จะรู้ได้อย่างไรว่าเรามีเจ้ากรรมนายเวรหรือเปล่า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย cherns, 15 มิถุนายน 2009.

  1. cherns

    cherns เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +115
    อยากรู้ว่าเรามีเจ้ากรรมนายเวรหรือเปล่า ต้องทำอย่างไรบ้างครับ ถ้ามีเราสามารถติดต่อกับเขาได้ไหมครับ รบกวนด้วยครับ
     
  2. yaba150

    yaba150 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    983
    ค่าพลัง:
    +636
    รอคำตอบเหมือนกัน
     
  3. yaba150

    yaba150 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    983
    ค่าพลัง:
    +636
    รอคำตอบเหมือนกัน
     
  4. SP2517

    SP2517 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +24
    ทุกคนมีหมด ยกเว้น ท่านจะหมด กิเลส เข้าสู่ นิพพาน

    กรรมนำมาเกิด กรรมจัดสรร ไม่ว่าจะเป็น กุศลกรรม(กรรมดี) อกุศลกรรม(กรรมไม่ดี )

    บุคคลที่เจอกัน มิได้เจอกันโดยบังเอิญ
    ถ้าจะถามว่าปัจจุบันมีใหม ตอบว่ามี เข่น บิดา มารดาของ เราก็ใช่

    ไม่ขออธิบายต่อนะครับ ลองไปหาฟัง cd ของ ครูบาอาจารย์ พระสุปฏิบันโนทั้งหลาย ถ้าจำไม่ผิด เหมือนเคยอ่านของหลวงพ่อ ฤษีลิงดำ ใน web นี้แหละ



    *** ปฏิบัติกรรมฐาน เพื่อให้ เข้าถึง พระไตรลักษณ์ มิได้สนใจ เรื่องอื่น ***
     
  5. piya0101

    piya0101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +255
    ชัดเจนครับ

    ที่ผ่านมาก็ชดใช้กันไป

    ภพชาตินี้ก็อย่าไปสร้างวิบากเพิ่มก็แล้วกัน
     
  6. สัพเพ ธัมมา อะนัตตา

    สัพเพ ธัมมา อะนัตตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +104
    ไม่มีใครนี้พ้นวิบากกรรมไปได้หลอกครับถ้ายังไม่ แม้แต่พระอรหันต์ท่านยังต้องใช้กรรมเลย
    แล้วนับประสาอะไรกับพวกเรา ก็ยังต้องใช้กรรมกันต่อไปล่ะครับ
     
  7. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ผู้ที่ถามนี้คงมืดบอดไม่ได้นับถือศาสนาพุทธและไม่เคยรู้ถึงคำสั่งสอนของพระพุทธองค์จึงได้ตั้งคำถามแบบนี้ คุณไปศึกษาธรรมของพระพุทธองค์ก่อนนะครับ อ้อแล้วก็เข้านับถือศาสนาพุทธเข้าวัดฟังธรรมแล้วจะค่อยๆรู้คำตอบเองนะครับอย่าเที่ยวถามใครต่อใครให้เสียเวลาเลยอยากรู้ต้องปฏิบัติจนสามารถรู้ได้ด้วยตนเองไม่ใช่เชื่อเพราะน่าเชื่อหรือเชื่อเพราะเหตุผลหรือเชื่อเพราะกรรตะให้เชื่อตามที่ตนรู้ตนเห็นตามจิตของตนนั้นคือคำสั่งสอนของพระพุทธองค์
     
  8. wanidac

    wanidac Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +25
  9. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ทุกคนมีเจ้ากรรมนายเวรหมดครับ
    หมา แมว นก หนู งู ปลา ยังมีเลย
    นับประสาอะไรกับเรา

    ลองศิกษาวิธี ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ดูครับ
    หากว่าเราสามารถระบุเจ้ากรรมนายเวรได้
    เราสามารถอุทิศให้แบบเจาะจงได้อีกด้วย

