คัดมามาส่วนของวัฏจักรสงสารมาให้อ่านกันครับ

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย ไม้ขีด, 9 มกราคม 2013.

  1. ไม้ขีด

    ไม้ขีด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,421
    ค่าพลัง:
    +3,023
    มนุษยภูมิ
    บุพกรรม
    เป็นที่อาศัยของสัตว์ที่มีใจสูงในเชิงกล้าหาญที่จะประกอบกรรมต่างๆ ทั้งที่เป็นกุศลกรรมและอกุศลกรรม แบ่งเป็น ๔ จำพวก คือ ผู้มืดมาแล้วมืดไป บุคคลที่เกิดในตระกูล
    อันต่ำ ยากจน ขัดสน ลำบาก ฝืดเคืองอย่างมากในการหาเลี้ยงชีพ มีปัจจัย ๔ อย่างหยาบ เช่น มีอาหารและน้ำน้อย มีเครื่องนุ่งห่มเก่า ร่างกายมอซอ หม่นหมอง หรือมีร่างกายไม่
    สมประกอบ บ้าใบ้ บอด หนวก หาที่นอน ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ไม่ใคร่ได้ และเขากลับประพฤติทุจริตทางกาย วาจา ใจ เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงทุคติอบาย ผู้ที่มืดมาแล้วสว่างไป
    บุคคลที่เกิดในตระกูลต่ำ ผิวพรรณหยาบ ฯลฯ แต่เขาเป็นคนมีศรัทธา ไม่มีความตระหนี่ เป็นคนมีความดำริประเสริฐ มีใจไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมให้ทาน ย่อมลุกรับสมณะชีพราหมณ์ หรือ
    วณิพกอื่นๆ ย่อมสำเหนียกในกริยามารยาทเรียบร้อย ไม่ห้ามคนที่กำลังจะให้ทาน เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ผู้สว่างมาแล้วมืดไป เป็นบุคคลผู้อุบัติเกิดในตระกูลสูง
    เป็นคนมั่งคั่งมั่งมี มีโภคสมบัติมาก เป็นผู้มีปัจจัย อันประณีต ทั้งเป็นคนที่มีรูปร่างสมส่วน สะสวย งดงาม ผิวพรรณดูน่าชมแต่กลับเป็นคนไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ไม่มีความเอื้อเฟื้อ
    กรุณาอาทร มีใจหยาบช้า มักขึ้งโกรธ ย่อมด่าย่อมบรภาษบุคคลต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งบิดามารดา สมณชีพราหมณ์ ย่อมห้ามคนที่กำลังให้โภชนาการแก่คนที่รอ เมื่อตายไปย่อมเข้า
    ถึงทุคติอบาย ๔ ผู้สว่างมาแล้วสว่างไป เป็นบุคคลที่อุบัติเกิดในตระกูลสูง มีผิวพรรณงามและเขาย่อมประพฤติสุจริตทางกาย วาจา ใจ เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
    กรรมของมนุษย์ที่ทำในกาลก่อนส่งผลให้ปฎิปทาต่างกัน เช่น บางคนเป็นคนดี บางคนบ้า บางคนรวย บางคนจน บางคนมีปัญญา บางคนเขลา ฯลฯ เพราะเหตุปัจจัยต่างๆ
    อาทิ ปฎิปทาให้มีอายุสั้น เพราะเป็นคนเหี้ยมโหดดุร้าย มักคร่าชีวิตสัตว์ ปฎิปทาให้มีอายุยืน เป็นผู้เว้นขาดจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป มีความละอาย เอ็นดูอนุเคราะห์ด้วยความ
    เกื้อกูลสรรพสัตว์และภูตอยู่

