จำเป็นต้องมี " อาจารย์ " ไหม

ทุกท่านมีอาจารย์กันไหมในด้านนี้

สำหรับผม ผมไม่มี อาศัยอ่านแล้วลองทำตามดู

เหตุเกิดของคำถามนี้เพราะ มีบางอย่างมารบกวนผมครับ

ในตอนที่ผมทำสมาธิ หรือ ตั้งจิตตั้งใจทำอะไรสักอย่าง

บางครั้งก็มีตัวต้น บางครับก็มาในรูปแบบอื่น กลิ่น เสียง อื่นๆ

ผมชอบเรื่องพวกนี้ สมาธิ จิต คาถา เวทย์มนตร์

เพราะผมชอบอ่าน อ่านแล้วลองทำดูสนุกๆ

ไม่ได้คิดอะไร ทำติดก็ได้รู้ ทำไม่ติดก็คิดว่าเล่นสนุก

แต่แล้วพวก......ก็มารบกวน ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร

คือบ้านผม หลังบ้านเป็นสุสารคนจีน

วันดีคืนดีก็เหมื่อนมีคนปล่อยของลอยมาตามอากาศ

บ้างก็เป็นเสียงหัวเราะ บ้างก็เป็นเสียงร้องไห้

บ้างก็เป็นกลุ่มควันสีดำลอยมาเรื่อยๆ ไม่มีทางทีว่าจะสลาย

และในช่วงนั้นผมทำสมาธิพอดี เหมื่อนจูนพวกนั้นเข้ามาหา

พวกนั้นก็แนวข่มขู่ จะทำร่าย บังตา ซ่อนของ แกล้งทุกอย่างที่คิดว่าสนุก

ผมก็เลยอยากจะถามทุกท่านว่า

เราสามารถทำอะไรได้ดวยตัวเราเองไหมในเรื่องพวกนี้

หรือ

ต้องมีคำแนะนำจากผู้เชียวชาญในด้านนั้นๆ

ผมไม่ได้อยากจะแก้แค้นหรืออะไร

ผมแค่อยากจะตอบโต้หรือปัดออกไปให้ไกลตัวแค่นั้นเอง

แต่เคยลองทำดูแล้ว ที่เคยอ่าน

ทำไม่ได้ เหมื่อนวิชาเขาแข็งกว่า

ผมก็แค่งูๆปลาๆ

จำๆลองมาทำดู

มีอะไรแนะนำผมได้นะครับ

 

ลองศึกษาคำแปลของบทสวดพุทธคุณต่างๆ แล้วก็เอาอันนั้นล่ะมายึดเป็นอารมณ์
ถ้ามีอะไรมาก็ อิติปิโส ไปครับ บทนี้ดีที่สุดแล้ว ง่ายๆแต่อานุภาพสุดยอด

ถ้าคุณอยากหาอาจารย์มาสอนก็ดีนะครับ คุณจะได้รู้แนวทางการปฏิบัติ ตอนแรกผมเองก็ทำเองเหมือนกัน แต่พอมีอาจารย์คอยแนะนำไปด้วย ศึกษาจากแหล่งต่างๆไปด้วย มันก็จะพัฒนาไปได้ไวเลยครับ
พัฒนาจิตใจเราไปเรื่อยๆจริงๆแล้วแค่นี้ก็มีเทวดาชั้นฟ้าทั้งหลายมาช่วยคุ้มครองแล้ว จะมีที่ไม่ดีๆบ้างก็ที่เกิดจากกรรมทั้งหลายของเรานะครับ

 

ตอนผมศึกษาไสย์แรกๆก็เป็นแบบนี้ครับ
มีทั้งเด็กคนแก่ทหารมาแกล้ง ตุ๊กตาไม้บ้าง มันมาปลุกผมตอนเช้า
ทุบกระธางธูปผมแตกด้วย จะเห็นมันก็ต่อเมื่อสะลึมสะลือครับ
หรือไม่ก็เหมือนผีอำ หรือมีเสียงรบกวน ไม่สงบ

แต่แบบนี้จะเป็นระยะแรกครับ ผมมองว่าเหมือน รับน้องนะครับ แต่่ก็หนักเหมือนกันครับ
เดี่ยวเขาก็เลิก เราต้องเข้มแข็งไว้ครับ ตอนนั้นผมต้องเอาสายสินจน์ ล้อมที่นอนเลยครับ ถึงจะนอนได้

อาจารย์ ต้องมีครับ แต่คนที่สนใจทางสายนี้ มีอาจาร์ยอยู่แล้วครับ
ถ้าคนไม่ใช่สายนี้ ต่อให้มีตำราเท่าไหรก็ไม่สนใจหรอกครับ

แต่ถ้าหาอาจารย์ ที่เป็นคนไม่ได้
ก็ไหว้ครูครับ จะมีวิธีไหว้ครูในตำรานะครับ
ของไหว้ครู ก็มีบายศรี ซื้อเอาแบบชามโฟมก็ได้ครับ
หมากพลูบุหรี่ ผลไม้ตามฐานะเลยครับ

