ทำเนียบความชำนาญเฉพาะของชาวพลังจิต

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย รักทุกท่าน, 11 เมษายน 2011.

?
  1. เหมาะสม

    0 vote(s)
    0.0%
  2. ไม่เหมาะสม

    0 vote(s)
    0.0%
  1. รักทุกท่าน

    รักทุกท่าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    [​IMG]

    ในสังคมชาวพลังจิตมีหลายบุคลลที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้้าน

    การทำสมาธิแบบต่าง ๆ เช่น อานาปา กสิน อสุภะ ยุบหนอพองหนอ พุทโธ มโนมยิทธิ เป็นต้น ใครมีความชำนาญในด้านไหนผมก็ขึ้นทำเนียบไว้

    การฝึกพลังต่าง ๆ เช่น พลังจักรวาล พลังเอกภพยูเลอัส พลังจักระ เป็นต้น

    ข้อมูลด้านต่าง ๆ เช่น ข้อมูลภัยพิบัติ ข้อมูลจากต่างดาว ข้อมูลข่าวสารภายในสายการปฏิบัติสายต่าง ๆ เป็นต้น

    ศาสตร์ต่าง ๆ เช่น หมอดูไพ่ ทำนายฝัน ดูลายมือ ฮวงจุ้ย ดาราศาสตร์ เป็นต้น

    ขอให้เพื่อน ๆ ช่วยเสนอและรวบรวม

    ว่าเพื่อนเราคนใดของเรา มีความสามารถด้านใดเป็นพิเศษ
    ที่สามารถแนะนำเราในด้านนั้นได้

    [​IMG]

    เราจะได้จัดทำเป็นทำเนียบความชำนาญเฉพาะ

    เพื่อที่เพื่อนเราคนใดมีความสนใจด้านใดจะได้ติดต่อเพื่อได้
    ศึกษากับผู้ชำนาญด้านนั้นจริง ๆ

    เพื่อประโยชน์สูงสุดของเพื่อนเรา

    ทำเนียบความชำนาญเฉพาะประกอบด้วย

    ชื่อในพลังจิต (ชื่อจริงหากเจ้าตัวอนุญาตให้เปิดเผย)

    รายละเอียดการติดต่อที่เจ้าตัวอนุญาต เช่น

    กระทู้ เฟสบุค อีเมล์ เบอร์โทร ที่อยู่ และอื่น ๆ

    มาร่วมแบ่งปันความรู้กัน โดยความเป็นเพื่อนทางจิตวิญญาณกันเถอะ

    [​IMG]


    หากเพื่อนคนไหนเชี่ยวชาญด้านไหนและมีความรักไม่สิ้นสุด

    ที่จะแบ่งปันความรู้โพสบอกความชำนาญของท่าน
    และรายละเอียดในการติดต่อว่าสะดวกทางใด


    และในรายละเอียดทำเนียบความชำนาญส่วนที่ผมนำมาโพสเป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ

    โปรใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยครับ

    (หากบุคคลอ้างอิงที่ผมนำมาโพส ไม่อยากเปิดเผยรายละเอียดติดต่อผมกลับด้วยนะครับ)

    การจัดทำ ทำเนียบความชำนาญในครั้งนี้

    ผมจะส่งข้อความส่วนตัวไปขอรายละเอียดของท่านที่ผมเชิญมาขึ้นทำเนียบ

    โดยพิจารณาจาก ผลงานที่ผ่านมาเช่น ข้อมูลในกระทู้ที่เคยตั้ง คำแนะนำในกระทู้ และความสนใจพิเศษของท่านนั้น

    เพื่อเสาะหาผู้ชำนาญเฉพาะ ผู้ที่มีข้อมูลแน่นและเจาะลึก รู้จริงเข้าใจจริงและรู้รอบอย่างกว้างขวางในเรื่องนั้น ๆ

    นอกจากนี้เราจะได้พบเพื่อนที่มีความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องนั้น ๆ อีกเพื่อการแลกเปลี่ยน สร้างเครือข่ายองค์ความรู้
    ประยุกต์ผสมผสานศาสตร์และความรอบรู้แขนงต่าง ๆ เพื่อประโยชน์อันไม่สิ้นสุดของเพื่อน ๆ ของเรา