    ปฎิปทามีโรคมาก เป็นผู้มีปกติเบียดเบียนสัตว์ด้วยมือ ท่อนไม้ ก้อนดิน ก้อนหิน หรือศาสตราวุธต่างๆ ปฎิปทามีโรคน้อย ไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยมือ หรือศาสตราวุธต่างๆ มีมีด ขวาน
    ดาบ ปืน เป็นต้น ปฎิปทาให้มีผิวพรรณทราม เป็นคนมักโกรธ มากไปด้วยความแค้นเคือง ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ขัดใจโกรธเคือง พยาบาทมาดร้าย ทำความโกรธ
    ความร้ายและความขึ้งเคียดให้ปรากฏ ปฎิปทาให้มีผิวพรรณงาม เป็นคนไม่มักโกรธ ไม่พยาบาท ไม่มาดร้าย ไม่ทำความโกรธความร้ายและความขึ้งเคียดให้ปรากฏ
    ปฎิปทาให้เป็นคนมีศักดาน้อย คือเป็นคนมีใจริษยา มุ่งร้าย ผูกใจในการอิจฉาริษยาในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือ การไหว้และการบูชาของคนอื่น
    ปฎิปทาให้เป็นคนมีศักดามาก เป็นคนไม่มีใจริษยา ไม่มุ่งร้าย ยินดีด้วยในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือ การไหว้และการบูชาของคนอื่น ปฎิปทาให้มีโภคะน้อยเป็นผู้ไม่ให้ข้าว น้ำ ผ้า บ้าน ที่นอนที่อาศัย เป็นต้น ปฎิปทาให้มีโภคะมาก ชอบให้ทานมีอาหาร น้ำ เครื่องนุ่งห่ม ของหอม ที่นอนที่อาศัย เครื่องตามประทีปแก่สมณะหรือชีพราหมณ์
    เป็นต้น ปฎิปทาให้เกิดในตระกูลต่ำ เป็นคนกระด้าง เย่อหยิ่ง ไม่กราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ไม่ลุกรับคนที่ควรลุกรับ ไม่ให้อาสนะแก่คนที่ควรให้ ไม่ให้ทางแก่คนที่ควรให้ทาง เป็นต้น
    ปฎิปทาให้เกิดในตระกูลสูง เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน วจีไพเราะ สงเคราะห์เอื้อเฟื้อ รู้จักยืนเคารพ ยืนรับ ยืนคำนับ ผู้เฒ่า ผู้ใหญ่ สักการะแก่คนที่ควรสักการะ เคารพคนที่ควรเคารพ
    นับถือคนที่ควรนับถือ บูชาคนที่ควรบูชา เป็นต้น ปฎิปทาทำให้มีปัญญาทราม คือเป็นผู้ไม่เคยเข้าไปหาบัณฑิต สมณะหรือชีพราหมณ์แล้วสอบถามว่า อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล
    อะไรไม่เป็นกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรเมื่อทำลงไปแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความทุกข์สิ้นกาลนาน อะไรเมื่อทำไปแล้วย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์
    อายุมนุษย์สมัยพระพุทธองค์ ๑๐๐ ปี เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน ดังนี้


    ดิรัจฉานภูมิ
    บุพกรรม
    คตินิมิต
    (โลกเดรัจฉานอยู่ในโลกมนุษย์) โลกของสัตว์ที่มีความยินดีในเหตุ ๓ ประการ คือ การกิน การนอน การสืบพันธุ์ แบ่งเป็น ๔ ประเภทคือ อปทติรัจฉาน (ไม่มีเท้าไม่มีขา) เช่น งู
    ปลา ใส้เดือน ฯลฯ ทวิปทติรัจฉาน (มี ๒ ขา) เช่น นก ไก่ ฯลฯ จตุปทติรัจฉาน (มี ๔ ขา) เช่น วัว ควาย ฯลฯ พหุปทติรัจฉาน (มีมากกว่า ๔ ขา) เช่น ตะขาบ กิ้งกือ ฯลฯ อายุ ไม่แน่นอนแล้วแต่
    กรรมที่นำไปเกิดในสัตว์ประเภทต่างๆตามอายุของสัตว์ประเภทนั้นๆ เป็นมนุษย์จิตไม่บริสุทธิ์ ประพฤติอกุศลกรรมอันหยาบช้าลามกทั้งหลายหรือเพราะอำนาจของเศษบาปอกุศลกรรม
    ที่ตนทำไว้ให้ผล หรือเป็นเพราะเมื่อเป็นมนุษย์ไม่ได้ก่อกรรมทำชั่วอะไร แต่เวลาใกล้จะตายจิตประกอบด้วยโมหะ หลงผิด ขาดสติ ไม่มีสรณะเป็นที่พึ่งจะให้ยึดมั่นคง นิมิตที่ชี้บอกถึงโลก
    เดรัจฉานที่ตนจะไป เช่น เห็นทุ่งหญ้า ป่าไม้ ดงหญ้า เชิงเขา ชายน้ำ แม่น้ำ กอไผ่ และภูเขา เป็นต้น บางที่เห็นเป็นรูปสัตว์ทั้งหลาย เช่น ช้าง เสือ วัว ควาย หมู หมา เป็ด ไก่ แร้ง กา เหี้ย นก
    หนู จิ้งจก ฯลฯ หากภาพเหล่านี้มาปรากฏทางใจแล้วจิตยึดหน่วงเป็นอารมณ์ เมื่อดับจิตตายขณะนั้นต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอย่างแน่นอน

