"ขอให้ยังสติอยู่กับกาย สติไม่ห่างกาย" : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Nana nora, 2 กรกฎาคม 2023.

  1. Nana nora

    Nana nora สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +68
    1856.jpg

    "ขอให้ยังสติอยู่กับกาย สติไม่ห่างกาย"

    “...การที่จะมีครูมีมีบาที่ดีนี่ไม่ธรรมดานะลูกนะ ถ้าครูบาไม่แจ้งแทงตลอดล่ะ แม้นครูบาอาจารย์ท่านสิ้นสงสัยแต่ท่านไม่เคยข้ามสมาธิตัวนี้มาท่านก็เทศน์โปรดเราไม่ได้นะ พูดให้ฟังตรงๆเลยนะลูกนะ มันคนละขั้วคนละมุม ท่านไม่ได้ข้ามตัวนี้นี่ สมาธิขั้นนี้ท่านไม่ได้ข้าม ท่านก็เดินมรรคของท่านเป็นความเรียบง่าย ก็เหมือนหลวงปู่มั่นกับหลวงปู่เสาร์อย่างงั้น เวลาที่ทำจิตภาวนาไปหลวงปู่มั่นไปถามหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่เสาร์ก็ไม่ทราบเพราะว่าองค์ท่านไม่เคยผ่านจุดนั้น

    ผู้หญิงที่เป็นแม่ชีถามนี่ ก็หลวงปู่ผ่านมาหมดแล้วใช่ไหมล่ะตั้งแต่เป็นฆราวาสโน่น ทำไมหลวงปู่จะตอบไม่ได้ ก็สมาธิขั้นพื้นฐานขี้ปะติ้วมันไปติดสมาธิเฉยๆ มันก็แค่นั้น ตัวนั้นมันก็อยู่ของมันอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหนหรอกลูกมันสิ้นสุดสัญญาแล้ว จนโน่นแหละมันอิ่มตัวของมันเมื่อไรมันก็ออกมา แต่ตัวนี้มีวิธีที่จะทำให้มันออกมาได้ในปัจจุบันพอได้ไหม ถ้าบารมีสร้างมาสมบูรณ์บริบูรณ์มันก็ลงในปัจจุบันได้ แต่ทางมันมีได้หรือไม่ได้ก็ต้องทำก่อนแล้วใครจะไปทราบได้นั่น ก็เหมือนที่เราต้องการเป็นพระอรหันต์อย่างงั้น แล้วใครจะทราบได้ ก็มีทาง ทางเดินมันมีอยู่นี่มันก็ไปตามทางนั้น ก็บอกลูกเขาทางมันมีอยู่นี่ ศีล สมาธิ ปัญญา ใช่ไหมล่ะ มหาสติปัฏฐานสี่นี่ก็เอาสิใช่ไหมล่ะ กาย เวทนา จิต ธรรม พิจารณาก็ไตร่ตรองอยู่ตลอดอยู่เนืองๆสิ ยืน เดิน นั่ง นอน พูด คิด ดื่ม ทำ เหมือนกับไม่ได้ทำอะไรแต่เราทำตลอดตลอดๆเข้าห้องน้ำห้องส้วม ปัดกวาดเช็ดถู ล้างบาตร ฉัน หรือบิณฑบาต ปกติเหมือนกับทำเพียรตลอด

    โดยเอาสติอย่างเดียวเท่านั้นแหละ ถ้ามันแรงไปก็เอาคำบริกรรมครอบๆๆไว้ มีพุทโธ ธัมโม สังโฆ เป็นต้น มันก็จะอยู่อย่างงั้น อย่าไปคิดว่ามันจะรวมหรือมันไม่รวมขอให้มีสติ หลวงปู่ทำมาเป็นอย่างงั้น ไม่ได้สนใจว่ามันจะรวมหรือไม่รวม ขอให้ยังสติอยู่กับกาย สติไม่ห่างกายก็คือจบตรงนั้น เพราเชื่อพระพุทธเจ้า เชื่อผู้เป็นครูเป็นบาอย่างอื่นไม่จำเป็นสติยิ่งมากยิ่งดี ถึงว่าทำไมผู้ที่ทำจิตภวนา จิตรวมบางคนจึงเป็นวิปลาสเพราะสติ สติมันน้อยนิด สติมันไม่มาก สติมันมากแล้วทำยังไงมันจะเป็นวิปลาสได้ล่ะ นั้นเพราะตั้งใจมันนั่นมันเป็นสัมมาสติเต็มภูมิของมันนะ สติที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติในการเดินมรรค โสดา สกิทาคา อนาคา และอรหันต์ มันจะรวมก็ปล่อยมันรวมไปสิ มันจะถอนก็ถอนมา มีสติรู้ตัวอยู่ไม่ได้ไปยุ่งเหยิงวุ่นวายกับรวมหรือไม่รวม

