ดวงวิญญาณขอเข้าบ้าน

สวัสดีชาวเวบพลังจิตทุกท่าน..

ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเข้ามาอ่านเว็บพลังจิตเป็นเวลาอันยาวนาน..แต่ไม่ค่อยได้โพสกระทู้ขึ้นเท่าไหร่..

วันนี้อยากจะขอแชร์ประสบการณ์ลึกลับให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันเพลินๆ หนุกหนานนะคะ

เรื่องราวลี้ลับของข้าพเจ้าเป็นประสบการณ์จริง.. เกิดขึ้นสดๆร้อนๆเมื่อวานนี้เอง.... เรื่องมีอยู่ว่า.. เมื่อวานนี้ราว 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนข้าพเจ้าก็ใช้ชีวิตตามปกติอยู่ในบ้านของข้าพเจ้านี่แหละ... แต่ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังจะเดินออกจากห้องของข้าพนั้นเอง..จ อยู่ดีๆข้าพเจ้าก็เริ่มรู้สึกอะไรแปลกๆกับแขนซ้ายของข้าพเจ้า คือเหมือนมีใครกำลังดึงแขนข้าพเจ้าอยู่ทางด้านหลัง!..
(ข้างหลังของข้าพเจ้ามีเพียงหน้าต่างห้องนอนซึ่งมีม่านปิดอยู่)

<O
ข้าพเจ้าก้าวเดินต่อไปข้างหน้า แต่ก็พบว่าแขนซ้ายของข้าพเจ้าไม่ได้แกว่งตามมาเช่นปกติ ยังคงค้างอยู่ด้านหลังในสภาพเหมือนมีอะไรดึงอยู่ทั้งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ไปบังคับอะไรแขนข้าพเจ้าเลย..
ในตอนนั้นข้าพเจ้า ก็นึกขำๆตัวเองว่าเป็นอะไรไปใครดึงแขนเนี่ย.. เอ.. สงสัยคงมีใครกำลังอยากจะบอกอะไรกับข้าพเจ้าล่ะมั้ง ก็เลยลงนั่งสมาธิดู..
<O</O
ระหว่างที่นั่งอยู่ซักพัก ก็พบว่าเหมือนมีใครกำลังบังคับปากข้าพเจ้าให้พูดอะไรบางอย่างออกมา.. (เหมือนเข้าทรง)

ข้าพเจ้าก็เลยลองปล่อยตัวตามสบายดู แต่มีสติอยู่ตลอด.. ก็ลองให้เค้าพูดออกมาซิ จะได้รู้ว่าที่เป็นอยู่คืออะไร..
<O
“เปิดประตูให้ข้าที” คือคำที่โพล่งออกมาจากปากข้าพเจ้า.. ข้าพเจ้าก็รู้สึกหลอนเล็กๆ แต่ไม่ได้ว่าอะไร ก็เลยค่อยๆลุกขึ้นจะลองไปเปิดประตูห้องให้
<O</O
“ไม่ใช่ประตูนี้” อีกคำที่ข้าพเจ้าปล่อยให้เค้าโพล่งออกมาจากปากข้าพเจ้าโดยไม่ได้รู้ล่วงหน้ามาก่อน..
<O
ข้าพเจ้าเริ่มสับสนในใจ ไม่ใช่ประตูนี้แล้วมันจะประตูไหน? ประตูห้องมีอยู่อันเดียว..

ข้าพเจ้าก็เลยหันไปดูตู้พระที่ปิดไว้อยู่ (เป็นตู้ที่รวมสิ่งศักดิ์สิทธ์ไว้.. มีตั้งแต่ พระพุทธรูป ตระกรุด ปี่เซี๊ยะ พระพิฆเนศวร หนุมาน รูปองค์กวนอิม พานพ่อปู่ ..ฯลฯ .. ปกติถ้านั่งสมาธิจะเปิด พอดีเมื่อวานห้องรกมากเลยปิดไว้ เกรงใจท่าน) ก็คิดในใจว่าหมายถึงประตูตู้นี้แหงมๆ..

“ไม่ใช่ประตูนี้” เอาอีกแล้ว..ให้ข้าพเจ้าหาเองคงไม่รู้เรื่องแน่.. ข้าพเจ้าเลยตั้งสมาธิบอกเขาในใจว่า..ช่วยพาไปหน่อยแล้วกันนะ..จากนั้นข้าพเจ้าก็ปล่อยว่างๆให้หมด.. ให้เขาควบคุมร่างข้าพเจ้า.. จากนั้นตัวของข้าพเจ้าก็ค่อยๆขยับเอง..

