ขุนช้าง ขุนแผน ในพงศาวดาร ตอนที่1

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย skygecht, 14 กันยายน 2007.

  1. skygecht

    skygecht เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,117
    ค่าพลัง:
    +46,605
    [​IMG][​IMG]

    [​IMG]


    เรื่องขุนช้าง ขุนแผน มีเนื้อความปรากฏในหนังสือคำให้การชาวกรุงเก่า ซึ่งนับเป็นเรื่อง ในพระราชพงศาวดาร สรุปสาระได้ดังนี้




    <DD>[SIZE=+1]พระราชวงศ์ของ พระเจ้าอู่ทอง ได้ครองราชสมบัติ ในกรุงศรีอยุธยาตามลำดับหลายพระองค์ จนถึงพระเจ้าแผ่นดินทรงพระนามว่า พระพันวษา มีพระมเหสีทรงพระนามว่า สุริยวงษาเทวี มีพระราชโอรสองค์หนึ่งมีพระนามว่า พระบรมกุมาร[/SIZE] <DD>[SIZE=+1]ต่อมา พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตลานช้าง ปรารถนาจะเป็นพันธมิตรกับกรุงศรีอยุธยา จึงส่งพระราชธิดาองค์หนึ่งมาถวายพระพันวษา ระหว่างทางได้ถูกพระเจ้าโพธิสารราชกุมาร เจ้านครเชียงใหม่ ไม่ต้องการให้กรุงศรีสัตนาคนหุต มาเป็นมิตรกับกรุงศรีอยุธยา ส่งกำลังเข้าแย่งชิงพระราชธิดาไป[/SIZE]


    <DD>สมเด็จพระพันวษาทราบเรื่องก็ทรงพระพิโรธ สั่งให้ยกทัพไปตีนครเชียงใหม่ ในการนี้จำต้องหาผู้ที่มีฝีมือในการรบไปทำการ พระจมื่นศรีมหาดเล็ก ได้กราบทูลให้ใช้ ขุนแผน ซึ่งต้องโทษอยู่ในคุกให้เป็นแม่ทัพหน้ายกไปตีเมืองเชียงใหม่ ขุนแผนก็รับอาสาพร้อมกับถวายทัณฑ์บนว่าถ้าทำการไม่สำเร็จก็จะขอถวายชีวิต พระพันวษาจึงตั้งให้ขุนแผนเป็นแม่ทัพ ถืออาญาสิทธิ์คุมกองทัพไทย ไปตีนครเชียงใหม่ <DD>เมื่อกองทัพยกไปถึงเมืองพิจิตร ได้ไปขอดาบเวทวิเศษ (ดาบฟ้าฟื้น) กับม้าวิเศษ (ม้าสีหมอก) ที่ฝากเจ้าเมืองพิจิตรไว้คืนมา เพื่อนำไปใช้ในการศึก เมื่อกองทัพถึงเชียงใหม่ ฝ่ายเชียงใหม่ได้ทำการต่อสู้เป็นสามารถ แต่สู้ไม่ได้ ขุนแผนเข้านครเชียงใหม่ได้ เจ้านครเชียงใหม่หนีไป ขุนแผนจึงจับอรรคสาธุเทวี มเหสีเจ้าเชียงใหม่กับพระราชธิดานามว่า เจ้าแว่นฟ้าทอง พร้อมสนมเจ้านครเชียงใหม่ไว้ และให้เชิญนางสร้อยทอง ราชธิดาพระเจ้าลานช้าง พร้อมทั้งมเหสีและราชธิดาเจ้านครเชียงใหม่ เลิกทัพกลับมาถวายพระเจ้ากรุงศรีอยุธยา



