จะเกิดอะไรขึ้นในปี 2012 กันเเน่?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Utopia Light, 24 ตุลาคม 2011.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Utopia Light

    Utopia Light สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    [​IMG]

    ก่อนที่จะอธิบายว่าในปี 2012 จะเกิดอะไรขึ้น
    คุณต้องรู้ก่อนว่า สิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้เกิดขึ้นจากอะไร
    ในความเป็นจริงเเล้ว โลกที่พวกเรากำลังอาศัยอยู่ ณ ขณะนี้
    มีต้นกำเนิดที่เหมือนกับร่างกายของคนเรา นั้นก็ คือ คลื่นความถี่
    หรือ การสั่นสะเทือนของคลื่นพลังงาน
    จิตวิญญาณ ไม่ได้มีลักษณะเป็นควันอย่างที่เราเข้าใจกัน
    เเต่มีลักษณะภายในเป็นคลื่นเเละเคลื่อนไหวตลอดเวลา เหมือน คลื่นในเเม่น้ำ

    คุณสัมผัสพลังดังกล่าวได้จากการเต้นของชีพจร
    ภายใต้ร่างกายของเรามี อุณหภูมิความร้อนที่เกิดจากพลังของจิต
    เมื่อคุณคิดมากไป คุณจะปวดหัว ตัวร้อนเเละเป็นไข้อุหภูมิสูง นั้น คือ การสร้างพลังธาตุไฟที่มากเกินไป
    คนบางคนที่ฝึกพลังยุทธจึงเกิด สภาวะ ธาตุไฟเเตก เพราะ พลังจิต คือ ธาตุไฟนั้นเอง

    [​IMG]


    โดยการทำงานจาก จักระทั้ง 7 จุด ภายในเเละมีจักระเล็กๆที่กระจายอยู่รอบๆตัวเราเช่นเดียวกัน
    จักระ เเปลว่า วงล้อ จะทำการขับเคลื่อนร่างกายภายในของมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้
    ซึ่ง คลื่นความถี่ดังกล่าว มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้
    ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์ สัตว์ สิ่งของ หรือ เเม้เเต่จักรวาลเองก็ตาม

    เรารู้จักกันในชื่อว่า ออร่า
    โดยมีร่างกายเป็นยานพาหนะในการขับเคลื่อนร่างกายตัวเองที่เเท้จริงไปในมิติต่างๆ
    สรุปว่า ร่างกายที่เเท้จริงของพวกเรา คือ จิตวิญญาณ
    เกิดขึ้นจากความคิด = พลังจิตโดยอาศัยร่างกายชั่วคราวในการอยู่ในสถานที่ต่างๆบนโลก
    หรือ ดวงดาวเเต่ละดวงในมิติต่างๆ

    เนื่องจาก มนุษย์มีคลื่นความถี่ที่เเตกต่างจากสิ่งมีชีวิตในมิติอื่นในมิติต่างๆ
    จึงทำให้ไม่สามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตในมิติอื่นด้วย ดวงตาได้
    วิธีเดียวที่จะทำให้มองเห็นพวกเขาได้ ก็ คือ การสื่อสารผ่านทาง คลื่นความถี่
    หรือ โทรจิต ด้วยการเปิดใจให้ว่างเเล้วฟังเสียงภายในนั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2011
  2. Utopia Light

    Utopia Light สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    พอเข้าใจตัวเองมากขึ้นเเล้วนะคะ ที่นี้
    เมื่อคุณคิดสิ่งใด คุณจะพาร่างกายของคุณไปในที่นั้นๆ
    เเสดงพฤติกรรมทั้งสุข ทุกข์ ตามที่คุณปราถนาโดยมีการคิดล่วงหน้าก่อนเพียงไม่นาน
    หรือ ตัดสินใจทันที ล้วนเกิดจากการสั่งการของ ความคิด (พลังจิต) อันดับเเรก
    เเต่ว่า มนุษย์เเต่ละคนมี คลื่นความถี่ไม่เท่ากัน บางคนสูง บางคนต่ำ
    ตามอารมณ์เเละความนิ่งภายในจิตวิญญาณของพวกเขาเเต่ละคน

    เเล้วมันเกี่ยวอะไรกับ ปี 2012?
    เกี่ยวเเละสำคัญมากที่สุด เพราะ คลื่นความถี่ของคุณจะเป็นตัวสำคัญ
    ในการพายานพาหนะของคุณจะให้ไปพบทางรอด หรือ ผจญภัยพิบัติบนโลกนั้นเอง


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2011
  3. Utopia Light

    Utopia Light สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    <hr class="hrcolor" size="1" width="100%"> [​IMG]

