ของเหลือเดนเอาเข้าวัด : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Nana nora, 11 มิถุนายน 2023.

  1. Nana nora

    Nana nora สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +68
    ทดสอบ.jpg

    #ของเหลือเดนเอาเข้าวัด

    “...พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้ารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมาย ๑,๒๕๐ องค์ ในสมัยพุทธกาลยิ่งใหญ่แห่งใจที่สิ้นอาสวะ จิตอรหันต์ใจอรหันต์เกิดในสมัยพุทธกาลนี่ สมัยเรานี่ส่วนมากมันไม่ใช่จิตอรหันต์ มันจิตเปรตจิตผี หันหาความชั่วเข้าสู่หัวจิตหัวใจเป็นอย่างงั้น เนี่ยเราก็ไม่ได้ว่าใครนะ เราว่าให้เรานี่แหละสมัยที่เราครองฆราวาสอยู่นั่นแหละ ตอนแรกถ้าจะพูดถึงว่า ธรรมยังไม่ได้ซึมซับเข้าสู่จิตใจของเราเท่าไหร่ ก็ธรรมดาของสัตว์โลกที่มีกิเลสก็ย่อมที่จะแสวงหา แล้วก็ไม่รู้ตอนแรกเนี่ย ครูบาอาจารย์บอกว่าก็ได้บุญได้กุศลเต็มเม็ดเต็มหน่วย

    ก็เอาแล้วขึ้นรถไปเรี่ยไรแล้วเพื่อสร้างโบสถ์อยู่วัดบ้านบุ่งหวาย เราก็ไม่ทราบเราอยากได้บุญนี่ ไปเรี่ยไรไปหาแผ่ข้าวแผ่เงินแผ่ทองบ้านเราเรียกว่าแผ่นะไปงั้น จนสร้างโบสถ์เสร็จ ๓ ปี ๔ ปี ที่บ้านบุ่งหวาย บุญผะเหวดอีกแล้ว อยากได้บุญมากให้นั่งฟังการเทศน์ผะเหวดตั้งแต่กัณฑ์แรกจนถึงกัณฑ์สุดท้าย ห้ามลุกจากที่ว่าปวดขี้ปวดเหยี่ยวก็ห้ามลุก เราก็อยากได้บุญอีกเราก็ซัดอีก นี่เราไม่ได้ไปว่าใครนะพูดถึงว่านี่แหละมันหัน มันหันจากคุณงามความดีตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าหันหนีเลยเข้าไปสู่นรกมหาอเวจีที่ไหนไม่ทราบ คือมันไม่รู้เนี่ยการที่มีครูมีบาสอนเนี่ยนี่แหละที่เรียกว่าเลิศประเสริฐที่สุด ครูบาอาจารย์นี้ถ้าว่าสอนนี่ท่านก็สอนตามที่จะบอกว่าที่เป็นประเพณีต่อกันมาใช่ไหมล่ะ เออ...อันนี้ไปสร้างโบสถ์สร้างศาลานะ

    ขึ้นรถไปก็เอาฆ้องเอากลองไป เอาถุงไป เอาบาตรไป บอกบุญถึงบ้านจะได้เงินได้ทองก็มาสร้างโบสถ์สร้างศาลาสร้างกุฎิสร้างวิหาร เราก็อยากได้บุญเราก็ไปกับพ่อแม่ครูอาจารย์สมัยก่อนนะ นี่ไปแล้วเหนื่อย เหนื่อยจะทำยังไง เงินจำนวนนั้นเงินจำนวนที่เรี่ยไรนั่น ก็เอาละกึ่งหนึ่งก็เอาไปแล้วซื้ออาหารล่ะ เอาไปเอามาก็ซื้อเหล้าสู่กันกินล่ะนั่น เป็นอย่างงั้นนี่ไม่ว่าใครนะที่เราเห็นมาเราผ่านมางั้นแหละ แต่เราไม่ได้กินเหล้าหรอกเรานี่นะ เป็นฆราวาสนี้เราเบื่อของพวกนี้แล้วแต่เราอยากได้บุญ นี่พูดถึงว่าเราไม่รู้ความเป็นจริงแห่งพระสัทธรรม กว่าที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นแบบไหนก็เกือบนะ เขาเรียกว่าหวิดนรก หวิดมหาอเวจี หวิดทุคติ นี่กว่าที่จะข้ามทุคติเข้าสู่สุคติได้มันก็ไม่ใช่ธรรมดา

