กินแบบคนมีบุญ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย อาษา, 26 พฤศจิกายน 2010.

  1. อาษา

    อาษา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +65
    ในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ บิดาของมหาอำมาตย์หลี่ปู้เหว่ยได้สอนวิธีเรียกว่ากฏของผู้ยิ่งใหญ่และกฏของคนถ่อยไว้ได้น่าสนใจมาก
    กฏของผู้ยิ่งใหญ่ คือ ขยัน ฉลาด กล้าหาญ ตั้งใจ
    กฏของคนถ่อย คือ อยากกิน อยากรวย อยากดัง และอยากสมสู่
    หลี่ปู้เหว่ยได้ทำตามและสามารถตั้งตัวจากพ่อค้าจนได้เป็นใหญ่สูงสุดรองจากองค์ฮ่องเต้ ช่วยรัฐฉินสร้างชาติให้เจริญรุ่งเรือง เข้มแข็ง วางรากฐานรัฐฉิน เรียบเรียงตำรา หลี่ซื่อชุนชิว ซึ่งเป็นตำราเล่มแรกที่ได้รวบรวมทุกศาสตร์ จนจิ๋นซีฮ่องเต้สามารถรวบรวมรัฐต่าง ๆ จนเป็นเอกภาพสร้างชาติจีนขึ้นมาได้ สร้างประวัติศาสตร์และปฏิมากรรมกำแพงเมืองจีนที่ยิ่งใหญ่
    คนขยันไปอยู่ที่ไหนใครก็รัก คนฉลาดย่อมมีแต่ผู้นับถือ คนกล้าหาญศัตรูย่อมเกรงกลัว ส่วนคนที่ตั้งใจ แม้ประสบภัยก็สามารถชนะได้ แล้วบ้านเมืองเราหละผู้นำของเราใช้กฏไหนอยู่นะทำไมถึงรู้สึกว่าประเทศไทยเราเหมือนกำลังไต่ขึ้นหน้าผา มีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ทางข้างหน้ายิ่งมืดมนพูดแล้วเศร้า ทีนี้เรามาว่าเรื่องของความเป็นคนทั่วไปดีกว่า ความต้องการของคนทั่วไปคือ กิน กาม เกียรติ วันนี้จะคุยเรื่องกิน การกินต้องกินเป็น กินให้เป็นเทวดา กินให้พ้นทุกข์ หรือจะกินให้ถึงนิพพานไปเลย เรียกว่ากินให้ได้บุญ กินยังไง

