ทำบุญตามกำลังศรัทธาสมทบทุนซื้อวัสดุอุปกรณ์สร้างพระพุทธโพธิ์ศรีมหาเจดีย์ 49 เมตร

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย Amata_club, 5 สิงหาคม 2010.

  1. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    Update 16/01/11
    แบบร่างโบสถ์พระธาตุ 3D เกือบ 100 %
    ซึ่งขณะนี้คุณวิปัสสนูและทีมงานออกแบบกำลังแก้ไขแบบเพื่อความถูกต้องสมบูรณ์

    คุณ วิปัสสนู ได้นำเงินส่วนตัวในการทำสัญญาจ้างในการเขียนแบบแปลน งวดแรกไป 10,000 บาท ซึ่งลักษณะของโบสถ์พระธาตุจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ครับ คือส่วนล่างจะสร้างเป็นตัวอาคารซึ่งจะใช้เป็นโบสถ์ มีความกว้าง 9 เมตร (คือนวโลกุตรธรรม) ความยาว 12 เมตร (คือคุณมารดาผู้ให้กำเนิด) ความสูง 5 เมตร (คือขันธ์ทั้ง 5) ส่วนด้านข้างของมุมโบสถ์แต่ละมุมจะสร้างยื่นออกมาเหมือนขาเต่าทั้ง 4 มุม(คือ ธาตุทั้ง 4) ลักษณะเป็นซุ้มมณฑป เพื่อประดิษฐ์สถานท่านท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ส่วนบนของซุ้มมณฑปจะสร้างเป็นเจดีย์องค์บริวาร มีความสูงจากพื้นถึงยอด 16 เมตร (คือโสฬสมหามงคล)

    ในส่วนด้านบนของตัวโบสถ์ จะสร้างเป็นพระธาตุเจดีย์องค์ประธาน แบ่งเป็น 5 ชั้น (คือพระพุทธเจ้า 5 พระองค์) โดย 4 ชั้นแรกนับตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นไป จะประดิษฐ์สถานพระพุทธรูปในปางอิริยาบถ 4 คือ นอน (ปางปรินิพพาน) นั่ง (ปางมารวิชัยสะดุ้งกลับ) เดิน (ปางลีลาแบบที่พุทธมณฑล) ยืน (ปางห้ามญาติ) ในแต่ละชั้น ชั้นละ 4 องค์ รวม 16 องค์ (คือพระพุทธเจ้าทั้ง 16 พระองค์) และในส่วนยอดพระธาตุจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในส่วนที่เป็นทรงระฆังคว่ำ รวมความสูงจากพื้นดินถึงยอดพระธาตุ 49 เมตร (คือจำนวนคำข้าวที่พระพุทธองค์ทรงเสวยก่อนที่จะสำเร็จอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) ครับ...

    ในส่วนของรายละเอียดคร่าวๆ ก็คงประมาณนี้ครับ..ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการออกแบบและประเมินราคา อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและงบประมาณ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    Update 27/11/10
    แบบร่างโบสถ์พระธาตุ 3D
    ซึ่งขณะนี้คุณวิปัสสนูและทีมงานออกแบบกำลังแก้ไขแบบเพื่อความถูกต้องสมบูรณ์

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]


    Update 22/10/10 ติดต่อประสานงานโดยคุณ วิปัสสนู

    ขณะนี้ทางวัดได้อนุญาติให้เปิดบัญชีกลางขึ้นมา เพื่อรวบรวมปัจจัยสำหรับการสร้างพระอุโบสถและพระธาตุเจดีย์โดยเฉพาะ จึงขอใช้เป็นเลขที่บัญชีนี้นะครับ

    ธนาคารกรุงไทย สาขาแม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ บัญชีออมทรัพย์
    ชื่อบัญชี นายพลกฤษณ์ แข่งขัน
    เลขที่ 864-0-09569-8

    [​IMG]

    พร้อมกันนี้ทางท่านเจ้าอาวาส คณะกรรมการวัดและท่านผู้ใหญ่บ้าน
    ได้ทำหนังสือรับรองบัญชีดังกล่าวไว้เป็นลายลักษณ์อักษรด้วยครับ

    [​IMG]

    ปัจจัยทั้งหมดในบัญชี้นี้จะไม่นำออกมาใช้นอกวัตถุประสงค์
    และจะใช้เฉพาะในการดำเนินการก่อสร้างพระอุโบสถยอดพระธาตุเท่านั้น

    จึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน

    เนื่องด้วยวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ไปกราบครูบาอาจารย์ที่จังหวัดสุรินทร์ และได้ทราบว่ามีโครงการจะสร้างพระธาตุสูง 44 เมตร ไว้ที่วัดโพธิ์ศรีธาตุ ต.เกาะแก้ว จ.สุรินทร์ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานทำนุบำรุงศาสนาสืบไป ซึ่งในพระธาตุที่จะสร้างนี้จะบรรจะพระธาตุต่างๆ ที่ทางวัดโพธิ์ศรีธาตุมีไว้ในพระธาตุนี้ด้วย

    ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไปวัดโพธิ์ศรีธาตุ ซึ่งวัดโพธิ์ศรีธาตุที่จังหวัดสุรินทร์นี้มี 2 วัดนะครับ ซึ่งอีกวัดจะอยู่ที่อ.รัตนบุรี ซึ่งเป็นคนละวัดกัน เพราะหากดูข้อมูลในกูเกิ้ลจะไม่มีรายละเอียดของวัดโพธิ์ศรีธาตุ ต.เกาะแก้ว ในการเดินทางไปวัดโพธิ์ศรีธาตุต้องอาศัยการถามทางจากชาวบ้านในระแวงนั้นเป็นระยะ ความรู้สึกแรกที่เห็นคือ เป็นวัดเล็กๆ มีแต่ป่า รก ทึบ และเงียบ ซึ่งวัดโพธิ์ศรีธาตุนี้ห่างไกลผู้คนมาก วันที่ไปวัดโพธิ์ศรีธาตุฝนตกหนักมาก เลยไม่ได้ถ่ายภาพบริเวณรอบๆ วัดมา ซึ่งหากมีโอกาสจะนำรูปบริเวณวัดมาให้ได้ดูกันอีกครั้ง

    ประวัติวัดโพธิ์ศรีธาตุคร่าวๆ ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ ตั้งเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2523 เดิมมีชื่อว่าวัดตางมาง มีบริเวณร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ที่ได้อนุรักษ์ไว้และมีโบราณสถานสันนิษฐานว่าคือธาตะ มีลักษณะคล้ายเจดีย์ธาตุ สภาพชำรุด ผุผัง มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมโดยรอบ ในปัจจุบันได้มีการทำนุบำรุงไว้ให้เป็นที่ศึกษาสำหรับเยาวชนและบุคคลที่สนใจ

    ผมจึงขอใช้กระทู้นี้เพื่องานบุญในการสร้างพระธาตุวัดโพธิ์ศรีธาตุ สูง 44 เมตรต.เกาะแก้ว จ.สุรินทร์ และในขณะนี้ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์งานบุญในส่วนของการสร้างพระธาตุ ซึ่งกระทู้นี้จะเป็นที่แรกและเป็นครั้งแรกที่มีการบอกบุญในการสร้างพระธาตุวัดโพธิ์ศรีธาตุ ซึ่งงบประมาณในการสร้างพระธาตุวัดโพธิ์ศรีธาตุ สูง 44 เมตร จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ได้เขียนแบบพระธาตุไว้เบื้องต้นแล้ว และอาจจะมีการแก้ไขแบบพระธาตุอีกครั้ง ตามแต่สมควร เพื่อให้พระธาตุที่จะสร้าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตามแบบอารยธรรมของจังหวัดสุรินทร์ และให้มีความคงทนถาวรตลอดกาลนานสืบไป

    ขณะนี้ข้าพเจ้าได้เปิดบัญชีกลางไว้สำหรับงานบุญในการสร้างพระธาตุวัดโพธิ์ศรีธาตุ สูง 44 เมตร ไว้แล้ว ซึ่งรายละเอียดหรือจำนวนเงินที่อยู่ในบัญชี้นี้จะนำไปเพื่องานบุญทั้งหมด และสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทุกขั้นตอน และที่จำเป็นที่จะต้องเปิดบัญชีกลางเป็นชื่อของผมเอง เพราะจะได้นำรายละเอียดมาแจ้ง ว่ามีการดำเนินการอย่างไรบ้าง มีความถูกต้องเพียงใด ก็ขอเชิญชวนเพื่อนๆ พี่ๆ ร่วมบุญในการสร้างพระธาตุวัดโพธิ์ศรีธาตุ ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ในครั้งนี้ <!-- google_ad_section_end -->เนื่องด้วยวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ไปกราบครูบาอาจารย์ที่จังหวัดสุรินทร์ และได้ทราบว่ามีโครงการจะสร้างพระธาตุสูง 44 เมตร ไว้ที่วัดโพธิ์ศรีธาตุ ต.เกาะแก้ว จ.สุรินทร์ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานทำนุบำรุงศาสนาสืบไป ซึ่งในพระธาตุที่จะสร้างนี้จะบรรจะพระธาตุต่างๆ ที่ทางวัดโพธิ์ศรีธาตุมีไว้ในพระธาตุนี้ด้วย


    ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไปวัดโพธิ์ศรีธาตุ ซึ่งวัดโพธิ์ศรีธาตุที่จังหวัดสุรินทร์นี้มี 2 วัดนะครับ ซึ่งอีกวัดจะอยู่ที่อ.รัตนบุรี ซึ่งเป็นคนละวัดกัน เพราะหากดูข้อมูลในกูเกิ้ลจะไม่มีรายละเอียดของวัดโพธิ์ศรีธาตุ ต.เกาะแก้ว ในการเดินทางไปวัดโพธิ์ศรีธาตุต้องอาศัยการถามทางจากชาวบ้านในระแวงนั้นเป็นระยะ ความรู้สึกแรกที่เห็นคือ เป็นวัดเล็กๆ มีแต่ป่า รก ทึบ และเงียบ ซึ่งวัดโพธิ์ศรีธาตุนี้ห่างไกลผู้คนมาก วันที่ไปวัดโพธิ์ศรีธาตุฝนตกหนักมาก เลยไม่ได้ถ่ายภาพบริเวณรอบๆ วัดมา ซึ่งหากมีโอกาสจะนำรูปบริเวณวัดมาให้ได้ดูกันอีกครั้ง

    ประวัติวัดโพธิ์ศรีธาตุคร่าวๆ ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ ตั้งเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2523 เดิมมีชื่อว่าวัดตางมาง มีบริเวณร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ที่ได้อนุรักษ์ไว้และมีโบราณสถานสันนิษฐานว่าคือธาตะ มีลักษณะคล้ายเจดีย์ธาตุ สภาพชำรุด ผุผัง มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมโดยรอบ ในปัจจุบันได้มีการทำนุบำรุงไว้ให้เป็นที่ศึกษาสำหรับเยาวชนและบุคคลที่สนใจ

