การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยแพทย์แผนไทย

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 7 มิถุนายน 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    ระหว่างวันที่ 3-7 มิถุนายน นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดงาน คึกคักทั่วหน้า ครึกครื้นทั่วไทย เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2552 ที่อาคารชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี ใครที่ได้ไปเดินเที่ยวงานนี้มาแล้วต้องบอกว่าคุ้ม เดินที่เดียวเที่ยวครบทุกภาค มีการจำลองสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อ การจำลองบรรยากาศวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของแต่ละภาคอย่างน่าสนใจ และมีการแสดงสาธิตการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เช่น สาธิตการนวดไทย สาธิตการนวดประคบ การนั่งสมาธิสร้างจิต การดูแลสุขภาพความงามแบบสปาพอกหน้า พอกตัว และมีเวทีสาธิตเพื่อให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพมากมาย

    การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะได้ความบันเทิงใจยังได้ความสบายกายไปพร้อมกัน องค์ประกอบสำคัญซึ่งเป็นจุดขาย เน้นที่การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมตามหลักธรรมานามัย ประกอบด้วย กายานามัย จิตตานามัย ชีวิตตานามัย
    กายานามัย คือการดูแลสุขภาพทางกาย ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตามหลักแพทย์แผนไทยแนะนำ การบริโภคอาหารตามธาตุเจ้าเรือนทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

    ธาตุดิน เหมาะกับการบริโภคอาหารรสฝาด หวาน มัน เค็ม ธาตุน้ำ รับประทานอาหารรสเปรี้ยว ขม ธาตุลม รับประทานอาหารรสเผ็ดร้อนเพื่อไล่ลม และธาตุไฟ รับประทานอาหารรสขม เย็น จืด เพื่อดับความร้อน แต่ถ้าร่างกายเสียสมดุลก็ใช้อาหารรักษา โดยเลือกเมนูอาหารตามรสชาติเพื่อปรับสมดุล ได้แก่ รสฝาดออกฤทธิ์ทางสมาน รสหวานซึมซาบไปตามเนื้อ รสเมาเบื่อแก้พิษ รสขมแก้ทางโลหิตและน้ำดี รสมันแก้เส้นเอ็น รสหอมเย็นบำรุงหัวใจ รสเปรี้ยวกัดเสมหะ รสเผ็ดร้อนแก้ทางลมซึ่งก็เป็นไปตามหลักการปรุงยารักษาโรคของการแพทย์แผนไทย

    นอกจากอาหารยังต้องมีการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง จะเป็นการวิ่ง เดิน เล่นกีฬาต่างๆ ได้ทั้งนั้น แต่สำหรับการแพทย์แผนไทยจะส่งเสริมการบริหารร่างกายด้วยท่าฤๅษีดัดตนพื้นฐาน 15 ท่า ซึ่งมีประโยชน์ในการปรับสมดุลโครงสร้างร่างกายแบบไม่หักโหม มีท่าดัดตนแก้เมื่อยซึ่งเหมาะกับนิสัยคนไทยที่มักเป็นโรคขี้เมื่อย ครอบครัวไทยจึงมักมีหมอนวดน้ำมือดีประจำครอบครัวช่วยบีบนวดรักษาโรคขี้เมื่อยกันเองในครอบครัว

    จิตตานามัย คือการดูแลสุขภาพจิตใจให้ผ่องแผ้ว ไม่โกรธ ไม่เครียด ไม่มีโรค โดยเน้นที่การนั่งสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบ ประโยชน์ของการทำสมาธิช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระทางอารมณ์ได้ และช่วยให้กลไกการหมุนเวียนของเลือดลมไหลเวียนดี การสวดมนตร์เช้าก่อนออกจากบ้าน ทำสมาธิสัก 1 นาที และสวดมนตร์เย็น ก่อนเข้านอนทำสมาธิสัก 5 นาทีเป็นประจำ จะทำให้สุขภาพจิตและสุขภาพกายแข็งแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ และยังช่วยให้เกิดปัญญาคิดอ่านการใดก็คิดออก เพราะมีสติตริตรองนั่นเอง

    ชีวิตตานามัย คือการดำเนินชีวิตชอบ รักษาศีล ทำบุญ เลี้ยงชีพด้วยอาชีพสุจริต รักษาสิ่งแวดล้อมในบ้าน นอกบ้าน ในชุมชนให้สะอาด มีความร่มรื่นของต้นไม้ ต้นไม้นี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการมีสิ่งแวดล้อมดี แต่ทุกวันนี้ต้นไม้ถูกตัดถูกทำลายลงทุกวัน แม้พยายามจะสร้างป่าคืนให้ธรรมชาติก็ยังน้อยเมื่อเทียบกับที่ทำลายไป และบางส่วนก็เป็นสวนป่าเพื่อตัดขาย ป่าที่แท้จริงก็เลยไม่มีสักที