    สุดท้าย ผมรักทุกท่านนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2011
  2. naiman3000

    naiman3000 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2008
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +106
  3. รักทุกท่าน

    รักทุกท่าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    คำภาวนาที่ใช้บริกรรมมีผลต่อตรงสภาวะธรรมของจิต

    [​IMG]

    ท่าน JIT_ISSARA

    ท่านนี้มีความชำนาญในแนวทางการปฏิบัติแบบ

    คำภาวนาและสภาวะธรรมมีผลต่อกัน ดังนั้น

    ต้องใช้คำภาวนาให้เหมาะสมกับภาวะจิต

    ต้องมีการปรับเปลี่ยนทัศนคติ ความเชื่อ ทิฐิ ให้เป็นความรู้อย่างหนึ่ง

    จากรายละเอียดในกระทู้ มีการฝึกรับพลังจักรวาล

    และปฏิบัติให้จิตเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล

    เป็นการปฎิบัติในแนวทางการภาวนาควบคู่กับปรับทัศนคติ

    หลักปฏิบัติที่พบในกระทู้ จะมีการให้คำภาวนาที่เหมาะสมกับภาวะจิตของผู้ศึกษา

    โดยฐานการภาวนา(จุดกำหนดตัวรู้)จะอยู่ตรงกลางทรวงอก

    และจะมีีการปรับทัศนคติเป็นระยะ ตามความก้าวหน้าของจิตในแต่ละคน

    เมื่อภาวะจิตเปลี่ยน จะมีการให้คำภาวนาใหม่ที่เหมาะสม พร้อมกับทัศนคติใหม่

    ทัศนคติที่ท่านจิตสอน จะเน้นไปในทาง ความรักไม่มีที่สิ้นสุด ความรักไม่มีเงื่อนไขต่อตนเองและผู้อื่น

    วางใจให้เป็นกลางโดยการเปลี่ยนความคิด ความเชื่อ อารมณ์ ให้เป็นความรู้อย่างหนึ่ง

    จากรายละเอียดในกระทู้ยังพบอีกว่า ท่าน JIT_ISSARA มีความสามารถสัมผัสจิตผู้สนใจ

    และบอกภาวะจิตผู้นั้นได้ ทราบว่าภาวะจิตหรือความคิด ติดขัดอย่างไร

    จากการตอบรับ พบว่าผู้สนใจทุกคนยอมรับในความสารถตรงจุดนี้และมีการตอบรับดี

    สังเกตุจากไม่มีการก่อกวนในกระทู้ และความก้าวหน้าของผู้สนใจในแต่ละท่านมีความก้าวหน้าไปในทางที่ดี


    ผลจำนงหวัง(สิ่งที่ท่านจะได้รับ)ของการปฏิบัติในแนวทางนี้ที่พบจากรายละเอียดในกระทู้ คือ

    จะมีการพัฒนาสภาวะจิตไปตามขั้นตอนดังนี้

    1 จิตวิ่งไปตามความคิดนึกปรุงแต่งของสมอง ( ปล่อยใจไปตามกิเลส หรือความคิดที่ลากจูงเราไป) คนปกติทั่วไป

    เริ่มมีการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ

    2 มีฐานที่ตั้งของจิต จิตตามรู้ความคิดนึก รู้สึก ( เริ่มรู้ทันอารมได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่ถูกพาไปตามความคิด นึก รู้สึก )

    3 มีฐานที่ตั้งของจิต จิตนิ่งรู้ความคิดนึก รู้สึก ( เริ่มทันกับความคิด นึก รู้สึก สติตัดสิ่งที่คิด นึก รู้สึกที่ออกมาจากความว่างได้ทัน ขั้นนี้จะเห็นความว่างมากขึ้น และที่ได้ที่มีความว่าง จะมีความเบิกบาร และ โล่ง )

    4 จิตมีฐ่านที่ตั้งของจิต จิตดับก่อนรู้ คือ ไม่รุ้อะไร เพราะวางตัวรู้อยู่ตลอดเวลา (เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นความรู้ใหม่ เบิกบานอยู่เสมอ)

    5 จิตไม่มีฐาน เป็นอิสรระในทุกสิ่ง ตื่นรู้ เบิกบาน เต็มไปด้วยพลังอยู่ภายใน (ศีล สมาธิ ปัญญา บริบูรณ์ด้วยตนเอง)และเป็นจิตผู้สร้างสรรค์ อย่างแท้จริง ไม่มีลักษณะใดๆมาบรรยายได้