    ผมจึงขอใช้กระทู้นี้เพื่องานบุญในการสร้างพระธาตุวัดโพธิ์ศรีธาตุ สูง 44 เมตรต.เกาะแก้ว จ.สุรินทร์ และในขณะนี้ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์งานบุญในส่วนของการสร้างพระธาตุ ซึ่งกระทู้นี้จะเป็นที่แรกและเป็นครั้งแรกที่มีการบอกบุญในการสร้างพระธาตุวัดโพธิ์ศรีธาตุ ซึ่งงบประมาณในการสร้างพระธาตุวัดโพธิ์ศรีธาตุ สูง 44 เมตร จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ได้เขียนแบบพระธาตุไว้เบื้องต้นแล้ว และอาจจะมีการแก้ไขแบบพระธาตุอีกครั้ง ตามแต่สมควร เพื่อให้พระธาตุที่จะสร้าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตามแบบอารยธรรมของจังหวัดสุรินทร์ และให้มีความคงทนถาวรตลอดกาลนานสืบไป

    ขณะนี้ข้าพเจ้าได้เปิดบัญชีกลางไว้สำหรับงานบุญในการสร้างพระธาตุวัดโพธิ์ศรีธาตุ สูง 44 เมตร ไว้แล้ว ซึ่งรายละเอียดหรือจำนวนเงินที่อยู่ในบัญชี้นี้จะนำไปเพื่องานบุญทั้งหมด และสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทุกขั้นตอน และที่จำเป็นที่จะต้องเปิดบัญชีกลางเป็นชื่อของผมเอง เพราะจะได้นำรายละเอียดมาแจ้ง ว่ามีการดำเนินการอย่างไรบ้าง มีความถูกต้องเพียงใด ก็ขอเชิญชวนเพื่อนๆ พี่ๆ ร่วมบุญในการสร้างพระธาตุวัดโพธิ์ศรีธาตุ ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ในครั้งนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.png
      1.png
      ขนาดไฟล์:
      96.6 KB
      เปิดดู:
      346
    • 2.png
      2.png
      ขนาดไฟล์:
      85.2 KB
      เปิดดู:
      339
    • 3.png
      3.png
      ขนาดไฟล์:
      162.5 KB
      เปิดดู:
      211
    • 4.png
      4.png
      ขนาดไฟล์:
      135.5 KB
      เปิดดู:
      205
    • 5.png
      5.png
      ขนาดไฟล์:
      276.2 KB
      เปิดดู:
      237
    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.6 KB
      เปิดดู:
      173
    • 7.jpg
      7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      151 KB
      เปิดดู:
      170
    • 8.jpg
      8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      134.9 KB
      เปิดดู:
      178
    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.1 KB
      เปิดดู:
      166
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      118.4 KB
      เปิดดู:
      184
    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      153.4 KB
      เปิดดู:
      199
    • 12.jpg
      12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.4 KB
      เปิดดู:
      332
    • 13.jpg
      13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.3 KB
      เปิดดู:
      4,126
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2013
  2. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    รายละเอียดและโครงสร้าง

    แบบพระธาตุที่จะสร้างได้แรงจากชาวบ้านในระแวกนั้นจัดทำร่างแบบขึ้น

    รายละเอียดและโครงสร้าง ชุดที่1


    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      134.1 KB
      เปิดดู:
      155
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      175.4 KB
      เปิดดู:
      149
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2013
  3. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    รายละเอียดและโครงสร้าง

    รายละเอียดและโครงสร้าง ชุดที่2


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.1 KB
      เปิดดู:
      157
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2013
  4. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    รายละเอียดและโครงสร้าง

    รายละเอียดและโครงสร้าง ชุดที่3


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      128.2 KB
      เปิดดู:
      156
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2013
  5. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    รายละเอียดและโครงสร้าง

    รายละเอียดและโครงสร้าง ชุดที่4


    [​IMG]
    <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      128.2 KB
      เปิดดู:
      148
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2013
  6. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    รายละเอียดและโครงสร้าง

    รายละเอียดและโครงสร้าง ชุดที่5

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      131.6 KB
      เปิดดู:
      148
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2013
  7. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    ก็ขอเชิญชวนเพื่อนๆ พี่ๆ ร่วมทำบุญในการสร้างพระธาตุ วัดโพธิ์ศรีธาตุ ต.เกาะแก้ว จ.สุรินทร์ โดยสามารถร่วมทำบุญตามแต่ศรัทธาตามลิงค์นี้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทางการเงิน และเพื่อให้เป็นไปตามเจตนาที่ได้แจ้งไว้ในกระทู้นี้

    ทำบุญ 1 บาท
    ดีกว่าทำบาป 1 ครั้ง


    ก็ขออนุโมทนากับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ได้เข้ามาอ่านงานบุญในกระทู้นี้ทุกท่านครับ


    ร่วมงานบุญสร้างพระธาตุ วัดโพธิ์ศรีธาตุ ต.เกาะแก้ว จ.สุรินทร์<!-- google_ad_section_end -->
     
  8. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    อานิสงส์การร่วมบุญสร้างพระธาตุเจดีย์การสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือ อัฐิธาตุของบุคคลที่ควรบูชาได้แก่ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ และพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นการสร้างมงคลให้กับตนเองอย่างสูงสุด เมื่อตายไปย่อมไปสู่สุคติโลกสวรรค์ย่อมได้ดวงตาเห็นธรรมและบรรลุมรรคผลนิพพานโดยง่าย การมีส่วนร่วมสร้าง พระเจดีย์จะมากหรือน้อย ถ้าทำด้วยความเลื่อมใส ก็ย่อมได้อานิสงส์มากมาย ดังตัวอย่างที่หยิบยกมาให้ท่านได้อ่านต่อไปนี้

    พระเถระรูปนี้ในชาติก่อนมีส่วนร่วมสร้างเจดีย์ เพียงท่านใส่ก้อนปูนขาวลงในช่องแผ่นอิฐ ซื่งประชาชนกำลังก่ออิฐสร้างเจดีย์อยู่ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยจิตใจที่เลื่อมใส อำนาจแห่งบุญนั้นได้บันดาลให้ท่านไปเกิดในสวรรค์ แลโลกมนุษย์ถึง ๙๔ กัปป์ พอมาถึงสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดม ท่านได้มาบวชในพระพุทธศาสนาท่านคือ พระสุธาบิณฑิยเถระและยังมีเรื่องเล่าจาก พระมหาโมคคัลลานะเถระ ว่าท่านได้พบเทพบุตรตนหนึ่งมีวิมานสวยงามวิจิตรตระการตา แวดล้อมด้วยนางฟ้าจำนวนมาก มาฟ้อนรำขับร้องให้เบิกบานใจ และเทพบุตรตนนี้มีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือเทพบุตรทั้งปวง ท่านจึงถามเทพบุตรตนนั้นว่า เมื่อท่านเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้หรือ ท่านถึงมีอานุภาพมากมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ เทพบุตรตนนั้นตอบว่า แต่ก่อนเมื่อเป็นมนุษย์ได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้ออกบวชอยู่ ๗ พรรษา และเป็นสาวกของพระศาสดานามว่า สุเมธ ต่อมาได้ดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว พระบรมสารีริกธาตุของท่านบรรจุไว้ในรัตนเจดีย์ซึ่งห่อหุ้มด้วยข่ายทองคำ ท่านได้ชักชวนประชาชนให้ไปสักการบูชาด้วยความเลื่อมใส กุศลจะส่งผลให้ขึ้นสวรรค์ ด้วยบุญนี้เองทำให้ข้าพเจ้าได้มาเสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานนี้เอง


    ส่วนพระมหากัสสปะเถระนั้น ท่านได้พบเปรตตนหนึ่งมีกลิ่นเหม็นเน่า มีหนอนกินปาก นอกจากนี้ยังถูกยมบาลเฉือนปาก แล้วราดน้ำให้แสบร้อน จึงถามถึงผลกรรมของเปรตนั้น ทราบว่าแต่ก่อนตอนเป็นมนุษย์ ตนเป็นชาวนครราชคฤห์ได้ห้ามมิให้บุตร ภรรยา บูชาพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกับเล่าถึงพวกที่มีความคิดและกระทำเหมือนตน ส่วนภรรยา และบุตรของตนได้ไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ มีวิมานสวยสดงดงาม เพราะอานิสงส์ที่ได้ไปใหว้พระบรมสารีริกธาตุ สำหรับตนเองนั้นตั้งใจไว้ว่า หากได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง จะทำการบูชาพระสถูปเจดีย์ให้มากอย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ในครั้งพุทธกาล พระเจ้าปัสเสนทิโกศลได้เสด็จไปยังเมืองสาวัตถีพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารเป็นอันมาก ครั้นถึงหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำพระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นทรายขาว ผ่องบริสุทธิ์ยิ่งนัก ทรงมีพระทัยเลื่อมใสอย่างแรงกล้า ได้รับสั่งให้ช่วยกันก่อกองทรายให้เป็นรูปเจดีย์ถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ มองดูเป็นทิวแถวสวยงาม เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เสร็จแล้วได้เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่บุบผารามมหาวิหาร แล้วได้ทูลถามถึงอานิสงส์ แห่งการก่อเจดีย์ทราย พระพุทธเจ้าตรัสว่า ขอถวายพระพรมหาบพิตร ผู้มีศรัทธาแรงกล้าได้ก่อเจดีย์ทรายถึง๘๔,๐๐๐ องค์ หรือแม้แต่องค์เดียว ก็ย่อมได้รับอานิสงส์มาก จะไม่ตกนรกตลอดร้อยชาติถ้าเกิดเป็นมนุษย์ จะอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง มีชื่อเสียงเกียรติยศไปทั่วทุกทิศ จากนั้นจะได้ไปสวรรค์เวยทิพย์สมบัติ การก่อเจดีย์ทรายเป็นเรื่องของผู้มีความฉลาด มีความคิดดี ได้ทำเป็นประเพณีมาแล้วในอดีต แม้พระตถาคตเองก็เคยทำมาแล้วในครั้งเป็นพระโพธิ์สัตว์ ในครั้งนั้นตถาคตยากจนมาก มีอาชีพตัดฟืนขาย วันหนึ่งได้พบทรายขาวสะอาดมากในราวป่า ก็มีจิตใจศรัทธาผ่องใส วันนั้นได้หยุดตัดฟืนทั้งวัน ได้กวาดทรายก่อเป็นเจดีย์โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก แล้วเปลื้องผ้าห่มของตน ฉีกทำเป็นธงประดับไว้ เพื่อบูชาพระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วอฐิษฐานจิตขอให้เป็นปัจจัยแห่งพระโพธิ์ญาณในอนาคตกาล ครั้นเมื่อตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อยู่ ๒ พันปีพิพย์ เมื่อสิ้นอายุขัย ได้อุบัติมาเกิดเป็นพระตถาคตนี้เอง สำหรับพระเจ้าปัสเสนทิโกศลนั้นก็ได้รับพยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า