    โดยทั่วๆไปหากเป็นผู้ทรงฌาน การอุทิศส่วนกุศล
    ของคนทรงฌานเป็นปรกติ จะถึงผู้รับเกือบ 100%
    ที่ไม่ถึงเพราะ คนที่ไม่เคยรู้จักกันเลย อะไรยังนี้ อาจจะอุทิศพลาดเป้าได้

    หากท่านสามารถทรงฌานในอานาปานุสติได้ คล่องแคล่ว
    งานทุกอย่างใน "โลกของพลังจิต" จะง่ายไปทุกเรื่อง
    เพราะแค่ท่านอ่านในบอร์ดแล้วทำตาม
    หากไม่ขัดกับกฏแห่งกรรม มันจะสำเร็จสมหวังทุกประการ
     
  10. cherns

    cherns เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +115
    ขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อมูลนะครับ ขออธิบายนิดนึงครับ ผมนับถือศาสนาพุทธตั้งแต่เกิด

    แล้วครับ เพียงแต่ว่ายังไม่ได้ศึกษาพระธรรมอย่างชัดเจน ตอนนี้กำลังเริ่มต้นตั้งใจที่จะ

    ศึกษา เพิ่งกลับจากต่างประเทศมา แต่ช่วงที่อยู่เมืองไทยก็ไม่ค่อยได้ศึกษา พอกลับมา

    เห็นพระมาบิณฑบาตร เริ่มใส่บาตร ได้ฟังพระให้พร(เสียงสวด) ก็เลยอยากจะเข้าหา

    พระธรรม เพราะเมื่อก่อนค่อนข้างจะเกเร ตอนนี้ก็เริ่มซื้อหนังสือมาอ่าน และเข้ามาอ่านเวปนี้

    (search จาก google) แล้วรู้สึกว่าดี มีข้อมูลเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาก

    ก็เลยชอบ เลยเป็นที่มาทำให้อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเจ้ากรรมนายเวรหลังจากอ่านของคนอื่น

    มาก็เลยอยากทราบว่าเจ้ากรรมนายเวรชาติก่อนของเราที่คอยขัดขวางหรือ

    จ้องทำร้ายเราเนี่ย

    เรามีวิธีทราบได้มั๊ยว่าเราจะติดต่อเค้าได้ยังไง เผื่อว่าเราจะได้ทำบูญอุทิศส่วนกุศล

    และสวดมนต์แผ่เมตตาให้แบบเฉพาะเจาะจง ตอนนี้ก็สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนไม่รู้ว่า

    พอหรือเปล่าต้องมีอะไรบ้าง แล้วอีกอย่างนึงนะครับ คนที่ไม่รู้กี่ยวกับเรื่องนี้ก็คงมีเหมือน

    กัน อนุโมทนาสาธุให้กับทุกคนครับ
     
  11. piya0101

    piya0101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +255
    ทราบเลย ขออนุโมทนาในกุศลกรรมที่ตั้งใจดีแล้วนี้

    ค่อย ๆ ศึกษาไปทีละเล็กละน้อยครับ

    ทุกอย่างย่อมใช้เวลา

     
  12. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ถ้าหากไม่มีอะไรเฉพาะเจาะจง
    เช่น ต้องการแจ้งความจำนงอะไรบางอย่าง ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทราบเป็นการเฉพาะ
    ไม่จำเป็นต้องรีบพบเค้าก็ได้

    อยู่ห่างๆไว้หนะดีแล้ว

    ธรรมดาคนที่จ้องจะเล่นงานคุณ เค้าจะมาหาคุณเองนั้นแหละ

    แล้วคนที่ไม่อยากพบหน้ากัน อยู่ห่างๆกันไว้มากเท่าไหร่ก็น่าจะดี

    คนที่จ้องเล่นงานเรา มันไม่ได้มีสิทธิอำนาจอะไรพิเศษ
    ขนาดที่เราต้องไปพินอบพิเทาเสียทุกกรณีหรอก
    นิ่งเข้าไว้ ปฏิบัติธรรมไปพลางๆ ค่อยๆอ่านๆ ค่อยๆทำความเข้าใจ