    โลกกำลังจะเกิดการเปลี่ยนเเปลง จากยุคมืดก้าวไปสู่ ยุคเเห่งเเสงสว่าง
    ในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 คือ ปีใหม่เเละปีเเห่งเเสงอรุณของดาวเคราะห์โลก
    เเละ โลกก็เป็นอย่างนี้มาเสมอในทุกๆ 26,000 ปี
    สมัยก่อนมนุษย์มีDNAทั้งหมด 12 คู่สาย เเละ ฉลาดมากขนาดสื่อสารกับจักรวาลอื่นได้
    สมัยเเอนเเลนติส ผู้คนสามารถทำอะไรก็ได้ สร้างอะไรก็ได้ โดยเเทบจะไม่ต้องเคลื่อนไหวอะไรเลย
    คุณสามารถเปลี่ยนเเปลงโลกได้ทั้งใบด้วยจิตใต้สำนึกภายใต้คลื่นความถี่สูงระดับนี้
    สมัยนั้นพวกเรา คือ ผู้สร้าง เข้าใจว่าทุกอย่าง คือ สิ่งเดียวกันเเละสัมพันธ์กัน รู้จักที่จะรักอย่างไร้เงื่อนไข
    จะเห็นได้จากประวัติตามคัมภีร์โบราณ เเต่เมื่อ โลกก้าวสู่ยุคมืด
    มนุษย์ก็กลับเข้าไปสู่ยุคมืดเช่นเดียวกัน ลงไปอยู่ใน มิติที่ 3 อย่างที่พวกเราอยู่กันทุกวันนี้
    โดยไม่เข้าใจเรื่องพลังจิต เเละการใช้ตาที่สาม สุดท้าย ต่อมไพนีลก็ลดลง
    จากขนาดลูกตา (ถึงเรียกว่า ตาที่สาม) เหลือเท่าเมล็ดถั่วเขียว เเละ DNA ก็เหลือเพียง 2 คู่สายเท่านั้น
    พวกเราลืมการหายใจที่ถูกต้องเข้าสู่ร่างกายจากเคยอยู่ได้เป็นพันปีก็เหลือเพียงไม่กี่สิบปี
    ทำให้มนุษย์ต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งเเต่ คิดค้นการสร้างไฟกันเลยทีเดียว
    เหมือนกับเราเคยเป็น คอมพิวเตอร์เทพ เเต่โดนล้างเครื่องทิ้งกลายเป็นเพียงกระป๋องเปล่าๆนั้นเอง
    พวกเรามีความฉลาดเเละร่างกายที่เพอร์เฟคเเต่ไม่รู้ว่าจะใช้ยังไงในเเบบที่ถูกต้อง
    เเละนั้น คือ เหตุผลว่าทำไมมนุษย์ถึงมีความสมบูรณ์เเบบกว่าสัตว์ต่างๆในมิติที่สามมาก

    13,000 ปีหลังจากนั้น โลกก็ตกอยู่ในอำนาจของพลังงานมืด ผู้คนเเบ่งเเยก ทุกคนเห็นเเก่ตัว
    ก่อสงคราม เเละทำลายสิ่งเเวดล้อม เเละถ้ามนุษย์ยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไป
    โลกก็จะกลายเป็นดวงดาวที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตเเละกลายเป็นดินเเดนทะเลทรายเหมือนอย่าง ดาวอังคารเเน่นอน


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2011
  4. Utopia Light

    Utopia Light สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    [​IMG]

    ในขณะที่มนุษย์จำนวนมากกำลังอัพเกรดเเละตื่นขึ้น
    ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยถูกกำลังฝ่ายมืดพยายามควบคุมโลกใบนี้ต่อ
    ด้วยสื่อต่างๆเเละวงการเพลง เเละหลักคำสอนในหลายๆศาสนา
    โดยมีผู้นำ ผู้บริหารประเทศ ศิลปินในการสะกดจิต
    เเละ ควบคุมต่อม
    ไพนีล
    หรือ ดวงตาที่สามให้เชื่อตามต่อไป

    [​IMG]


    คนจำนวนไม่น้อย ได้สร้างหายนะมอบให้เป็นของขวัญกับตัวเอง
    ด้วยการเชื่อ คำทำนายผ่านผู้มีญาณต่างๆ เชื่อคำทำนายตามคัมภีร์ต่างๆ
    สุดท้ายก็ต้องอยู่ด้วยความหวาดระเเวงในสิ่งที่พวกเขาเชื่อตามไปตลอดทั้งชีวิต
    ทั้งๆที่จริงๆเเล้ว ทุกคน คือ ผู้สร้างโลกให้กับตัวเอง ด้วยพลังจิตทั้งสิ้น
    ไม่มีใครที่จะมีโลกเเห่งความเป็นจริงที่เหมือนกัน