    และพระมหากัสสปเถระ ยังได้กล่าวถึงประวัติและผลบุญแห่งการสร้างพุทธเจดีย์ของท่านไว้ดังนี้

    ในครั้งที่พระพุทธเจ้ามีนามว่าปทุมมุตตระ พระองค์ได้ปรินิพพานแล้วพระมหากัสสปเถระได้ชักชวนหมู่ญาติมิตร และประชาชน ให้มาร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้ากันเถิด ทุกคนมีจิตเลื่อมใส ปิติอิ่มเอมใจ จึงได้ช่วยกันสร้างเจดีย์สูงค่าเสร็จลงด้วยความเรียบร้อย เจดีย์สูงร้อยศอก สร้างปราสาท ห้าร้อยศอก สูงตระหง่านจรดท้องฟ้า ทุกคนมีจิตปิติเบิกบานในอานิสงส์บุญที่ได้พากันทำไว้ เมื่อท่านตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อยู่บนยานทิพย์เทียมด้วยม้าสินธพพันตัว วิมานของท่านสูงตระหง่านเจ็ดชั้น มีปราสาทหนึ่งพันองค์ ซึ่งสร้างด้วยทองคำ ศาลาหน้ามุขสร้างด้วยแก้วมณี ส่องแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วสารทิศ ทั้งยังมีอำนาจเหนือเทวดาทั้งปวง เมื่อลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ในกัปป์ที่หกหมื่นในภัทรกัปป์นี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ ครอบครองอาณาเขตไปถึง ๔ ทวีป มีแก้วแหวนเงินทองมากมาย ประชาชนมีความสุขสำราญเหมือนดั่งเมืองบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และชาติสุดท้ายได้มาเกิดในสกุลพราหมณ์ที่ร่ำรวย แต่สละทรัพย์ออกบวช จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ผู้เลิศด้วยปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ การไหว้พระธาตุถือเป็นการเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง เพราะการบูชาพระธาตุ อันเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะนำมาซึ่งความสุข ความเจริญมาสู่ผู้ที่บูชา รวมทั้งอานิสงส์ผลบุญที่ได้จากการกราบไหว้บูชา ยิ่งหากใครบูชาด้วยจิตใจศรัทธาอันบริสุทธิ์ และหมั่นกราบไหว้เมื่อมีโอกาส อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุ จะดลบันดาลให้เกิดสิริมงคลในชีวิตแก่ตัวผู้บูชา

    อานิสงส์ในการสร้างกุศลกับพระบรมสารีริกธาตุ
    ถวายฉัตรยอดพระเจดีย์ ได้รับการเคารพยกย่อง เกิดในชาติตระกูลสูง มีสง่าราศี
    ถวายทองคำ ผิวพรรณงาม เปล่งปลั่ง อุดมมั่งคั่ง
    ถวายเงิน ใจสว่างไสว อยู่เย็นเป็นสุข
    ถวายอัญมณี รัศมีกายทิพย์สว่าง มีราศรี มักประสบโชคดี
    ถวาย, บรรจุพระเครื่อง มีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรค มักมีคนช่วยเหลือเวลามีปัญหา
    ถวายแผ่นทองคำเปลวปิดองค์พระเจดีย์ มีราศีผิวพรรณงาม ใจสว่าง อบอุ่นใจ
    ถวายอิฐ หิน ปูน ทราย มีแต่ความมั่นคงในชีวิต ใจคอหนักแน่น ไม่โลเล
    สร้างองค์พระเจดีย์ มักได้สิ่งอันพึงปรารถนา สุขภาพดี ไม่มีวันอดตาย
    ถวายธงหลากสีประดับองค์พระธาตุ มีสง่าราศี กายทิพย์สว่าง
    ถวายโคมไฟให้แสงสว่าง เทียน ใจสว่าง ชีวิตสะดวกสบาย มีอุปสรรคน้อยลง มีปัญญาธรรมสูงขึ้น เบิกทางสู่ทิพยเนตร
    ถวายดอกไม้อันบริสุทธิ์ต่างๆ สุขสงบใจ ใจสะอาดสดชื่นผ่องแผ้ว
    ถวายธูป เครื่องหอมต่างๆ อบอุ่นมั่นคงในใจ ใจสว่างมีอุปสรรคน้อยลง มีกลิ่นกายสะอาด รู้สึกสดชื่นเสมอ
    ถวายแผ่นหินปูพื้นพระเจดีย์ มีบริวารดี มีสมาธิดีขึ้น มีเวลาปฏิบัติธรรมมากขึ้น
    ถวายกระจกสีประดับองค์พระเจดีย์ กายทิพย์สว่าง มีสง่าราศี มีคนศรัทธา เห็นความดีในตัว
    ถวายผ้าเหลืองครอง(หุ้ม)องค์พระเจดีย์ เพิ่มเนกขัมมบารมี ใจสงบขึ้น มีโอกาสได้วิมุตติธรรมเร็วขึ้น
    สรงน้ำพระธาตุ ใจสะอาดสงบสว่างขึ้น กายและใจชุ่มชื่นแจ่มใส สุขภาพดี
    ถวายข้าว อาหาร เวรข้าวบูชาพระธาตุ อุดมสมบูรณ์ อิ่มอกอิ่มใจ สุขภาพดี
    เวียนเทียนรอบองค์พระเจดีย์ เพิ่มวิสัยปัจจัยแห่งกุศลธรรม เป็นสิริมงคล ช่วยยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น สะอาดขึ้น
    แสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อพระธาตุจากใจจริง เป็นที่เคารพยกย่อง มักไม่มีใครเข้าใจผิดหรือมองอะไรผิดๆ ได้บารมีวิมุตติธรรมจากพระบรมธาตุ พาไปสู่วิสุทธิมรรค ผล นิพพานได้เร็วยิ่งขึ้น
    เป็นเจ้าภาพหรือมีส่วนช่วยจัดงานฉลองพระธาตุ ประสบสุขในชีวิตโดยทั่วไปแทบทุกด้านอุดมมั่งคั่ง มีคนเคารพยกย่องช่วยเหลือเสมอ
    บูรณซ่อมแซมเจดีย์พระธาตุ สุขภาพดี อายุยืน รูปร่างหน้าตาผิวพรรณดี มีฐานะมั่นคง
    สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุ ชีวิตมั่นคงสุขสมปรารถนาทุกด้าน เป็นที่เคารพยกย่อง ได้มรรคผล นิพพานเร็วขึ้น
    ถวายภาชนะบรรจุพระบรมธาตุในเจดีย์ มีชีวิตมั่งคง ปลอดภัย มั่งคั่ง มีบริวารดี มีเกียรติ เป็นที่ยกย่อง
    ถวายบทสวด เทปสวดมนต์สวดบูชาพระธาตุ เป็นที่ยกย่องสรรเสริญจากคนทุกหมู่เหล่า ได้ยินได้พบแต่สิ่งที่ดีงาม เสียงใสไพเราะ มีวาจางดงาม มีสมาธิดีขึ้น

    พระปุฬินถูปิยเถระ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ในครั้งพุทธกาลได้กล่าวถึงผลที่ท่านได้รับจากการที่ท่านเคยสร้างพระสถูปเจดีย์ไว้ดังนี้

    “…เราเป็นชฎิลผู้มีตบะกล้ามีนามว่า นารทะ เราอยู่ในป่าผู้ที่จะสั่งสอน เราก็ไม่มี ใครๆ ที่จะตักเตือนเราไม่มี เราไม่มีอาจารย์และอุปัชฌาย์ สิ่งที่ควรบูชาเราควรแสวงหาเหมือนกัน เราจักได้ชื่อว่าเป็นผู้มีที่พึ่ง ครั้งนั้นเราได้ไปแม่น้ำชื่อ อเมริกา ตะล่อมเอาทรายมาก่อเป็นเจดีย์พระสถูปของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราได้ทำสถูปนั้นให้เป็นนิมิต เราก่อพระสถูปที่หาดทรายแล้วปิดทอง แล้วเอาดอกกระดึงทอง ๓,๐๐๐ ดอก มา บูชา เราเป็นผู้มีความอิ่มใจ ประนมกรอัญชลี นมัสการทั้งเวลาเย็น เวลาเช้า ไหว้พระเจดีย์เหมือนถวายบังคมพระพุทธเจ้าในที่เฉพาะพระพักตร์ ฉะนั้นในเวลาที่กิเลสและความตรึกเกี่ยวด้วยกามเกิดขึ้น เราย่อมนึกถึง เพ่งดูพระสถูปที่ได้ทำไว้ เราประพฤติอยู่เช่นนี้ได้ถูกพระยามัจจุราชย่ำยี เราทำกาลกิริยา ณ ที่นั้นแล้วได้ไปยังพรหมโลก เราอยู่ในพรหมโลกนั้นตราบเท่าหมดอายุ แล้วมาบังเกิดในไตรทิพย์ได้เป็นจอมเทวดาเสวยราชสมบัติในเทวโลก ๘๐ ชาติ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓๐๐ ชาติ และได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์โดยคณานับมิได้ เราได้เสวยผลของดอกกระดึงทองเหล่านั้น ดอกกระดึงทอง ๒๒,๐๐๐ ดอก แวดล้อมเราทุกภพ เพราะเราได้เป็นผู้บำรุงพระสถูปฝุ่นละอองย่อมไม่ติดกับตัว ที่ตัวเราเหงื่อไม่ไหล เรามีรัศมีแผ่ซ่านออกจากตัว พระสถูปเราได้สร้างไว้ดีแล้ว เราได้บรรลุบท (ธรรม) อันไม่หวั่นไหวก็เพราะได้ก่อสถูป ผู้ปรารถนาจะกระทำกุศล ควรเป็นผู้ยึดเอาสิ่งที่เป็นสาระ ความปฏิบัตินั่นเองที่เป็นสาระเมื่อถึงภพ (ชาติ) สุดท้าย เราเกิดในสกุลพราหมณ์มหาศาลอันมั่งคั่ง ในพระนครสาวัตถี เราได้เห็นพระ สถูปเสมอ จึงระลึกถึงเจดีย์ขึ้นได้นั่งอาสนะอันเดียวได้บรรลุอรหัตแล้ว เราได้บรรลุอรหัตตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ เราแสวงหาพระพุทธเจ้า เราได้เห็นพระธรรม จึงออกจากเรือนบรรพชาในสำนักของพระศากยบุตรกิจ ที่ควรทำในศาสนาของพระศากยบุตร เราได้ทำสิ้นแล้ว ข้าแต่พระ ผู้มีความเพียรอันยิ่งใหญ่ สาวกของพระองค์เป็นผู้ล่วงพ้นเวรภัยทุกอย่าง ล่วงพ้นความเกี่ยวข้องทั้งปวง นี้เป็นผลแห่งพระสถูปทอง…”<!-- google_ad_section_end -->
     
