เพื่อการกุศล ขอเชิญร่วมสร้างโบสถ์วัดทุ่งยายดำ บูชาวัตถุมงคลหลวงพ่อนิคม

เนื่องด้วยหลวงพ่อนิคม วัดทุ่งยายดำ ท่านได้สละเลือดเนื้อหยาดเหงื่อของท่าน เพื่อหาทุนในการสร้างโบสถ์นั้นมานานหลายปีแล้วนั้น ณ บัดนี้สถานะของพระอุโบสถที่หลวงพ่อท่านได้สร้างนั้นใกล้บรรลุแล้วเสร็จ ซึ่งเดิมทีหลวงพ่อท่านได้ตั้งใจไว้ว่าจะสร้างวัดให้เเล้วเสร็จเเละสามารถปิดทองฝังลูกนิมิตได้ภายในปี ๒๕๕๙ นี้ แต่เนื่องด้วย ปัจจัยที่ยังไม่เพียงพอ อีกทั้งละเเวกวัดทุ่งยายดำยังขาดความเจริญ เป็นถิ่นทุระกันดารจึงทำให้การบอกบุญนั้นเป็นไปตามสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้าน จึงทำให้การสร้างโบสถ์หลังนี้ยังไม่เเล้วเสร็จ อีกทั้งร่างกายหลวงพ่อนิคมท่านเองก็ไม่ค่อยเเข็งเเรง ท่านอาพาธมาโดยตลอดเเต่ด้วยจิตใจของหลวงพ่อที่ได้ถวายกายถวายชีวิตพลีให้กับพระพุทธศาสนานั้นท่านจึงได้ฝืนสังขารของท่านเขียนผ้ายันต์ต่างๆ ทำวัตถุมงคลต่างๆเพื่อตอบเเทนพี่น้องที่ได้มีจิตเมตตานำปัจจัยมาร่วมด้วยช่วยกันสร้างโบสถ์ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้สืบต่อไปยันชั่วลูกชั่วหลาน

ด้วยดำหริของหลวงพ่อนิคม ผมจึงมาบอกบุญท่านผู้มีจิตศรัทธา ช่วยกันร่วมสร้างโบสถ์หลังนี้ให้บรรลุวัตถุประสงค์เพื่อที่จะได้เป็นที่ทำกิจของสงฆ์ เป็นที่ๆทำสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์

ดังนั้นจึงเรียนเชิญพี่ๆน้องๆ มาร่วมบุญทำบุญสร้างโบสถ์หลังนี้กันครับ

รายละเอียดของโบสถ์หลังนี้ที่ยังไม่เเล้วเสร็จและรอปัจจัยในการก่อสร้างต่อมีดังนี้
๑. ทำสีพื้นไม้ภายในโบสถ์
๒. สำสีผนังภายในโบสถ์
๓. ภาพเขียนฝาผนังภายในโบสถ์
๔. ภาพเขียนเพดานโบสถ์
๕. สีบานหน้าต่างและบานประตูและเขียนรายรดน้ำ
๖. เสมา
๗.พื้นรอบโบสถ์
๘.ระบบไฟฟ้าภายในโบสถ์







ซึ่งทั้งหมดนี้เดิมทีหลวงพ่อท่านคาดว่าจะเเล้วเสร็จตั้งเเต่ปีที่เเล้ว(๒๕๕๘) แต่เนื่องด้วยหลวงพ่อท่านอาพาธการดำเนินงานต่อจึงชะงัก จวบจนกระทั่ง ณ ปัจจุบันหลวงพ่อท่านก็ยังคงมีร่างกายไม่ค่อยเเข็งเเรง จึงอยากจะขอเพื่อนพี่น้องสมาชิก ช่วยกันร่วมบุญในครั้งนี้ครับ สาธุ

วัตถุมงคลที่วัดทุ่งยายดำที่ออกให้ร่วมบูชามีดังนี้ครับ (วัตถุมงคลเเละผ้ายันต์นี้ ท่านทำท่านสร้างท่านจาร ท่านเขียนด้วยลายมือของหลวพ่อนิคมท่านเองครับ)


๑. พญาคชสีห์ ขนาด กว้าง 90 ซ.ม X 90 ซ.ม [ 1,000 ]