    [​IMG]
    หลายคนบอกว่าการกินเจ การกินมังสวิรัติ เป็นการทำบุญอย่างหนึ่งก็ขอบอกว่าถูกทีเดียวแต่ไม่ถูกทั้งหมด สมัยพุทธกาลพระเทวทัศได้ทูลขอให้พระพุทธเจ้าบัญญัติกฏข้อห้ามของพระสงฆ์มีอยู่ข้อหนึ่งคือห้ามภิกษุฉันเนื้อสัตว์ พระพุทธเจ้าทรงห้ามแล้วตรัสว่าภิกษุต้องเป็นผู้ สงบ เรียบง่าย อยู่ง่ายกินง่าย ไม่เป็นภาระของชาวบ้าน ถ้าจะให้มาเลือกกิน ไม่กิน ก็จะทำให้เป็นภาระของชาวบ้านต้องมาทำอาหารแยกต่างหากก็จะเกิดความวุ่นวายใจ เมื่อความวุ่นวายเกิดขึ้น อารมณ์ก็ขุ่นมัว บุญก็ไม่เต็มร้อย แต่นั่นก็เป็นเรื่องของพระผู้ถือบวช แล้วชาวบ้านอย่างเราก็ต้องบอกว่าถ้าเราเป็นชาวพุทธก็ต้องถือตามพระพุทธเจ้าเป็นหลักไว้ก่อน คือต้องเป็นผู้อยู่ง่ายกินง่าย ที่ว่ากินเจหรือมังสวิรัติไม่ถูกทั้งหมดก็เพราะถ้าเราถือเอาตามบัญญัติหรือกฏมาเป็นเกณฑ์ในการวัด คนเราก็ใช้แค่ศีลห้า ก็พอ ในศีลห้าไม่มีหมวดห้ามกิน มีแต่ห้ามฆ่าและก็มาเป็นข้อสำคัญข้อแรก เพราะเป็นเหตุ พระพุทธเจ้าตรัสที่เหตุแล้วดับที่เหตุ ส่วนการกินเป็นผล พุทธองค์จึงตรัสห้ามที่เหตุคือห้ามฆ่าสัตว์ เมื่อไม่เกิดการฆ่า การกินเนื้อก็ไม่เกิด สรุปไม่มีต้นไม้ก็ไม่มีผลไม้ ทีนี้เรามาขยายผลของกรรมกันนิดหนึ่ง ผู้ที่ฆ่าสัตว์มักเป็นผู้มีโรคมาก ป่วยง่ายตายยาก ผู้ใดที่มักป่วยไม่ว่าจะหนักหรือออดๆ แอดๆ สันนิฐานได้เลยว่าเป็นกรรมจากการฆ่าสัตว์ ยกเว้น ป่วยตามฤดู อากาศ ปวดเมื่อยทำงานหนัก เหล่านี้เป็นโรคของปัจจุบัน โรคกรรมส่วนใหญ่จะเป็นโรคเรื้อรัง หรือโรคที่เป็นอาการหนักๆ
    [​IMG]
    แล้วจะกินอย่างไรดีหละ ก็ขอตอบว่ากินมันทั่วๆ ไปนี่แหละหิวกิน อยากกิน ชอบก็กิน ขออย่างเดียวอย่าไปให้เขาฆ่าให้ และอย่าไปฆ่าเขาเท่านี้พอ แต่ก่อนจะกินอะไรก็ต้องขออโหสิกรรมกันก่อนเพราะสัตว์บางตัวก่อนตายอาจอาฆาตแรง เราก็กล่าวไป สัตว์เพ สัตว์ตานี่แหละแล้วก็ว่าเรากินเพื่อให้ท่านได้บุญคือ เพื่อให้เรามีร่างกายแข็งแรง สุขภาพสมบูรณ์เพื่อไปทำบุญสร้างกุศล ฝึกจิตฝึกธรรม ให้ท่านทั้งหลายอย่าได้โกรธแค้น ห่วงใยในสังขาร ท่านทั้งหลายจงได้อนุโมทนากุศลผลบุญที่เราทั้งหลายได้สร้างได้กระทำมาทั้งหมดนี้ เพื่อเป็นปัจจัยให้พ้นทุกข์ได้ไปอยู่ยังภพภูมิที่ดี ที่สูงยิ่งๆ ขึ้นไป ก็ว่าไปประมาณนี้นะ เมื่อสัตว์ทั้งหลายหรือเจ้ากรรมทั้งหลายได้อนุโมทนากับเราแล้ว เขาก็เป็นสุข เราก็เป็นสุขบุญเต็ม กุศลเต็ม ไม่ยากการทำบุญไม่ยากอย่างที่คิดเพียงแต่เราคิดไม่ถึงจึงไม่รู้ว่าทำบุญยังไงทำตอนไหนแล้วตอนตายจะคิดถึงบุญถึงกุศลได้อย่างไรเมื่อไม่รู้ ยมบาลถามก็ไม่รู้ ลงนรกอย่างเดียว ฮ่ะ ๆ ไม่รอดแน่ ผมก็พยามแนะนำแต่บุญกุศลที่ทำได้ง่าย ๆ ก็ลอง ๆ อ่านเอาครับบทความต่าง ๆ ที่ผมลงไว้ เขาเรียกว่ามนุษยธรรม ธรรมที่มากับร่างกายมนุษย์ พระท่านจึงอนุญาติแต่มนุษย์เท่านั้นที่ถือบวชได้ ก็เพราะมีกำลังของกุศลธรรมตัวนี้ดูแล ถึงแม้ร่างกายจะไม่ครบ 32 ก็บวชได้ สัตว์อื่นภพภูมิอื่นถึงแม้นจะมีฤทธิ์ อำนาจ มีคุณธรรมขนาดไหนก็ไม่สามารถบวชได้ ท่านทั้งหลายก็จงคิดเอาเถิดเมื่อมีร่างกายอยู่จะใช้มันอย่างไร ทำมันอย่างไร ถ้าคราวหน้าเกิดใหม่ไม่ได้มนุษยธรรมมา ก็เจ๊ง เกิดเป็นหมูเป็นหมามันจะยุ่งกันใหญ่ ทีนี้ก็รู้กันแล้วนะครับกินอย่างไรให้ได้บุญ ต้องฉลาดในธรรมกันหน่อย บุญนะทำทุกวันอยู่แล้วไม่ต้องรอวันพระวันโกน ธรรมะง่ายนิดเดียว เป็นแงะ....
    ธรรมะง่าย ๆ แต่ใช้เวลาการเห็นนานครับที่มาบอกนี้กว่าจะเป็นเรื่องก็นานเอาการอยู่ แต่พอได้แล้วก็นำมาเล่าให้ฟ้งกันแบบลูกทุ่ง ๆ อ่านง่าย ฟ้งง่าย เข้าใจง่าย ผมยังเขียนบทความต่าง ๆ เกี่ยวกับการเมือง ชาติ ศาสนา โดยทุกบทความจะแทรกวิธีการปฏิบัติที่คุณเองอาจจะไม่เชื่อว่า การเข้าถึงธรรมง่ายขนาดนี้เลยหรือ ลองตามอ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ เวป artcarve.co.cc ที่หน้า เรื่องเล่า เลยครับ ขอบอกธรรมะง่ายนิดเดียว.