    <DD>สมเด็จพระพันวษา ได้โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าเชียงใหม่ กลับมาครองเมืองเชียงใหม่ ตามเดิม เพื่อความสงบสุขของสมณชีพราหมณ์และราษฎรชาวเมืองเชียงใหม่ และให้พระราชทานบำเหน็จรางวัลแก่ขุนแผนและกำลังพลในกองทัพโดยทั่วหน้า ทรงตั้งนางสร้อยทองเป็นพระมเหสีซ้าย นางแว่นฟ้าเป็นสนมเอก ส่วนมเหสีเจ้านครเชียงใหม่ ทรงส่งคืนให้เจ้านครเชียงใหม่ ส่วนบรรดาข้าคนชาวลานช้างและชาวเชียงใหม่ ก็ให้ตั้งถิ่นฐานทำมาหากินในกรุงศรีอยุธยา</> <DD>ฝ่ายขุนแผนเมื่อเห็นว่าตนชราภาพแล้ว จึงนำดาบเวทวิเศษของตนถวายสมเด็จพระพันวษา พระองค์ทรงรับไว้เป็นพระแสงทรงสำหรับพระองค์ และทรงพระราชทานว่า พระแสงปราบศัตรู <DD>สมเด็จพระพันวษาครองราชย์ได้ 25 พรรษา เสด็จสวรรคตเมื่อพระชนมายุ 40 พรรษา <DD>จากหลักฐานดังกล่าว เรื่องขุนช้างขุนแผน เป็นเรื่องที่เกิดในแผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ระหว่าง พ.ศ. 2034-พ.ศ. 2072



    <DD>เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน <DD>เดิมเรื่องขุนช้าง ขุนแผน เล่าเป็นนิทาน แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่ยาวมาก เมื่อแต่งเป็นกลอน และขับเป็นลำนำด้วยก็ยิ่งจะต้องใช้เวลามาก ไม่สามารถจะขับให้ตลอดเรื่องในคืนเดียวได้ บทเสภาที่แต่งขึ้นจึงแต่งแต่เป็นตอนพอที่จะขับได้ภายในหนึ่งคืน ดังนั้น บทเสภาเดิมตั้งแต่ครั้งกรุงเก่า หรือที่แต่งสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ จึงแต่งเป็นท่อนเป็นตอน ไม่เป็นเรื่องติดต่อเหมือนกับบทละคร การเอาบทเสภามารวมติดต่อกันให้เป็นเรื่องโดยสมบูรณ์ เพิ่งทำในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า ฯ <DD>หนังสือเสภาสมัยกรุงเก่าน่าจะสูญหายหมด เนื่องจากผู้ที่แต่งหนังสือเสภาสำหรับขับหากิน น่าจะปิดบังหนังสือของตน เพื่อป้องกันผู้อื่นมาแข่งขัน จะให้อ่านเพื่อท่องจำก็เฉพาะในหมู่ศิษย์และคนใกล้ชิด ด้วยสภาพดังกล่าวหนังสือเสภาจึงสาบสูญได้ง่าย ไม่เหมือนหนังสือประเภทอื่น เช่น หนังสือบทละคร และหนังสือสวด ดังนั้น บทเสภาครั้งกรุงเก่า จึงตกมาถึงกรุงรัตนโกสินทร์เพียงเล็กน้อย จากการจดจำกันมาและมีไม่มากตอน

    <D>ตำนานเสภาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีหลักฐานแสดงที่มาได้ค่อนข้างดี ซึ่งจะพบได้จากกลอนของสุนทรภู่ กลอนไหว้ครู ที่ได้มีการเอ่ยชื่อครูเสภาไว้หลายท่าน พร้อมทั้งผลงานของท่านเหล่านั้น ที่ให้ไว้ในงานเสภา เช่น ครูทองอยู่ ครูแจ้ง ครูสน ครูเพ็ง พระยานนท์ เป็นต้น ส่วนครูปี่พาทย์ก็มีครูแก้ว ครูพัก ครูทองอิน ครูมีแขก ครูน้อย เป็นต้น