    (ข้อ 5 คือ ผลจำนงหวังทางภาวะจิตสุดท้ายในการปฏิบัติตามแนวทางนี้)

    อ้างอิงจากกระทู้ คาถาเพื่อการยกระดับทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ_2 ลำดับคำตอบที่ 412


    มีการรับรองผลการปฏิบัติด้วย ภาพถ่ายแสงออร่าของจิต จากองค์ภาวนาที่แตกต่าง

    และการตอบรับอย่างดีในกระทู้

    คาถาเพื่อการยกระดับทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ
    คาถาเพื่อการยกระดับทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ_2

    รายละเอียดในกระทู้ท่านจะพบว่าผู้ที่ปฏิบัติแนวทางนี้ก็มีความก้าวหน้าเป็นลำดับ
    อย่างน่าสนใจ



    รายละเอียดการติดต่อ

    กระทู้ คาถาเพื่อการยกระดับทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ_2

    หรือโทรสายตรงถึงคุณจิตอิสระ 082-1433013

    เว็บของท่าน JIT_ISSARA


    เติมเต็มและแบ่งปันหนทางแห่งรักและเป็นไปได้ในทุกสิ่งทางจิตวิญญาณ


    กลุ่มเครือข่ายบุคคลที่มีความสนใจในการปฏิบัติตามแนวทางนี้
    ท่านสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้จากท่านเหล่านี้เพิ่มเติมได้

    - กำลังอยู่ในระหว่างการติดต่อขอข้อมูล

    ความสนใจอย่างอื่นของท่าน JIT_ISSARA

    - กำลังอยู่ในระหว่างการติดต่อขอข้อมูล

    รูปแสดงความสัมพันธ์ของแสงออร่าของท่านจิตอิสระกับคำภาวนาที่ใช้

    [​IMG]


    [FONT=&quot]ข้อมูลในการอ่านออร่าเบื้องต้นดังนี้ (เป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่ง)[/FONT]

    [FONT=&quot]๑. สีชมพู หมายถึง พลังกายพลังใจที่แจ่มใส สดใส มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น มีความโอบอ้อมปลอบประโลมผู้อื่นในวัตถุถือว่าส่งผลทางเมตตามหานิยม[/FONT]

    [FONT=&quot]๒. สีแดง หมายถึง การกระฉับกระเฉง ความทะเยอทะยาน ความภาคภูมิใจ เต็มไปด้วยพลังแห่งการทำงาน และในวัตถุมงคลถือว่าเป็นอำนาจปกป้องคุ้มครอง ข่มอาถรรพ์คุณไสยและทางมหาอำนาจด้วย เครื่องรางประเภทคงกระพันชาตรี จะพบออร่าสีแดงเป็นพื้นอาจมีสีอื่นผสมด้วยสีแดงยิ่งเข้ม ยิ่งแสดงอำนาจในการคุกคาม แสดงถึงอำนาจในการป้องกันสูงตามไปด้วย[/FONT]

    [FONT=&quot]๓. สีส้ม/แสด หมายถึง ความกระฉับกระเฉงว่องไว สุขภาพสมบูรณ์ มีความสุขทั้งทางกายและทางใจในวัตถุมงคลเป็นสีโอโรสหมายถึงผลทางเสน่ห์โดย เฉพาะและหากร่วมกับสีชมพู ก็จะยิ่งส่งผลทางเสน่ห์สูงมากยิ่งขึ้นไปด้วย[/FONT]

    [FONT=&quot]๔. สีเหลือง หมายถึง ความฉลาด ความเมตตา มองโลกในแง่ดี เป็นสีที่มีภูมิคุ้มกันโรค สีเหลืองอมส้มหมายถึง ความฉลาดปราดเปรื่อง ในวัตถุมงคลเป็นสีของบารมีทั้งหลายส่งผลทางโภคทรัพย์ด้วยสีเหลืองหากปรากฏใน วัตถุมงคลจะหมายถึงบารมีพระพุทธในบางกรณีซึ่งอาจมีการผสมกับสีฟ้าอ่อนๆด้วย[/FONT]

