่ที่ได้ฟังจากหลายๆคนทั้งเด็กทั้ง อาจารย์ เขาพูดกันในแนวความเห็นว่า งานนี้เน้นที่ปริมาณแต่ไม่เน้นคุณภาพ เพราะเด็กตั้ง1ล้าน(อัดไปได้ยังไง)คนส่วนใหญ่ไปแล้วไม่คอยได้อะไร นอกจากของที่ระลึกเช่น กระเป๋า เครื่องเขียนต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะไปเที่ยวเล่นกันเฉยๆ แถมตอนขากลับยังมีเซอร์ไพรซ์ เพราะผมเห็นรถทัวร์ของ รร.อาชีวะหลายๆคัน เต้นโคโยตี้กันในรถเลยครับ
    .........คนเยอะ....เรื่องก็แยะ....วุ่นวาย.....
    คราวหน้าคราวหลัง เน้นคุณภาพดีกว่า อย่าเน้นปริมาณเลยครับ
    เยาวชนไทยจะได้คุณภาพและประโยชน์จากการจัดงานมากกว่านี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...