ตะลุยเมืองหนังสือ ที่ "ดับเบิล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์"

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ตะลุยเมืองหนังสือ ที่ "ดับเบิล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>10 กรกฎาคม 2550 16:50 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โดย : หนุ่มลูกทุ่ง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เลือกซื้อเลือกอ่านหนังสือหลากหลายที่ดับเบิล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
สำหรับบรรดาชาวหนอนหนังสือแล้ว ช่วงเวลาสำคัญในหนึ่งปีที่พลาดไม่ได้ก็คงเป็นช่วงที่จะมีการจัดงานสัปดาห์หนังสือขึ้นปีละสองครั้ง เพราะจะได้พบกับหนังสือจำนวนมหาศาล หลากประเภทจากหลายสำนักพิมพ์ด้วยกันมารวมตัวขายกันอยู่ที่เดียว

แต่ถ้าใครที่รอให้ถึงงานสัปดาห์หนังสือไม่ไหว หรืออยากจะไปเดินเลือกซื้อหนังสือในร้านที่มีหนังสือมาจากหลากหลายสำนักพิมพ์อย่างนั้นบ้าง ฉันก็ขอแนะนำให้มาที่นี่เลย ที่ "ดับเบิล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์" ตรงปากซอยสาทร 12

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>มุมนั่งอ่านสบายๆ ในมุมแม่และเด็ก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> หากจะเรียก "ดับเบิล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์" ตึก 9 ชั้น ที่มีพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ที่แต่ละชั้นก็แบ่งเป็นโซนต่างๆ และจัดวางหนังสือไว้ตามโซนนั้นๆ ว่าเป็นร้านขายหนังสือก็คงจะไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะฉันคิดว่าที่นี่เป็นมากกว่าร้านขายหนังสือ ที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็น "เมืองหนังสือ" ที่ไม่ได้มุ่งจะ "ขาย" หนังสือเพียงอย่างเดียว แต่ดูเหมือนเป็นสถานที่ที่ส่งเสริมให้คนมา "อ่าน" หนังสือกันมากกว่า

เหตุที่ฉันบอกว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ส่งเสริมให้คนมาอ่านก็เนื่องจากว่า ดับเบิล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์นี้ไม่ได้หวงห้ามหากใครจะมายืนอ่านหนังสือนานๆ ซึ่งนอกจากจะไม่ห้ามแล้วยังส่งเสริมด้วยการเตรียมเก้าอี้ไว้บริการตามจุดต่างๆ อีกด้วย

ฉันขอเริ่มพาหนอนหนังสือทุกคนออกตะลุยเมืองหนังสือกันเลย โดยเริ่มกันตั้งแต่ชั้นแรก Top Hit Zone เป็นเหมือนจุดนัดพบของเมืองหนังสือแห่งนี้ ในชั้นที่หนึ่งนี้จะมีหนังสือประเภทหนังสือพิมพ์ นิตยสาร การ์ตูน หนังสือออกใหม่ หนังสือขายดี และหนังสือแนะนำจากสำนักพิมพ์ต่างๆ รวมไปถึงสินค้าเครื่องเขียน ผลิตภัณฑ์ของดับเบิลเอเขาล่ะ ที่เก๋กว่านั้นก็คือ ที่นี่มีตู้เอทีเอ็มและเคาน์เตอร์ไปรษณีย์พร้อมให้บริการอยู่ด้วย เรียกว่าถ้าซื้อหนังสือจนเงินหมดก็สามารถเดินมากดเงินที่นี่ได้เลย และหากเจอหนังสือถูกใจ อยากส่งเป็นของขวัญไปให้เพื่อนอ่านก็มาใช้บริการไปรษณีย์ได้ตามสะดวก รวมทั้งที่ชั้นหนึ่งนี้ยังมีร้านกาแฟน่ารักๆ ให้นั่งพักผ่อนกัน และมีอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ไว้ให้บริการอยู่ด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หนังสือเกี่ยวกับอาหารจัดวางอย่างน่าดึงดูดอยู่ในตู้เย็น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> จากชั้นหนึ่งฉันเดินขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นมาชั้นที่สอง ชั้นนี้เรียกว่าเป็น Feeling Zone เป็นชั้นที่รวบรวมหนังสือประเภทวรรณกรรมเอาไว้ให้เลือกอ่าน มีทั้งวรรณกรรมแปล วรรณกรรมเยาวชน นวนิยาย กวีนิพนธ์ต่างๆ อีกทั้งยังแบ่งโซนเป็นร้านหนังสือของสำนักพิมพ์บางแห่งเช่น มติชน นานมี เคล็ดไทย ฯลฯ มาตั้งไว้