เขาบังคับตัวข้าพเจ้าค่อยๆเดินๆไปเรื่อยจนไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะ ที่โต๊ะมีลิ้นชัก ในลิ้นชักมีหวยที่ซื้อไว้ (ข้าพเจ้าแอบยิ้มในใจ งานนี้ต้องมาบอกหวยข้าพเจ้าแน่ๆ) และแล้ว มือข้าพเจ้าก็ถูกบังคับให้เอื้อมไปข้างหน้า.. ข้าพเจ้าก็มั่นใจว่าเค้าจะเอื้อมไปเปิดลิ้นชักแน่ๆ.. แต่ผิดคาด.. มือข้าพเจ้าเอื้อมเยื้องออกไปกระชากผ้าม่านหน้าต่างซึ่งอยู่ข้างๆกันให้เปิดออกอย่างแรง!

“ข้าหมายถึงประตูนี้ เปิดประตูให้ข้าหน่อย” คำพูดสุดท้ายที่เฉลยออกมาทำเอาข้าพเจ้าเกือบช๊อก.. ข้าพเจ้ารีบปิดม่านแล้วถอยกรูดออกมาทันที..
<O
“เปิดประตูให้ข้าหน่อย” มาถึงตอนนี้ ข้าพเจ้านั่งนิ่งไม่ยอมให้เขาควบคุมแขนขาอีกแล้ว แต่ยังปล่อยให้ควบคุมปากอยู่ (คือ กลัวก็กลัว แต่ยังข้องใจอยู่ อยากรู้ เลยให้พูดต่อ)
<O
“เจ้าจะไม่เปิดประตูให้เทพเจ้าที่คุ้มครองเจ้าอยู่เชียวรึ?” ข้าพเจ้านั่งนิ่งมองดูหน้าต่างที่ปิดอยู่ แล้วถามเขาในใจว่า เทพเค้าเข้าบ้านกันทางหน้าต่างหรือท่าน? (ถามนี่ไม่รู้จริงๆนะ)

“สรุปว่าเจ้าจะไม่เปิดประตูให้ข้าเข้าไปใช่หรือไม่ ข้าเป็นเทพเจ้าจะเข้าไปคุ้มครองเจ้า” ข้าพเจ้าถามท่านกลับไปว่า ถ้าท่านเป็นถึงเทพเจ้าแล้วท่านเข้ามาเองไม่ได้รึ? แล้วทำไมต้องเข้าทางหน้าต่าง ไม่เข้าทางประตูบ้านล่ะ?T^T ..
<O
“บ้านของเจ้ามีผีบ้านผีเรือนคุ้มครองอยู่ ข้าจะเข้าบ้านเจ้าได้ก็ต่อเมื่อเจ้าของบ้านอนุญาติ ซึ่งเจ้าก็ถือเป็นเจ้าของบ้านคนหนึ่ง” มาถึงขนาดนี้แล้ว ความคลางแคลงใจก็เริ่มเพิ่มขึ้นทุกขณะ ข้าพเจ้าเลยถามท่านกลับไปว่า ท่านใช่เทพเจ้าแบบที่ต้องอุทิศบุญกุศลไปให้ใช่หรือไม่? (คือผีใช่บ่?)
<O
“ข้าคือเทพเจ้าที่อยู่ในศาล(เพียงตา)สีขาว ปากซอยที่เจ้าเดินผ่านอยู่บ่อยๆนั่นแหละ” (ที่ข้าพเจ้าเดินผ่านแล้วโค้งให้บ่อยๆใช่ไหม? ข้าพเจ้าว่าแล้วเชียว T-T)
“อยู่ที่นั่นไม่มีอะไรจะกิน (เขาให้แต่พวงมาลัย) ข้าอยากเข้าไปอยู่ในบ้านเจ้า.. บ้านเจ้าดูอบอุ่น..ฯลฯ..” (ข้าพเจ้าก็ว่ายังงั้นแล T-T)<O></O>
<O
สุดท้าย ข้าพเจ้าก็เลยขอจบที่แผ่เมตตาและอุทิศบุญให้ท่านผู้นั้น ขอให้ท่านไปจุติใหม่ในแดนสวรรค์ จากนั้นท่านก็ไป.. แขนขาร่างกายปากข้าพเจ้าก็กลับเป็นปกติ..<O</O<O
.............................................
แต่ข้าพเจ้าก็ยังสงสัย.. คือยังมีอีก 1 คำถามที่ท่านไม่ได้ตอบข้าพเจ้า.. คือ ทำไมท่านไม่เข้าทางประตูบ้านล่ะ?
............................................<O