    กฎการทำงานของกายเเละจิต คือ คิดเเล้วจึงพูด คิดเเล้วจึงทำ คิดเเล้วจึงสร้าง
    ทุกอย่าง มีสิ่งที่เรียกว่าอำนาจสูงสุดในการสร้างโลกใบนี้ที่เหมือนกันก็ คือ ความคิดอันดับเเรก
    อยู่ที่ว่าคุณเลือกที่จะคิดว่าอะไร คุณก็สมปราถนาตั้งเเต่ เริ่มต้นคิดเองได้เเล้ว

    ตอนนี้โลกกำลังเคลื่อนไหวไปสู่จุดที่สูงของ คลื่นความถี่ที่ทำให้มนุษย์กลับมาเป็น ซุปเปอร์ฮีโร่อีกครั้ง
    DNA ของพวกเราได้เริ่มมีวิวัฒนาการจาก 2 เป็น 3,4,5
    เเละจะสมบูรณ์ที่สุดในวันที่ 21 ธันวาคม ปี 2012
    พร้อมกับร่างกายใหม่ที่มี DNA 12 คู่สาย

    ซึ่งคุณจะรู้สึกได้ในสองสามปีที่ผ่านมา พวกคุณอาจจะรู้สึกปวดหัว ป่วย ไม่สบายตัว
    เเละอาจจะเข้าโรงพยาบาลอยู่จนเคยชิน โดยบางครั้งเเม้เเต่เเพทย์ก็หาข้อสรุปไม่ได้
    เเต่ไม่ต้องกังวลใจเพราะเมื่อผ่านปี 2012 ไปเเล้ว
    พวกคุณทุกคนที่อยู่บนโลกจะมีสภาวะที่ดีกว่าเดิมมาก
    เเละเเน่นอนก็จะมีการจัดสรรเเละคัดสรรผู้คนให้ไปอยู่ในที่ที่เหมาะกับกลุ่มพวกเขา
    เเละ พวกเราก็จะถูกเเยกออกมาโดยอัตโนมัติ
    ด้วยการถูกกักบริเวณให้อยู่เเต่ในเฉพาะที่ ไม่ให้ไปไหนเป็นเวลา หลายปี

    การอพยพเเละการคัดสรรได้ถูกออกเเบบเเละวางเเผนไว้นานเเล้วโดยที่พวกคุณไม่รู้ตัว
    การอพยพ ไม่ใช่ การย้ายที่อยู่ ย้ายประเทศ หรือ ย้ายจังหวัด
    เเต่เป็นการ ปรับวิถีการคิด เเละ คลื่นความถี่ให้มีความถี่เดียวกับโลกเเละจักรวาลในปีหน้า
    ถ้าคุณไม่สามารถทำจิตใจให้ตั้งอยู่ในความดีได้
    คุณก็จะต้องไปอยู่ในมิติเดียวกับผู้คนที่อยู่กับภัยพิบัติ
    ตามความคิดเเละหน้าที่ที่คุณสร้างเงื่อนไขให้กับตัวเองในเเต่ละคน
    ไม่มีใครเป็นผู้นำใครได้นอกจาก "ตัวของคุณเองเเละเส้นทางที่คุณเลือกให้ตัวเอง"
    ร่างที่เเท้จริงของคุณ คือ จิตวิญญาณ ที่จะพายานพาหนะไปในที่ปลอดภัย
    ด้วยการขับเคลื่อนของจิตใต้สำนึกนั้นเอง
    นั้น คือ การอพยพ ย้ายมิติไปสู่ มิติที่สูงขึ้นตาม คลื่นความถี่เดียวกับโลก
    ไม่ใช่การขึ้นเรือโนอา หรือ ยูเอฟโอ ของมนุษย์ต่างดาวอย่างที่ผู้คนส่วนมากเข้าใจกัน
    [​IMG]
    ถึงคุณจะอยู่โลกใบเดียวกัน เเต่คลื่นความถี่ต่างกัน
    พวกเราก็ไม่มีทางเจอกันได้ เพราะสังคมไม่เหมือนกัน
    เปรียบเทียบก็เหมือนกับคนชอบเล่นเกมส์ก็จะมีเพื่อนชอบเล่นเกมส์เหมือนกัน
    คนชอบออกกำลังกายก็จะไปเจอกันใน ฟิตเนต คนชอบเรียนก็จะไปเจอกันในห้องสมุด
    เเละนั้นก็เป็นวิถีทางของการทำงานเเบ่งมิติเเบบง่ายๆที่อยากให้คุณลองจิตนาการตาม
    พวกเราจะสื่อสารกับคนที่สนใจในสิ่งเดียวกัน
    ถ้าคุณไม่สนใจเรื่อง จิตวิญญาณ พลังจิต เเละโทรจิต คุณก็ไม่มีวันที่จะสื่อสารได้เเน่นอน
    ส่วนคุณ อยากจะอยู่ในคลื่นความถี่ไหนก็อย่าปล่อยให้สังคมมาบีบบังคับให้เชื่อตาม
    เเต่จงเป็นอิสระเเละเลือกที่จะเชื่อในเเบบที่ตัวเองปราถนาก็เพียงพอเเล้ว
    เเบบเเผนการอพยพหนีภัยพิบัติในปีหน้า
    เเละคำทำนายที่เกลื่อนเมืองอยู่ ณ ขณะนี้ มันไม่ใช่ข้อมูลสำหรับทุกคน
    เเต่มันเป็นข้อมูลสำหรับคนที่ใช้ชีวิตโดยประมาทในการสร้างความดีในทุกวันก็เท่านั้นเอง
    ซึ่งถึงจะรู้ทางหนีทีไล่ดีเเค่ไหน ยังไง กรรมก็ตามเจอพวกเขาอยู่ดี ไม่รู้จะหนีไปไหนทำไมกัน