    เปตติวิสยภูมิ
    เปรตมีทั้งหมด ๑๒ ชนิด
    (โลกเปรต) โลกที่อยู่ของสัตว์ผู้ห่างไกลจากความสุข
    มีมหิทธิกเปรต เป็นเจ้าปกครองดูแล ไม่แน่นอนแล้วแต่กรรม
    ๑. วันตาสเปรต กินน้ำลาย เสมหะ อาเจียน เป็นอาหาร
    ๒. กุณปาสเปรต กินซากศพคนหรือสัตว์ เป็นอาหาร
    ๓. คูถขาทกเปรต กินอุจจาระต่าง ๆ เป็นอาหาร
    ๔. อัคคิชาลมุขเปรต มีเปลวไฟลุกอยู่ในปากอยู่เสมอ
    ๕. สูจิมุขาเปรต มีปากเท่ารูเข็ม
    ๖. ตัณหัฏฏิตเปรต ถูกตัณหาเบียดเบียนให้หิวข้าว หิวน้ำอยู่เสมอ
    ๗. สุนิชฌามกเปรต มีลำตัวดำเหมือนตอไม้เผา
    ๘. สัตถังคเปรต มีเล็บมือเล็บเท้ายาวและคมเหมือนมีด
    ๙. ปัพพตังคเปรต มีร่างกายสูงใหญ่เท่าภูเขา
    ๑๐.อชครังคเปรต มีร่างกายเหมือนงูเหลือม
    ๑๑.เวมานิกเปรต ต้องเสวยทุกข์ในเวลากลางวัน แต่กลางคืนได้ไปเสวยสุขในวิมาน
    ๑๒.มหิทธิกเปรต มีฤทธิ์มาก ที่อยู่เชิงเขาหิมาลัยในป่าวิชฌาฏวี
    อายุ
    เปรตแบ่งเป็น 4 ประเภท
    1.ปรทัตตุปชีวิกเปรต เปรตที่มีชีวิตอยู่ด้วยการอาศัยส่วนบุญที่ญาติมิตรอุทิศให้
    ถ้าไม่มีผู้อุทิศให้ก็ต้องอดอยากหิวโหยได้รับทุกขเวทนาอยู่เช่นนั้น
    2.ขุปปีปาสิกเปรต เปรตที่อดอยากหิวข้าวหิวน้ำอยู่เป็นนิตย์ ไม่มีเรี่ยวแรง
    แม้จะลุกขึ้นต้องนอนซมเหมือนคนป่วยที่ใกล้จะตาย
    3.นิชฌามตัณหิกเปรต เปรตที่มีไฟเผาให้เร่าร้อนอยู่เสมอ
    4.กาลกัญจิกเปรต เปรตจำพวกอสุรกาย หรือ อสุรา มีร่างกายสูง 3 คาวุต มี
    เลือดและเนื้อน้อยไม่มีแรง มีสีสันคล้ายใบไม้แห้ง ตาถลนออกมาเหมือน
    ตาปูและมีปากเท่ารูเข็มตั้งอยู่กลางศีรษะ
    เปรต ๒๑ จำพวก คือ มังสเปสิกเปรต
    มีเนื้อเป็นชิ้นๆไม่มีกระดูก
    กุมภัณฑ์เปรต มีอัณฑะใหญ่โตมาก
    นิจฉวิตกเปรต เปรตหญิงที่ไม่มีหนัง
    ทุคคันธเปรต มีกลิ่นเหม็นเน่า
    อสีสเปรต ไม่มีศีรษะ ภิกขุเปรต
    มีรูปร่าสัณฐานเหมือนพระ
    สามเณรเปรต มีรูปร่างสัณฐาน
    เหมือนสามเณร ฯลฯ
    บุพกรรม
    คตินิมิต
    ประพฤติอกุศลกรรมบท ๑๐ ประการ เมื่อขาดใจตายจากมนุษยโลก หากอกุศลกรรมสามารถ
    นำไปสู่นิรยภูมิได้ ต้องไปเสวยทุกขโทษในนรกก่อน พอสิ้นกรรมจากนรกแล้ว เศษบาปยังมีก็ไปเสวย
    ผลกรรมเป็นเปรตต่อภายหลังหรือมีอกุศลกรรมที่เกิดจากโลภะนำมาเกิด นิมิตที่บ่งบอกถึง
    โลกเปรต เช่น เห็นหุบเขา ถ้ำอันมืดมิดที่วังเวงและปลอดเปลี่ยว หรือเห็นเป็นแกลบ และข้าวลีบมากมาย
    แล้วรู้สึกหิวโหยและกระหายน้ำเป็นกำลัง บางทีเห็นว่าตนดื่มกินเลือดน้ำหนองที่น่ารังเกียจสะอิดสะเอียน

