"การที่ประพฤติปฏิบัตินั้นต้องพึ่งตัวเอง" : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Nana nora, 3 มิถุนายน 2023.

  1. Nana nora

    Nana nora สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +68
    350012747_627396042647429_5646410998366222275_n.jpg

    #การที่ประพฤติปฏิบัตินั้นต้องพึ่งตัวเอง

    “...เริ่มแรกใหม่ๆจิตมันก็ไม่ค่อยได้รวมลงเท่าไหร่นะ เป็นวูบๆวาบๆที่เรียกว่าขณิก ถ้าจะพูดถึงตำรานะ ขณิกสมาธิหรือที่เรียกว่าจิตมันเข้าสู่ภวังค์ ภวังคภพจิตมันตกภวังค์มันเป็นวูบๆวาบๆเหมือนคนเริ่มจะนอนหลับ พอไปถามครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์ที่ไม่รู้ก็บอกว่าถีนมิทธะเข้าครอบงำ เราก็นึกว่าถีนมิทธะเข้าครอบงำจึงตั้งสติไว้ไม่ให้มันวูบๆวาบๆอีก แต่มันก็ยังวูบวาบตกภวังค์วูบวาบตกภวังค์เรียกว่าจิตมันตกภวังค์ถ้าพูดถึงภาคปฏิบัตินะจะมีในภาคปริยัติหรือเปล่าเราก็ไม่เข้าไปก้าวก่ายเรียกว่าจิตมันตกภวังค์นี่ มันเป็นวูบวาบวูบวับเหมือนกับร่างมันโยกแล้วก็ล้มครืนลงก็มีทำนองนั้นไปถามครูบาอาจารย์ในสมัยก่อนที่จะเจอครูบาอาจารย์ผู้ที่เข้าสู่ภาคปฏิบัติมาก่อนนี่ เราก็ไปถามครูบาอาจารย์ท่านก็คงไม่รู้ ท่านก็เลยบอกว่าถีนมิทธะเข้าครอบงำนะตามตำราว่าอย่างงั้นก็เพียรพยายามอย่าให้มันหลับอย่าให้มันวูบมันวาบก็เพียรพยายามตั้งสติไว้ลืมตาไว้ไม่ให้มันวูบไม่ให้มันวาบ แต่ผลสุดท้ายมันก็วูบวาบภายในของมัน เป็นอะไรนาเหมือนกับสติมันขาดนี่ คือเป็นมาตั้งแต่เป็นฆราวาสเลยพูดให้ลูกหลานฟัง นี่พูดถึงอาจลศรัทธาและพูดถึงศรัทธาธิกะไง เริ่มต้นของมันย่อมที่จะเป็นอย่างวงั้น

    พอประพฤติปฏิบัติไป ประพฤติปฏิบัติไป มีสติมากขึ้นๆ แต่มันก็ยังวูบวาบเหมือนกับตกภวังค์ แต่สติตั้งมั่นเหมือนกับการหลับแต่ไม่หลับทำนองนั้นแหละแต่มันวูบวาบก่อนที่มันจะตกภวังค์เข้าไปสู่อีกภพใหม่ที่เป็นภพแห่งการหลับ อือ..นั่นแหละพูดง่ายนะว่าภพแห่งการหลับใหลของสัตว์โลกนี่แหละ เราก็ตั้งสติไว้ ครูบาอาจารย์ก็บอกว่าถีนมิทธะเข้าครอบงำ พึงระวังไม่งั้นภาวนามากมันจะเป็นถีนมิทธะด้วยความหลับใหล โดยที่ไม่มีสติหลับไหลไม่รู้ตัวการภาวนาก็ยังสติให้อยู่เท่านั้นท่านก็พูดถูกหมดนั่นแหละ แต่ท่านไม่ได้พูดถึงว่าไอ้ตัวนี้มันคืออะไรนี่ เราก็เพียรพยายามเดินจงกรมนั่งภาวนาชนิดที่บอกว่าไม่ให้มันหลับ ลืมตาอยู่ปกตินั่งภาวนาก็ลืมตากลัวว่าถีนมิทธะจะเข้าครอบงำ ทำไปเรื่อยๆก็ทำไปเรื่อยๆ จนผลสุดท้ายจึงทราบว่าไอ้ตัวที่มันวูบวาบตัวนี้มันคือการตกภวังค์คือจิตนั้นที่เรียกว่าจิตมันหยาบ มันยังไม่ละเอียดนี่หรืออาจจะเป็นอุปนิสัยวาสนาบารมีของหลวงปู่หลวงตา หลวงปู่หลวงตาก็เลยพูดให้ลูกหลานฟังนะลูกหลานอาจจะไม่เข้าใจเรื่องของพวกนั้น