    ส่วนการทำบุญใส่บาตร สวดมนตร์ภาวนา
    ถ้าคุณระบุได้ด้วย เวลาอุทฺศส่วนกุศล ว่าจะอุทิศให้ใคร
    พอเพียงแล้วครับ

    เคยรู้จัก เคยเกื้อหนุน
    เคยอาฆาตมาดร้ายยิ่งดีใหญ่เลย
    เดี๋ยวมันมาหาเราเอง ไม่ต้องเหนื่อยไปตาม
     
  13. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ผมว่าการจะอธิบายเรื่องเจ้ากรรมนายเวรนี้คงเหนื่อยนะครับ เอาเป็นว่าผมจะบอกสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนไว้นะครับ พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าเรามาจากไหนก็ไม่รู้แล้วเราจะไปไหนก็ไม่รู้ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอเดินตามทางที่พระองค์ทรงบอกไว้แล้วจะพบนิพานแค่นี้แหละครับไม่ต้องรู้อดีตเพราะรู้ก็ทุกข์ไม่สามารถกลับไปแก้ได้ไม่ต้องรู้อนาคตเพราะอนาคตยังมาไม่ถึงมีสติรู้อยู่แต่ปัจจุบันก็พอรู้สติรู้เท่าทันอวิชาแล้วจะได้มีวิชาสมาธิสติปัญญาคืออุปกรณ์ในการเดินทางตามพระพุทธองค์ ถ้าจะทำบุญต้องเข้าใจว่าการทำบุญคือการให้ให้เพื่อให้หมดตัวกู-ของกูแล้วอุทิศบุญกุศลที่ทำให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเราเค้าจะได้รับเองโดยไม่ต้องรู้ว่าเค้าคือใครอาจจะเป็นมดเป็นยุงเป็นอะไรก็แล้วแต่ที่เราเคยล่วงเกินหรือทำกรรมไว้กับเค้าด้วยเจตนาก็ดีไม่เจตนาก็ดีเมื่อเค้าได้รับผลบุญที่เราอุทิศให้ไปนั้นเค้าก็จะมีความสุขแล้วก็ขออโหสิกรรมต่อเค้าและสิ่งสำคัญเราเองก็ต้องอโหสิกรรมให้กับผู้ที่ทำกรรมไว้กับเราด้วยยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทานไม่จองเวรจองกรรมกับใครแม้เค้าจะทำกรรมกับเราด้วยเจตนาก็ดีไม่เจตนาก็ดีจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อกันเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนก็ค่อยๆศึกษาไปแล้วใช้สมาธิสติปัญญาในการพิจารณานะครับอย่าเชื่อเพราะเค้าเล่าว่าอย่าเชื่อเพราะน่าเชื่ออย่าเชื่อเพราะมีเหตุผลอย่าเชื่อเพราะกรรตะให้เชื่อในสิ่งที่รู้ที่เห็นด้วยจิตของตนพระพุทธองค์ทรงสอนไว้
     
  14. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ก็ ถูกของท่านนะ ถามนิดหนึ่งนะ หากเราถึงเวลารับกรรมจริง ๆ แ่ต่ใจเราไม่ทุกข์นี่แสดงว่ากรรมก็ไม่สามารถทำเวทนาทางใจได้ ใช่ไหม อันนี้เข้าใจถูกไหม
     
  15. minidog

    minidog Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2009
    โพสต์:
    266
    ค่าพลัง:
    +91
    ถึงจะมีหรือไม่มี จะมาหรือยังไม่มา ก็ควรที่จะแผ่เมตตา อยู่เป็นประจำให้เป็นนิสัยแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
     