  9. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
  10. winaiwon

    winaiwon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +6,577
    ขออนุโมทนาบุญ ครับ ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ สูง 44 เมตร จำนวน 100บาท โอนพรุ่งนี้ หลังเวลา 09.00น. (ระบบ lock แล้วอ่ะครับ)

    <TABLE class=IBTABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD class=groupname>Funds Transfer - Verification</TD></TR><TR class=banner><TD>Review Transfer </TD></TR><TR><TD class=tdGroupSpacing></TD></TR><TR class=IBTR><TD class=boldleft>Is this correct? Please verify the information you have entered. </TD></TR><TR class=IBTR><TD class=boldleft>Your transfer request is scheduled to occur on 08 Aug 2010. The transaction will be processed after 9.00 a.m. </TD></TR><TR><TD class=tdGroupSpacing></TD></TR><TR><TD class=tdGroupSpacing></TD></TR><TR class=IBTR><TD class=IBTD><TABLE class=IBTABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR class=IBTR><TD class=IBTD colSpan=2>Transfer From: </TD><TD vAlign=center rowSpan=12><TABLE id=ctl00_ContentPlaceHolder1_tbTransferAssist style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px" borderColor=#d2d8f9 cellSpacing=0 borderColorDark=#d2d8f9 cellPadding=3 width="100%" borderColorLight=#d2d8f9 border=1><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR class=black8 align=middle><TD>Your current selection is </TD></TR><TR><TD class=black8 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD class=left>Check Transfer Assistant for more information</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=tdGroupSpacing colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>More information about fees</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR class=IBTR><TD class=IBTD width="30%">Account</TD><TD class=IBTD width="33%">907-0-133WWW</TD></TR><TR class=IBTR id=ctl00_ContentPlaceHolder1_trVerDateDeductFund><TD class=IBTD>Date to Deduct Funds</TD><TD class=IBTD>08 Aug 2010</TD></TR><TR><TD class=tdGroupSpacing colSpan=2></TD></TR><TR class=IBTR><TD class=IBTD colSpan=2>Transfer To: </TD></TR><TR class=IBTR><TD class=IBTD>Account</TD><TD class=IBTD>Kongkiat Thongplook</TD></TR><TR class=IBTR><TD class=IBTD>Account Name</TD><TD class=IBTD>Account Name is not currently available.</TD></TR><TR class=IBTR id=ctl00_ContentPlaceHolder1_trVerBank><TD class=IBTD>Bank</TD><TD class=IBTD>KBANK</TD></TR><TR class=IBTR id=ctl00_ContentPlaceHolder1_trVerDate2ReceiveFund><TD class=IBTD>Date to Receive Funds</TD><TD class=V_Left vAlign=top>08 Aug 2010 </TD></TR><TR><TD class=tdGroupSpacing colSpan=2></TD></TR><TR class=IBTR><TD class=IBTD>Amount</TD><TD class=IBTD>100.00</TD></TR><TR class=IBTR id=ctl00_ContentPlaceHolder1_trVerFee><TD class=IBTD>Fee</TD><TD class=IBTD>25.00</TD></TR><TR><TD class=tdGroupSpacing colSpan=2></TD></TR><TR class=IBTR><TD class=IBTD>Personal Reminder</TD><TD class=IBTD>ร่วมบุญสร้างเจดีย์สูง 44เมตร</TD></TR><TR id=ctl00_ContentPlaceHolder1_trVerSendSMS style="VISIBILITY: visible"><TD colSpan=2><TABLE class=IBTable2Percent cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR class=IBTR><TD class=tdGroupSpacing colSpan=2></TD></TR><TR class=IBTR><TD class=V_left colSpan=2><TABLE title="Recipient's Mobile Phone Number can be updated at 3rd Party Account List page." style="WIDTH: 100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=1><TBODY><TR><TD><TABLE style="WIDTH: 100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD>Recipient's Mobile Phone Number 0817330WWW</TD></TR><TR><TD class=V_left><INPUT id=ctl00_ContentPlaceHolder1_chkVerSendSMSNotice onclick="javascript<b"></B>:CheckSendSMS_OnClick(); type=checkbox CHECKED name=ctl00$ContentPlaceHolder1$chkVerSendSMSNotice>Send SMS notification <INPUT id=ctl00_ContentPlaceHolder1_radVerEngLang onclick="javascript<b"></B>:radLang_OnClick(true); type=radio CHECKED value=EngLang name=ctl00$ContentPlaceHolder1$LangSelected>English<INPUT id=ctl00_ContentPlaceHolder1_radVerThaiLang onclick="javascript<b"></B>:radLang_OnClick(false); type=radio value=ThaiLang name=ctl00$ContentPlaceHolder1$LangSelected>Thai </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=tdGroupSpacing></TD></TR><TR><TD class=tdGroupSpacing></TD></TR><TR><TD></TD><TD class=IBTD colSpan=2><INPUT class=normalbutton id=ctl00_ContentPlaceHolder1_btnConfirm type=submit value=Confirm name=ctl00$ContentPlaceHolder1$btnConfirm> <INPUT class=normalbutton id=ctl00_ContentPlaceHolder1_btnBack type=submit value=Back name=ctl00$ContentPlaceHolder1$btnBack> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    ลองแก้ไขชื่อบัญชีเป็นภาษาไทยดูนะครับ อนุโมทนาด้วยครับ

    [​IMG]
     
  12. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    เพื่อนๆ พี่ๆ ท่านใดพอจะมีรูปวัดโพธิ์ศรีธาตุ ต.เกาะแก้ว จ.สุรินทร์ ก็เอามาแบ่งปันบ้างนะครับ ท่านใดสะดวกจะไปทำบุญที่วัดก็ได้นะครับ กระทู้นี้ขอมีส่วนร่าวมในการประชาสัมพันธ์งานบุญในครั้งนี้อีกทางหนึ่งครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  13. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    ความตั้งใจแรกในการทำงานบุญ เพื่อบอกบุญ ประชาสัมพันธ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่สนใจจะร่วมบุญได้ทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียด ไม่ได้มุ่งหวังว่าจะได้เงินทำบุญจำนวนเท่าไหร่ หรือมากแค่ไหน จะทำบุญในกระทู้หรือที่วัดก็ตามแต่สะดวก เนื่องจากทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ แต่เพื่อให้งานบุญนี้ดำเนินต่อไปและบรรลุวัตถุประสงค์โดยเร็ว และไม่สะดุดในการสร้างพระธาตุ จึงขอนำวัตถุมงคลบางส่วนที่มีส่วนหนึ่งนำมาร่วมทำบุญอีกทางหนึ่ง เพื่อเป็นที่ระลึกในการทำบุญ

    วันนี้ขอเริ่มด้วยตะกรุดหลวงปู่ทิม วัดพระขาว จังหวัดอยุธยา จำไม่ได้ว่าเป็นตะกรุดอะไร ปีไหน แต่แท้และทันหลวงปู่แน่นอน ทำบุญตามกำลังศรัทธา ค่าจัดส่งฟรี มี 1 ดอก ท่านใดต้องการร่วมบุญแจ้งจำนวนเงินทำบุญและโพสสลิปหรือรายละเอียดการโอนเงินทำบุญในกระทู้ในห้องพระเครื่องเท่านั้นนะครับ เพราะมีเพียง 1 ดอก ส่วนท่านใดที่จะทำบุญตามกำลังศรัทธา โดยไม่ขอรับวัตถุมงคลสามารถโพสรายละเอียดในกระทู้นี้ได้เลย ก็ขออนุโมกับทุกท่านที่เข้ามาอ่านรายะลเอียดงานบุญในกระทู้นี้ทุกท่าน

    [​IMG] [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2010
  14. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ รับโชค [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    <FIELDSET class=fieldset>
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    องค์นี้ผมประมูลร่วมบุญมาจากท่านอ.นพ 1,000 บาท
    ผมขอเปิดประมูลเพื่อหาปัจจัยสร้างพระธาตุต่อนะครับ
    ขอตั้งราคาประมูลเริ่มต้นที่ 299 บาทนะครับ
    ปิดประมูล 17 สิงหาคม เวลา 5 โมงเย็นตามเวปนะครับ
    ประมูลครั้งละเท่าไหร่ก็ได้ครับ
    ขออนุโมทนาด้วยครับ


    </FIELDSET>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ charoen.b [​IMG]
    ขอร่วมบุญสร้างพระธาตุด้วยครับ

    เหรียญหลวงปู่ดู่ผมเปิด 599.-บาทครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ท่านใดสนใจร่วมทำบุญสร้างพระธาตุ วัดโพธิ์ศรีธาตุ ต.เกาะแก้ว จ.สุรินทร์ ก็ขอเชิญร่วมประมูลเหรียญหลวงปู่ดู่ ที่คุณรับโชคนำมาร่วมบุญในครั้งนี้นะครับ เหลืออีก 3 วัน

    ตอนนี้ พี่charoen.b ร่วมทำประมูลเพื่อทำบุญที่ 599 บาท :cool:
    อนุโมทนาด้วยครับ
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  15. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    เดิมที่พระองค์นี้จะบูชามาห้อยคอ เนื่องจากพิธีดีและหลวงพ่อกวยร่วมปลุกเสกด้วย แต่พระทุกองค์มีเจ้าของอยู่แล้ว วันนี้จึงขอนำพระพุทธชินราชใบเสมาที่ได้บูชามาจากกระทู้ของพี่bat119 มาร่วมบุญในการสร้างพระธาตุในครั้งนี้ และเอารายละเอียดในการสร้างมาให้อ่านกัน สำหรับท่านที่ร่วมบุญ 999 บาท
    หรือมากกว่าจำนวนเงินร่วมบุญที่ตั้งไว้ เพียงหนึ่งท่านเท่านั้น ซึ่งเงินร่วมทำบุญในส่วนที่เกิน 999 บาทจะนำไปทำบุญร่วมสร้างพระธาตุทั้งหมด โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่าย
    และได้นำพระชุดนี้เข้าพิธีปลุกเสกเสาร์5 วันที่ 31 กรฏาคม 2553 โดยหลวงพ่อสมชาย วัดหนองน้อยอีกครั้ง ก็ขอเชิญชวนเพื่อนๆ พี่ๆ ร่วมทำบุญในครั้งนี้

    ในการพุทธาภิเษกพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษกนี้มีขึ้น 2 วัน/ครั้ง