    *สำหรับผู้ที่ได้อ่านแล้วก็สามารถติ ชม ด่าได้ครับ*และที่สำคัญก่อนจะนำไปใช้ ไปพิจรณาดูเอาเองว่าเป็นจริงไหม ใช้ได้ไหม ดีไหม ง่ายไหม ผมไม่ได้เขียนอธิบายลายละเอียดส่วนลึก ๆ แต่อยากให้นำไปคิด ทดสอบ ทดลองก่อนนำไปใช้ครับ อย่าอ่านไว้จำ เอาไว้เล่าต่อ หลักการของผมคือ รู้จัก เข้าใจ และเข้าถึง อ้อ..เข้าถึงแล้วก็อย่าลืมมาแนะนำพาผมไปด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2010
  2. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ผมเข้าไปดูในบล็อกที่อ้างถึงแล้ว ไม่ทราบว่าบล็อกนี้คุณอาษาเป็นคนเขียนหรือครับ ? ในบล็อกนี้มีบทความหลายบทความที่น่าสนใจ แต่บทความบางบทความผมจะไม่ขอวิจารณ์เพิ่ม เพราะไม่ค่อยมีความรู้

    ขอเรื่องแรกก่อน "เล่าเรื่องกำเนิดหนุมาน (เต็มรูปแบบ)"
    อ่านสะดุดตอนหนึ่งคือ ตอนที่หนุมานเผลอไปกินลูกไม้ในสวนพระแม่อุมา แล้วถูกพระแม่อุมาเทวีสาป หนุมานแม้มีฤทธิ์เดชขนาดไหน แต่เมื่อเจอคำสาปพระแม่อุมาเทวี ก็ต้องยอมสยบ

    จริงๆแล้ว พระแม่อุมาเทวีนั้น พระองค์ไม่ได้มีเพียงแค่ปางทุรคา ปางพระแม่กาลี แต่บางปางนั้นมนุษย์ส่วนใหญ่คาดไม่ถึง พระแม่อุมาเทวีนั้นทรงฤทธิ์เดชมาก การที่จะดลบันดาลให้ปฐพีเลื่อนลั่น คลื่นสาดซัดพสุธาจนหวั่นไหวนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายเสียยิ่งกว่าง่ายสำหรับพระองค์

    บทความเรื่องทำบุญอย่างไรให้ได้บุญสูงสุด ก็น่าสนใจ หลักง่ายๆก็คือ สร้างโอกาสในการทำบุญ ทำให้เรื่องการทำบุญเป็นเรื่องใกล้ตัว ไม่ต้องหาบุญจากที่ไหน หาจากลมหายใจของเรานี่แหละ หาจากชีวิตประจำวันนี่แหละ (แต่ไม่ใช่ว่าไม่ไปทำบุญที่วัดอะไรเลยนะ ไม่ให้เข้าใจอย่างนั้น) ......น่าสนใจมั้ย ?