    [​IMG]


    ส่วนจะเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ ก็เเล้วเเต่ตัวคุณเอง
    เพราะ ทุกคนมีความเชื่อเเละศรัทธาที่เเตกต่างกัน
    อย่าให้ใครมาทำลายศรัทธาในตัวเองก็พอ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • aud0207.gif
      aud0207.gif
      ขนาดไฟล์:
      15.2 KB
      เปิดดู:
      1,578
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2011
  5. Utopia Light

    Utopia Light สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    น้ำเขามีชีวิตจริงๆเเละมีพลังมหาศาลมากด้วยถ้าไม่อยากน้ำท่วมก็ขอขมาเขาซิ

    <iframe src="http://www.youtube.com/embed/tru4PyM0bEA" allowfullscreen="" frameborder="0" height="360" width="480"></iframe>
    น้ำ...ได้ชื่อว่าเป็นสสารที่มีความสามารถในการเก็บกัก หรือเป็นสื่อรับพลังงานต่างๆ ได้ดี
    เห็นง่ายๆ ได้จากปรากฏการณ์ลมบก ลมทะเล เป็นต้น (น้ำทะเลคลายความร้อนได้ช้ากว่าดิน)
    และมนุษย์เราก็เหมือนจะรู้ถึงพลังธรรมชาติ ในข้อนี้ และนำมาใช้ในแบบต่างๆ
    รวมทั้ง การทำน้ำมนต์ หรือประเพณีสงกรานต์ของไทย ก็มีความเกี่ยวข้องในข้อนี้
    สงสัยรึเปล่าว่าทำไม??...


    ได้ดูเรื่องราวที่น่าสนใจมา "Messages from Water"


    เป็น Video (สารคดี?) สั้นๆ เกี่ยวกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์
    ซึ่งทำให้เห็นความจริงบางอย่าง ที่เกี่ยวกับ



    ธรรมชาติ - วิทยาศาสตร์ - จิต

    น่านๆ อย่าเพิ่งเบื่อว่าจะวิชาการ เพราะเราก็เบื่อ555
    เพราะงั้นจะเล่าให้ฟังแบบบ้านๆ ละกันนะ :)


    การทดลองนี้ทำโดย Dr.Masaru Emoto ชาวไทย สัญชาติไทยแท้........


    [​IMG]


    Dr.Masaru Emoto


    บ้าเรอะ! ล้อเล่น ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นชาวญี่ปุ่น555

    เค้าทดลองโดยการส่องดูโมเลกุลของน้ำ โดยพบว่า

    รูปผลึกของน้ำมีความสวยงาม และหลากหลายแตกต่างไป

    ตามแหล่งต่างๆ และสภาวะสิ่งแวดล้อม



    [​IMG]


    Spring Water of Saijo in Japan


    [​IMG]


    the fountain of Lourdes in France


    ว่าแต่ว่า เอามาส่องอย่างเดียวแล้วมันจะสนุกอะไรล่ะฮิ!