๒. พระราหู (จันทรประภา) ขนาด กว้าง 90 ซ.ม X 90 ซ.ม [ 1,000 ]


๓. เพชรพญาธร ขนาด กว้าง 90 ซ.ม X 90 ซ.ม [ 1,500 ]


๔. เพชรพญาธร ผืนเล็ก ขนาด กว้าง 50 ซ.ม X 50 ซ.ม [ 500 ]


๕. รกช้างเผือก (พลายเงิน-พลายทอง) หลอดเล็ก [ 599 ]เหลือจำนวนจำกัด


๖. ปลัดเพชรพญาธร [ 500 ]


๗. ตะกรุดเมตตาเพชรญาธร [ 300 ] ติดรูปไว้ก่อนครับ

๘. พญาคชสีห์ ขนาด เท่ากระดาษ A4 [ 100 ]ติดรูปไว้ก่อนครับ




รายการจองทั้งหมดนี้สามารถโอนเข้าบัญชี

หลวงพ่อนิคม วชิรญาโญ
ธนาคาร กรุงไทย
เลขบัญชี 203-0-10876-6
สาขา พนมสารคาม

ค่าจัดส่ง 60 บาท

หากโอนเเล้วเเจ้งลงหน้าเวปครับจะทำการจัดส่งให้ครับ

 

โบสถ์หลังนี้หลวงพ่อนิคมท่านใช้เวลาสร้างมาในเวลาเพียงไม่กี่ปี เกิดนิมิตที่ดีกับโบสถ์หลังนี้มาเเล้ว 3 ครั้งครับ ท่านไม่เคยขออะไรจากใคร ท่านมีเเต่ให้เป็นพระที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาครับ คุยกับท่านทีไรแล้วไม่อยากกลับ เราเป็นผู้ฟังที่ดี ท่านก็จะเทศน์สอนได้ทั้งวันจนต้องปลีกตัวออกมา หากเพื่อนสมาชิก พี่ๆน้องๆท่านใดผ่านไปผ่านมาก็ขออนุโมทนาไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ เพราะอย่างน้อยหากท่านเข้ามาเยี่ยมเยีนบ้านหลังนี้ ท่านจะรู้ว่าการทำบุญกับหลวงพ่อนิคม วัดทุ่งยายดำ ท่านจะได้บุญเต็มเปี่ยม บุญนี้ได้โดยไม่เลือกว่าท่านจะบูชาหรือไม่บูชาก็ตามครับ ขอเพียงท่านร่วมอนุโมทนาบุญนี้ท่านจะได้บุญกุศลด้วยทันทีครับ สาธุ

 

ผ้ายันต์เเละวัตถมงคลชุดนี้ เสกและเข้าพิธีมาตั้งเเต่ครั้ง สร้างโรงครั้วและห้องน้ำ ให้หลวงปู่จันทร์วัดป่าหนองยาง จนกระทั้งมาช่วยพระอาจารย์ชุมพล เดินสายเสกพระหลวงพ่อกวยครับ ทุกวัดทุกพิธีวัตถุมงคลชุดนี้ผ่านมาพร้อมกัน จะมียกเว้นผ้ายันต์ราหูเท่านั้นที่ไม่ทันร่วมเดินสายเสก พระรุ่นสร้างโรงครัวเเละห้องน้ำของหลวงปู่จันทร์ครับ

 

พญาคชสีเป็นแบบสกรีนหรือเขียนครับ

 

ผ้ายันต์ทั้งหมด เป็นเเบบเขียนด้วยลายมือหลวงพ่อนิคมครับ ยกเว้นผ้านัต์ คชสีห์ผืนเล็ก ขนาดเท่า A4 จะเป็นเเบบสกรีนครับ

 