    <DD>หนังสือเสภาที่แต่งในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ฯ จะแต่งเป็นตอน ๆ แต่ละตอนยาวประมาณ 2 เล่มสมุดไทย พอจะขับได้ภายในหนึ่งคืน หนังสือเสภาเรื่องขุนช้าง ขุนแผน ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน แต่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ และพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ เท่าที่รวบรวมได้ในหอพระสมุด มีต่างกันถึง 8 ฉบับ และยังมีฉบับปลีกย่อยอีกต่างหาก รวมประมาณ 200 เล่ม สมุดไทย



    <DD>การชำระหนังสือเสภา เมื่อปี พ.ศ. 2460 <DD>หนังสือเสภาฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ เป็นฉบับที่น่าจะได้ชำระเป็นครั้งแรก โดยเลือกจากเรื่องและกลอนดีที่มีอยู่ 38 เล่ม เป็นเรื่องตั้งแต่ต้น จนถึงตอนขับนางสร้อยฟ้าไปเชียงใหม่ ตอนต่อจากนี้ไปถึงตอนพลายยงไปเมืองจีน และตอนพลายเพ็ชร พลายบัว เห็นว่าไม่มีสาระทางวรรณคดี จึงไม่พิมพ์ ต่อมาได้เพิ่มเติมจากบทเสภาปลีกอีกหลายตอนที่แต่งดี เช่น ตอนจรเข้เถรขวาด และบางตอนก็ตัดความในเสภาเดิมไปขยาย เช่น ตอนกำเนิดกุมารทอง หนังสือเสภาฉบับนี้ยาวประมาณ 43 เล่มสมุดไทย


    ขุนช้าง ขุนแผน วิถีชีวิตไทย

    [​IMG]

    กำเนิดขุนช้าง ขุนแผน และนางพิม

    [​IMG]




    <DD>[SIZE=+1]กรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองที่สงบสุข มีเมืองขึ้นมากมายและมีเรื่องราวของขุนช้าง ขุนแผน และนางพิมพิลาไลย เกิดขึ้นที่เมืองสุพรรณบุรี

    [SIZE=+1]สมัยที่สมเด็จพระพันวษาครองกรุงศรีอยุธยา


    <DD>
    มีชายคนหนึ่งชื่อ ขุนไกร อยู่ที่บ้านพลับได้แต่งงานอยู่กินกับนางทองประศรี ชาวบ้านแถววัดตะไกร ต่อมาขุนไกรย้ายไปรับราชการทหารที่เมืองสุพรรณบุรี ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นนายกรมช้างกองนอก ชื่อ ขุนศรีวิไชย ได้เมียชื่อนางเทพทอง อยู่ที่บ้านท่าสิบเบี้ย เมืองสุพรรณบุรี และพันศรโยธา มีเมียชื่อ นางศรีประจัน เป็นชาวบ้านท่าสิบเบี้ยเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นนางศรีประจัน ยังมีน้องสาวอีกคนหนึ่ง ชื่อ นางบัวประจัน มีผัวเป็นชาว บางเหี้ย ชื่อนายโชดคง ไม่มีอาชีพนอกจากเป็นโจร เที่ยวขโมยควายของชาวบ้าน

    [​IMG]





    <DD>[SIZE=+1]วันหนึ่ง นางเทพทอง เกิดฝันประหลาด ขุนศรีวิไชยทำนายฝันว่าจะได้ลูกชาย

    [​IMG]



    <DD>[SIZE=+1]ฝ่ายนางทองประศรี ฝันว่าพระอินทร์เหาะลงมายื่นแหวนเพชรเม็ดใหญ่ให้ ขุนไกรทำนายฝันว่าจะได้ลูกชาย ซึ่งภายภาคหน้าจะได้เป็นทหารใหญ่[/SIZE]