พอไหว้ครูแล้วก็ ศึกษาตามตำราได้เลยครับ มีอะไรก็อธิธานบอกอาจารย์เอา


แต่สำคัญคือ ขณะศึกษาในตำราต้องมีศีล5นะครับ
เมามาหรือแฮงค์มาทำไม่ได้นะครับ ผิดครู ผมโดนมาแล้วครับ

ตำราหาซื้อ ได้ที่ตลาดจตุจักร แผงหนังสือที่24ครับ ตำราทางนี้ทั้งนั้นเลย
ไม่แพงด้วย

ส่วนท่านที่มารบกวน เราก็ไม่ต้องตอบดต้แต่อย่างใดครับ แผ่เมตตาให้เขาครับ
เดี่ยวเขาแกล้งเราไปเรื่อยๆเขาก็เลิกเองครับ ขอให้ ใช้ ขันติ ครับ

มีอะไรก็ PM คุยกันได้นะครับ ผมศึกษาสายนี้ มา9ปีแล้วครับ

 

แต่อย่าลืม เอาพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้งนะครับ วิชาไหนที่พิจรณาแล้วว่าเป็นไสย์ดำ
ก็ไม่ควรศึกษาทดลองนะครับมันเข้าตัว ตำราบางเล่มมีทั้ง พุทธคุณและมนต์ดำ

เพราะผลของวิชา พุทธคุณ ก็มาจาก อำนาจคุณพระรัตน์ไตยแลครูอาจาร์ยทั้งนั้นครับ
ไม่ใช่มาจากตัวเราครับ ตัวเราเป็นแค่สื่อครับ


ถ้ายังไม่ได้บวช แล้วอยากจะเรียนทางนี้จริงๆ ผมแนะนำพระอาจารย์ให้ได้นะครับ

 

ผมไม่อยากให้คนมอง วิชาเหล่านี้ว่า ทำให้คนหลงผิดทาง
แน่นอนครับ ไสย์เวทย์ไม่ได้พาหลุดพ้น
การเรียนดนตรีก็ไม่ได้พาหลุดพ้น
การเรียนกวดวิชาก็ไม่ได้พาหลุดพ้น

มันคนละเรื่องกันนะครับ วิชาเหล่านี้ แค่ options เสริมครับ เหมือนกับเราไปเรียนเสริมสวยแหละครับ

เพราะมีคนมองไม่ดีจริงๆครับ(ในเว็ปนี้แหละครับ)

 

ข้าพเจ้าไม่มีที่พึ่งอื่น ขอยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรนะ

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ฯ ข้าพเจ้า ขอถึง ซึ่งพระพุทธเจ้า ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่ง ที่อาศัย ฯ

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ฯ ข้าพเจ้า ขอถึง ซึ่งพระธรรมเจ้า ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่ง ที่อาศัย ฯ

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ฯ ข้าพเจ้า ขอถึง ซึ่งพระสงฆเจ้า ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่ง ที่อาศัย ฯ


ทุติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ฯ ข้าพเจ้า ขอถึง ซึ่งพระพุทธเจ้า ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่ง ที่อาศัย แม้ครั้งที่สองฯ

ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ฯ ข้าพเจ้า ขอถึง ซึ่งพระธรรมเจ้า ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่ง ที่อาศัย แม้ครั้งที่สอง ฯ

ทุติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ฯ ข้าพเจ้า ขอถึง ซึ่งพระสงฆเจ้า ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่ง ที่อาศัย แม้ครั้งที่สอง ฯ


ตะติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ฯ ข้าพเจ้า ขอถึง ซึ่งพระพุทธเจ้า ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่ง ที่อาศัย แม้ครั้งที่สาม ฯ

ตะติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ฯ ข้าพเจ้า ขอถึง ซึ่งพระธรรมเจ้า ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่ง ที่อาศัย แม้ครั้งที่สาม ฯ

ตะติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ฯ ข้าพเจ้า ขอถึง ซึ่งพระธรรมเจ้า ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่ง ที่อาศัย แม้ครั้งที่สาม ฯ

 

บุญคุณมิได้มีไว้เพื่อทวงถาม .... เมื่อใดที่ทวงถามเมื่อนั้นก็มิใช่บุญคุณ

บุญคุณมีไว้ตอบแทน เมื่อถึงเวลา

^_^

อย่าได้เคืองเราเลย นี่คือหน้าที่ของเรา

ความจริงจะสลายมายาภาพ หากยอมรับความจริง

ตัวท่านเองก็จะได้รับการยกระดับด้วยเช่นกัน

......

ไม่ละจากสิ่งเดิม แล้วรับสิ่งใหม่ได้อย่างไร

หรือว่ายังเสียดาย