  16. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ถูกต้องครับความทุกข์ถ้าเรารู้เท่าทันคือจิตรู้แล้วเฉยปล่อยวางจิตก็จะไม่ทุกข์ จิตไม่ไปเร้าร้อนกับทุกข์จิตก็สงบเมื่อจิตสงบทุกข์ก็ไม่มี การชดใช้เวรกรรมนั้นมีมากมายหลายแบบแต่ถ้าควบคุมจิตได้ทุกอย่างก็สงบผมมีนิทานจะเล่าให้ฟังมีพระองค์หนึ่งก่อนท่านจะบวชท่านได้ทำกรรมไว้โดยการเชือดคอไก่เนื่องเพราะไม่มีเงินต้องจำใจทำเพื่อเงิน ต่อมาท่านได้พบทางธรรมแล้วออกบวชท่านเองก็มิใช่จะหนีเจ้ากรรมนายเวรพ้นท่านบวชแล้วปฏิบัติเป็นพระป่าท่านอยู่ตามป่าตามเขาตามถำใครมาทำบุญท่านเองก็สั่งสอนทุกคนว่าอย่าทิ้งบุญให้ทำบุญตลอดเวลาไม่ต้องทำเยอะให้ทำบ่อยๆใครให้เงินท่านเยอะๆเพื่อทำบุญท่านก็ไม่รับให้ไปถวายที่ตู้ต่อมาวันหนึ่งท่านนั่งสมาธิรู้ล่วงหน้าแล้วว่าเจ้ากรรมนายเวรตามมาท่านก็เฉยสองวันต่อมาท่านเลื่อยไม้เพื่อเอามาซ่อมกุฏิท่านเลื่อยยังไงไม่รู้โดนนิ้วท่านขาดไปหนึ่งข้อท่านก็เฉยตะโกนให้ลูกศิษณ์เอาผ้ามาพันแผลแล้วไปโรงพยาบาลหมอบอกจะต่อนิ้วให้ท่านบอกไม่ต้องหรอกต่อก็ไม่ติดแล้วนิ้วนั้นก็ไม่รู้อยู่ที่ไหนนี้คือผลกรรมที่ท่านทำไว้แล้วท่านก็ชดใช้ในชาติภพนี้ท่านบอกใช้เค้าให้หมดจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้ต่อๆไปดีนะที่ใช้ในชาตินี้ที่เป็นคนหากใช้หนี้ในชาติหน้าท่านบอกไม่รู้จะเกิดเป็นอะไรถ้าเกิดเป็นสุนัขแล้วนิ้วขาดคงไม่มีใครพาไปหาหมอคงทุกขเวทนากว่าชาตินี้แน่ๆท่านบอกนี้ดีนะยังมีบุญได้ใช้หนี้ชาตินี้ท่านไม่เห็นทุกข์เลยกลับมีความสุขสงบที่ได้ใช้หนี้กรรมท่านสั่งสอนผมเสมอว่าจงดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทให้มีสติรู้เท่าทันตลอดเวลา สมาธิสติปัญญาคือเครื่องมือในการเดินทางตามที่พระพุทธองค์บอกไว้ ตาสักแต่ดู หูสักแต่ได้ยิน ลิ้นสักแต่กิน จมูกสักแต่ดมกายสักแต่สัมผัสอย่านำมาปรุงแต่งที่จิตจิตก็จะเฉยไม่รับรู้ไม่เร้าร้อนด้วยโมหะความอยากท่านทำได้มิใช่จะสำเร็จสิ่งสำคัญต้องรักษาได้ตลอดชีวิตจนตราบเท้าเข้าสู่นิพานก็ขอให้ท่านจงพิจารณานะครับทุกอย่างล้วนเป็นมายาแล้วหลงยึดติดกับมายาทำไมไม่มีของจริงซักอย่างตายไปเอาอะไรไปไม่ได้เลยทะเลมีคลื่นที่ไหนมีแต่นำกับลมคลื่นไม่มีแต่คนกลับมองเห็นคลื่นเหมือนเรามองเห็นแต่มายาแล้วยึดติดมายาสุดท้ายไม่มีอะไร ขอให้โชคดีนะครับ
     