    <CENTER><TABLE border=0><TBODY><TR><TD>[SIZE=+1]"...นิมิตฝันว่าท้าวสหัสนัยน์</TD><TD></TD><TD>[SIZE=+1]ถือแหวนเพชรเม็ดใหญ่เหาะดั้นมา[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=+1]ครั้นถึงจึงยื่นแหวนนั้นให้[/SIZE]</TD><TD></TD><TD>[SIZE=+1]นางรับแหวนไว้ด้วยหรรษา[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=+1]แสงเพชรส่องวาบปลาบเข้าตา[/SIZE]</TD><TD></TD><TD>[SIZE=+1]ตื่นผวาคว้าทั่วปลุกผัวพลัน"[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

    [​IMG][/SIZE]



    [/SIZE]


    <DD>[SIZE=+1]ส่วนนางศรีประจัน ก็ฝันเช่นเดียวกันโดยฝันว่า พระวิษณุกรรม เหาะเอาแหวนมาให้ และพันศรโยธาทำนายฝันว่า จะได้ลูกสาวที่มีความสวยงามมาก


    [/SIZE]<TABLE border=0><TBODY><TR><TD>[SIZE=+1]" ท่านขาคืนนี้ข้าเจ้าฝัน</TD><TD></TD><TD>[SIZE=+1]ว่าพระวิษณุกรรมนายช่างใหญ่[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=+1]ถือแหวนประดับงามจับใจ[/SIZE]</TD><TD></TD><TD>[SIZE=+1]เอามาส่งให้ไว้กับเรา..."[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    [/SIZE]
    ต่อมาทั้งสามก็ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน นางเทพทองคลอดบุตรเป็นชายหัวล้านได้ชื่อว่า ขุนช้าง นางทองประศรีคลอดบุตรเป็นชายรูปร่างหน้าน่ารัก ได้ชื่อว่า พลายแก้ว และนางศรีประจันคลอดบุตรเป็นหญิง ได้ชื่อว่า พิมพิลาไลย

    [​IMG]






    <DD>[SIZE=+1]เด็กทั้งสามนี้เป็นเพื่อนเล่นกันมา ครั้งหนึ่งขณะเล่นกันอยู่ พลายแก้วเกิดอุตริชวนขุนช้างและนางพิม เล่นผัวเมีย ขุนช้างเห็นด้วย นางพิมไม่อยากเล่น พลายแก้วคะยั้นคะยอให้เล่น โดยบอกว่า ให้เล่นเป็นเมียขุนช้างไปพลาง ๆ แล้วตนจะไปลักมาจากขุนช้าง นางพิมจึงยอมเล่น ซึ่งนับว่าเป็นลางที่จะต้องเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ทำให้เทวดาดลใจ ให้คิดเล่นผัวเมียขึ้นมา

    [​IMG]


    [/SIZE]

    <DD>[SIZE=+1]เมื่อขุนช้างโตขึ้น ขุนศรีวิไชยได้พาไปถวายตัวกับ สมเด็จพระพันวษา เป็นกษัตริย์ที่มีพระบรมเดชานุภาพมาก เมืองต่าง ๆ พากันเข้ามาสวามิภักดิ์ และส่งราชบรรณการมาให้มิได้ขาด และทรงเป็นกษัตริย์ที่มีจริยธรรม ปกครองกรุงศรีอยุธยาและบรรดาเมืองขึ้น ให้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดมา ซึ่งพระองค์ก็รับขุนช้างไว้ แต่เนื่องด้วยยังเด็กมาก ก็ให้ขุนศรีวิไชยดูแลไปก่อน




    [/SIZE]
    **อ้างอิง เว๊ปเรือนคุณน้ำอบ รูป เเละ ข้อมูลคับผม
    </DD>***อ้างอิง จากเว๊ป เรือนคุณน้ำอบคับ ทั้งรุปเเละ ข้อมูล


    คิดว่าคงจามีเนื้อหาน่าสนใจไรมั้งงงง เคยเรียนกันมามั้งเเหละน่า..เนอะ
    [/SIZE]

    [/SIZE]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...