    พิจารณาลงสู่พระไตรลักษณ์ญาณอยู่ตลอด ความไม่เที่ยงเป็นทุกข์ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา ร่างกายนี้ก็ไม่ใช่ของเราใช่ไหมล่ะมันเป็นอนิจจังมันไม่เที่ยง ยึดมั่นถือมั่นมันก็เป็นทุกข์ มันจะรวมมันก็เรื่องของมันนี่ไม่ใช่เรื่องของเรา ถ้ามันไม่รวมมันก็เรื่องของมันไม่ใช่เรื่องของเรา เรามีสติรู้ตัวอยู่ทุกเมื่อนี่เดินทางได้ไว อย่างไว ๗ วัน อย่างช้า ๗ ปี อย่างที่ครูบาอาจารย์เล่าต่อกันมา ๗ วัน ๗ เดือน ๗ ปี นั่นแหละ มันไปตัวนี้มันไปได้ไวนะลูก อย่างงั้นเวลาที่หลวงปู่ครองฆราวาสเราจึงเอาสติตัวนี้เป็นตัวนำทางมันก็เลยไปแบบที่ลูกไม่เคยเห็น เวลาที่มันรวมมันก็รวมแบบมีสติ เวลาถอนมันก็ถอนแบบมีสตินะ มันจะอยู่นานไม่นานมันก็มีสติรู้อยู่ตรงนั้น รวมลงสุดฐานจนหายเงี้ยบ...จนสักแต่ว่ามันก็รู้เพราะสติมันโดดเด่นนี่ หายเงียบคำว่าหายเงียบตัวสติตัวนั้นมันยังโดดเด่นอยู่นี่ มันยังรู้อยู่นี่ สักแต่ว่าไม่มีจุดไม่มีต่อมไม่มีอะไรมีสักแต่ว่า มันก็รู้เพราะสติมันไม่ได้ขาดไปไหน เวลามันถอนก็รู้ เวลามันรวมใหม่มันก็รู้ จะถอนก็ถอนจะรวมก็รวมสิมันก็อยู่อย่างงั้นเพราะเราไม่เอาที่รวมแล้วถอน

    เราเอานิพพิทาความเบื่อหน่ายตัวนั้นโดยถ่ายเดียว หลวงปู่ปฏิบัติตั้งแต่เป็นฆราวาสมาอย่างงั้นที่ลูกถามนี่เรื่องขี้ปะติ๋ว เพียงแต่เดินมรรคไป เดินมรรคไปแล้วมันสิ้นสุดสัญญา มันจำอะไรไม่ได้อยู่ปัจจุบันรู้อยู่แต่มันตัดสินปัญหา ปุ๊บปั๊บ ปุ๊บปั๊บ อย่างงั้นแหละมันเกิดดับ มันเกิดดับ มันไม่ออกแต่ยังดีที่มีสติอยู่ สติตัวนี้ถึงจะมีไม่มากก็ยังดีที่มีสติ ก็พัฒนาสติต่อไปๆๆ เมื่อสติมันมากขึ้นๆๆ ตัวนี้ปัญญามันก็จะแอบอิงสมาธิขึ้นมาตัวนั้นที่เรียกว่าภาวนามยปัญญา นั่นแหละที่ว่ามันวางกันลง ตัดสินปัญหา มันอิงมาจากสมาธิตัวนั้นที่เรียกว่าภาวนามยปัญญา...”

    พระธรรมเทศนา : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
    วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
    ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖ (ตอนเย็น)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2023

แชร์หน้านี้

Loading...