    การสร้างโอกาสในการทำบุญจากสิ่งเล็กๆน้อยๆ จากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว เป็นการสั่งสมบารมี สั่งสมไปเรื่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ เหมือนเราตักน้ำใส่ตุ่ม ทำๆไปเดี๋ยวน้ำก็เต็มตุ่ม แต่ต้องขยัน และรู้จักใช้ปัญญา รู้จักใช้ปัญญาคือ ดูซิว่าตุ่มรั่วมั้ย ดูซิว่าตะบวยที่ตักเนี่ย มันรั่วมั้ย ทำนองนี้เป็นต้น

    และบารมีจะรุดหน้าได้ต้องมี "บททดสอบ" ถ้าผ่านได้ เออ เอ็งเก่ง เอ็งบารมีสูงขึ้น งั้นเอ็งก็เจอบททดสอบบทต่อไป เจองานยากชิ้นต่อไป แต่ถ้าเอ็งไม่ผ่าน งั้นเอ็งเป๊ก หรือเอ็งไปเริ่มต้นใหม่ นี่.....มันเป็นอย่างนี้ พี่น้อง

    บทความเรื่อง "คนรวย ก็ต้องคุยเรื่องเงินหละครับ" เนี่ย ก็น่าสนใจนะครับ เชื่อว่าคนน้อยคนนักที่จะพลิกดูรายละเอียดธนบัตรที่เราใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ผมก็เหมือนกัน การที่ผู้เขียนบล็อกนำเรื่องธนบัตรมาเขียน สะท้อนให้เห็นถึงความละเอียด ความช่างสังเกต การรู้จักมองในจุดที่คนอื่นมองไม่เห็น ของผู้เขียน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราๆท่านๆก็น่าจะทำได้นี่ จริงมั้ยครับ.....

    ส่วนเรื่อง "กินแบบคนมีบุญ" ก็น่าสนใจตรงที่ผู้เขียนบล็อกแนะนำให้อโหสิกรรมที่เรากินเนื้อเค้า และขอให้เค้าอนุโมทนาบุญเราตรงที่เพราะเนื้อของท่าน จึงทำให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่รอดพอที่จะไปสร้างบุญสร้างกุศล ฝึกจิตฝึกธรรมได้ ..... เป็นไง น่าสนใจมั้ย

    ธรรมดาสัตว์ที่ใกล้จะตาย จะหลั่งสารแห่งความทุกข์ออกมา หรือเรียกชื่อเป็นทางการว่า สารอะดรีนาลีน สารตัวนี้แหละที่ปนอยู่ในเนื้อปนอยู่ในเลือด เมื่อมนุษย์บริโภคเนื้อสัตว์เข้าไปก็ได้รับสารแห่งความทุกข์นี้เข้าไป มีโอกาสทำให้เกิดมะเร็ง

    ทำไมถึงบอกว่า "มีโอกาส" ทำให้เกิดมะเร็ง ทำไมไม่บอกว่าต้องเป็นมะเร็ง ก็เพราะไม่ใช่คนทุกคนต้องเป็นมะเร็งเสมอไป (หมายถึงมะเร็งบางประเภทนะครับ) ยกตัวอย่างเช่น เอ๊ะ แล้วทำไมคนในกรุงเทพทุกคนไม่เป็นมะเร็งกันหมด เพราะได้รับแต่อากาศพิษ ฝุ่นละออง อาหารก็มีสารพิษจากยาฆ่าแมลง สารกันบูด โอ๊ย สารพัดปัจจัยที่จะทำให้เกิดมะเร็ง แล้วทำไมคนทุกคนในกรุงเทพไม่เป็นมะเร็ง ? อธิบายในทางโลก ก็คงต้องให้คุณหมอมาอธิบาย แต่ถ้าในทางธรรมก็คือ คำว่า "กรรม" และ "เจ้ากรรมนายเวร" นั่นแหละ เป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้าม

    วิธีที่ผู้เขียนบล็อกบอกให้ทำ ก่อนกินเนื้อสัตว์ จึงนับว่าน่าสนใจ ทำไปก็ไม่ได้เสียหายอะไรจริงมั้ย ตรงกันข้าม นั่นแหละ เป็นการเจริญพรหมวิหาร 4 ไปด้วยในตัว......

    เขียนมาเยอะแล้ว ผมก็พูดไปเรื่อย เกี่ยวกับหัวข้อบทความที่ยกมามั่ง ไม่เกี่ยวมั่ง ถือว่าอ่านเล่นแล้วกัน

    เห็นทีต้องไปเล่นเกมก่อนละ นี่ก็ซัดเข้าไปวันเสาร์แล้ว 555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2010
  3. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    มาอ่านค่ะ................
     

แชร์หน้านี้

Loading...