    ครั้งที่ 1 วันพุธ ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2515

    พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้น ณ ศาลาโรงพุทธาภิเษก วัดสระแก้วปทุมทอง จังหวัดพิษณุโลก ในพิธีนี้ ท่านพระครูศีลสารสัมบัน เป็นเจ้าพิธีได้กำหนดและควบคุมดำเนินการประกอบพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ครบถ้วนตามแบบฉบับของโบราณพิธีทุกประการตามวิธีการสายพระวิปัสสนาจารย์ โดยมีอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ถวายคำแนะนำ

    ประธานฝ่ายสงฆ์ พระครูศีลสารสัมบัน เจ้าอาวาสวัดสระแก้วปทุมทอง และเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลก เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยและจุด เทียนชัย

    ประธานบริกรรมปลุกเสก 9 รูปตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ดังนี้

    พระพิษณุบุราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร พิษณุโลก
    ใบปลิว พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก พ.ศ. 2515พระอาจารย์นวล วัดนิมิตรธรรมาราม พิษณุโลก
    พระสมุห์ละมัย (พระวรญาณมุนี) วัดอรัญญิก พิษณุโลก
    พระครูอภัยจริยาภรณ์ วัดใหม่อภัยยาราม พิษณุโลก
    พระครูวินัยธรสุเทพ วัดแสงดาว พิษณุโลก
    พระอาจารย์ถนอม วัดนางพญา พิษณุโลก
    พระครูประภาสธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อแขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ พิษณุโลก
    พระครูศรีรัตนาภรณ์ (หลวงพ่อไซ่) วัดจูงนาง(วัดศรีรัตนาราม) พิษณุโลก
    หลวงพ่อเปรื่อง วัดคูหาสวรรค์ พิษณุโลก
    พระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสกทั้งคืน ดังนี้

    พระครูศีลสารสัมบัน เจ้าอาวาสวัดสระแก้วปทุมทอง และเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลก
    พระอาจารย์พิมพ์ วัดคูหาสวรรค์ พิษณุโลก
    หลวงพ่อเปรื้อง วัดโพธิญาณ พิษณุโลก
    พระอาจารย์ชุ่ม วัดกรมธรรม์ พิษณุโลก
    พระอาจารย์โต วัดสมอแข พิษณุโลก
    พระครูประพันธ์ (หลวงพ่อพัน) วัดบางสะพาน พิษณุโลก
    พระครูวิจารย์ศุภกิจ (อาจารย์ทองม้วน) วัดวังทองวราราม พิษณุโลก
    พระอาจารย์ธงชัย วัดวิชิรธรรมราชา พิษณุโลก
    ครั้งที่ 2 วันพฤหัสบดี ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2515

    พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้น ณ พระวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จังหวัดพิษณุโลก ในพิธีนี้ พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส กทม. และ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ซึ่งเป็นเจ้าพิธีได้กำหนด และควบคุมดำเนินการประกอบพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ครบถ้วนตามแบบฉบับของโบราณพิธีทุกประการ

    คณะกรรมการพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก

    ประธานฝ่ายสงฆ์ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย

    ประธานฝ่ายฆราวาส ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย

    ประธานบริกรรมปลุกเสก พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี

    พระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก 109 รูป ดังนี้


    รายนามเกจิในพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก 19 - 20 ม.ค. 2515 วัดพระศรีรัตรมหาธาตุ วรมหาวิหาร พิษณุโลก1. หลวงพ่อทอง (พระครูวิริยะโสภิต) วัดพระปรางค์ จ.สิงห์บุรี

    2. หลวงพ่อเงิน (พระราชธรรมมาภรณ์) วัดดอนยาหอม จ.นครปฐม

    3. หลวงพ่อนาค (พระครูจันทรโสภณ) วัดนรนาถสุนทริการาม กรุงเทพฯ

    4. หลวงพ่อแดง (พระครูญาณวิลาศ) วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี


    รายนามเกจิในพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก 19 - 20 ม.ค. 2515 วัดพระศรีรัตรมหาธาตุ วรมหาวิหาร พิษณุโลก(ต่อ)5. หลวงพ่อหอม (พระครูภาวนาณุโยค) วัดซากหมากป่าเรไร จ.ระยอง

    6. หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์

    7. หลวงพ่อสด (พระครูวิจิตนชัยการ) วัดหางน้ำ จ.ชัยนาท

    8. หลวงพ่อชื่น (พระครูนนทกิจวิมล) วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี

    9. หลวงพ่อบุญ (พระครูประดิษฐ์นวการ) วัดวังมะนาว จ.ราชบุรี

    10. หลวงปู่ทองอยู่ (พระครูสุตาธิการี) วัดใหม่หนองพระองค์ จ.สมุทรสาคร

    11. หลวงพ่อกรับ (พระครูธรรมสาคร) วัดโกรกกราก จ.สมุทรสาคร

    12. หลวงพ่อเจริญ (พระครูปัญญาโชติ) วัดทองนพคุณ จ.เพชรบุรี

    13. หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู จ.ลพบุรี

    14. หลวงพ่อชื่น วัดคุ้งท่าเลา จ.ลพบุรี

    15. พระครูสนิทวิทยการ วัดท่าโขลง จ.ลพบุรี

    16. พระครูปิยะธรรมโสภิณ(หลวงพ่อคำ) วัดบำรุงธรรม จ.สระบุรี

    17. พระครูกิตพิจารณ์(หลวงพ่อผัน) วัดราฎร์เจริญ จ.สระบุรี

    18. พระครูพุทธฉายาภิบาล วัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี

    19. พระครูสุวรรณวุฒาจารย์(หลวงพ่อมุ่ย) วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี

    20. พระวินัยรักขิตาวันมุนี(หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี

    21. พระวิบูลเมธาจารย์ วัดดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี

    22. หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี

    23. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี

    24. หลวงพ่อเผือก วัดสาลีโข จ.นนทบุรี

    25. พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯกรุงเทพฯ

    26. พระอาจารย์วิริยัง สิรินโท (พระเทพเจติยาจารย์) วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ

    27. พระเทพโสภณ(สมเด็จพระมหาธีราจารย์) (นิยม ฐานิสฺสโร)วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ

    28. หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐม

    29. พระครูสาธุกิจวิมล(หลวงพ่อเล็ก) วัดหนองดินแดง จ.นครปฐม

    30. หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี

    31. พระครูอุดมสิทธาจารย์(หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี

    32. พระครูจันทสโรภาส(หลวงพ่อเที่ยง) วัดม่วงชุม จ.กาญจนบุรี

    33. พระครูโกวิทยาสมุทคุณ(หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม

    34. พระครูศรีพรหมโสภิต(หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี

    35. พระอาจารย์ผ่อง(จินดา) วัดจักรวรรคิ์ราชาวาส กรุงเทพฯ

    36. พระครูศรีปริยานุรักษี วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่

    37. พระครูวิรุฬห์ธรรมโกวิทย์ วัดเจดีย์สถาน จ.เชียงใหม่

    38. พระครูมงคลคุณาธร วัดหม้อตองคำ จ.เชียงใหม่

    39. หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสต๋อย จ.เชียงใหม่

    40. หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน จ.ลำปาง

    41. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง

    42. หลวงพ่อชุบ วัดเกาะวาลุการาม จ.ลำปาง

    43. หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง

    44. หลวงพ่อเงิน วัดเขาสาก จ.ลำปาง

    45. หลวงพ่อบุญสม วัดหัวข่วง จ.ลำปาง

    46. พระวิบูลวชิรธรรม วัดท่าพุทรา จ.กำแพงเพชร

    47. หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์

    48. หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค จ.นครสวรรค์

    49. หลวงพ่อโอด (พระครูนิสัยจริยคุณ) วัดจันเสน จ.นครสวรรค์

    50. หลวงพ่อคัด วัดท่าโบสถ์ จ.ชัยนาท

    51. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม จ.ชัยนาท

    52. หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี

    53. หลวงพ่อดวง วัดทอง จ.สิงห์บุรี

    54. พระครูอาทรสิกขการ (หลวงพ่อโต๊ะ) วัดเกศไชโย จ.อ่างทอง

    55. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดท่าช้าง จ.อยุธยา

    56. พระครูประภาสธรรมคุณ(หลวงพ่อแจ่ม) วัดวังแดง จ.อยุธยา

    57. พระครูประสาทวิทยาคม(หลวงพ่อนอ) วัดกลางท่าเรือ จ.อยุธยา

    58. พระครูพิพิธวิหารการ(หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา

    59. พระครูสาธรพัฒนกิจ(หลวงพ่อลมูล) วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี

    60. พระครูวิเศษมงคลกิจ(หลวงพ่อมิ่ง) วัดกก กรุงเทพฯ

    61. พระครูอนุกูลวิทยา(หลวงพ่อเส็ง) วัดน้อยนางหงษ์ กรุงเทพฯ

    62. พระครูพิริยกิจติ(หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ

    63. พระครูภาวณาภิรมย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

    64. พระครูโสภณกัลป์ยานุวัฒน์(หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณ์ กรุงเทพฯ

    65. พระครูพินิจสมาจารย์(หลวงพ่อโด่) วัดนามะตูม จ.ชลบุรี

    66. หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง

    67. พระครูวชิรรังษี วัดมฤคทายวัน จ.ประจวบคีรีขันธ์

    68. พระครูวชิรคุณาญาณ วัดในกลาง จ.ประจวบคีรีขันธ์

    69. หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์

    70. พระครูอุดมศีลจารย์(พ่อท่านเย็น) วัดโคกสะท้อน จ.พัทลุง

    71. พระครูพิศาลพัฒนกิจ (พ่อท่านพระครูปลัดบุญรอด) วัดประดู่พัฒนาราม จ.พัทลุง

    72. พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง

    73. หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง

    74. หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร

    75. หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต จ.ขอนแก่น

    76. หลวงปู่จันทร์ วัดสำราญ จ.อุบลราชธานี

    77. หลวงพ่ออ่อน วัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์

    78. หลวงพ่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก

    79. หลวงพ่อครูบาตัน วัดเชียงทอง จ.ตาก

    80. หลวงพ่อเกตุ วัดศรีเมือง จ.สุโขทัย

    81. หลวงพ่อปี้ วัดบ้านด้านลานหอย จ.สุโขทัย

    82. พระครูคีรีมาสธรรมคุณ วัดวาลุการาม จ.สุโขทัย

    83. พระครูพิลาศธรรมคุณ วัดธรรมปัญญาราม จ.สุโขทัย

    84. พระครูไกรลาศสมานคุณ วัดกงไกรลาศ จ.สุโขทัย

    85. พระอาจารย์พวง วัดสว่างอารมณ์ จ.สุโขทัย

    86. พระอาจารย์ฉลอง วัดสว่างอารมณ์ จ.สุโขทัย

    87. พระครูพินิจธรรมภาณ วัดวังแดง จ.พิจิตร

    88. พระครูธรรมมานิสิทธิ์ วัดบ้านไร่ จ.พิจิตร

    89. พระอาจารย์ชัย วัดกลาง จ.อุตรดิตถ์

    90. หลวงพ่อบุญ วัดน้ำใส จ.อุตรดิตถ์

    91. หลวงพ่อจันทร์ วัดหาดสองแคว จ.อุตรดิตถ์

    92. พระพิษณุบุราจารย์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก

    93. พระสมุห์ละมัย (พระวรญาณมุนี วัดอรัญญิก) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก

    94. พระครูศีลสารสัมบัน (สำรวย สัมปันโน) วัดสระแก้วปทุมทอง จ.พิษณุโลก

    95. พระครูอภัยจริยาภรณ์ วัดใหม่อภัยยาราม จ.พิษณุโลก

    96. พระครูวินัยธรสุเทพ วัดแสงดาว จ.พิษณุโลก

    97. พระอาจารย์ถนอม วัดนางพญา จ.พิษณุโลก

    98. พระครูประภาสธรรมมาภรณ์(หลวงปู่แขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก

    99. พระครูศรีรัตนาภรณ์(หลวงพ่อไช่) วัดศรีรัตนาราม จ.พิษณุโลก

    100. หลวงพ่อเปรื่อง วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก

    101. พระอาจารย์พิมพ์ วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก

    102. หลวงพ่อเฉลิม วัดโพธิญาณ จ.พิษณุโลก

    103. หลวงพ่อเปรื้อง วัดโพธิญาณ จ.พิษณุโลก

    104. พระอาจารย์ชุ่ม วัดกรมธรรม์ จ.พิษณุโลก

    105. พระอาจารย์โต วัดสมอแข จ.พิษณุโลก

    106. พระครูประพันธ์ (หลวงพ่อพัน) วัดบางสะพาน จ.พิษณุโลก

    107. พระครูวิจารณ์ศุภกิจ (อาจารย์ทองม้วน) วัดวังทอง จ.พิษณุโลก

    108. พระอาจารย์นวล วัดนิมิตธรรมาราม จ.พิษณุโลก

    109. พระอาจารย์ธงชัย วัดวชิรธรรมราชา จ.พิษณุโลก

    แล้วมีพระรูป1มาจากชัยนาทนั่งปลุกเสกตั้งแต่พิธีเริ่ม จนเสร็จพิธีอาจารย์ท่านอื่นลุกไปหมดแล้ว ท่านยังนั่งปลุกเสกต่อ หลวงพ่อกวย จ.ชัยนาท

    สำหรับน้ำพระพุทธมนต์ที่แช่พระกริ่งเข้าพิธี ใช้น้ำที่วัดตูม เป็นน้ำที่ออกจากพระเศียรพระพุทธรูป ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เคยใช้ในพิธีชุบพระแสงและเครื่องศัตราวุธ รวมกับน้ำในบ่อน้ำพระพุทธมนต์ วัดพระพายหลวง (บ่อพระร่วง) เมืองเก่าสุโขทัย

    รายชื่อวัตถุมงคลและรายนามผู้รับผิดชอบจัดสร้าง ที่จัดสร้างเข้าพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" วันที่ 19 -20 มกราคม 2515 ณ พระวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก

    1. พระพุทธชินราชจำลอง เนื้อทองสัมฤทธิ์ลงรักปิดทอง 9" 5.9" สร้างโดย จ.ส.อ.ทวี บุรณะเขต จ.พิษณุโลก

    2. พระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ เนื้อนวโลหะ (สูตรของสมเด็จพระสังฆราชแพ) สร้างโดยช่างสวน จามรมาน ธนบุรี

    3. เหรียญพระพุทธชินราช มหาราช เนื้อทองคำ เงิน ทองแดง โลหะพิเศษ สร้างโดยกองกษาปณ์ กรมธนารักษ์

    4. พระสังกัจจายน์ เนื้อหยก หยกจากเมืองจีน ฝีมือช่างชาวฮ่องกง

    5. พระชุด "พระพุทธชินราช น้อยไตรภาคี" ของดีเมืองพิษณุโลก ชนวนรพระกริ่งนเรศวรวังจันทน์เนื้อนวโลหะ

    (พระพุทธชินราช-พระพุทธชินรสีห์ - พระศรีศาสดา)

    6. พระชุด "ยอดขุนพลเมืองพิษณุโลก" ชนวนพระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ (พระพิมพ์ท่ามะปราง - พระพิมพ์นางพญา - พระพิมพ์วัดใหญ่)

    7. พระพุทธชินราชใบเสมา เนื้อนวโลหะ ชนวนพระกริ่งนเรศวร วังจันทน์

    8. พระพุทธชินราชยอดอัฐารส เนื้อนวโลหะ ชนวนพระกริ่งนเรศวร วังจันทน์

    (หมายเลข 5 – 8 สร้างโดย ช่างสำเนียง หมัดมอญ กทม.)

    9. พระพิมพ์ สมเด็จพระแก้วมณีโชติ เนื้อผงและดินเผาผสมผงเก่า

    10.พระพุทธชินราชใบเสมา เนื้อว่าน และเนื้อดินเผา ผสมผงเก่าและผงตะไบ เนื้อนวโลหะวังจันทน์

    (หมายเลข 9-10 สร้างโดยพระครูศีลสารสัมบัน (สำรวย สมฺปนฺโน) เจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลก และเจ้าอาวาสวัดสระแก้วปทุมทอง จ.พิษณุโลก)

    หมายเหตุ ไม่มีให้บูชาตามสูจิบัตรพิธีจักรพรรดิมหาพุทธภิเษก ปี 15 ให้บูชาได้เฉพาะที่วัดสระแก้วปทุมทอง จังหวัดพิษณุโลกเท่านั้น

    11. พระพุทธชินราชใบตำแย กรุลั่นทม วัดใหญ่ เนื้อชิน สร้างโดย บริษัทชโลกุล กทม.

    12. พระพุทธชินราช มหาธาตุ เนื้อดินผสมผงโลหะพระเก่า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สร้างโดย จสอ.ทวีบุรณะเขต จ.พิษณุโลก

    13. เข็มกลัดเน็คไท "พระพุทธชินราช" สร้างโดยช่างทองร้านนำศิลป์ จ.พิษณุโลก

    14. เหรียญ "มหาจักรพรรดิ" เนื้อนวโลหะ ชนวนพระกริ่งนเรศวร วังจันทน์ นายละเมียน อัมพวะสิริ ผู้ออกแบบ<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2010
  16. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    เพื่อนๆ พี่ๆ ท่านใดสนใจจะร่วมทำบุญก็สามารถทำบุญได้ตามศรัทธานะครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  17. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    ทำบุญ 1 บาท

    ขอนำเรื่องของ เศรษฐีเท้าแมว ใน ธรรมบทภาค ๕ มาเล่าประกอบไว้ด้วย เรื่องนี้เกิดขึ้น
    ในสมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่

    อุบาสกผู้หนึ่ง ไปฟังธรรมที่วัดเชตวัน ในกรุงสาวัตถีได้ยินพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
    "บุคคล
    บางคนให้ทานด้วยตนเอง แต่ไม่ชักชวนผู้อื่น เพราะฉะนั้นเมื่อเขาตายไป เขาย่อมได้รับโภค
    สมบัติ แต่ไม่ได้รับบริวารสมบัติในที่ๆ เขาไปเกิด


    ส่วนบางคนตนเองไม่ให้ทาน แต่เที่ยวชักชวนคนอื่นให้ให้ทาน เพราะฉะนั้นเมื่อเขา
    ตายไป เขาก็ย่อมได้รับแต่บริวารสมบัติ แต่ไม่ได้รับโภคสมบัติในที่ๆ เขาไปเกิด


    ส่วนบางคนตนเองก็ไม่ให้ทาน ทั้งไม่ชักชวนคนอื่นให้ให้ทานด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อเขา
    ตายไป เขาก็ย่อมไม่ได้รับทั้งโภคสมบัติ และบริวารสมบัติในที่ๆ เขาไปเกิด


    ส่วนบางคนตนเองก็ไห้ทาน ทั้งยังชักชวนคนอื่นให้ให้ทานด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อเขา
    ตายไป เขาก็ได้รับทั้งโภคสมบัติ และบริวารสมบัติในที่ๆ เขาไปเกิด"


    อุบาสกผู้นี้เป็นบัณฑิต ได้ฟังดังนั้นก็คิดจะทำบุญให้ได้รับผลครบทั้งโภคสมบัติและบริวารสมบัติ
    เขาจึงเข้าไปกราบทูลขอถวายภัตตาหารแก่พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวกทั้งหมดในวันรุ่งขึ้น พระพุทธเจ้า
    ก็ทรงรับคำอาราธนานั้น อุบาสกนั้นจึงได้เที่ยวป่าวร้องไปตามชาวบ้านร้านตลาดทั้งหลาย ชักชวนให้บริจาค
    ข้าวสารและของต่างๆ เพื่อนำมาประกอบอาหารถวายก็ได้รับสิ่งของต่างๆ มากบ้างน้อยบ้างตามศรัทธาและ
    ฐานะของผู้บริจาค อุบาสกคนนั้นเที่ยวป่าวร้องไปอย่างนี้ จนมาถึงร้านค้าของท่านเศรษฐีผู้หนึ่ง ท่านเศรษฐี
    เกิดไม่ชอบในที่เห็นอุบาสกนั้นเที่ยวป่าวร้องไปอย่างนั้น ท่านคิดว่า
    "อุบาสกคนนี้เมื่อไม่สามารถถวาย
    อาหารแก่พระพุทธเจ้า และพระสงฆ์สาวกทั้งวัดเชตวันได้ ก็ควรจะถวายตามกำลังของตน
    ไม่ควรจะเที่ยวชักชวนคนอื่นเขาทั่วไปอย่างนี้"


    เพราะเหตุที่คิดอย่างนี้ แม้ท่านจะร่วมทำบุญกับอุบาสกนั้นด้วย แต่ท่านก็ทำด้วยความไม่เต็มใจ
    ได้หยิบของให้เพียงอย่างละนิดละหน่อย คือใช้นิ้ว ๓ นิ้วหยิบของนั้น จะหยิบได้สักเท่าไร เวลาให้น้ำผึ้ง
    น้ำอ้อย ก็ให้เพียงไม่กี่หยด เพราะเหตุที่ท่านมือเบามาก หยิบของให้ทานเพียงนิดหน่อย คนทั้งหลายก็เลย
    ตั้งชื่อท่านว่า เศรษฐีเท้าแมว เป็นการเปรียบเทียบความมือเบาของท่านกับความเบาของเท้าแมว