    ของเราไม่เป็นเหมือนหมู่เวลาที่จิตมันตกภวังค์มันวูบวาบเหมือนกับจะตกเหวตกบ่อ เป็นบางครั้งบางคราวนี่ ครูบาอาจารย์คงไม่ผ่านก็เลยบอกว่าไอ้ตัวนี้มันเป็นถีนมิทธะเข้าครอบงำ แต่มาทราบเมื่อจิตมันรวมเราไม่เหมือนหมู่ ครูบาอาจารย์บอกว่าถ้าจิตรวมแล้วมันจะค่อยหดตัวเข้าๆเล็กเข้าๆๆๆและก็เหมือนจะเหลือจุดเดียวแต่ของเรามันไม่เป็นสิ มันไม่เหมือนที่ครูบาอาจารย์พูดว่าถีนมิทธะเข้าครอบงำ นี่แหละมันไม่เป็นอย่างงั้นสิเวลามันรวม ตัวตกภวังค์ตัวนั้นภวังคภพหลวงปู่ตั้งเองนะจิตมันตกภวังค์ตัวนั้น อันที่แท้จิตมันจะรวมของเราเป็นอย่างนั้นนะ แล้วก็หมู่คณะก็ฟังด้วยนะพวกเราที่ประพฤติปฏิบัติก็ฟังด้วย ของหลวงปู่หลวงตาไม่เป็นเหมือนหมู่ที่บอกว่าจิตมันก็ค่อยเล็กเข้าๆ รวมเข้าๆๆก็เย็นเข้าเหลือจุดต่อมเดียว ครูบาอาจารย์พูดอย่างงั้น ของเราไม่เป็นสิของเราไม่เป็นเหมือนหมู่เหมือนคณะเหมือนครูบาอาจารย์ ของเราเวลาที่มันจะรวมนี่มันไม่เหมือนหมู่ มันวูบวาบผางลิ่วลงไปเลย สมัยก่อนมันวูบวาบเหมือนกับตกภวังค์วูบวับแต่มันไม่ยังไม่ลง จิตเรารวมจะเป็นอย่างงั้น รวมครั้งแรกมันจะรวมใหญ่เลยที่ต้นหว้าต้นนั้นมันก็เพียงตกภวังค์ธรรมดาวูบวับ วูบวาบ วูบวับ วูบวาบ คือยังไม่ได้ลิ่วลงเหมือนกับตกเหวตกบ่อไง เรามาทราบภายหลัง อ๋อ...การที่ประพฤติปฏิบัตินั้นมันต้องพึ่งตัวเอง พึ่งครูบาอาจารย์ไม่ได้เพราะอุปนิสัยวาสนาบารมีแตกต่างกันมากจิตมันก็ไม่เหมือนกันเห็นไหมล่ะ อย่างงั้นจะบัญญัติถึงกรรมฐาน ๔๐ ห้องเหรอ...”

    พระธรรมเทศนา : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
    วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
    ๒๗ เมษายน ๒๕๖๔
     

แชร์หน้านี้

Loading...