เรื่องเล่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมาครับ

ผ้ายันต์ราหู หรือ อสุรินราหูนี้ ครั้งเมื่อหลวงพ่อนิคมท่านเขียนเเละบริกรรมเสร็จ จึงนำไปเเขวนไว้ที่ผนังเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของรูปภาพเเละตัวยันต์ ขณะนั้นมีเเมวตัวหนึ่งนอนอยู่บริเวณนั้นพอดี พอหลวงพ่อกางยันต์แขวนที่ผนังแมวตัวนั้นก็มองและนอนอย่างปกติ แต่พอหลวงพ่อนิคมท่านนั่งบริกรรมเสกเป่าผ้ายันต์ผืนนี้ปรากฏว่าเจ้าเเมวตัวที่นอนอยู่ ลุกขึ้นนั่งจ้อง อสุรินราหู สักพักเริ่มยืนขึ้นเเล้วพองขนโก่งหลังเเล้วขู่เสียงดังใส่ผ้ายันต์อสุรินราหูนี้ หลวงพ่อก็นั่งชอบใจ เเละบอกว่าผ้ายันต์ที่ท่านทำมาทั้งมหดโดยเฉพาะผ้าที่ท่านจารหรือเขียนมือนั้นมีชีวิตหมดทุกผืน ท่านเรียกตามสูตรที่ท่านได้ร่ำเรียนมา ใครได้บูชาผ้ายันต์ อสุรินราหูไปจะเป็นมงคลกับชีวิตเเละที่อยู่อาศัย เเละจะหนุนดวง พยุงดวงได้ดีมาก เมตตาก็ดี เก็บไว้บูชาเพื่อให้สำหรับการค้าขายก็ได้ ตามแต่จะใช้เถิด

 

พูดถึงเรื่องพญาคชสีห์

หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ท่านเขียนผ้าให้ไม่ทัน เลยถามท่านว่าเพราะอะไร หลวงพ่อบอกว่าในละเเวกทุ่งยายดำเขามาหากันไปใช้เยอะ ตั้งเเต่เเรกเริ่มก่อสร้างวัดกันขึ้นมาจนถึง ณ ปัจจุบัน เป็นดินเเดนที่ค่อนข้างกันดาล ห่างไกลความเจริญ ไม่ว่าจะเป็นโจร เป็นเสือ ค่อนข้างชุกชุม หรือแม้เเต่ข้าราชการตำรวจเองก็ยังก็ดูเเลกันเองเพราะเส้นทางติดต่อไปมาระหว่างเมืองค่อนข้างลำบาก อันตรายก็เยอะ ยิ่งอยู่ในเเหล่งเสือ เเละโจรชุกชุมด้วยเเล้วต้องหาที่พึ่ง จึงมาขอของดีจากหลวงพ่อนิคมเอาไปใช้เอาไปติดตัว จนเป็นที่รู้จักของเหล่าข้าราชการ ประสบการณ์ที่เด่นๆที่มีเรื่องเล่ามาก็คือเรื่องมหาอำนาจ ของพญาคชสีห์ เป็นมหาอำนาจตบะเดชา สมัยก่อนตำรวจ ทหารนำไปใช้กันมาก จวบจนปัจจุบันที่หลวงพ่อเขียนผ้าออกห้บูชาไม่ทัน เพราะเป็นการเขียนด้วยลายมือหลวงพ่อเอง ผ่านการเรียกสูตรเรียกนาม อธิษฐานจิต เรียกอักขระเเต่ละตัวจนเห็นว่าอักขระนั้นลอยเด่นขึ้นมือจึงถือว่าใช้ได้ หลายท่านที่นำไปใช้กลับมาบอกเป็นปากต่อปากว่าได้ผล มีข้าราชการหลายท่านเอ่ยว่า เข้าหานายลำบาก หรืออาจเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย เเต่เมื่อนำพญาคชสีห์ไปติดตัว หรือบูชา เรื่องราวต่างๆนาๆที่เคยเป็นกังวลได้หายเลือนไปจนเจ้าตัวไม่ทันสังเกตุเเถมยังสนิกับเจ้านายเเละได้ปรับเลื่อนยศตำเเหน่ง

ครั้งนึงผมเคยเห็นหลวงพ่อท่านหยิบหนังเสือออกมาแล้วโยนทิ้ง เลยไปเก็บมาถามหลวงพ่อว่า หลวงพ่อทิ้งทำไมครับ เดิมทีท่านได้หนังเสือนี้มาจากพรานป่า พรานบอกว่าเป็นหนังเสือหลวงพ่อนิคมเลยรับเอามา เพื่อทำตะกรุดหนังเสือสร้างวัด เเต่สุดท้ายท่านก็โยนทิ้ง เลยเป็นเหตุเเห่งความสงสัย หลวงพ่อบอกว่าการเอาหนังเสือมาเสกนั้นท่านก็เสกตามตำราที่ท่านได้มา เสกเเบบเดียวกันกับพญาคชสีห์ แต่นี่หลวงพ่อเสกมาเเล้วสามวัน ไม่เห็นเป็นเสือเลยทิ้ง เล่นเอาผมงงไปกันใหญ่ว่าความหมายคืออะไร