    เพราะเค้าได้ทดลองกระทำการหลายๆ อย่างกับน้ำ
    ซึ่งก็ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์ใจทีเดียว
    อย่างเช่นการเปิดเพลง แบบต่างๆ ให้น้ำฟัง

    ถ้างงว่าจะเปิดให้น้ำฟังทำไม นั่นก็เพราะว่ามันเกี่ยวกับการรับส่งคลื่นพลังงานแบบต่างๆ นั่นเอง
    เพลงแต่ละแบบก็จะมีคลื่นพลังงานที่ต่างกัน เพลงช้า เร็ว นุ่มนวล รุนแรง คลาสสิค ร็อค ฯลฯ


    [​IMG]


    Bethoven Pastoral


    [​IMG]


    Mozart Symphony

    จากการทดลอง น้ำที่มาจากแหล่งเดียวกัน เมื่อฟังเพลงที่ต่างกัน ก็ทำให้ผลึกของน้ำนั้น
    เปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบที่ต่างกัน ถ้าเป็นเพลงคลาสสิค ผลึกของน้ำนั้นจะออกมาสวยมาก
    แต่ละเพลง และแต่ละศิลปินก็มีความแตกต่างกันไปด้วยนะ
    ถ้าเป็นเพลงในรูปแบบอื่นๆ ก็แตกต่างออกไปเช่นกัน ถ้าเป็นเพลงที่รุนแรงมากๆ

    ผลึกของน้ำก็จะไม่เป็นเกล็ดสวยงาม


    [​IMG]


    Crystalof water that had beenexposed to a playing of

    "Heavy Metal" Music

    รูปผลึกน้ำหลังมีการเปิดเพลงร็อคที่รุนแรง

    [​IMG]


    Bach’s Air for the G String
    [​IMG]
    Crystal of water that had been exposed to a playing of
    Kawachi Folk DanceSong
    รูปผลึกน้ำหลังมีการเปิดเพลง"คาวาชิ" โฟลคเดนซ์
    ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้นก็คือ
    "คำ" หรือ "คำพูด" ของคนเราเนี่ย ก็มีผลกับผลึกของน้ำเหมือนกัน!
    มีการทดลองที่ให้คนมารุมพูดคำดีๆ ยกย่องชมเชยใส่น้ำ...ผลึกก็ออกมาสวย
    พอให้คนมารุมด่าด้วยความเกลียดชัง ด้วยคำร้ายๆ...ผลึกก็ออกมาดูน่ากลัว
    แต่รู้สึกว่าจะใช้คำๆ เดียวในการพูดใส่นะ เพราะแต่ละคำก็ให้ผลที่ต่างกัน
    นี่ก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า "คำพูด" ของเรานั้น มีพลังมากกว่าที่คิด
    [​IMG]
    "Love /Appreciation"
    รูปผลึกน้ำที่กล่าวคำว่า "รัก/หรือคำยกย่องชมเชย"
    [​IMG]
    “you make me sick. I will kill you.
    "คุณทำร้ายฉัน,ฉันจะฆ่าคุณ"
    และที่เราว่าแปลกสุดๆ คือ
    แค่ใช้กระดาษที่เขียน "คำ" ต่างๆ แปะไว้ที่ขวดซึ่งใส่น้ำอยู่
    ย้ำว่าแค่เขียนใส่กระดาษและแปะไว้ที่ขวดนะ เช่น
    รัก ขอบคุณ ไอ้โง่...
    และรวมไปถึงการติดรูปภาพที่ให้ความรู้สึกต่างกัน
    ก็มีผลกับผลึกน้ำเช่นกัน
    [​IMG]


    Crystalof water that had been exposed to the words

    "Thank you" Typed on a paper pastedon the bottle

    รูปผลึกน้ำที่มีคำว่า"ขอบคุณ"ติดอยู่ข้างขวด


    [​IMG]

    ติดคำว่า Demon (ภาษาญี่ปุ่น) ไว้ข้างขวด


    [​IMG]

    การถ่ายภาพผลึกน้ำ และการทดลอง


    ทีนี้พอจะเชื่อมโยงได้รึยัง ว่าทำไมถึงมีน้ำมนต์(มีในหลายศาสนาเลยนะ)

    การสวด การส่งคลื่นพลังดีๆ ไปสู่น้ำ ก็ทำให้น้ำเป็นน้ำที่มีคลื่นพลังดีๆ ไปด้วย

    เพราะความจริงเรื่องของจิต ถ้าจะอธิบายให้เป็นวิทยาศาสตร์

    มันก็คือคลื่นความถี่แม่เหล็กไฟฟ้ารูปแบบหนึ่งนั่นเอง

    แล้วอย่างเทศกาลสงกรานต์ของไทยเนี่ย การรดน้ำดำหัวมันก็เหมือนเป็นการ

    ใช้น้ำเป็นสื่อช่วยในการส่งคำอวยพรต่างๆ ไปสู่ผู้รับนั่นเอง


    [​IMG]

    Watercrystal of Fujiwara Dam before offering a prayer

    รูปผลึกน้ำจากเขื่อนฟูจิวาร่า ก่อนนำมาทำน้ำมนต์


    [​IMG]

    Watercrystal of Fujiwara Dam after offering a prayer

    รูปผลึกน้ำจากเขื่อนฟูจิวาร่า หลังผ่านการสวดมนต์

    [​IMG]

    Tibet Sutra

    แล้วถ้าถามว่า จะส่องดูผลึกน้ำสวย ไม่สวยแล้วมันยังไง มีประโยชน์อะไร

    ก็อยากให้ลองนึกดูดีๆ อย่าลืมว่า ร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 70% (เชียวนะ!)