    [FONT=&quot]๕. สีเขียว หมายถึง จิตใจละเอียดอ่อน ใจดี เข้าใจผู้อื่นง่าย เป็นสีแสดงถึงความสมดุลของสภาพร่างกาย ในวัตถุมงคลคือส่งผลทางป้องกันรักษา โดยเฉพาะการรักษาโรค และล้างคุณไสย และในบางกรณี การผสมของออร่า บางสี อย่างสีเหลือง(แสดงอารมณ์ปิติมีความสุข) และสีฟ้า(อารมณ์เมตตา) ก็อาจเห็นเป็นออร่าสีเขียวได้เช่นกันดังนั้นการอ่านออร่า จึงต้องมีผู้ที่เชี่ยวชาญที่เห็นออร่าแบบต่างๆมามากให้คำแนะนำ[/FONT]

    [FONT=&quot]๖. สีน้ำเงิน หมายถึง ความสงบ มีสัจจะ ซื่อตรง จริงใจ เป็นผู้มีความมั่นคง ฉลาด และมักประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูง ในวัตถุมงคลเป็นสีทางโชคลาภอีกสีหนึ่งที่มาจากลาภลอย ลาภจาก การเจรจาตกลง [/FONT]
    [FONT=&quot]๗. สีคราม หมายถึง สีของพลังจิต มีสัมผัสที่ ๖ มีความฉลาดล้ำลึก ความคิดสร้างสรรค์ และมีความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ชอบค้นหาสัจจะธรรมของชีวิต เป็นการแสดงอำนาจญาณบางชนิดด้วยแต่ต้องชำนาญในการอ่านเช่นญาณพระพุทธ(สี คราม-ฟ้า) ญาณว่าน ญาณจากวัตถุธรรมชาติซึ่งแตกต่างกันในรายละเอียดบางประการต้องได้รับการแนะนำ จากผู้รู้[/FONT]

    [FONT=&quot]๘. สีม่วง หมายถึง จิตละเอียดอ่อน เป็นตัวของตัวเอง มีสัมผัสที่ ๖ และแสดงถึงเป็นผู้ที่มีพลังจิตสูง ชอบทางสมาธิและโน้มเอียงไปทางศาสนา ชอบเรื่องลี้ลับ คนส่วนมากมักไม่มีสีนี้ สีม่วงหากปรากฏในวัตถุมงคลถือว่ามีเทพระดับสูงรักษา(แรงครูบาอาจารย์)วัตถุ มงคลที่มีสีม่วงแสดงว่ามีญาณทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าลางสังหรณ์[/FONT]

    [FONT=&quot]๙. สีขาว หมายถึง เป็นสีที่มีความสมดุลมากที่สุด มักพบในนักบุญหรือผู้ที่เจริญสมาธิอยู่เสมอ ถ้าปรากฏเป็นเส้นสีขาวผ่านซ้อนแสงหมายถึง การสื่อกับมิติอื่นได้ เป็นสีของญาณสมาบัติพบในมงคลวัตถุแสดงว่าผู้เสกสร้างได้สมาธิระดับสมาบัติ ชั้นสูง สีขาวเป็นการผสมของสีต่างๆอย่างสมดุลลงตัว เป็นสีที่บอกประการหนึ่งของพลังด้านบวก เป็นตัวปรับสมดุลเครื่องรางที่มรสีขาวจะมีผลทางด้านส่งเสริมให้จิตใจผู้สวม ใส่เป็นสมาธิได้ง่าย และยังใช้ในการอธิษฐานขอเรื่องต่างๆได้ด้วย[/FONT]

    [FONT=&quot]๑๐. สีทอง หมายถึง สีของพลังจักรวาล พลังแห่งทิพยชั้นสูง ผู้ที่มีสีนี้พบได้น้อยมากปัจจุบันแทบจะหาไม่พบเลย เป็นพลังอำนาจนอกมิติการอ่านในภาพถ่ายจะแยกยากมากระหว่างสีเหลืองกับสีทอง รายละเอียดจะข้ามไปสำหรับผู้ศึกษาโดยเฉพาะ[/FONT]

    อ้างอิงจาก www.ounamilit.com/b44_auracolor.htm

    http://www.powerlifecenter.com/index.php?lay=show&ac=photo_view&event_id=1442
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...