    อสุรกายภูมิ(โลกอสุรกาย) ภูมิอันเป็นที่อยู่ของสัตว์อันปราศจากความเป็นอิสระและสนุกรื่นเริง แบ่งเป็น ๓ ประเภท คือ เทวอสุรา เปตติอสุรา นิรยอสุรา เทวอสุรามี ๖ จำพวก คือ
    ๑.เวปจิตติอสุรา ๒.สุพลิอสุรา ๓.ราหุอสุรา ๔.ปหารอสุรา ๕.สัมพรตีอสุรา ๖.วินิปาติอสุรา โดย ๕ จำพวกแรกเป็นปฎิปักษ์ต่อเทวดาชั้นตาวสิงสา อยู่ใต้ภูเขาสิเนรุ สงเคราะห์เข้าใจในจำพวก
    เทวดาชั้นตาวติงสา ส่วนวินิปาติอสุรา มีรูปร่างสัณฐานเล็กกว่าและอำนาจก็น้อยกว่าเทวดาชั้นตาวติงสา เที่ยวอาศัยอยู่ในมนุษยโลกทั่วไป เช่น ตามป่า ตามเขา ต้นไม้ และศาลที่เขาปลูกไว้
    ซึ่งเป็นที่อยู่ของภุมมัฎฐเทวดาทั้งหลาย แต่เป็นเพียงบริวารของภุมมัฎฐเทวดาเท่านั้น สงเคราะห์เข้าในจำพวกเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา เปตติอสุรา มี ๓ จำพวกคือ ๑.กาลกัญจิกเปรตอสุรา
    ๒.เวมานิกเปรตอสุรา ๓.อาวุธิกเปรตอสุรา เป็นเปรตที่ประหัตประหารกันและกันด้วยอาวุธต่างๆ นิรยอสุรา เป็นเปรตจำพวกหนึ่งที่เสวยทุกขเวทนาอยู่ในนรกโลกันตร์ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างกลางของ
    จักรวาลทั้ง ๓ อสุรกายนี้หมายเอาเฉพาะกาลกัญจิกเปรตอสุรกายเท่านั้น อายุและบุพกรรม เช่นเดียวกันกับในโลกเปรต
     
  2. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    ขอบคุณนะคะทราบถึงความตั้งใจทีเดียวค่ะ
     
  3. ไม้ขีด

    ไม้ขีด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,421
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ขออนุญาตดันกระทู้เก่าเพื่อคนที่เข้ามาใหม่ได้อ่านกันครับ
     
  4. ข้าวราดแกง

    ข้าวราดแกง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2013
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +55
    อยากทราบรายละเอียดของอสุรกายมากกว่านี้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...