  17. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,686
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,020
    อ่านอันนี้ครับ จขกท คําตอบที่ท่านต้องการรู้อยู่ในนี้หมดเเล้วครับ อนุโมทนา หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิ เเผ่เมตตาไปให้พวกเขาได้ครับ พวกเขาได้รับเเน่นอนถ้าอยู่ในภพภูมิที่รับได้ครับ กรวดนํ้าด้วยจะดีมากจ้า

    จดหมายเตือน<table width="590" align="center" border="0"><tbody><tr><td>
    [​IMG]

    ครั้งหนึ่ง ยมบาลขึ้นนั่งบัลลังก์ เจ้าหน้าที่ได้กุมชายชราคนหนึ่ง และชายหนุ่มคนหนึ่งมาคุกเข่าต่อหน้าศาล

    ชายชรา : ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิตผมด้วย ยมทูตไปจับผมมาโดยไร้ความผิด ผมถูกปรักปรำ ผมยังไม่ได้แบ่งมรดก ผมยัง......(ยมบาลตบโต๊ะดังปัง!)

    ยมบาล : หุบปาก! เจ้ารู้ไมว่าที่นี่เป็นที่ไหน? ข้าเป็นใคร? บังอาจส่งเสียงดังลั่น

    ชายชรา : ผม......ผม......

    ยมบาล : ตอนมีชีวิตอยู่เจ้าก่อกรรมชั่วไว้มากมาย จะต้องลงโทษเจ้าอย่างหนัก ข้าจะถามเจ้า เจ้าต้องตอบมาตามตรงนะ

    ชายชรา : ผม.....ยอมบอกตามตรง แต่ว่า......เมื่อผมบอกตามตรงแล้ว ใต้เท้าโปรดเมตตาผมด้วยนะครับ

    ยมบาล : ตอนมีชีวิตอยู่ เจ้าโกงเงินบำนาญของหญิงชราข้างบ้านมาตบแต่งสวนดอกไม้ของเจ้ามีไหม?

    ชายชรา : มีครับ

    ยมบาล : ยังมีอีก เจ้าออกทุนให้ไอ้อ้วนค้ายาเสพย์ติด และคนแซ่เกาผลิตยาปลอมมีไหม?

    ชายชรา : มีครับ

    ยมบาล : เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมเจ้ายังว่าถูกปรักปรำอีก ที่ปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ถึง 76 ปี นับว่าดีเกินไปแล้ว เจ้าหน้าที่! เอาตัวตาแก่นี่ไปลงกระทะทองแดง (ชายชราเมื่อได้ยินจะส่งไปลงกระทะทองแดง ก็กลัวจนหน้าถอดสี)

    ชายชรา : เรียนใต้เท้า ตอนมีชีวิตอยู่ ผมได้ก่อกรรมทำชั่วแม้ว่าสมควรจะต้องรับโทษ แต่ใต้เท้าครับ ทำไมท่านไม่เตือนผมแต่เนิ่น ๆ เพื่อผมจะได้สร้างบุญกุศลมาไถ่บาปบ้าง

    ยมบาล : เหลวไหล! ข้าได้ส่งจดหมายไปเตือนเจ้าถึงสามฉบับแล้วไม่ใช่หรือ?

    ชายชรา : ไม่มีนี่! ใต้เท้าอย่าพูดล้อเล่น ท่านส่งจดหมายสามฉบับมาให้ผมตั้งแต่เมื่อไร?

    ยมบาล : ตาแก่นี่กลัวจนเลอะเลือนใหญ่แล้ว เจ้าตั้งสติให้ดีก่อนแล้วข้าจะถามอย่างละเอียดอีกที......ข้าขอถามเจ้า เจ้าริ่มใส่แว่นตาคนแก่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?

