การไหว้พระ/ทำบุญ จำเป็นต้องขออะไรไหมครับ?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Pinit, 7 กันยายน 2010.

  1. Pinit

    Pinit ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,736
    ค่าพลัง:
    +8,006
    [​IMG]

    ผมเห็นหลายๆคน เวลาไหว้พระหรือทำบุญอะไรก็ตามมักจะขอ เจ้าพระคุณ...
    และก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัย ปู่-ย่า-ตา-ยาย แล้ว และถึงพ่อและแม่ด้วย
    ผมว่าคนส่วนใหญ่ขอกันจนเป็นความเคยชินไปแล้วครับ
    ใครที่ไหว้พระ/ทำบุญ แล้วไม่เคยขออะไรมีไหมครับ (ยกมือขึ้น)
    ขอแล้วเคยได้สมใจไหมครับ? ได้มากี่ครั้ง?
    แล้วรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่ได้มานั้น ได้จากการที่ขอไป ไม่ใช่ความบังเอิญ หรือฟลุ๊ค

    บางคนทำบุญ 10บาท 20 บาท ขอรางวัลที่ 1 ก็มี
    บางคนก็ไปบนบานสานกล่าวไว้ว่า หากถูกรางวัลที่ 1 จะถวายหัวหมู 1 หัว

    ผมมองว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงคิดนะว่า คนนี่ลงทุนน้อย แต่หวังกำไรเยอะจัง
    ถ้าท่านให้ ท่านก็คงขาดทุนเยอะ ถูกคนเอาเปรียบมากไป ไม่คุ้มที่จะให้
    ถ้าท่านอยากกินไปซื้อหรือเสกมากินเองดีกว่า ดังนั้นหลายคนที่ขอไว้จึงไม่สมหวังครับ

    แล้วทำไมยังชอบขอ เพราะง่ายดี ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องทำเอง

    ครั้งหนึ่ง ผมเคยไปไหว้พระ แล้วนึกในใจว่า เจ้าพระคุณ...
    แล้วนึกไม่ออกว่าจะขออะไร มันรู้สึกไปเองจะขอทำไม อยากได้อะไรทำไมไม่หาเอาเองล่ะ
    เรามีมือมีเท้า เดินไปไหนมาไหนได้ ทำเองหาเองสิ
    พระท่านก็นั่งอยู่แต่ในวัด ตั้งแต่สร้างมา ไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว ยังจะไปรบกวนท่านอีก
    (นึกเพื่อสอนตัวเองนะครับ ไม่ได้ไปปรามาสพระ)

    ลองนึกดูว่า หากการขอแล้วได้ ป่านนี้คนไทยคงรวยกันทั่วหน้าแล้ว
    เพราะคนไทยขอเก่ง 555 และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เยอะด้วย
    เราคงไม่ต้องไปทำงานทำการใดๆแล้ว เข้าวัดกันทั้งวัน
    คนชาติอื่นเขาเห็น เขาคงคิดว่า นี่แหละเมืองพุทธ
    แต่ถ้ารู้ความจริงว่าเข้าวัดไปทำไม คงอึ่ง

    ผมว่าพระมีไว้ไหว้ ไว้ระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่มีพระไว้ขอนะครับ
    และการทำบุญนั้น ก็ไม่ควรขอ เพราะดูแล้วเหมือนการแลกเปลี่ยนกัน
    ด้วยความหวัง ทำบุญแล้วหวัง ก็มีความโลภ ความอยากได้

    ส่วนการทำบุญแบบไม่ได้ขอให้ตัวเอง เป็นการขอให้ผู้ล่วงลับไปแล้วนั้น
    ผู้ล่วงลับไปแล้วจะได้หรือไม่ได้ เราไม่สามารถรู้ได้ครับ
    เพราะเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้มาบอก หรือมาเข้าฝันบอก
    เรารู้ได้แต่เพียงความสบายใจจากการที่ได้ทำบุญ
    เพราะการทำบุญนั้นเป็นการสอนให้รู้จักการให้ การเสียสละ
    รู้จักพอ มีแล้วไม่โลภเก็บไว้แต่เพียงผู้เดียว

    หากฝึกทำบุญตั้งแต่เด็กๆ โตขึ้นจะเป็นผู้ใหญ่ใจดี และเป็นที่รักของผู้ที่พบเห็น
    และการทำบุญให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ก็เป็นการรู้จักความกตัญญูด้วย

    สำหรับผม การไหว้พระ/ทำบุญ ไม่จำเป็นต้องขออะไรครับ
    มีคนเคยบอกไว้ว่า คนเราทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น
    ดังนั้น ทำบุญแล้ว ได้บุญ บุญเป็นสิ่งที่ดี บุญก็จะนำสื่งที่ดีมาให้เราเองโดยไม่ต้องขอครับ

    จากผู้ที่ทำบุญแล้วไม่ขอ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2010
  2. คิเคียว

    คิเคียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2006
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +459
    ทำบุญแล้วหวังหรือไม่หวังก็ได้ผลเหมือนกันค่ะ (ยกเว้นตอนที่ทำบุญทำด้วยความโลภ)
    อุปมาดังพุทธพจน์ที่ว่า ใส่ทรายในรางแล้วเอาน้ำมา คั่วไปหวังหรือไม่หวังเอาน้ำมัน ก็ไม่มีวันได้น้ำมัน
    เปรียบเหมือนคนไม่ทำบุญ (หรือทำด้วยจิตอกุศล) แล้วหวังผล มันก็ไม่มีวันได้ผลบุญ
    แต่หากใส่งาในรางแล้วคั่วไป จะหวังหรือไม่หวังก็ได้น้ำมันอยู่ดี
    เปรียบคนทำบุญ (หรือทำด้วยจิตกุศล) จะหวังหรือไม่หวังก็ได้ผลบุญแน่นอน
    แต่ถ้าอธิษฐานจิตหรือตั้งใจขอไปนิพพานนี่ก็อีกเรื่องนึง พระอานนท์เคยเทศน์ไว้ว่า ความอยากไปนิพพานเป็นกิเลส
    แต่ให้ใช้กิเลสละกิเลส หวังนิพพาน (กิเลส) แล้วทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน (หมดกิเลส)
    อ่านมาจากในเ็ว็บพลังจิตเนี่ยล่ะค่ะ แต่จำไม่ได้แล้วว่าอยู่ไหน
     
  3. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    .....บุญกิริยาวัตถุ10 เป็นเหตุแห่งบารมี10

    ...ทานบารมี.....จากการให้ทาน...(รวมถึงอภัยทาน)

    ...ศีลบารมี....จากการงดการเบียดเบียน

    ...เนกขัมบารมี...จากการระงับนิวรณ์..(ภาวนา)

    ...ปัญญาบารมี...จากการใคร่ครวญคิแล้วจึงทำดี

    ...ขันติบารมี...จากการข่มกลั้นที่จะประพฤติชั่ว

    ...วิริยะบารมี...จากความเพียรประพฤติดี ไม่ย่อท้อ

    ..สัจจะบารมี...จากใจจริง ไม่เสรแสร้งแกล้งทำ แน่แท้ แน่นอน

    ...อธิษฐานบารมี....จากการตั้งจิตไว้มั่น เป็นปณิธาน อันแน่วแน่มั่นคง

    ...เมตตาบารมี...จากใจ ให้ ไม่ มีประมาณ ไม่เลือกเขา เรา หรือ ใคร

    ...อุเบกขาบารมี...วางเฉยต่อกฎแห่งกรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...