    เพราะน้ำเป็นองค์ประกอบของเซลล์ทุกเซลล์

    ดังนั้น ถ้าเรา "คิดดี" "พูดดี" "ทำดี"

    "รับ" และ "ให้" ในสิ่งดีๆ

    สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลดีกับตัวเราแน่นอน

    ถ้าใครอยากดู Clip Video ใน Youtube ก็มีนะ มีหลายอัน(ไม่แปะให้อีกแน่ะ555)


    ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม

    Hadolife
    Message from water - PaLungJit.com

    ภาพเพิ่มเติม
    Masaru Emoto: Messages from Water
    Hadolife


    <iframe src="http://www.youtube.com/embed/PYDzVlK5IS8" allowfullscreen="" frameborder="0" height="360" width="480"></iframe>

    <iframe src="http://www.youtube.com/embed/bmhWsPNrRgs" allowfullscreen="" frameborder="0" height="360" width="480"></iframe>

    <iframe src="http://www.youtube.com/embed/0Kxyvj0l0Jg" allowfullscreen="" frameborder="0" height="360" width="480"></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2011
  6. Utopia Light

    Utopia Light สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    English Version

    <iframe src="http://www.youtube.com/embed/_Ljz7SVBCoU" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" width="560"></iframe>

    <iframe src="http://www.youtube.com/embed/tNlmJlR6gD0" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" width="560"></iframe>

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2011
  7. Utopia Light

    Utopia Light สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    สิ้นสุดการทำงานของผู้ชายในที่สุด

    [​IMG]

    ปีนี้ก็ปล่อยให้ ผู้ชายทำงานเป็นปีสุดท้ายไปก่อน

    หลังจากปี 2012 ก็ถึงเวลาที่สาวๆจะออกมาทำงานใน<wbr>ที่เเจ้งกันซะทีนะจ๊ะ

    1 ปีโลกรอบกาเเล็คซี่ของเราจะเท่ากับ 26,000 ปีใหม่มนุษย์

    รอบเช้า - รอบเย็น จะกินเวลา 13,000 ปีมนุษย์ (ยุคสว่าง = เพศหญิงทำงาน)

    ซึ่งสาวๆจะเริ่มต้นรับตำเเหน่งใหม่ อีกครั้งประมาณปี 2013 เป็นต้นไป

    รอบค่ำ - เช้ามืด จะกินเวลา 13,000 ปีมนุษย์ ยุคมืด = เพศชายทำงาน เพื่ออำนาจชื่อเสียงเเละทรัพย์สิน

    ซึ่งผู้ชายทำงานมาครบวาระเเล้ว

    สรุป....เตรียมดีใจได้เลย เพราะ คุณผู้หญิง คุณเเม่ คุณภรรยา เเละ ลูกสาวจะมาดูเเลบ้านเเทนพ่อบ้านซะที

    โลกของพวกเรากำลังจะเข้าสู่รุ่งอรุณเเห่งยุคเเล้ว

    [​IMG]

    ปีหน้า ผู้หญิงจะมาเเทนที่ผู้ชาย

    หลังจาก 21 ธันวาคม 2012ไปอีก 13,000 ปี

    พูดง่ายๆก็ คือ พระเจ้าที่เเท้จริงของฝ่ายส<wbr>ว่าง คือ ผู้หญิง ส่วนพระเจ้าในฝ่ายมืดก็ คือ ผู้ชาย
    ผู้ชายจึงกดดันผู้หญิงในอดี<wbr>ตจำนวนมากให้เชื่อฟังตนเอง เเละ ทำให้ด้อยค่า
    เพราะ ผู้ชายรู้ว่าผู้หญิงมีพลังจิตที่มีอำนาจที่เเข็งแกร่งก<wbr>ว่าผู้ชาย
    เนื่องจาก สัญชาตญาณของความเป็นเเม่มา<wbr>ตั้งเเต่เกิด
    ผู้หญิงจึงโดนปิดหู ปิดตาเเละความรู้ทุกอย่างจา<wbr>กผู้ชาย
    ต่อไปพอคุณผู้หญิงเข้ามาบริหารบ้านก็ย่อมน่าอยู่เป็นธรรมดา
    เเต่ระหว่างทำความสะอาดใหญ่ก็อาจจะไม่น่าชมอย่างที่เห็นๆกันนะจ๊ะ
    ขอเวลาทำความสะอาด ตกเเต่ง สักพักก็เตรียมตัวขึ้นบ้านใหม่ได้เลย
    อีกประมาณ ปีกว่าๆ นะคะ