    นอกจากนี้ ยังมีศาสตร์การนวดไทยทั้งแบบนวดราชสำนัก ซึ่งมีรากฐานมาจากการนวดในรั้วในวังที่ท่าทางสุภาพ มีรหัสของน้ำหนักมือ คือหน่วง เน้น นิ่ง เป็นเสน่ห์ของนวดไทยอย่างยิ่ง ปัจจุบันได้พัฒนามาเป็นการนวดที่เน้นทางการรักษาโรค ส่วนนวดแบบเชลยศักดิ์ คือการนวดที่ชาวบ้านทั่วไปใช้นวดกันเอง ท่าทางการนวดมีอิสระ จะใช้เข่า ศอก เท้า ทั้งเหยียบ นวด ขยำ ทุบ ดัด ได้อิสระ จึงเรียกว่านวดเชลยศักดิ์ และนวดเท้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งได้รับความนิยมไม่น้อย เป็นท่านวดที่ปรับประยุกต์มาจากการนวดฝ่าเท้าของจีนเข้ากับการนวดตัวส่วนขา จึงกลายมาเป็นนวดเท้าเพื่อสุขภาพ และการนวดประคบ ที่อาศัยสรรพคุณของสมุนไพรและความร้อนบำบัดรักษาได้ ทุกวันนี้ลูกประคบก็เป็นสินค้าสำคัญส่งออกต่างประเทศปีหนึ่งๆ จำนวนไม่น้อย เสน่ห์ของการนวดไทยต้องไปพร้อมลูกประคบ นี่สิคือนวดไทยของแท้ ทุกวันนี้คนทั่วโลกจึงรู้จักลูกประคบไทย

    นวดไทยทุกวันนี้มีบทบาทต่อสังคมมาก ทั้งด้านการบำบัดรักษา เศรษฐกิจและสังคม ซึ่งสร้างอาชีพและรายได้เป็นจำนวนนับพันล้านต่อปี หมอนวดฝีมือดีบ้านเราไปทำงานในประเทศต่างๆ ทั่วโลกจำนวนมากและมีรายได้สูง ในขณะที่ร้านนวดในประเทศไทยก็ขยายตัวอย่างกว้างขวาง อาชีพหมอนวดไทยจึงเป็นอาชีพสร้างรายได้ไม่น้อย ทั้งนี้ยังไม่รวมนวดและผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสปา อาทิ การพอกหน้า นวดหน้า พอกตัว อบ อาบ แช่น้ำสมุนไพร ซึ่งเป็นการขายเชิงสุขภาพเพื่อความงาม มีเม็ดเงินหมุนเวียนจำนวนมากไม่แพ้กัน

    ทุกวันนี้ที่คนเราเจ็บป่วยมากขึ้นและมีโรคภัยไข้เจ็บมากมายตามมาเป็นลูกโซ่ เช่น เป็นเบาหวานแล้วต้องตามด้วยความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไต สารพัดโรคที่รักษาไม่หายสักที เนื่องด้วยเพราะเสียสมดุลของธาตุทั้ง 4 ทั้งจากภายในและภายนอก ฉะนั้นรักษาอย่างไรก็ไร้ผล แต่พอหันมาใช้วิธีธรรมชาติบำบัดอยู่กับธรรมชาติ กินแบบธรรมชาติ ปรุงแต่งให้น้อยลง ทำไมสุขภาพถึงดีขึ้น เคยหาคำตอบพบหรือไม่

    เดี๋ยวนี้มีโรงพยาบาลหลายแห่งที่ได้รับการผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อาทิ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี โรงพยาบาลหลวงพ่อเปิ่น จ.นครปฐม โรงพยาบาลพนัสนิคม จ.ชลบุรี โรงพยาบาลจอมทอง จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เป็นต้น ในสมัยก่อนโรงพยาบาลเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ แต่เวลานี้โลกเปลี่ยนไป โรงพยาบาลกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปแล้ววันนี้

    ฉะนั้นจะเที่ยวทั้งทีเสียเงินทั้งที ต้องเอาแบบสุขกายสบายใจ มีสุขภาพดี ได้ความรู้กลับมาดูแลตนเองและครอบครัวที่บ้านด้วย ก็ต้องไม่ลืมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยแพทย์แผนไทย อุดหนุนการท่องเที่ยวในประเทศช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐท่านด้วยนะ


    การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยแพทย์แผนไทย | ไทยโพสต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 มิถุนายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...