    อุบาสกนั้นเป็นคนฉลาด เมื่อรับของจากท่านเศรษฐีจึงได้แยกไว้ต่างหาก ไม่ได้รวมกับของที่ตนรับ
    มาจากผู้อื่นเศรษฐีก็คิดว่า "อุบาสกนี้คงจะเอาเราไปเที่ยวประจานเป็นแน่" เมื่อคิดอย่างนี้ จึงใช้ให้คน
    ใช้ติดตามไปดู คนรับใช้ได้เห็นว่าอุบาสกนั้นนำเอาของของเศรษฐีไปแบ่งใส่ลงในหม้อที่ใช้หุงต้มอาหารนั้นหม้อ
    ละนิด อย่างข้าวสารก็ใส่หม้อละเมล็ดสองเมล็ดเพื่อให้ทั่วถึง พร้อมกับกล่าวให้พรท่านเศรษฐีด้วยว่า
    "ขอให้ทาน
    ของท่านเศรษฐีจงมีผลมาก"
    คนรับใช้ก็นำความมาบอกนาย ท่านเศรษฐีก็คิดอีกว่า "วันนี้เขายังไม่
    ประจานเราพรุ่งนี้เวลานำเอาอาหารไปถวายพระที่วัดเชตวัน เขาคงจะประจานเรา ถ้าเขาประจานเรา
    เราจะฆ่าเสีย" ดังนั้นในวันรุ่งขึ้นท่านจึงเหน็บกริชซ่อนไว้แล้วไปที่วัดเชตวัน ในเวลาที่อุบาสกและชาวเมือง
    ช่วยกันอังคาสเลี้ยงดูพระพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์ เมื่อช่วยกันถวายภัตตาหารแล้ว อุบาสกผู้นั้นได้กราบ
    ทูลพระพุทธเจ้าว่า
    "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้เที่ยวชักชวนมหาชนให้ถวายทานนี้ขอให้
    คนทั้งหลายผู้ที่ข้าพระองค์ชักชวนแล้ว บริจาคแล้ว ทั้งผู้บริจาคของมาก ทั้งผู้บริจาคของน้อย
    จงได้รับผลมากทุกคนเถิด"
    ท่านเศรษฐีได้ยินแล้วก็ไม่สบายใจ กลัวอุบาสกจะประกาศว่า ท่านให้ของเพียง
    หยิบมือเดียว คิดอีกว่า "ถ้าอุบาสกเอ่ยชื่อเรา เราจะแทงให้ตาย" แต่อุบาสกนั้นกลับกราบทูลว่า "แม้ผู้ที่
    บริจาคของเพียงหยิบมือเดียว ทานของผู้นั้นก็จงมีผลมากเถิด"

    ท่านเศรษฐีได้ฟังดังนั้นก็ได้สติ คิดเสียใจว่า "เราได้คิดร้ายล่วงเกิดต่ออุบาสกนี้อยู่ตลอดเวลา
    แต่อุบาสกนี้เป็นคนดีเหลือเกิน ถ้าเราไม่ขอโทษเขา เราก็เห็นจะได้รับกรรมหนัก" คิดดังนี้แล้ว จึงเข้า
    ไปหมอบแทบเท้าของอุบาสกนั้น เล่าเรื่องให้ฟังพร้อมทั้งขอให้ยกโทษให้ พระพุทธองค์ทอดพระเนตรเห็น
    กริยาอาการของท่านเศรษฐีอย่างนี้ก็ตรัสถามขึ้น เมื่อทรงทราบแล้วจึงได้ตรัสว่า "ขึ้นชื่อว่าบุญแล้ว ใครๆ
    ไม่ควรดูหมิ่นว่าบุญนี้เล็กน้อย ทานที่บุคคลถวายแล้วแก่ภิกษุสงฆ์ อันมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขเช่นนี้ ไม่
    ควรดูหมิ่นว่าบุญนี้เล็กน้อย คนที่ฉลาดทำบุญอยู่ ย่อมเต็มด้วยบุญ เหมือนหม้อน้ำที่เปิดปากไว้ ย่อมเต็ม
    ด้วยน้ำฉันนั้น" ในตอนท้าย พระพุทธองค์ตรัสพระคาถาว่า
    "บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบุญเล็กน้อยว่าจะไม่
    มาถึง แม้หม้อน้ำก็ยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมาฉันใด ผู้ฉลาดเมื่อสะสมบุญแม้ทีละน้อยทีละ
    น้อย ก็ย่อมเต็มด้วยบุญฉะนั้น"


    ท่านเศรษฐีได้ฟังแล้วก็ได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุเป็นพระโสดาบันบุคคล พระธรรมเทศนาของ
    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ประกอบด้วยประโยชน์อย่างยิ่งอย่างนี้ ถ้าเราหมั่นฟังอยู่เสมอและฟังด้วยความตั้งใจ
    ก็ย่อมได้ปัญญา ดังเศรษฐีท่านนี้เป็นตัวอย่าง

    จากเรื่องของท่านเศรษฐีผู้นี้ ทำให้ทราบว่าการให้ทานนั้น เป็นเหตุให้ได้รับโภคสมบัติ การชัก
    ชวนผู้อื่นให้ทานนั้นเป็นเหตุให้ได้รับบริวารสมบัติ ในที่ๆ ตนไปเกิด

    เพราะฉะนั้น เมื่อใครเขาทำบุญ หรือใครเขาชักชวนใครๆ ทำบุญ ก็อย่างได้ขัดขวางห้ามปราม
    เขาเพราะการกระทำเช่นนี้เป็นบาป เป็นการทำลายประโยชน์ของบุคคลทั้ง ๓ ฝ่าย
    คือตนเองเกิดอกุศลจิต
    ก่อน ๑ ทำลายลาภของผู้รับ ๑ ทำลายบุญของผู้ให้ ๑


    และจากเรื่องนี้ก็ทำให้เห็นชัดว่า สังฆทานนั้นมีผลมาก และมีอานิสงส์มาก การที่กิเลสคือความ
    ตระหนี่ได้ถูกขัดเกลาออกไป ทำให้จิตใจที่หนาอยู่ด้วยกิเลสเบาบางลงไปได้ชั่วขณะนี้แหละ คืออานิสงส์ที่แท้
    จริงของบุญ ยิ่งกิเลสถูกขัดเกลาไปได้มากเท่าไร ทานของผู้นั้นก็มีอานิสงส์มากเท่านั้น

    เสื้อผ้าที่สกปรกเปรอะเปื้อนต้องการสบู่หรือผงซักฟอกเข้าไปช่วยชำระล้างให้สะอาดฉันใด
    จิตใจที่เปรอะเปื้อนด้วยกิเลสก็ต้องการบุญ มีทานเป็นต้น เข้าไปช่วยชำระล้างขัดเกลาให้สะอาดหมด
    จดฉันนั้น

    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึง
    ความบริสุทธิ์แห่งทักษิณา คือทานไว้ ๔ อย่าง คือ

    ๑. ทักษิณาบางอย่างบริสุทธิ์ฝ่ายทายกคือผู้ให้ แต่ไม่บริสุทธิ์ฝ่ายปฏิคคาหกคือผู้รับ
    กล่าวคือผู้ให้เป็นผู้มีศีลงาม มีธรรมงาม ได้ของมาโดยชอบธรรม เป็นผู้เชื่อกรรมและผลของกรรม แต่
    ผู้รับเป็นผู้ทุศีล มีธรรมลามก

    ๒. ทักษิณาบางอย่างบริสุทธิ์ฝ่ายปฏิคคาหก แต่ไม่บริสุทธิ์ฝ่ายทายก กล่าวคือผู้รับ
    เป็นผู้มีศีลงาม มีธรรมงาม แต่ผู้ให้เป็นผู้ทุศีล มีธรรมลามก ได้ของมาโดยไม่ชอบธรรม เป็นผู้ไม่เชื่อ
    กรรมและผลของกรรม

    ๓. ทักษิณาบางอย่าง ไม่บริสุทธิ์ทั้งฝ่ายทายกและปฏิคคาหก คือทั้งผู้ให้และผู้รับ
    เป็นผู้ทุศีล มีธรรมลามก

    ๔. ทักษิณาบางอย่างบริสุทธิ์ทั้งฝ่ายทายกและปฏิคคาหก คือทั้งผู้ให้และผู้รับเป็นผู้มี
    ศีลงาม มีธรรมงามทานที่บริสุทธิ์ทั้งสองฝ่ายอย่างนี้ย่อมมีผลไพบูลย์

    อนึ่ง พระบรมศาสดาตรัสว่า ถ้าทายกคือผู้ให้เป็นผู้มีศีลงาม มีธรรมงาม ได้ของมา
    โดยชอบธรรม มีศรัทธาเชื่อกรรมและผลของกรรม และปฏิคคาหกคือผู้รับ เป็นผู้มีศีลงาม
    มีธรรมงาม ปราศจากราคะแล้วทานของผู้นั้นเลิศกว่าอามิสทานทั้งหลาย


    อนึ่งใน ทานานิสังสสูตร อัง. ปัญจก. ข้อ ๓๕ พระพุทธองค์ทรงแสดง
    อานิสงส์ของทาน
    ไว้ ๕ อย่าง
    คือ

    ๑. ผู้ให้ทาน ย่อมเป็นที่รักที่ชอบใจของชนหมู่มาก
    ๒. สัปบุรุษ ผู้สงบ มีพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และสาวกของพระพุทธเจ้า
    ย่อมคบหาผู้ให้ทาน
    ๓. กิตติศัพท์อันงามของผู้ให้ทาน ย่อมขจรขจายไปทั่ว
    ๔. ผู้ให้ทาน ย่อมไม่เหินห่างจากธรรมของคฤหัสถ์ คือมีศีล ๕ ไม่ขาด
    ๕. ผู้ให้ทาน เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

    แล้วทรงสรุปเป็นคาถาว่า
    ผู้ให้ทานย่อมเป็นที่รักของชนเป็นอันมาก ชื่อว่าดำเนินตามธรรมของสัปบุรุษ (คือ มหาบุรุษ
    หรือพระโพธิสัตว์) สัปบุรุษผู้สงบ ผู้สำรวมอินทรีย์ ประพฤติพรหมจรรย์ ย่อมคบหาผู้ให้ทานทุกเมื่อ
    สัปบุรุษเหล่านั้น ย่อมแสดงธรรมเป็นที่บรรเทาทุกข์แก่เขา เขาได้ทราบชัดแล้ว ย่อมเป็นผู้หาอาสวะมิได้
    ปรินิพพานในโลกนี้

    ควรอย่างยิ่งที่เราจะสะสมบุญ มีทานเป็นต้น ให้งอกงามเพิ่มพูนขึ้นในจิตใจของเรา เพราะว่า
    เมื่อไรที่จิตใจของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยบุญ เมื่อนั้นกิเลสจะไม่มีหลงเหลืออยู่ในจิตใจของเราเลย