มีเสียงแมวแง้วง้าวขู่จะกัดกันอยู่ชั้นล่างสุด ข้าพเจ้าไม่ได้ติดใจอะไร.. คิดว่าเรื่องของมัน..
ซักพักพี่สาวของข้าพเจ้าซึ่งอยู่ในเหตุการณ์มาเล่าให้ฟังว่า.. มีแมวล่ำสีดำตัวใหญ่จะเดินเข้ามาทางประตูบ้าน
แต่เข้าไม่ได้เพราะแมวอ้วนสีขาวที่ข้าพเจ้าเลี้ยงไว้มาขวางเอาไว้.. นั่งแฮ่ใส่เจ้าแมวดำอยู่จากในบ้านนั่นเอง...
... แมวเลี้ยงนี่ก็ถือเป็นเจ้าของบ้านด้วยนี่เอง ... ;k03 ...

 

ขอบคุณ หนุกดี

 

ตกลงได้เข้าหรือเปล่าครับคุณมังกรหยก

มาเล่าให้ฟังอีกนะครับ

 

นั่นดิ ยังสงสัยทำไมท่านไม่เข้าทางประตู แต่ยังเสียวแทนไม่หายตอนที่กระชากม่านหน้าต่าง แล้วเกิดไปเจอว่า "ท่าน" ยืนประจันหน้าอยู่ จะทำเยี่ยงไร...

 

อิอิ ฟิล์มว่าเค้าเจ้าเล่ห์นะคะ มีการบอกเป็นเทพเจ้าจะมาคุ้มครองด้วย อิอิ

 

นั่นดิเราว่าเจ้าเล่ห์มากเลย และที่เข้าทางประตูไม่ได้เพราะโดนแมวขาวที่เลี้ยงไว้ไม่ให้เข้าไง
เลยพยายามจะสื่อคุณเจ้าของกระทู้ เลยมาทางหน้าต่าง อันนี้เราเดาจากรูปการณ์นะ

แต่นึกไปก็น่าเห็นใจ ตรงที่เค้าไหว้กันต่พวงมาลัยไม่มีของกิน เลยทำให้เราคิดเอ๊ะใจว่าถ้ามีปัจจัยและพอมีเวลา เราน่าจะนำอาหารไปถวายให้ศาลเหล่านี้บ้าง เผื่อเค้าไม่หิวจะได้ไปสู่ภพและภูมิที่ดีกว่านี้เนอะ ถ้าไม่ได้อ่านเรื่องนี้เราก็ไม่รู้ นึกไม่ออกเหมือนกัน

เคยได้ยินมาว่า เวลาเราโอนบุญให้กับเค้าเหล่านี้ เราสามารถนึกแปลงบุญให้เป็นอาหาร เสื้อผ้า ฯลฯ ตามที่เค้าอยากได้ก็ได้ เช่น ถ้าเราเห็นเค้าไม่มีเสื้อใส่ ตามความเป็นจริงเราก็คงคิดว่าเค้าคงจะหนาวแน่ๆ ตอนนึกอุทิศส่วนบุญกุศลให้เราก็ขอให้แปลงเป็นเสื้อให้เค้าใส่ด้วย จะดีกว่าไหม ก็ไม่รู้ว่าถูกผิดยังไงเหมือนกันนะคะ ^^"

 

เกี่ยวอะไรกับแมวอ่ะค่ะ

เค้าแปลงร่างเป็นแมวหรอค่ะ

งงอ่ะ

 

คุณมังกรหยก ก็ถือว่าใจถึง+ดวงแข็งนะ ที่อุตสาห์ลงนั่งสมาธิดู ถ้าเกิดเขามาไม่ดีจะเข้าสิงห์ร่าง บังคับให้ทำอะไรๆ ต่อได้ เพราะขนาดแขนซ้ายยังถูกดึงไว้เลย เหมือนข่มขู่เราแล้ว ถ้ามีรอบต่อไปอีก อย่าเสี่ยงจะดีกว่า ไม่รู้วิทยายุทธ์ใครเหนือกว่าใคร