    [​IMG]

    <iframe src="http://www.youtube.com/embed/VBmMU_iwe6U" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" width="560"></iframe>


    <iframe src="http://www.youtube.com/embed/oLlRILd8Jw4" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" width="560"></iframe>

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2011
  8. Utopia Light

    Utopia Light สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    ทำไมถึงเกิดภัยธรรมชาติเต็มไปหมดเเละวิธีช่วยให้รอด

    [​IMG]

    อย่างที่ได้เกริ่นนำในบทก่อนหน้านี้ เรื่องการเปลี่ยนเเปลงโลกไปสู่มิติที่สูงขึ้น
    ทำให้คลื่นความถี่บนโลกเเปรปรวนเเละสวิ้ง เหมือนอารมณ์ผู้หญิงอย่างเห็นได้ชัด
    เเต่การสั่นสะเทือนดังกล่าว คือ การปรับคลื่นความถี่ทั่วโลกให้สูงขึ้นตามเช่นกัน
    คุณไม่ต้องกังวลใจถ้า จิตใจของคุณสงบนิ่ง กล้าหาญเเละไม่กลัวอะไร
    เพราะ ตัวคุณได้เข้าสู่สภาวะการอัพเกรดเเบบเต็มรูปเเบบเเล้วนั้นเอง

    คนที่กลัวเเละหวาดผวาจากภัยพิบัติรอบตัวเป็นเพราะว่า
    พวกเขายังไม่สามารถปรับคลื่นความถี่ของตัวเองให้อยู่ในระดับเดียวกับโลกใบนี้ที่กำลังสูงขึ้นได้

    วิธีการปรับคลื่นความถี่บนโลกใบนี้ คือ การสร้างความกลัวเเละความตื่นตระหนก
    เพื่อให้ผู้คนตื่นขึ้นจากความไร้สาระไปวันๆการใช้ชีวิตเพื่อการเเข่งขัน เเก่งเเย่ง ชิงดีชิงเด่น
    ใช้กำลังที่มีเพื่อรุกรานผู้ที่ด้อยกว่าเเทนการเจือจุนในสิ่งที่ผู้อื่นขาดเเคลน
    โดยมีธรรมชาติเป็นผู้ทำงานหลัก จะเห็นได้จากน้ำท่วมในหลายประเทศ ณ ตอนนี้

    น้ำ มีคลื่นความถี่ที่บริสุทธิ์ที่สุดในระบบนิเวศวิทยา
    เเละสามารถชำระล้างพลังงานลบได้ทั้งบนฟ้า (ฝน) บนดิน (เเม่น้ำ) ใต้น้ำ (บาดาล)
    เกลือ เป็นอีกคลื่นความถี่นึงที่ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัวที่ดี
    ดังจากที่จะเห็นผู้มีพลังจิตส่วนมากนำไปชำระล้างหินคริสตัลในทะเลซะเป็นส่วนมาก
    รวมไปถึง การประทุของภูเขาไฟระเบิด สัตว์หลงทิศ เเผ่นดินไหว ซึนามิ เเละ ปัญหาบนโลกอีกนับไม่ถ้วน
    ล้วนเเล้วเกิดจากการจัดระบบวางเเผนโลกใหม่ ในการคัดคนดี ออกจากคนไม่ดี อย่างชัดเจนนั้นเอง

    [​IMG]

    บนโลกใบนี้มีผู้คนกว่า 7 พันล้านคน เเต่พวกเขากลับมีคลื่นความถี่
    หรือ พลังงานลบที่ต่ำกว่า ความเป็นจริงของคลื่นความถี่โลก
    จึงทำให้พวกเขาไปอยู่ในบริเวณที่มีพลังงานลบ ตาม คลื่นความถี่ภายในตัวพวกเขาเอง
    ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย เพราะ โลกกำลังยกตัวสูงขึ้น มีความสั่นสะเทือนที่ละเอียดขึ้น
    เเต่มนุษย์ไม่ยอมยกระดับตามธรรมชาติ การชะล้างจึงเกิดกระบวนการเริ่มขึ้นทันที