    ใน
    ทานสูตร อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต ข้อ ๔๙ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงเหตุปัจจัยที่ทำให้
    ทานที่ให้แล้ว มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก และเหตุปัจจัยที่ทำให้ทานที่ให้แล้วมีผลมาก และมีอานิสงส์
    มาก ไว้ดังต่อไปนี้

    ๑. บุคคลบางคน ให้ทานด้วยความหวังว่า เมื่อตายไปแล้ว จักได้เสวยผลของทานนี้
    เมื่อตายไป ได้เกิดในเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่ในเทวโลก
    แล้ว ก็กลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้ คือกลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๒. บุคคลบางคนไม่ได้ให้ทาน เพราะหวังผลของทาน แต่ให้ทานเพราะรู้ว่าทานเป็นของดี
    เป็นบุญ เป็นกุศล จึงให้เมื่อตายไป ได้เกิดในเทวโลกชั้นดาวดึงส์ สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความ
    เป็นใหญ่ในเทวโลกแล้ว ก็กลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้ คือกลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมากแต่
    ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๓. บุคคลบางคนไม่ได้ให้ทาน เพราะหวังผลของทาน ไม่ได้ให้ทานเพราะรู้ว่าทานเป็นของดี
    แต่ให้ทานเพราะละอายใจที่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย บรรพบุรุษเคยทำมา ถ้าไม่ทำก็ไม่สมควร
    ครั้นตายลงได้เกิดในเทวโลกชั้นยามา สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่ในเทวโลกแล้ว ก็
    กลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้ คือกลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๔. บุคคลบางคน ไม่ได้ให้ทานเพราะหวังผลของทาน ไม่ได้ให้ทานเพราะรู้ว่าทานเป็นของดี
    ไม่ได้ให้ทานตามบรรพบุรุษ แต่ให้ทานเพราะเห็นสมณพราหมณ์เหล่านั้นหุงหากินไม่ได้ เราหุงหา
    กินได้ ถ้าไม่ให้ก็ไม่สมควร ครั้นตายลงได้เกิดในเทวโลกชั้นดุสิต สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความ
    เป็นใหญ่ในเทวโลกแล้ว ก็กลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้ คือกลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก
    แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๕. บุคคลบางคน ไม่ได้ให้ทานเพราะหวังผลของทาน ไม่ได้ให้ทานเพราะรู้ว่าทานเป็นของดี
    ไม่ได้ให้ทานตามบรรพบุรุษ ไม่ได้ให้ทานเพราะเห็นว่า สมณพราหมณ์หุงหากินไม่ได้
    แต่ให้ทานเพราะ
    ต้องการจำแนกแจกทานเหมือนกับฤาษีทั้งหลายในปางก่อนได้กระทำมหาทานมาแล้ว
    เขาตาย
    ไปได้เกิดในเทวโลกชั้นนิมมานรดี สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ก็กลับมาสู่ความ
    เป็นอย่างนี้ คือกลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๖. บุคคลบางคน ไม่ได้ให้ทานเพราะหวังผลของทาน ไม่ได้ให้ทานเพราะว่าทานเป็นของดี
    ไม่ได้ให้ทานตามบรรพบุรุษ ไม่ได้ให้ทานเพราะเห็นว่าสมณพราหมณ์หุงหากินไม่ได้ ไม่ได้ให้ทานเพราะ
    ต้องการจำแนกแจกทานเหมือนฤาษีทั้งหลายในปางก่อนได้กระทำมหาทาน
    แต่ให้ทานเพราะคิดว่า
    เมื่อให้แล้ว จิตจะเลื่อมใสโสมนัสจึงให้
    ครั้นตายไปย่อมเกิดในเทวโลกชั้นปรนิมมิตวสวัตดี สิ้นกรรม
    สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ก็กลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้ คือกลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทาน
    อย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๗. บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่ได้ให้ทานเพราะเหตุที่กล่าวแล้วทั้ง ๖ อย่างข้างต้นนั้น
    แต่ให้
    ทานเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต
    คือให้ทานนั้นเป็นเครื่องขัดเกลาจิตใจหมดจดจากกิเลสด้วยอำนาจของ
    สมถะและวิปัสสนา จนได้ฌานและบรรลุ จนได้ฌานและบรรลุเป็นพระอนาคามีบุคคล ตายแล้วได้ไปเกิดใน
    พรหมโลก เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่ในพรหมโลกแล้ว เป็นผู้ไม่ต้องกลับมาเกิด
    ในโลกนี้อีก คือปรินิพพานในพรหมโลกนั้นเอง ทานชนิดนี้เป็นทานที่มีผลมาก และมีอานิสงส์มาก

    สรุปรวมความว่า ทานชนิดใดก็ตาม เป็นปัจจัยให้ต้องเกิดอีก ทานชนิดนั้นแม้มีผลมาก ได้เกิด
    ที่ดีมีความสุขอันเป็นทิพย์ แต่ทานนั้นก็ไม่มีอานิสงส์มาก เพราะไม่สามารถจะทำให้หมดจดจากกิเลสได้

    ส่วนทานชนิดใดเป็นปัจจัยให้ไม่ต้องเกิดอีก ทานชนิดนั้นชื่อว่ามีผลมากด้วย มีอานิสงส์
    มากด้วย เพราะทำให้หมดจดจากกิเลส


    ฉะนั้นคำว่า "อานิสงส์มาก" ในที่นี้ จึงหมายถึงการหมดจดจากกิเลสทั้งปวง ไม่ต้องเกิดอีก

    จริงอยู่ การเกิดในสวรรค์แต่ละชั้นนั้น มีความสุขมาก เพราะได้รับกามคุณอันเลอเลิศที่เป็น
    ทิพย์ ละเอียดประณีตขึ้นไปตามลำดับชั้น แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ตรัสว่า กามคุณนั้นเป็นของเลว เป็น
    ของชาวบ้าน เป็นของชวนให้หลงใหล เป็นของมีสุขน้อย แต่มีโทษมาก เพราะฉะนั้นเมื่อพระองค์ทรง
    แสดงธรรม คือ อนุปุพพิกถา แก่คฤหัสถ์ จึงได้ทรงแสดงโทษของกามไว้ด้วย ผู้ที่ยินดีหลงไหลเพลิด
    เพลินในกาม คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อันน่าใคร่ น่าพอใจ ย่อมไม่อาจล่วงทุกข์ไปได้ ผู้ที่จะล่วง
    ทุกข์ได้ก็เพราะเห็นโทษของกาม ก้าวออกจากกามด้วยสมถะและวิปัสสนาเท่านั้น

    ด้วยเหตุนั้น ทานที่เป็นเครื่องปรุงแต่งจิต ขัดเกลาจิตให้อ่อน ให้ควรแก่การเจริญสมถะและ
    วิปัสสนาจนบรรลุมรรคผลไม่ต้องกลับมาเกิดอีก จึงเป็นทานที่มีผลมาก และมีอานิสงส์มากแม้สังฆทานที่
    กล่าวว่ามีผลมาก มีอานิสงส์มาก ก็เพราะผู้ถวายมีโอกาสได้ฟังธรรมจากสงฆ์แล้วบรรลุอริยสัจธรรม ก้าว
    ล่วงทุกข์ทั้งปวงไม่ต้องกลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้อีก

    พระพุทธองค์ทรงมีพระมหากรุณาอันยิ่งใหญ่แก่สัตว์โลกแม้เมื่อทรงแสดงเรื่องทาน ก็ทรงแสดงให้
    พุทธบริษัทได้รับประโยชน์ครบทั้ง ๓ ประการ คือ
    ประโยชน์ในโลกนี้ ประโยชน์ในโลกหน้า และประ
    โยชน์อย่างยิ่ง คือ มรรค ผล นิพพาน
    ด้วยเหตุนี้ จึงควรทำใจให้เลื่อมใส บำเพ็ญทานให้เกิดประโยชน์
    ทั้ง ๓ ประการ จึงจะได้ชื่อว่า ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์อย่างแท้จริง

     
  18. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    ถนนเส้นนี้จะไปสิ้นสุดที่ไหน
    ถนนเส้นนี้จะมีทางเดินต่อไปหรือไม่

    ถนนเส้นนี้ยังมีอุปสรรคอีกมากมาย
    แต่ถนนเส้นนี้ยังมีสายบุญที่หลั่งไหล....ให้ถึงจุดหมายสะพานบุญ

    ขออนุโมทนากับคุณรับโชค อาจารย์นพ คุณทำความดี ที่สละวัตถุมงคลส่วนตัวแม้บางชิ้นจะหาไม่ได้แม้มีเงินก็ตาม

    ขออนุโมทนากับอาจารย์ปุ้ม ที่ให้ข้อมูลวัดป่าโพธิ์ศรีธาตุ

    ขออนุโมทนากับคุณป.คุณูปการ สำหรับข้อมูลและคำแนะนำที่ดี

    ขออนุโมทนากับเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านรายละเอียดงานบุญในกระทู้นี้ทุกท่าน ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยปกป้องคุ้มครอง คิดหวังสิ่งใดก็ให้สมปรารถนา ทุกประการเทอญ


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2010
  19. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    เพื่อป้องกันความสับสนจึงขอแจ้งรายละเอียดดังนี้ครับ
    - ในส่วนของการทำบุญตามศรัทธา สามารถทำบุญและแจ้งจำนวนเงินได้ทั้งในกระทู้ประชาสัมพันธ์ และกระทู้ห้องพระเครื่อง
    - ในส่วนของการทำบุญเพื่อรับของที่ระลึกในการทำบุญเป็นวัตถุมงคลต่างๆ ที่เพื่อนๆ พี่ๆ ได้นำมาร่วมทำบุญในการสร้างพระธาตุ สามารถร่วมทำบุญได้ที่กระทู้ห้องพระเครื่องเท่านั้นนะครับ


    เงินทั้งหมดทำบุญสร้างพระธาตุ วัดโพธิ์ศรีธาตุ ต.เกาะแก้ว จ.สุรินทร์ โดยไม่หักค่าใช้จ่าย ข้อมูลการเงินในการทำบุญทั้งหมด หากสงสัยสามารถสอบถามได้ในกระทู้ เพื่อความบริสุทธิ์ใจและความโปร่งใส และเพื่อความสบายใจ
     
  20. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
    ท่านใดพอมีกำลังทรัพย์ และสนใจรับของที่ระลึกในการทำบุญที่เพื่อนๆ พี่ๆ ในเว็บ นำมาร่วมบุญในการสร้างพระธาตุก็ขอเชิญคลิ๊กที่ลิงค์นี้ได้เลยนะครับ ร่วมงานบุญสร้างพระธาตุ วัดโพธิ์ศรีธาตุ ต.เกาะแก้ว จ.สุรินทร์ พิเศษแจกน้ำมนต์หลวงพ่อกวย<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...