    ชายชรา : ผมคิดดูก่อน....นึกออกแล้ว ตอนที่ผมอายุ 50 ปี วันหนึ่งขณะที่ผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ จู่ ๆ ก็รู้สึกตามัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน วันรุ่งขึ้นจึงไปวัดสายตาซื้อแว่นมาอันหนึ่ง

    ยมบาล : ถูกแล้วนั่นก็คือจดหมายฉบับที่หนึ่งที่ข้าส่งไปให้เจ้าซึ่งเป็นการเตือนเจ้าว่ากำหนดเวลาตายใกล้เข้ามาแล้ว

    ชายชรา : นั่นเป็นจดหมายฉบับที่หนึ่งที่ท่านส่งให้ผมหรือ? แล้วจดหมายสองฉบับหลังท่านส่งให้ผมยังไงล่ะ?

    ยมบาล : ในวันที่ลูกสาวของเจ้าจัดงานวันเกิดครบรอบหกสิบปีให้เจ้า เพราะเจ้าโลภแทะกินเนื้อไก่ติดกระดูก จนทำให้ฟันหัก ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฟันของเจ้าก็ค่อย ๆ หลุดร่วง จนปัจจุบันฟันของเจ้าร่วงเกือบหมดปาก นี่ก็คือจดหมายเตือนฉบับที่สองที่ข้าส่งให้เจ้า แล้วอีกหนึ่งปีต่อมา ผมของเจ้าจากดำกลายเป็นขาว จากขาวก็ค่อย ๆ ร่วง ร่วงจนเจ้าเป็นคนแก่ที่เกือบจะหัวล้าน หรือว่าจดหมายฉบับที่สามเจ้าไม่ได้รับ! เจ้านี่เลอะเลือนจริง ๆ เจ้าหน้าที่....เอาตัวไปได้


    ชายหนุ่มเป็นคนต่อไปที่จะถูกตัดสิน

    ยมบาล : ความจริงเจ้าเป็นคนหนุ่ม ที่มีความสามารถเหตุไฉนจึงไม่สร้างสมความดี ให้เป็นเกียรติประวัติแก่ตน แต่กลับต้องมาตกสู่ทุคติภูมิที่นี่?

    ชายหนุ่ม : ใช่ครับ ผมก็รู้สึกว่าตนเองตายอย่างน่าอนาถอย่างไร้คุณค่า แต่ว่าตาผมยังไม่มัว ผมยังไม่ขาว ฟันยังไม่ร่วง และความจริงก็ไม่ได้ทำความชั่วอะไรมากมายนัก โดยเฉพาะไม่ได้รับจดหมายเตือนจากท่านเลย

    ยมบาล : พ่อหนุ่มทำไมเจ้าก็เลอะเลือนเช่นนี้ จดหมายเตือนของข้าจะเหมือนกันทุกฉบับได้อย่างไร?

    ชายหนุ่ม : งั้นจดหมายเตือนที่ใต้เท้าส่งให้เป็นอะไรล่ะ?

    ยมบาล : เจ้าจำชายหนุ่มข้างบ้านที่เกิดปีเดียวกับเจ้าได้ไหม?

    ชายหนุ่ม : จำได้ครับ เขาเป็นลูกของแม่หม้ายจาง เราเป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกัน

    ยมบาล : แล้วเพื่อนของเจ้าตอนนี้อยู่ที่ไหน?

    ชายหนุ่ม : เขาไม่ใช่ตายด้วยโรคปอดเมื่อสี่ปีก่อนหรอกหรือ?

    ยมบาล : ถูกต้อง วันที่เขาตายก็คือวันที่จดหมายเตือนฉบับแรกของข้าส่งไปถึง

    ชายหนุ่ม : ร่างกายของผมแข็งแรงกว่าเขามาก ไปเปรียบเทียบกับผีวัณโรคได้อย่างไร?