    ธรรมชาติไม่ได้มองเห็นพวกคุณเป็นสิ่งมีชีวิต เเต่เขามองเห็นเป็นคลื่นพลังงานดังนั้น
    ธรรมชาติก็จะทำการสลายพลังงานดังกล่าวเเละปรับให้เข้ากับความเป็นจริง
    ตาม คลื่นความถี่โลกโดยอัตโนมัติซึ่งการชำระล้างในที่นี้ก็ คือ การสลายพลังงานดังกล่าวให้หายไป
    เเละมันก็สามารถหมายถึงความตายจากร่างกายมนุษย์ไปสู่มิติเเห่งจิตวิญญาณเช่นเดียวกัน
    ถ้าคุณไม่อยากถูก ชำระล้างด้วยความตาย คุณก็ต้อง ปรับวิถีความคิดให้สูงขึ้นตาม

    [​IMG]

    ตราบใดที่คุณสร้างคลื่นความถี่ลบ คิดลบ ทำตัวไม่ดี คุณก็ไม่สามารถเดินทางบนโลกนี้ได้อีกต่อไป
    คุณจะถูกทิ้งให้อยู่ในมิติที่สาม ดังเช่นผู้ประสบภัยทั่วโลกที่ทุกข์ทรมาณอย่างเเสนสาหัสอยู่ ณ ตอนนี้
    เพราะ พวกเขาไม่สามารถย้ายมิติมาได้ ด้วยความคิดของพวกเขาเอง

    ความคิด คือ การสร้างคลื่นความถี่ต่ำ หรือ สูงให้กับตัวเอง
    คิดดีสูง คิดไม่ดีต่ำ นั้น คือ คำอธิบายเเบบง่ายๆ
    ไม่มีใครช่วยย้ายมิติให้ใครได้ นอกจากตัวพวกเขาเองเท่านั้น

    จิตวิญญาณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ต่างจากมนุษย์
    เพราะพวกท่านมาในรูปเเบบพลังงาน
    ซึ่งมนุษย์ก็มี เเต่มนุษย์เรียกว่า ความคิด

    ความคิดก็ คือ จิตวิญญาณที่อาศัยร่างกายอยู่
    อยู่ที่ว่า จิตวิญญาณของคุณเป็นยังไง คุณก็จะเห็นตัวเองเป็นเเบบนั้น

    สิ่งศักดิสิทธิ์มีคลื่นความถี่มากเกินกว่า ดวงตามนุษย์จะมองเห็นได้
    ถ้าคุณมีความคิดที่ละเอียดเเละจิตใจที่สะอาด
    คุณจะมองเห็นพวกท่านด้วยหัวใจ ไม่ใช่ด้วยดวงตา

    [​IMG]

    การจะอยู่บนโลกในอนาคตให้ได้นั้น
    คุณ ต้อง ปรับคลื่นความถี่ของคุณให้ได้อย่างจริงๆจังๆ
    ถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็จะติดอยู่ในโลก มิติที่สามต่อไป
    เเต่ไม่ต้องกังวลกับคนรอบข้างคุณ เพราะ ถ้าคุณย้ายได้ ด้วยการทำตัวดี
    คนรอบข้างเขาก็จะตามคุณมาเหมือนกัน
    เพราะ ความดีของคุณช่วยสร้างเเรงบันดาลใจให้พวกเขาเป็นคนดี
    เเล้วพวกเขาก็จะย้ายมิติมาอยู่ใน โซนที่ปลอดภัยบนโลกใบนี้นั้นเอง
    ซึ่งโลกก็มีหลายโซนให้เลือกทั้งโซนมิติที่สามภัยพิบัติ
    โซนมิติที่สี่ โซนมิติที่ห้า เเละ โซนประตูมิติอีกมากมาย
    ซึ่งเเต่ละคนก็มี คลื่นความถี่ในโซนต่างๆไม่เหมือนกัน
    ส่วนคุณอยู่โซนไหนก็ดูตามสิ่งเเวดล้อมของคุณเเล้วคุณจะรู้ว่า
    ความคิดเเละคลื่นความถี่ของคุณเป็นเเบบไหนนั้นเอง
    เพราะ ฉะนั้นถ้าอยากย้ายที่อยู่ คุณต้องเริ่มสร้างคลื่นความถี่ใหม่ให้ตัวเอง

    เเล้วคุณจะได้ไปอยู่ในที่ๆคุณอยากอยู่จริงๆ

    วิธีปรับคลื่นความถี่เเบบเร่งรัด คือ การเลือกฟังเพลงที่ผ่อนคลายจิตวิญญาณคุณ
    ตามเเบบที่ ดร.มาซารุ อิโมโตะ (Massaru Emoto) เปิดเพลงให้น้ำฟังก็ช่วยได้อีกวิธีนึง
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2011
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...