 

กล้าหาญมาก ขอชื่นชมครับ

ไม่ต้องกลัวตายหรอครับ ความตายมีได้ทุกขณะจิต

ขออนุโมทนาในสติที่เข้มแข็งครับ

 

โมทนาด้วยครับ สนุกตื่นเต้นดี พี่(ไม่แท้)ของผมที่เคยปฏิบัติธรรมด้วยธรรมด้วยกันเขาก็เคยโดน ไปนอนโรงพยาบาลมีวิญญาณมาอาศัยด้วยกำลังจะเข้ายึดร่าง ตอนนั้นร่างกายเขาไม่แข็งแรงนิวรณ์เยอะเลยเข้าสมาธิไม่ได้ แต่ยังดีที่นึกถึงหลวงปู่โต ขอให้ท่านช่วยไว้ทัน เลยรอดมาได้

 

ก็น่าสงสารเขานะทำบุญมาน้อยก็ได้เป็นเทพชั้นไม่สูง อนุโมทนาบุญที่ผู้เล่าให้รับทราบ ถือว่าเป็นการเตือนสติผู้ที่ยังอยู่ หากไม่อยากขาดแคลนในภพหน้าละก็ให้มั่นอยู่ใน ทาน ศิล ภาวนาให้มากและหวังพระนิพานเป็นที่พึ่ง

 

อนุโมทนาค่ะ
มีแอบหลอกว่าเป็นเทพเจ้าด้วยนา แต่คุณก็สติดีมากแล้วค่ะ
เป็นปูตอนนั้นก็วิ่งตื๋อออกไปนานแล้ว 5 5
ดีที่คุณได้แผ่ส่วนกุศลของคุณไปให้ หวังว่าคราวนี้ท่านคงสุขสบายขึ้น
เพราะถ้าท่านรู้สึกทุกข์เมื่อไหร่ คงมาหาคุณอีก ฟิ้ว....ปูไปล่ะ 55

 

ยาวจัง แต่ก็ขอบคุณครับ.......

 

ยาวจัง แต่ก็ขอบคุณครับ.......

 

ดีนะคับที่คุณไม่ได้เปิดประตูรับเขา เข้ามาในบ้านของคุณเอง
ไม่งั้นก้อคงจะยุ่งน่าดูเลย ขอชมที่คุณมีสติ คิดรอบครอบดีคับ

 

คุณน้องฟาง
สรุปว่าไม่ได้ให้เข้ามาค่ะ กลัว.. - -" ..

คุณแม่จิงโจ้ และ คุณFCM
มังกรหยกคิดว่าเป็นเหมือนที่คุณmoopanda kae สันนิษฐานค่ะ
อาจเป็นไปได้ว่าที่ท่านไม่เข้าทางประตู เพราะแมวข้าพเจ้าดูท่าทางเค้าอาจจะหวงที่อ่ะค่ะ (ปกติที่บ้านจะอยู่กันแบบแบ่งโซนค่ะ ชั้นบนของคน ชั้นล่างของแมว) คาดว่าเลยสื่อออกมาในรูปแบบนี้น่ะค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกันนะคะ;aa32
ขอบคุณทุกความคิดเห็นของทุกท่านนะคะ แล้วไว้จะมาโพสให้อ่านกันอีกนะคะ ;aa32

 

สติเธอดีมากๆ อันนี้ยอมรับ

 

เพราะเค้าอาจคุยกับคุณได้ง่ายที่สุดมั้ง

 

ฮาดีค่ะ ลีลาการเขียนสนุกมาก จะว่าเป็นแล้ววิญญาณทิพย์ท่านนี้ก็มีกำลังพอควรเลยนะ
ไว้มีเรื่องอะไรเขียนเล่าสู่กันฟังอีกนะค่ะ โมทนา ค่ะ

 

อนุโมธนาด้วยครับ แต่สงสัยว่าในเมื่อยังเข้าบ้านไม่ได้สามารถใช้อำนาจบังคับรายกายเราที่อยู่ในบ้านได้ แสดงว่าท่านอิทธิฤทธ์มากหรือเปล่าครับ ใครรู้ช่วยให้ความกระจ่างที่ครับ