    ยมบาล : ข้าว่าเจ้าเลอะเลือนไม่ผิดแม้แต่น้อย คนจะสามารถไม่เจ็บป่วยตลอดไปได้อย่างไร? แม้ว่าเจ้าจะไม่เคยป่วยด้วยโรคปอด แต่ก็ไม่สามารถรักษาร่างกายให้แข็งแรงคงอยู่ได้ตลอดไป ข้ารู้แต่แรกแล้วว่าเจ้าอ่านไม่เข้าใจความหมายจดหมายฉบับแรกของข้า ดังนั้น หลังจากวัยรุ่นคนนั้นตายไม่นาน จึงได้ส่งจดหมายอีกฉบับไปให้เจ้า

    ชายหนุ่ม : จดหมายฉบับที่สองผมก็ยังไม่ได้รับครับ

    ยมบาล : ก็ลูกพี่ลูกน้องคนที่อยู่ด้วยกันกับเจ้าสามปี วันหนึ่งได้ตายอย่างไร้สาเหตุ นั่นเป็นการเตือนเจ้าว่า วันหนึ่งเจ้าก็ต้องประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับเขา แต่เจ้ากลับไม่รู้ตื่น วัน ๆ เอาแต่เลอะเลือน ไม่รู้จักขัดเกลาบำเพ็ญธรรม หลงใหลอาลัยในกิเลสตัณหา เดือนที่แล้วจึงต้องส่งจดหมายด่วนพิเศษไปให้เจ้า

    ชายหนุ่ม : จดหมายด่วนพิเศษหรือ? ผมไม่เคยได้รับจดหมายด่วนพิเศษอะไรเลย

    ยมบาล : ทำไมเจ้าถึงโง่เช่นนี้ เด็ก 4-5 คน ในหมู่บ้านเจ้า วันนั้นมิใช่ไปเคาะระเบิดมือจนระเบิดหรือ ทำให้ตายคาที่สองคนบาดเจ็บสาหัสสามคน บอกแบบนี้เจ้าคงจะเข้าใจ นั่นเป็นการบอกเจ้าว่า มิใช่มีแต่คนแก่เท่านั้นที่มารายงานตัวที่นี่ คนหนุ่มสาวและเด็กก็ต้องมาเช่นกัน แต่มีคนประเภทหนึ่งที่ยกเว้นไม่ต้องมาที่นี่ นั่นคือคนที่ได้บำเพ็ญธรรม จนรู้แจ้งในธรรมในโลกมนุษย์เพราะเขาเหล่านั้นขณะมีชีวิตอยู่รู้จักสร้างบุญ กุศล สร้างสาธารณะประโยชน์ ทำตนเป็นประโยชน์แก่สังคม ดังนั้นจึงสามารถหลุดพ้นจากความเกิด ความตาย จุติสู่แดนสุขาวดี

    ชายหนุ่ม : ใต้เท้า ผมเข้าใจความหมายของท่านแล้วครับ ชาติต่อไปผมจะปฏิบัติตามคำพูดของท่านอย่างแน่นอน

    ยมบาล : เมื่อเจ้าสามารถเข้าใจความหมายของข้า ข้าก็จะให้เจ้ากลับไปเกิดในโลกมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง หวังว่าเจ้าคงจำคำพูดของข้าได้ การพิจารณาคดียุติเพียงแค่นี้ เลิกศาล!

    </td></tr></tbody></table>ขอบคุณที่มาคะ oishi_http://www.watthummuangna.com/board/...347#post201347
     
  18. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    เป็นนิทานที่สอนใจได้ดีมากๆ อยู่ที่ว่าคนอ่านจะเข้าใจความหมายหรือไม่นั้นก็แล้วแต่แต่ละบุคคลนะครับผมขออนุโมทนาบุญด้วยที่ช่วยแนะนำสิ่งดีๆให้มนุษย์ได้รู้ได้ปลงไม่หลงในกิเลสตัณหาไม่ดำเนินชีวิตด้วยความประมาท มนุษย์มีความตายอยู่เบื้องหน้าทุกผู้คนให้สังวรณ์ไว้ตลอดเวลาตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน
     

แชร์หน้านี้

Loading...