หลังจากนั้นฉันไต่บันไดขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง ที่ Living Zone บนชั้นที่ 3 ชั้นนี้จะมีหนังสือที่เกี่ยวกับชีวิตทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับอาหารการกิน สูตรอาหาร หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ ความงาม หนังสือเรื่องการตกแต่งบ้าน การจัดสวน หนังสือท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม หนังสือดนตรี กีฬา รวมทั้งหนังสือธรรมะ ก็มารวมกันอยู่ที่ชั้นนี้เอง

สำหรับชั้นต่อไป ชั้นที่ 4 นี้ พ่อแม่บ้านไหนมีลูกวัยเด็กกำลังซนต้องพามาให้ได้ เพราะชั้นนี้เป็น Kids Zone ที่นอกจากจะมีหนังสือประเภทนิทาน หนังสือภาพ หนังสือเรียนสำหรับเด็กแล้ว ก็ยังมีหนังการ์ตูนและสื่อการเรียนการสอนสำหรับเด็กไว้ให้เลือกซื้อด้วย

และเมื่อเป็นพื้นที่สำหรับเด็กโดยเฉพาะ ก็ต้องจัดสถานที่ไว้พิเศษเสียหน่อย ฉันจึงได้เห็นมุมน่ารักๆ หลายมุมในชั้น Kids Zone นี้ เช่นเห็นขบวนรถไฟทาสีสดใส แต่ละโบกี้บรรจุไปด้วยหนังสือ แถมยังมีที่นั่งให้เด็กๆ เข้าไปนั่งอ่านกัน เป็นการดึงดูดเด็กได้ดีกว่าตั้งชั้นหนังสือแบบธรรมดาๆ ไว้ และไม่ใช่แค่หนังสือเท่านั้น ฉันยังติดใจหุ่นมือรูปสัตว์และตุ๊กตาน่ารักๆ ที่นอกจากจะมีไว้ขายแล้ว ก็ยังมีให้ลองเล่นให้เด็กๆ ดูด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>มุมสงบนั่งสบายในโซนวรรณกรรม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ไม่ใช่แค่เด็กๆ หรือลูกๆ เท่านั้นที่จะเหมาะกับชั้นนี้ แต่คุณแม่ หรือผู้ที่เตรียมตัวจะเป็นคุณแม่ก็สามารถมาหาความรู้กันได้ที่ชั้นนี้เช่นกัน

จากชั้นเด็กๆ มาเปลี่ยนอารมณ์กันสักนิดหนึ่งเมื่อขึ้นมาถึงชั้นที่ 5 เพราะจากมุมสดใสร่าเริงของเด็กๆ จะกลายมาเป็นมุมวิชากันบ้าง บนชั้น Brain Zone นี้จะมีหนังสือประเภทหนังสือเรียน ตำราเรียน คู่มือเตรียมสอบตั้งแต่ชั้นประถมไปจนถึงปริญญาโท หนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีต่างๆ รวมไปถึงหนังสือแนวบริหารการจัดการด้วย

เมื่อชั้นนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศของวิชาการขนาดนี้ ฉันจึงต้องมาเบรกความเครียดด้วยการจิบกาแฟหอมๆ ที่มุมกาแฟน่ารักน่านั่งใกล้ๆ กับมุมที่ขายแผนที่ แต่ถ้าใครยังอยากเครียดต่อก็สามารถไปนั่งเล่นเกมฝึกสมองและสมาธิอย่าง "โกะ" กันได้ ที่นี่เขาก็มีอุปกรณ์เตรียมไว้ให้