    อย่างงั้นมาหามงคล วันมาฆบูชานี่เรานี่หมอบเลยนะ พูดให้ฟังตรงๆนะคือไม่มีครูบาอาจารย์สอนสมัยเริ่มต้นนะ อือ...จนกว่าที่เรานู่นน่ะเริ่มเป็นหนุ่ม อายุ ๒๐ ปีนู่นน่ะเราจึงทราบ เมื่อมาเจอครูบาอาจารย์รูปหนึ่งท่านเสียแล้วล่ะ รูปนั้นก็สอนเรื่องนี้แหละเนี่ยสอนเรื่องภาวนา ถึงหากแม้ท่านจะไม่สอนเรื่องมรรคเรื่องผล แต่ท่านสอนภาวนาเริ่มเลยเราก็เริ่ม เอ้า...ตัวนี้คือบุญ ตัวนี้คือบาป ทำบุญตัวนี้ได้ตัวนี้ อ้าว...ทำบาปตัวนี้ไปตกนรกอย่างงี้ๆไล่ไปๆนั่นแหละเกิด ความกลัวนรกอย่างสุดโต่งตัดสินปัญหาเลยเรานี่ ตอนนี้เราจะเข้าวัดอย่างเดียวฟังเทศน์ฟังธรรมอย่างเดียวแล้ว ท่านก็สอนด้วยความเมตตานะถึงท่านจะไม่รู้จักเรื่องมรรคเรื่องผล แต่ท่านสอนเรื่องการทำบุญ คือ ทานบารี ศีลภาวนาบารมี ท่านบอกอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เราก็ได้นั่นแหละ ศีลเริ่มต้นเลย ก็ได้จากท่านนั่นแหละเริ่มเลยเริ่มที่จะกลับสภาพใหม่ อันนี้ที่จะไปหาเรี่ยไรโน่นหาเรี่ยไรนี่ เริ่มที่จะลดลงๆๆ เริ่มที่จะเข้าสู่ภาคปฏิบัติ

    พอเข้าสู่ภาคปฏิบัติปั๊บจิตเริ่มแล้วเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนใหม่แล้ว จากจิตที่มันดิ้นรนขวนขวาย เป็นจิตที่มันเย็นสบายชุ่มเย็นอยู่งั้น ไม่เหมือนตั้งแต่ก่อน ไม่กระตือรือร้น ไม่เป๋ซ้ายไม่เป๋ขวา เป็นจิตที่นิ่งสงบ ชุ่มเย็น มาฆบูชามหามงคล ครูบาอาจารย์รูปนั้นเทศน์ให้ฟัง เราจึงทราบว่า พระอรหันต์มี เริ่มต้นของศาสนาเป็นยังไง พุทธประวัติเป็นยังไง เริ่มเรียนเลย นั่นเราเริ่มเข้าสู่หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าตั้งแต่อายุ ๑๙ ปี ก่อนที่จะเข้าสู่เพศบรรพชิดบรรพชาอายุยังไม่ถึง ๒๐ ปีนะ ๑๙ ปี นับในครรภ์อีกตั้ง ๖, ๗ เดือน จึงครบ แต่อยากบวชเพราะเห็นเรื่องนี้แหละ อายุ ๑๙ ปี มันตกเลข ๙ แปลกนะหลวงปู่นี่นะ เกิด ๑๙ มิถุนายน ปีพ.ศ. ๒๕๐๕ ๑๙ ปี รู้เรื่องธรรมะและเข้าสู่เพศบรรพชิต บรรพชาครั้งแรก ๒๙ ปี เราอยากบวช เราจะบวชให้ได้ ช่วงอายุ ๒๙ ปี คือค้นในพุทธประวัตินี่พระพุทธเจ้านี้ออกทรงผนวชนี่ อายุ ๒๙ ปี แต่ผลสุดท้ายไม่เป็นไปตามที่คิด จนอายุล่วงเลย ๓๐ กว่าปี จึงได้เข้าสู่เพศบรรพชิตบรรพชาด้วยภาระต้องดูแลพ่อแม่ วันนี้จึงเป็นวันมหามงคลที่ระลึกถึงตั้งแต่สมัยที่เราเป็นหนุ่ม ตั้งแต่ที่เริ่มเป็นหนุ่มไปหาเรื่ยไรเอานู่นเอานี่ เอาเงินเอาทองเอาข้าวเอาอะไรมาแล้วก็มาแบ่งสรรปันส่วนออกไม่ได้เข้าไปวัดหมด เราก็ไม่รู้

    ไม่ว่าเขาว่าเรานะลูกนะพ่อไม่ได้ว่าใครนะ นี่พ่อพูดให้ฟังตรงๆนะ ว่าเขาไม่ว่าเราเหมือนกันหมดนั่นแหละเพราะยังไม่รู้นี่ใช่ไหมล่ะ อ้าว...ผู้พาไปก็บอกว่าเนี่ย เอาเงินจำนวนนี้นี่เรามาเรี่ยไรได้แล้ว เนี่ยเอาไปซื้อกับข้าว แล้วก็เอาไปนี่นะเอาไปซื้อเหล้าซื้ออะไร มันเหนื่อย เป็นของธรรมดาธรรมชาติเราต้องอยู่ต้องกิน ก็ไปซื้อเหล้าซื้ออะไรมากินกัน พอเหล้าลงไปหน่อยก็เอ้อ พูดเก่งแล้ว ก็ไปเรี่ยไร บ้านต่อไปๆก็เป็นอย่างนงี้ล่ะเงินเหลือเท่าไหร่ก็กลับมา ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าอยู่ค่ากิน เหลือ นั่นแหละค่อยเข้าวัด ลูกเข้าใจไหมว่า สิ่งที่พวกเราทำนั้นมันเป็นบาปอกุศล ของเหลือเดน สิ่งที่เราเอาเข้าวัดนั้นคือของเหลือเดน มันไม่ใช่ของที่เราเจตนาเป็นบุญเป็นกุศล....”

    พระธรรมเทศนา : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
    วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
    ๖ มีนาคม ๒๕๖๖ (ตอนเช้า)
     

แชร์หน้านี้

Loading...