หลวงพ่ออธิบายให้ฟังต่อว่าโดยปกติที่หลวงพ่อเสกหนังเสือไม่เกินสามวันจะต้องมีกลิ่นสาบให้ได้รับรู้ (กลิ่นสาบนี้ต่อให้เป็นหนังที่ฟอกเเล้วสะอาดแล้วเมืิ่อเสกเป็นตัวตนก็จะมีกลิ่นสาบเสือเช่นเดียวกัน) แต่นี่สีห้าวันเข้าไปแล้วยังยิ่งอยู่เลย เเสดงว่าหนังที่ได้มามันไม่ใช่หนังเสือโคร่ง เเต่อาจเป็นเสือไฟหรือแมวป่า จึงไม่สำฤทธิ์ผลของการเป็นตัวตนหลวงพ่อเลยโยนทิ้ง จึงนำเรื่องราวเล็กๆน้อยๆมาเล่าสู่กันฟัง

 

ของดีทั้งนั้นร่วมกันทำบุญครับ

 

ร่วมบุญด้วยครับ ถวายปัจจัย360บาท เพื่อบูชาตระกรุดนะครับโอนแล้วผมแจ้งนะครับพร้อมที่อยู่ในการจัดส่งครับ ขอบคุณครับ ขออนุโมทนาในบุญครั้งนี้ด้วยครับ(f)

 

รับทราบครับ อนูโมทนาบุญนี้ด้วยครับ

 

ที่อยู่ในการจัดส่งนะครับ

คุณหน่อง บ้านไปรษณีย์สะพานสี่ 110/49 หมู่ 6 ตำบล มาบยางพร อำเภอ ปลวกแดง จังหวัด ระยอง 21140 ขอบคุณครับ(f)

 

รับทราบครับ ขอบคุณครับ

 

โอนเข้าบ/ช หลวงพ่อนิคม วันนี้10/02/59จากธนาคารไทยพาณิชย์ไปยังธนาคารกรุงไทยสาขาพนมสารคาม จำนวนเงิน 360 บาท เวลา 12.09 น. แล้วนะครับ ขออนุโมทนาในบุญครั้งนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
(f)

 

รับทราบครับ เดี๋ยวจัดส่งให้ครับ

 

ขอบคุณครับ

 

ปลัดเพชรพญาธร ทำจากไม้อะไรบ้างครับ

 

เท่าที่ทราบนะครับ มีไม้มะยมตายพราย , เเก่นไม้พยุง(ไม้นี้เกือบเป็นความกันช่วง คสช มาตรวจที่วัดเเต่เขาเห็นว่าเอามาใช้เป็นประโยชน์เเก่วัดเลยให้หลวงพ่อใช้ทำวัตถุมงคลช่วยวัดต่อไปครับ) ,ไม้เถาวัลหลง ,ไม้พญาไม้ (ไม้นี้เป็นใหญ่กว่าไม้ทั้งปวง),ไม้เนื้อเเข็งกระดานเก่าที่ชาวบ้านนำมาถวาย(เป็นไม้ที่ใช้ทำพื้นครัว คนโบราณบอกว่าเป็นไม้มีอาถรรถ์ด้านเมตตาค้าขาย ทำมาหากิน) ซึ่งไม้เเต่ละชนิดผมไม่เเน่ใจว่าหมดหรือยังนะครับ แต่หากหมดเเล้วต้องสั่งจองครับ พระลูกวัดจะเหลาให้เเล้วนำเข้าพิธีครับ

แต่เท่าที่อยู่กับผมยังพอมีเหลือเป็นไม้เเก่นพยุง และไม้กระดานเก่าครับ ปลัดเพชรบางตัวหลวงพ่อท่านจะลงตาพญายมไว้ด้วย ซึ่งลงไม่ทุกตัว ใครโชคดีก็ได้ไว้บูชาครับ เมตาค้าขายดี มีเสน่ห์เเก่คนทั้งหลาย ที่วัดเหลาปลัดเพชรพญาธรนี้ไม่ทันครับ

 

มีเรื่องเล่าเรื่องตะกรุดหอม เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังครับ เป็นตะกรุดเพชรพญาธร....