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เล่มนั้นก็ดี เล่มนี้ก็น่าอ่าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> จิบกาแฟสบายใจไปเรียบร้อยแล้ว จึงเดินต่อไปยังชั้นที่ 6 ซึ่งเป็นชั้นที่เหมาะสมกับฉันที่สุดแล้ว นั่นก็คือชั้น Lively Zone ชั้นนี้ฉันว่าเหมาะสำหรับวัยรุ่นโดยเฉพาะ เพราะว่าทั้งชั้นมีบรรดาหนังสือที่ถูกใจวัยโจ๋ มีทั้งหนังสือการ์ตูน หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คเรื่องรักกุ๊กกิ๊ก นิยายรักสดใส หนังสือกลอนหวานๆ หรือหนังสือแนวบันเทิงก็มีเช่นกัน

หลังจากที่เดินดูหนังสือที่ชั้น 6 สักพัก ฉันก็เดินขึ้นมาถึงชั้น 7 ตรงนี้เป็น Multimedia Zone & Food Zone ขายพวกสื่อการเรียนการสอน ทั้งซีดีและวีซีดี เดินดูหนังสือกันมาตั้งเจ็ดชั้นแล้ว เหมือนจะรู้ใจว่าฉันเริ่มหมดแรงและหิวได้ที่ เขาจึงจัดให้บนชั้นเจ็ดนี้เป็นศูนย์อาหาร มีร้านอาหารและเครื่องดื่มเปิดให้บริการอยู่บนนี้ด้วย

แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะบนชั้น 9 ก็ยังเป็นที่จัดสัมมนา จัดกิจกรรมต่างๆ เช่นการเปิดตัวหนังสือ รวมไปถึงการจัดกิจกรรมเวิร์คชอปต่างๆ ส่วนชั้นที่ 8 นั้นเขาก็ตั้งใจจะเปิดเป็นโซนหนังสือต่างประเทศ แต่ขณะนี้ยังไม่เปิดให้บริการ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>โซนของเด็กๆ มีทั้งหนังสือทั้งของเล่นเสริมทักษะ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> บางคนอาจจะกังวลว่า เมืองหนังสือกว้างใหญ่ขนาดนี้ ถ้าจะหาหนังสือที่ต้องการสักเล่ม แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน มีหวังคงต้องเดินหาจนขาลาก ตรงนี้ขอบอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะหากต้องการจะหาหนังสือก็เพียงแค่ใช้คอมพิวเตอร์ซึ่งมีระบบค้นหาหนังสือภายในดับเบิล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ซึ่งนอกจากจะทำให้ทราบว่าหนังสือนี้วางอยู่ที่ชั้นใดแล้ว ก็ยังมีแผนที่บอกด้วยว่าหนังสือนี้อยู่ในตำแหน่งไหนของชั้นนั้นๆ จะได้มุ่งตรงไปหยิบได้ถูกที่เลย ซึ่งคอมพิวเตอร์ให้ค้นหานี้ก็จะมีให้บริการอยู่ทุกชั้น แต่ถ้าใครไม่ถูกโรคกับเทคโนโลยีก็แค่เดินไปถามพนักงานให้ช่วยหาให้ก็ได้

นอกจากจะไปเลือกซื้อเลือกอ่านหนังสือจำนวนมหาศาลแล้ว ทางดับเบิล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ก็ยังมีกิจกรรมประจำสัปดาห์ที่น่าสนใจมาจัดสลับหมุนเวียนกันด้วย ซึ่งในวันที่ 28 กรกฏาคม ที่จะถึงนี้ก็มีกิจกรรมน่าสนใจอย่าง การเรียนรู้ธรรมจากชีวิตประจำวัน หัวข้อ "Live And Learn" โดยพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ "ว.วชิรเมธี" ซึ่งท่านจะมาเทศนาธรรมสมัยใหม่ เข้าใจง่าย และสามารถนำหลักธรรมมาใช้ในชีวิตประจำวันในยุคนี้ได้ด้วย ใครสนใจก็เชิญมาฟังกันได้ในช่วงเวลา 13.30-15.30 น. ที่ดับเบิล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ชั้น 2 หรือหากใครพลาดมาฟัง ทางดับเบิล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ก็ยังใจดี นำคำสอนของท่าน ว.วชิรเมธีมาถอดความและจัดพิมพ์เป็นหนังสือธรรมะแจกฟรีจำนวน 2,000 เล่ม อีกต่างหาก ใครที่สนใจฉันแนะนำว่าพลาดไม่ได้เลยทีเดียวล่ะงานนี้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

คลิกอ่านรายละเอียดการเดินทางไปยัง "ดับเบิล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์" ได้ที่นี่
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>