ความรู้เกี่ยวกับงานศพ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nongahh, 22 ธันวาคม 2010.

  1. nongahh

    nongahh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +25
    บางคนเชื่อว่า แม่น้ำคงคาไหลไปสู่สวรรค์ เวลาใกล้ตายจะหามไปริมฝั่งแม่น้ำ:boo:
    บางพวกเชื่อว่าสามีตายแล้ว มีวิญญาณ จึงต้องการให้ภรรยาไปรับใช้ จึงให้ภรรยาโดดลงกองเพลิงตายตามสามีก็มี<O:p</O:p
    บางพวกเชื่อว่า วิญญาณออกจากร่างไป และจะกลับมา ก็ดองศพไว้เรียกมัมมี่ก็มี<O:p</O:p
    บางพวกฝังศพเอาเท้าชี้ไปบนท้องฟ้าเพราะเชื่อว่าสวรรค์อยู่บนท้องฟ้า<O:p</O:p
    บางพวกฝังศพหันหัวไปทางทิศตะวันตก หรือตะวันออกแล้วแต่จะเชื่อ<O:p</O:p
    <O:p
    คาะโลงผี ให้คนสำนึกว่า ตอนตายแล้วทำความดีไม่ได้นะ ควรรีบทำตอนฟมีชีวิต<O:p</O:p
    จุดตะเกียงไว้บนหัว หมายถึงชีวิตนี้ต้องการแสงสว่างคือธรรมะ เพื่อให้รู้จักตนเองว่าเป็นใคร? เกิดมาทำไม? จะไปทางไหน?<O:p</O:p
    เอาเงินใส่ปากศพหมายถึง คนเราเมื่อตายแล้ว ทรัพย์สินสักนิดก็เอาไปไม่ได้<O:p
    มัดตราสังข์ ประเพณีไทยใช้ผ้าขาวห่อศพแล้วใช้ด้ายมัด 3 เปลาะคือ<O:p
    เปลาะคอ หมายถึงบ่วงคือ ลูก<O:p
    เปลาะเอว หมายถึงบ่วงคือ ภรรยา-สามี<O:p
    เปลาะเท้า หมายถึงบ่วงคือ ทรัพย์ ชื่อเสียง<O:p
    สามห่วงใจนี้ ทำให้จิตใจสูญเสียอิสรภาพ ยุ่งยากวุ่นวาย เศร้าโศกอาลัยกับสามห่วงนี้<O:p
    พระนำหน้าศพ หมายถึง ต้องเดินตามพระผู้ประเสริฐ เดินออกจากวัตถุนิยมตามพระแท้<O:p
    โปรยข้าวตอก หมายถึง ถ้าเป็นข้าวเปลือกก็เหมือนคนที่มีกิเลสตัณหา ตายแล้วก็ต้องเกิดอีก เหมือนข้าวที่มีเชื้ออยู่ พอหว่านลงไปในดินที่เหมาะมันก็เกิดอีกได้ แต่ข้าวตอกที่ถูกคั่วจนร้อนและแตกแล้ว ไม่สามารถงอกได้อีกเลย แม้ดิน น้ำ อากาศจะดีอย่างไร เปรียบเหมือนผู้บำเพ็ญตบะจนชนะกิเลสตัณหาเด็ดขาดแล้ว ย่อมไม่เกิดอีก<O:p
    เวียนซ้าย หมายความว่า ผู้ที่จะละกิเลสได้ถึงอิสรภาพแท้ จะต้องทวนกระแสโลก ไม่เพลิดเพลินไปตามอารมณ์ที่ยั่วยวน<O:p
    บวชหน้าไฟ นี้เป็นการบวชที่แท้จริง ซึ่งเกิดจากการสลดสังเวชใจ เบื่อหน่ายต่อโลกียวิสัย พิจารณาเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่ทุกสังขารจะต้องเป็นอย่างนั้นแล้วออกบวชเพื่อสู่ความไม่ตายคือพระนิพพานอันเป็นสัจธรรม<O:p
    แปรรูป เพื่อเตือนสำนึกคนที่เอาแต่แต้มแต่งมัวเมาวัตถุ ผูกมัดใจติดอยู่กับวัตถุนิยม มีการถามว่า นาย-นาง ก. ใช่ไหม ตอบว่า แปรรูปแล้วนี้แสดงธรรมที่ว่าอนัตตานั่นเอง คือทุกอย่างมันแปรรูปจากสภาพหนึ่งมาเป็นอีกสภาพหนึ่งตามเหตุปัจจัย<O:p
    <O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2010
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ขอบคุณมากค่ะ สาธุๆ
    อ่านแล้วได้ความรู้
     
  3. HaChiBeE

    HaChiBeE สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณสำหรับความหมายดีๆ ครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...