 

ว่าด้วยเรื่องตะกรุดหอมนั้น ครั้งนึงหลวงพ่อนิคมเคยบอกว่า ตะกรุดเพชรพญาธรนี้เมตตาเเรงมาก ใครนำไปใช้วันดีคืนดีจะได้กลิ่นหอมๆลอยมาชนจมูก ก็เลยถามหลวงพ่อว่ากลิ่นที่หลวงพ่อบอกนี้เป็นกลิ่นอะไร หลวงพ่อก็ตอบว่าบอกไม่ได้ว่าเป็นกลิ่นอะไรแต่รู้ว่าเป็นกลิ่นหอมและหอมเเบบไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมไม่ใช่กลิ่นหอมที่สกัดจากสารเคมี ผมเองก็ไม่เชื่อเพราะว่าตะกรุดที่ม้วนจากแผ่นทองเเดงนั้นจะมีกลิ่มหอมได้อย่างไร กาลเวลาผ่านไปตะกรุดชุดนี้ก็ยังคงอยู่ในลังพระตระเวนเสกเรื่อมาเป็นเวลาร่วมสองปี วันนึงเปิดลังเพื่อนำวัตถุมงคลออกมาจัดส่งให้เพื่อนสมาชิก ปรากฏว่าลังขนาดประมาณ กว้างxยาวxสูง (60x90x60)Cm.โดยประมาณ มีกลิ่นคลุ้งเต็มไปหมดจนสงสัยว่าเป็นกลิ่นอะไร ผมก็ค่อยๆหยิบวัตถุมงคลออกทีละอย่าง จนเกือบหมดลังเเต่ก็ไม่เจออะไรที่เป็นต้นกันเนิดของกลิ่น จนกระทั่งมาเจอชุดตะกรุดนี่เเหละ(เเต่ก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่หลวงพ่อนิคมเคยบอกไว้เรืิ่องกลิ่นหอม) หยิบออกมาก็พบว่ามีกลิ่นหอมเเรงมาก จนต้องนำให้คุณเอก พิสูจน์ด้วยอกค ก็ปรากฏว่าเป็นจริง คิดไปคิดมาว่ามีกลิ่ได้อย่างไร เพราะไม่ได้เอาเครื่องอมใดๆเลยลงในกล่อง ไม่มีเเม้กระทั่งน้ำอบ ดอกไม้หอม หรืออะไรก็ตามที่เป็นของหอม คิดไปคิดมานึกถึงคำที่หลวงพ่อนิคมเคยอกไว้ ว่าวันดีคืนดีตะกรุดจะมีกลิ่น จึงนำเรื่อนี้ไปเล่าให้หลวงพ่อนิคมฟัง พร้อมนำตะกรุดใส่ถุงซิบไปให้ท่านดูด้วย และมีพยานร่วมสังเกตุถึงกลิ่นนี้หลายคนยังบอกว่าหอมจริงๆ เขาถามผมว่าใส่น้ำหอมหรือป่าว เราก็บอกป่าว เขาบอกว่าเป็นกลิ่นของเเผ่นทองเเดงมั้ง ผมก็เลยไปหยิบเเผ่นทองเเดงที่หลวงพ่อยังไม่ได้จารเอามาให้ดมพิสูจน์ดู ก็เห็นทำหน้าเบ้กัน แล้วบอกว่าทำไมไม่เห็นหอมเลย เรื่องเเบบนี้ผมไม่ทราบครับว่าทำไมไม่หอม ทราบแต่ว่าผมเเละคุณเอกเเบ่งกันไปคนละ 10 ดอก ราคาเมื่อสองปีที่เเล้วก็ราคา 300 เช่นกันเป็นราคาวัดครับ เห็นว่าเป็นเรื่องเเปลกเลยนำมาเล่าสู่กันฟัง ถึงประสบการณ์ที่พบมาครับ