ขอเชิญร่วมกันถวายพระพร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี

ขอเชิญถวายพระพร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีกัน เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ท่าน ในวันที่ 2 เมษายน 2549 ครับ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=732 border=0><TBODY><TR><TD><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- / message --><!-- sig -->
sithiphong
__________________

 

เจ้าฟ้าผู้เปี่ยมด้วยน้ำพระราชหฤทัย
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรรัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระอัจฉริยภาพและสนพระทัยในศาสตร์และศิลป์ต่างๆ นานัปการ อีกทั้งทรงมีพระวิริยะอุตสาหะประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่บ้านเมืองและพสกนิกรชาวไทยมากมาย ไม่ว่าจะในด้านการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม เกษตรกรรม อักษรศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรม

นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงช่วยดูแลและแบ่งเบาพระราชภารกิจสมเด็จพระบรมชนกนาถและสมเด็จพระราชมารดา ในการเสด็จฯ ทรงเยี่ยมราษฎรในท้องถิ่นต่างๆ ทรงเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศชาติทุกแขนงและในการดำเนินการกิจการโครงการพระราชดำริทุกโครงการด้วยทรงตั้งพระทัยที่จะยกระดับฐานะ ความเป็นอยู่ การศึกษาของราษฎรให้ดีขึ้น รวมทั้งทรงช่วยบรรเทาทุกข์บำรุงสุขของพสกนิกรชาวไทยใต้หล้า ตามที่สมเด็จพระราชชนกนาถและสมเด็จพระราชมารดาทรงมีพระประสงค์
โดยเฉพาะสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่กำลังเกิดเหตุความวุ่นวายทุกวันจากการสร้างสถานการณ์ต่างๆ จนเกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งความยากลำบากในการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ก็เป็นสถานการณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทรงห่วงใยและมิได้ละเลย
ด้วยเหตุนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรใน จ.ปัตตานี เมื่อเดือนมกราคม 2549 เพื่อทรงเป็นมิ่งขวัญและกำลังใจให้พี่น้องชาวใต้ที่ประสบความเดือดร้อนจากการก่อความไม่สงบของคนบางกลุ่ม ด้วยสีพระพักตร์ที่แสดงถึงความใส่พระทัยอย่างไม่ถือพระองค์ พระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติมีมากมายหลายประการ ตั้งแต่ทรงมีพระราชปฏิสันถารสอบถามความก้าวหน้าเรื่องของบ่อบำบัดน้ำเสียเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง ที่มูลนิธิชัยพัฒนาได้เข้ามาช่วยเหลือ แล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงมีความสนพระทัยในเรื่องการอบรมทั้งด้านอาชีพและด้านวิชาการของโรงเรียนต่างๆ
ที่เห็นอย่างชัดเจนคือทรงใส่พระทัยถึงเรื่องการเรียนของเด็กๆ ในชุมชน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมสถาบันศึกษาปอเนาะเด็กกำพร้าและยากจนปัตตานี บ้านสุไหงปาแน จ.ปัตตานี
"อาจจะให้เด็กรุ่นก่อนๆ ที่มีวิชาครูกลับมาทำงาน มาสอนที่นี่ต่อ จากที่ปักจักรเป็นรูปได้แล้วต้องผลิตเป็นสินค้าให้เป็นที่สนใจต่อไปอีก เด็กๆ ต้องรู้จักบริหารจัดการเองให้เป็น สำคัญยิ่งกว่าการไปเรียนต่อปริญญาอีกนะ เพราะตอนนี้ก็มีคนจบปริญญามาแล้วตกงานเยอะแยะ รวมทั้งเขาต้องรู้จักการติดต่อกับคนอื่นยังไง ไม่ใช่นั่งรอความช่วยเหลืออย่างเดียว" ตอนหนึ่งของพระกระแสรับสั่งที่มีไปยังครูในสถาบัน
ใช่ว่าเพียงเท่านั้น พระองค์ทรงรับทราบถึงความทุกข์ยากในการทำมาหากินของผู้คนด้วยว่าบ่อยครั้งที่เราจะได้ยินข่าวถึงการถูกลอบทำร้ายเมื่อลุกขึ้นไปกรีดยางในช่วงเช้ามืด หรือถูกขวางปาระเบิดและซุ่มยิงเมื่อออกไปจับจ่ายซื้อของในย่านชุมชน แม้กระทั่งร้านค้าที่เปิดจำหน่ายค้าขายมากว่าสิบปี ก็ถูกปาระเบิดเพื่อสร้างความไม่สงบในพื้นที่ ทั้งหมดนี้คือปัญหาสำคัญที่ทำให้พี่น้องใน 3 จังหวัดไม่กล้าออกจากบ้านและทำให้ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงทรงมีพระราชดำรัสให้พี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะแม่บ้านจัดทำอาหารพื้นเมือง เช่น ข้าวยำกับน้ำบูดู แกงไตปลา คั่วกลิ้ง และผักสดประจำท้องถิ่น ส่งมาจำหน่ายในร้านภูฟ้าทุกสาขาทุกวัน ซึ่งในช่วงที่เสด็จฯ ในพื้นที่ ทรงได้ทดลองชิมอาหารประเภทต่างๆ แล้วจึงมีรับสั่งให้นำขึ้นมาจำหน่าย เพียงแต่ทรงย้ำให้ปรับปรุงในเรื่องของกระบวนการผลิตให้มีความสะอาดมากขึ้นเท่านั้น
"อยากให้เขามีรายได้แม้เพียงจะไม่มาก แต่ก็เป็นรายได้ที่สามารถนำไปจุนเจือครอบครัวในช่วงที่เดือดร้อน ซึ่งก่อนที่จะให้ส่งขึ้นมาจำหน่ายที่ภูฟ้าได้ชิมแล้ว เพียงแต่ให้ปรับปรุงเรื่องความสะอาดและการบรรจุในแพ็คเกจ ซึ่งรายได้อาจจะไม่มากนัก แต่ทุกบาททุกสตางค์ก็ส่งกลับไปให้เขาทั้งหมด" ใจความตอนหนึ่งที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานสัมภาษณ์แก่คณะสื่อมวลชนในวันที่เปิดร้านภูฟ้า สาขากำแพงเพชร เมื่อปลายปี 2548
แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยม แต่ก็เป็นความประทับใจและกำลังใจอันยิ่งใหญ่ สำหรับพี่น้องใน 3 จังหวัดภาคใต้ ที่มองว่าตนเองไม่เหลือค่าอะไรในสังคม และไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะมีชีวิตอยู่ในพื้นแผ่นดินภายใต้พระบรมโพธิสมภารเฉกเช่นพี่น้องภาคอื่นๆ ของประเทศหรือไม่
ด้วยพระปรีชาสามารถ พระปัญญา และพระเมตตา ที่พระองค์ทรงกระทำมาโดยตลอด ประชาชนชาวไทยจึงมีความปีติโสมนัสเป็นที่สุด ที่ได้มีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นเจ้าฟ้าเสริมพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนเป็นคู่บุญบารมีและเป็นเกียรติของประเทศชาติสืบไป
เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมพรรษา 51 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2549 พสกนิกรชาวไทยขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน และมีพระพลานามัยสมบูรณ์ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยทั่วหล้าตลอดกาลนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้ากองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก" ขอเดชะ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=778 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top bgColor=#ffffff><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center bgColor=#ffcc33 border=0><TBODY><TR><TD align=middle>วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2549</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- Date Table --></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>